ตอนรุ่งเช้า หวังเซวียนกำลังใช้ไม้กวาดกวาดลานสวนอยู่ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูด้านหลัง เมื่อหันศีรษะไป เขาก็เห็นจินเฟิงแต่งกายเรียบร้อยเดินออกมา
“อรุณสวัสดิ์ขอรับ คุณชายน้อย” หวังเซวียนทำความเคารพ
จินเฟิงตอบรับ “อืม” และเอ่ยถาม “ท่านพี่ล่ะ? ”
“เอ่อ นายท่านหร่านซวี่จือ อยู่…” หวังเซวียนสะดุ้งแล้วมองจินเฟิงด้วยความตื่นใและทำไม้กวาดในมือหล่นลงบนพื้น นานครึ่งค่อนวันก็ไม่พูดจา
จินเฟิงหงุดหงิดและขมวดคิ้ว พลางชำเลืองไปทางอิ่งที่กำลังรุดหน้ามาทางนี้โดยเหยียบข้ามกิ่งไม้ หนุ่มน้อยจึงเอ่ยถามอิ่ง “อิ่ง เห็นท่านพี่ข้าหรือไม่? ”
‘ปั่ก' อิ่งเท้าลื่น พร้อมกับหล่นจากต้นไม้ โชคดีที่การล้มนั้นไม่น่าเกลียดมาก อิ่งลุกขึ้นด้วยความเก้อเขินแล้วเอ่ยกับจินเฟิง “นายท่านหร่านซวี่จือยังอยู่ในห้องขอรับ”
จินเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วรีบวิ่งไป
อิ่งกับหวังเซวียนที่อยู่ด้านหลังมองหน้ากัน
หวังเซวียน “เมื่อครู่คุณชายน้อยเรียกนายท่านหร่านซวี่จือว่าท่านพี่ใช่หรือไม่? ”
อิ่ง “…”
หวังเซวียน “์ นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ”
อิ่ง “…”
หวังเซวียน “สำหรับนายท่านนี่นับว่าเป็ข่าวดีอย่างยิ่ง”
อิ่ง “…อืม”
พอตกกลางคืน
หร่านซวี่จือกำลังวิเคราะห์เื่ผู้ร้ายอยู่ในห้องนอน
หลายวันก่อนหน้านี้เจียงเส่าเสวี่ยบอกกับเขาว่า มีแขกต่างถิ่นที่มาจากที่อื่นกำลังตามหาจินเฟิง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน วรยุทธ์ของคนพวกนั้นไม่เหมือนวรยุทธ์ของจงหยวน เห็นทีสถานที่อยู่ของจินเฟิงจะถูกรู้เสียแล้ว
ต้องรีบหาเวลาติดต่อกับเจียงเส่าเสวี่ย
ในตอนนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
เมื่อหร่านซวี่จือมองไป เขาก็เห็นจินเฟิงยืนอยู่ตรงประตู
“จินเฟิง? ” หร่านซวี่จือเอ่ยด้วยความสงสัย “มาหาข้าทำไม? เ้ามีธุระหรือ? ”
จินเฟิงเอ่ยอย่างลังเล “คือว่า…เจ็บ”
“าแเจ็บอย่างนั้นหรือ? ” หร่านซวี่จือลุกขึ้นจากโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้นเ้ามานี่สิ ข้าจะช่วยดูให้ คงเกิดอาการอักเสบ”
จินเฟิงพยักหน้าอย่างว่าง่าย พร้อมกับวิ่งเหยาะๆ มานั่งลงข้างเตียงของหร่านซวี่จือ
หร่านซวี่จือปลดเสื้อของเขาออกก็เห็นาแของเขามีคราบเืให้เห็นจางๆ พลันขมวดคิ้ว “เมื่อวานเ้าฝึกซ้อมหรือ? ”
จินเฟิงส่ายศีรษะ
“บางทีคงเพราะเมื่อคืนพักผ่อนแล้วโดนกดทับ” หร่านซวี่จือเอ่ย “ข้าจะช่วยเ้าพันแผลใหม่ ต่อไปนี้เ้าต้องระวังหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นาแจะหายช้า”
จินเฟิงเอียงศีรษะ มองดูหร่านซวี่จือมองต่ำและช่วยเขาแกะห่อผ้าแล้วทายา มองจากมุมนี้ จะเห็นขนตาที่ขึ้นชิดกันและยาว บดบังั์ตาที่เปรียบเสมือนดั่งทะเลสาบไว้ครึ่งหนึ่ง
หลังจากที่จัดการเรียบร้อยแล้วหร่านซวี่จือก็เก็บของ เขาเห็นจินเฟิงยังอ้ำอึ้งอยู่ที่เดิมไม่จากไป
“คือว่า…” จินเฟิงเอ่ยด้วยความลังเล “ข้า…”
“ทำไม? ” หร่านซวี่จือเอ่ยถามอย่างมีความอดทน
“ข้าขอนอนที่นี่ด้วยได้หรือไม่? ” จินเฟิงกัดฟันเอ่ย “กลางคืนข้าชอบนอนแล้วขยับไปเรื่อย ข้ากลัวว่าจะทำให้าแเปิดอีก”
เมื่อได้ยินคำพูดของจินเฟิง หร่านซวี่จือก็อึ้งไปเล็กน้อย แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกดีใจอยู่เงียบๆ
หวังเซวียนช่วยเตรียมผ้าห่มมาให้อีกหนึ่งชุด จากนั้นก็ปูให้เรียบร้อย หลังจากที่หร่านซวี่จือจัดการเื่งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็ปลดผ้าผูกผมแล้วเดินไปดื่มน้ำข้างโต๊ะ ผมดำสยายปรกลงมา จินเฟิงที่หดตัวอยู่บนเตียงสะดุ้งในใจ ลักษณะนี้ของหร่านซวี่จือ เขาเคยเห็นในความฝัน
ความฝันของเมื่อคืนเหมือนกำลังฉายภาพซ้ำ ิับนใบหน้าของจินเฟิงเริ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อย หนุ่มน้อยอดไม่อยู่จึงรีบหันหลังแล้วไม่มอง
หร่านซวี่จือดับเทียนแล้วเดินไปข้างเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ ย่องขึ้นเตียงเสียงค่อย
จินเฟิงรับรู้ถึงผ้าห่มด้านหลังที่ถูกเปิดออก คล้อยกันนั้นร่างอบอุ่นก็แนบเข้ามา
“ทำไมร่างกายเย็นแบบนี้? ” เสียงของหร่านซวี่จือดังขึ้นท่ามกลางความมืด น้ำเสียงอ่อนโยน เป็เสียงที่ปนกับเสียงที่ขึ้นจมูกเล็กน้อยซึ่งเสียงนั้นช่างน่าฟังเป็อย่างยิ่ง
กลับกันกับจินเฟิง อุณหภูมิร่างกายของหร่านซวี่จือนั้นสูงอยู่ตลอดเวลา ทั้งร่างเขาจึงอบอุ่นราวกับพระอาทิตย์ดวงน้อย จินเฟิงจึงอดไม่ได้ที่จะเขยิบเข้าใกล้เขา
จินเฟิงหดตัวอยู่ในอ้อมอกของเขาราวกับสัตว์ตัวน้อยแล้วหลับตาพริ้มอย่างเ้าเล่ห์
มือของหร่านซวี่จือััหลังของเขาเบาๆ ส่วนมืออีกข้างก็วางบนท้ายทอย แล้วหลับตาลง จากนั้นความง่วงก็ค่อยๆ ถาโถม
ขณะกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ไม่รู้ว่าจริงหรือปลอม เขาได้ยินเสียงเรียก “พี่ชาย” เบาๆ อยู่ข้างหู
หร่านซวี่จือก็ยกยิ้มที่มุมปากและก็ผล็อยหลับไป
----------------------------------------------
หลังจากที่มีผู้ร้ายลอบโจมตีในคราวนั้น หร่านซวี่จือก็รู้สึกว่าจินเฟิงเปลี่ยนไปมากไปหลายวันมานี้
เวลาต่อว่าเขาก็ไม่เถียง เวลาััเขาก็ไม่กัด เมื่อมีเวลาว่างก็มักจะมาเดินตามเขาต้อยๆ ราวกับหางอย่างไรก็อย่างนั้น
แม้ว่าทัศนคติที่จินเฟิงมีต่อเขาจะเปลี่ยนไปนับว่าเป็เื่ดี แต่หร่านซวี่จือก็ยังไม่ค่อยชิน อีกทั้งบางทีก็ติดตัวจนเกินไปซึ่งทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมาก
หลายวันมานี้สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดมีอยู่สองเื่
เื่ที่หนึ่งคือเพราะอิ่ง
เริ่มแรกหร่านซวี่จือคาดเดาว่าอิ่งคือคนคนนั้น แต่หลายวันมานี้ อิ่งยังคงมีท่าทีเคารพเขาและไม่ได้ทำเื่เกินเลยแต่อย่างใด หร่านซวี่จือรอจนกระวนกระวาย อยากจับเขากดแล้วขึ้นคร่อมเสียให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็เกรงว่าจะผิดคน
ส่วนระบบนั้นตีให้ตายก็ไม่ยอมบอกหร่านซวี่จือว่าคือใคร หร่านซวี่จือจึงได้แต่ใช้ััของตนเองคาดเดาเอง
…ช่างเถอะ คงเพราะเวลายังไม่นานพอ
หร่านซวี่จือปลอบตนเองในใจ
ส่วนเื่ที่สองไม่นับว่าใหญ่มากแต่ก็เป็เื่ที่น่าขนลุก
เพราะว่ากลางคืนตอนนอนจินเฟิงมักจะนอนท่าที่ไม่ค่อยดีนักและทำให้กดทับที่แผลได้ง่าย จึงวิ่งมานอนที่ห้องของเขาทุกคืน
ท่วงท่าในการนอนนั้นไม่ดีจริงๆ ทุกเช้าที่หร่านซวี่จือตื่นขึ้นมา ่หน้าอกมักจะเจ็บอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจุดที่นูนขึ้นมาสองจุด เหมือนว่าจะบวมแดงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจินเฟิงนั้นหลับอย่างไรใน่กลางคืน
เวลาผ่านไปไว ในขณะที่หร่านซวี่จือคิดว่าชีวิต่นี้คงราบเรียบเช่นนี้ ก็เกิดเื่ขึ้นที่เยวี่ยชุนโหลว
กลางดึกขณะที่หวังเซวียนกำลังทำความสะอาดสวนและกำลังเก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงอยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงสวบสาบอะไรบางอย่าง
พอเงยศีรษะขึ้น เขาก็สบตากับดวงตาดุร้ายคู่หนึ่ง
หวังเซวียนตื่นใ ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วจึงะโ “ผู้ร้าย! มีผู้ร้าย”
หลังจากที่เสียงนี้ดังขึ้น ชายชุดดำที่แอบซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้าทั้งหมดก็พุ่งตัวออกมา มือถือดาบพร้อมกับมุ่งหน้าไปทางสวน
หน่วยองครักษ์เงาทั้งสิบแปดคนของสำนักชิงหยาเก๋อก็ปรากฏตัวขึ้นและปะทะกับชายชุดดำทุกคน ผู้บุกรุกนั้นมากันจำนวนไม่น้อย ซึ่งองครักษ์เงานั้นมีไม่เพียงพอ ทำให้มีสองคนที่ฝ่าทะลวงไปถึงห้องของจินเฟิง
โชคดีที่หลายวันมานี้จินเฟิงไปนอนห้องของหร่านซวี่จือ ชายชุดดำเ่าั้จึงตามหาตัวเขาไม่พบ
ขณะเดียวกัน จินเฟิงกับหร่านซวี่จือก็ได้ยินเสียงเอะอะพร้อมกัน
หร่านซวี่จือสวมชุดคลุมตัวนอกอย่างรวดเร็วแล้วหยิบกระบี่ออกไป บังเอิญเจอเข้ากับคนผู้หนึ่งพอดี
คนคนนั้นบดบังใบหน้า เผยแค่ดวงตาคู่หนึ่ง ดวงตานั้นกลับเป็สีฟ้า
เป็คนต่างถิ่นจริงด้วย!
หร่านซวี่จือขมวดคิ้วแล้วทั้งสองก็เกิดการต่อสู้กัน
ผู้บุกรุกครั้งนี้วรยุทธ์กลับไม่ได้ต่ำต้อยนัก หร่านซวี่จือกับเขาต่อสู้กันอยู่นานก็ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ ขณะนั้น ชายชุดดำอีกคนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนก็เงื้อดาบโค้งในมือขึ้นสูงและกำลังจะจะฟันลงไปที่่คอของหร่านซวี่จือ
จินเฟิงที่อยู่บนหน้าต่างถึงกับรูม่านตาหด ชั่วพริบตานั้นก็พุ่งตัวออกไปทางหน้าต่าง
ขณะเดียวกันคนที่พุ่งตัวออกมายังมีอีกหนึ่งคน
คนผู้นั้นขวางอยู่ด้านหลังของหร่านซวี่จือในจังหวะคับขันเพียงเสี้ยววิ ใบหน้านั้นถูกดาบโค้งปะทะเข้าเต็มแรงทำให้หน้ากากร่วงหล่นลงไปกระแทกบนพื้น