เมื่อหลินหวั่นชิวมาเจอตู้ซิวจู๋อีกครั้งก็พบว่าสีหน้าเขาไม่สู้ดี นางถามว่า “เป็กระไร? ไม่สบายหรือ?”
ตู้ซิวจู๋กล่าวในใจว่าสัตว์เลี้ยงบ้านเ้าทำข้าาเ็ เ้าจะรับผิดชอบหรือ?
สายตาที่เขามองหลินหวั่นชิวอดมีความขุ่นเคืองไม่ได้
“อย่ามองข้าเช่นนี้ อย่างกับว่าข้าเป็บุรุษที่ชอบเล่นกับใจสตรีสาว ข้าก็อยากเป็อยู่หรอก…น่าเสียดาย…” ข้าเป็สตรี เป็สตรีแท้ๆ
“น่าเสียดายกระไร?” ตู้ซิวจู๋เลิกคิ้ว สีหน้าเกียจคร้าน
“น่าเสียดายที่เ้าไม่ใช่สตรีสาว ส่วนข้าก็มิใช่บุรุษ” หลินหวั่นชิวยักไหล่
นางนำโครงเื่นิยายแนวเทพเซียนที่ตัวเองเขียนเสร็จเรียบร้อยออกมาให้ตู้ซิวจู๋ หลินหวั่นชิวเขียนได้ค่อนข้างละเอียด ยาวประมาณสามหมื่นตัวอักษร มีระดับขั้นของการฝึกบำเพ็ญเซียน ชื่อยันต์และโอสถต่างๆ บอกหมด
ตู้ซิวจู๋รับมาอ่านแล้วต้องนั่งตัวตรง สีหน้าจริงจังขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากอ่านเสร็จ เขามองหลินหวั่นชิวด้วยสีหน้าซับซ้อน
หลินหวั่นชิวถูกเขามองด้วยสายตาแปลกๆ “มีกระไร? รู้สึกว่าไม่ดีหรือ? จริงอยู่ว่าการเขียนนิยายเื่นี้มีความเสี่ยงสูงเพราะในตลาดยังไม่มีนิยายแนวนี้ ไม่รู้ว่าเขียนออกมาแล้วจะขายได้หรือไม่ หากเ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็กระไร ข้าไม่บังคับ”
ตู้ซิวจู๋สูดหายใจเข้าลึกๆ “ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่าสมองเ้าเป็อย่างไร ถึงได้คิดเื่ราวเลิศล้ำเช่นนี้ออกมาได้”
ชะตากรรมใน่เริ่มต้นของพระเอกเื่นี้คล้ายคลึงกับเขามาก
หากไม่ใช่เพราะตรวจสอบเื่หลินหวั่นชิวกับเจียงหงหย่วนมาก่อน เขาคงคิดว่าหนึ่งในสองคนนี้รู้จักเขาดีมาก
ภายในใจตู้ซิวจู๋ซับซ้อน ไม่เคยมีผู้ใดเข้าถึงใจเขาได้มากขนาดนี้มาก่อน
ทุกสิ่งที่เขาทำตอนนี้…แทบไม่ต่างกระไรกับตัวเอกในนิยายที่หลินหวั่นชิวให้มา
อยากอยู่บนยอดสูง ให้พวกคนที่เคยดูถูกเขา ดูถูกท่านแม่เขาต้องร้องขอการให้อภัยตัวสั่นเทิ้มอยู่กับพื้น…
นาง…
มองเห็นหัวใจเขาหรือ?
“ถ้าเช่นนั้นเ้าจะเขียนหรือไม่?” หลินหวั่นชิวถาม
“เขียน” ตู้ซิวจู๋ตอบ “ขายได้แล้วพวกเราแบ่งเงินคนละครึ่ง”
หลินหวั่นชิวส่ายหน้า “ข้าบอกั้แ่คราวก่อนแล้วไม่ใช่หรือว่านิยายเป็ของเ้า ข้าจะหาคนมาวาดภาพประกอบเอง เ้าช่วยจ่ายค่าแรงให้เป็พอ หากไม่ยอมรับ เช่นนั้นข้าคงต้องเขียนนิยายเื่นี้เสียเอง”
ตู้ซิวจู๋รีบกอดหนังสือพูดด้วยสีหน้าดุร้าย “เ้าเป็เพื่อนสาวประสากระไรกัน นิยายเื่นี้เป็ของข้า อย่าคิดว่าจะได้คืนกลับไป”
หลินหวั่นชิวเกือบสำลักตายกับคำพูดเขา “เพื่อนสาว? เ้า…ชอบเพศเดียวกัน?”
แต่ลองคิดย้อนดู มิน่าเล่า ตู้ซิวจู๋ถึงได้กล้าแต่งกายเป็สตรีมาร้านอันอี้จวี ดูท่าจะมีหัวใจเป็สตรี
“ชอบเพศเดียวกันหรือชอบเพศตรงข้ามแล้วมีกระไร เหตุใดเล่า เปิ่นกงจื่อไม่คู่ควรให้เป็เพื่อนสาวของเ้าหรือ?”
“คู่ควร แค่เ้าไม่แย่งสามีข้า เ้าก็เป็เพื่อนสาวคนสนิทของข้าได้!” หลินหวั่นชิวรีบตบหน้าอกตอบ
“หน้าโฉดขนาดนั้น มีแต่เ้าที่เห็นเป็สมบัติ!” ตู้ซิวจู๋กางพัดพูดอย่างดูถูก
หลินหวั่นชิวตบไหล่เขาด้วยรอยยิ้ม ตู้ซิวจู๋หน้าซีดไปครู่หนึ่ง
“นี่ เ้าชอบบุรุษจริงหรือ?” หลินหวั่นชิวยิ้มอย่างอยากรู้อยากเห็นและท่าทีกวนมาก
แต่ตู้ซิวจู๋ค่อนข้างดีใจ เป็ไปตามคาด เขาแค่แสดงออกว่าชอบบุรุษนิดหน่อย ท่าทีที่หลินหวั่นชิวมีต่อตัวเองก็ผ่อนคลายลง
รู้สึกว่าระยะห่างระหว่างทั้งคู่ถูกย่นลงมาก
“ไม่ใช่เื่ของเ้า” ตู้ซิวจู๋ทำตาเขม็งใส่
“จริงสิ น้องสามีสองคนที่บ้านข้าก็ห้ามยุ่ง” หลินหวั่นชิวกำชับ
ตู้ซิวจู้ใช้พัดตีนาง “เหอะ…หน้าตาอย่างพวกเขาน่ะหรือ? วางใจเถิด ข้าไม่เห็นในสายตาแน่ เพราะในใจข้ามีผู้อื่นอยู่แล้ว”
“มีผู้อื่นอยู่แล้ว? ผู้ใดกัน? เล่าให้เพื่อนสาวฟังทีเถิดจะได้ช่วยกันวางแผนอย่างไรเล่า” หลินหวั่นชิวถามด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก
สีหน้าตู้ซิวจู๋เปลี่ยนไปมา ในที่สุดก็ตอบว่า “ฉินเยวี่ยเจิ้ง คนแสดงบทต่อสู้ของคณะละครซิงเยวี่ย”
หลินหวั่นชิว “แสดงละครหรอกหรือ…”
สีหน้าตู้ซิวจู๋จมลงทันที “ใช้น้ำเสียงเช่นนี้หมายความว่ากระไร แสดงละครแล้วอย่างไร? แสดงแล้วขอบ้านเ้ากินบ้านเ้าดื่มหรือ?”
หลินหวั่นชิวรีบขอโทษ “ไอ๊หยา ข้าไม่ได้ดูถูกนะ แค่แปลกใจเท่านั้น แล้วพวกเ้ายินยอมพร้อมใจกันหรือไม่?”
“เ้าไม่รังเกียจข้า?” ตู้ซิวจู๋พูดเสียงสูง หลินหวั่นชิวส่ายมือ “รังเกียจเื่กระไร? ผู้ใดตั้งกฎว่าคนชอบเพศเดียวกันไม่อาจมีรักแท้? จริงสิ เ้ากับเขาใจตรงกันหรือว่า…”
ตู้ซิวจู๋พูดกับหลินหวั่นชิวด้วยความโศกเศร้า “ใจข้ามีเขา แต่ใจเขาไม่มีข้า เขาไม่รู้ว่าข้าชอบพอเขา”
“ถ้าเช่นนั้นเขา…รู้จักกับเ้าหรือไม่? ที่เ้าบอกว่าขาดแคลนเงินเพราะเอาไปมอบให้เขาใช่หรือไม่?”
“ก็ใช่น่ะสิ เพราะข้าอยากให้เขาชายตามอง ข้าจึงต้องหาเงินสุดชีวิต…เพื่อนสาว หากวันนี้เ้ามีช่องทางหาเงินอีกต้องบอกข้าด้วยนะ…” ตู้ซิวจู๋พูด
หลินหวั่นชิว “ฮ่าฮ่า เทียบกับคุณชายอย่างเ้าแล้วข้าต่างหากที่เป็ยาจก อีกอย่าง ข้ามีแค่อันอี้จวี เ้าก็ร่วมเครือแล้วไม่ใช่หรือ…อืม วันหน้าข้าย้ายกลับหมู่บ้านแล้วจะหมักสุราองุ่น ถ้าเ้าสนใจอยากขาย ไว้ถึงเวลาข้าจะแบ่งขายให้เ้าหนึ่งส่วน”
ตู้ซิวจู๋เกิดความสนใจ “เ้าหมักสุราองุ่นเป็ด้วยหรือ? นั่นเป็ของจากแดนตะวันตก ข้ายังไม่เคยเห็นผู้ใดในจงหยวนหมักมาก่อน”
“เคยอ่านเจอตำรับสุราองุ่นจากท่านแม่ชี ข้าอยากลองทำดู” หลินหวั่นชิวโกหกหน้าตาย
ตู้ซิวจู๋หุบพัด ใช้พัดตบลงที่ฝ่ามือ “ได้ ถือว่าพวกเราตกลงกันแล้ว!”
“เข้าหน้าหนาวแต่ก็ยังพกพัด เ้าไม่หนาวหรือ?” หลินหวั่นชิวอดถามไม่ได้
ตู้ซิวจู๋ยืดอดเชิดหน้า “นี่เรียกว่าท่วงท่าอันสง่างาม!”
หลินหวั่นชิวหัวเราะ “สง่างามจนไม่สนอุณหภูมิน่ะสิ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…เ้าช่างน่าสนใจ เจียงหงหย่วนเองก็โชคดีที่ได้พบเ้าก่อนั้แ่เนิ่นๆ มิเช่นนั้นเพื่อนสาวคงแนะนำคุณชายตระกูลใหญ่ให้แน่”
“ไม่ต้องเลย! เ้าเก็บไว้เองเถิด ข้า้าแค่สามีที่ซื่อสัตย์ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตระกูลใหญ่มีแต่แผนการเล่ห์เหลี่ยม กฎเกณฑ์เยอะ อนุก็มาก ข้าคงไม่มีวาสนาจะได้มีชีวิตเช่นนั้น!”
หลินหวั่นชิวพูดจบก็ลุกขึ้น “เอาล่ะ เ้าเขียนไปก่อน เขียนเล่มแรกเสร็จแล้วส่งมาให้ข้าดู หากไม่มีปัญหาข้าจะให้คนมาวาดภาพประกอบให้”
“ให้ทังหยวนไปส่ง” ตู้ซิวจู๋พูด