“ศิษย์น้อง ให้ข้าพูดเหตุผลสักข้อเถิด” คนของสำนักกระบี่ิญญายังมิได้พูดจาใดๆ ตู้เยว่ิกล่าววาจาขึ้นก่อน
“อ้อ ศิษย์พี่ เ้ากล่าวมาสิ ไฉนข้าต้องปล่อยพวกเขาไป?” จ้านอู๋มิ่งขมวดคิ้ว หันศีรษะมาทางตู้เยว่ิ กล่าวถามขึ้น
“สำนักบริบาลเดรัจฉานของพวกเราและสำนักกระบี่ิญญาล้วนอยู่ในแปดสำนักนิกายหลัก ปกติก็ไม่ได้มีความแค้นอาฆาตอันใหญ่หลวงแต่ประการใด พวกเราจะกระทำเื่ราวย่อมต้องเหลือทางถอยสักสายหนึ่ง มิฉะนั้นจะนำมาซึ่งความขัดแย้งของสำนักนิกายขึ้นได้ พวกเรากลับไปก็ไม่สามารถให้คำตอบแก่อาจารย์ปู่เ้าสำนักได้เช่นกัน ในเมื่อพี่น้องสำนักกระบี่ิญญายินยอมใช้เงินซื้อชีวิต นี่ก็เป็การค้าเช่นกัน เ้าพูดบ่อยๆ ว่าตนเองเป็คนทำการค้า มีเหตุผลข้อใดที่การค้ามาส่งถึงหน้าประตูแล้วจะไม่รับบ้างเล่า? ข้อเสนอของพวกเขา ศิษย์พี่คิดว่ายุติธรรมดี พวกเราก็เห็นแก่หน้าพวกเขาหน่อย เ้าว่าใช้ได้หรือไม่?”
“แต่ว่า...ถ้าข้าเก็บเงินของพวกเขาแล้วไม่สังหารคน พวกเขา้าฆ่าพี่น้องสำนักเบญจพิษ เช่นนั้นข้าไยมิใช่กระทำผิดต่อผู้ซื้อแล้วหรือ?” จ้านอู๋มิ่งส่ายหน้า ยังคงไม่ยินยอม
“ถูกต้อง พี่น้องจ้านตกลงเื่การค้ากับพวกเราก่อน หินจิติญญาของพวกเราก็มอบให้พวกเ้าแล้วเช่นกัน ทำการค้าต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตนะ!” ศิษย์สำนักเบญจพิษหงุดหงิดใจ เกิดจ้านอู๋มิ่งรับเงินจากสำนักกระบี่ิญญาไว้ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเื่นี้ขึ้นมา พวกเขาคงต้องโชคร้ายแล้ว
“ถ้าเช่นนั้นเอาอย่างนี้ ข้าเสนอความคิดเห็นสักข้อก็แล้วกัน ทุกคนก็เห็นแล้ว ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยเสียชีวิตแล้ว พี่น้องสำนักกระบี่ิญญาโปรดระงับความเศร้าโศก”
ทุกคนหันศีรษะกลับไปดู ไหนเลยจะยังมีราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ย ภายในวงกลมเหลือเพียงกระบี่ส่องแสงแวววาวเล่มหนึ่งและหนอนคืบคลานอยู่ด้านข้างกองหนึ่งเท่านั้น ่เวลาเมื่อครู่ที่ทุกคนต่อสู้เข่นฆ่ากัน ราชันกระบี่ได้กลายเป็อุจจาระหนอนไปแล้ว
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาในใจทุกข์ระทม เคียดแค้นคนของสำนักเบญจพิษมากยิ่งขึ้น
“คนตายแล้วมิอาจฟื้นคืนชีพ ข้าทราบว่าพี่น้องสำนักกระบี่ิญญาเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่ง แต่ว่าวิญญูชนแก้แค้นสิบปีมิสาย ถูกต้องหรือไม่? ศิษย์น้องข้ารับการค้าของสำนักเบญจพิษไว้ก่อนแล้ว ต่อให้เขารับเงินซื้อชีวิตของพวกเ้าไว้อีก ก็ต้องปกป้องชีวิตของคนสำนักเบญจพิษเช่นกันใช่หรือไม่? ดังนั้นข้าเสนอความคิดเห็น เพื่อให้การค้าครั้งนี้สำเร็จลุล่วง พวกเ้าก็อย่าได้สังหารพี่น้องสำนักเบญจพิษต่อหน้าศิษย์น้องข้าอีก รอจนออกจากเกาะนี้ไปแล้ว พวกเ้า้าทำสิ่งใดก็ทำสิ่งนั้นเถิด เพียงแต่อย่าให้เขาเห็นก็แล้วกัน พวกเ้าคิดว่าเป็อย่างไร? นับว่าเป็ผลดีต่อทั้งสองฝ่ายเช่นกัน ถูกต้องหรือไม่?” ตู้เยว่ิกล่าววาจาโน้มน้าวใจ บอกวิธีจัดการแก้ไขปัญหาออกมา
คนของสำนักเบญจพิษที่เหลือเพียงเก้าคนมองหน้ากันและกัน ผงกศีรษะเล็กน้อย พวกเขาทราบว่าตู้เยว่ิทำเช่นนี้ก็นับได้ว่าช่วยพวกเขาแล้ว ถึงแม้จะขาดความซื่อสัตย์อยู่บ้าง แต่ปกติศิษย์น้องของผู้อื่นก็ปล้นชิงแหวนจักรวาลจำนวนไม่ใช่น้อยๆ เลย สามารถหาทางลงแบบนี้ได้ นับว่าเห็นแก่หน้าของสำนักเบญจพิษมากแล้ว
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาแต่ละคนแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ศัตรูคู่แค้นอยู่เบื้องหน้า กลับไม่สามารถสังหาร ตนเองยังต้องจ่ายเงินซื้อชีวิต ถ้าไม่จ่ายเงิน จ้านอู๋มิ่ง ดาวมฤตยูผู้นี้สามารถทำสิ่งที่พวกเขาต้องสำนึกเสียใจขึ้นมาได้จริงๆ
เวลานี้ ตู้เยว่ิทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยให้ ถ้าหากพวกเขาไม่เห็นด้วย ผลสุดท้ายมีแต่เส้นทางมรณะเพียงสายเดียว ดังคำกล่าวที่ว่า ตายดีมิสู้อยู่อย่างอัปยศ ต่อให้เวลานี้ไม่สามารถฆ่าคนของสำนักเบญจพิษ ยามออกจากเกาะ พวกนั้นก็หนีไม่รอดแล้วเช่นกัน ถึงเวลานั้นค่อยคิดบัญชี
“ได้ ข้าเห็นด้วย อยู่บนเกาะนี้ พวกเราจะไม่ฆ่าพวกเขา แต่ว่าเมื่อออกจากเกาะแล้ว พวกเ้าไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้อีก” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาคิดๆ แล้วกัดฟันคราหนึ่ง ตอบตกลงอย่างคับแค้นใจ
“ดูเหมือนพวกเ้าตกลงอย่างไม่เต็มใจยิ่งนัก การค้าที่ไม่เต็มอกเต็มใจเช่นนี้ ข้าไม่คิดจะรับเอาไว้!” พลันสีหน้าจ้านอู๋มิ่งเย็นเยียบ พูดขึ้นพร้อมเจตนาฆ่าอันน่าเกรงขาม
“มิใช่ มิใช่ พวกเราตกลงด้วยความเต็มใจ!” คนผู้นั้นพอเห็นท่าว่าเื่ราวจะเลวร้ายลง รีบเปลี่ยนการแสดงออกอย่างรวดเร็ว
“อ้อ นับว่ายังพอใช้ได้อยู่ เอาล่ะ พวกเ้าทั้งหมดรวมหกสิบเจ็ดท่าน เอาแหวนมาให้ข้าลองนับดูหน่อย!” บนใบหน้าของจ้านอู๋มิ่งปรากฏรอยยิ้มขึ้น
“มิใช่บอกว่าหนึ่งคนหินจิติญญาหนึ่งพันก้อนหรอกหรือ?” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาพูดขึ้น จ้านอู๋มิ่งกลับ้ายึดแหวนจักรวาลของทุกคน ได้อย่างไรกัน!
“ผู้ใดว่า หินจิติญญาหนึ่งพันก้อนต่อคนคือราคาสังหารคน ส่วนเงินสำหรับซื้อชีวิต ราคากลับสูงกว่ามากแล้ว เ้า้าชีวิตหรือว่า้าแหวนจักรวาล เลือกเอาเองเถอะ!” น้ำเสียงจ้านอู๋มิ่งเย็นเยียบ มองศิษย์สำนักกระบี่ิญญาที่พูดจาคนนั้นคล้ายกำลังมองดูคนปัญญาทึบ
ทุกคนในสำนักกระบี่ิญญาตกตะลึงแล้ว สถานการณ์ตกเป็รองผู้อื่น แม้ในใจจะรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาอีกรอบ แต่จะสามารถทำอะไรได้เล่า อย่างไรก็ต้องต่อยตีจนฟันหักแล้วกลืนลงท้องพร้อมเื
และแล้ว ภายใต้สายตาหลายพันคู่ที่มองดูอยู่ ศิษย์สำนักกระบี่ิญญานำแหวนจักรวาลในมือไปส่งถึงมือของจ้านอู๋มิ่งแต่โดยดี ทั้งยังต้องปั้นสีหน้าให้ยิ้มแย้ม มิเช่นนั้นราชันปีศาจผู้นี้จะอารมณ์เสียขึ้นมาได้
ในที่สุดทุกคนก็เชื่อในเื่นี้แล้ว จ้านอู๋มิ่งผู้นี้เป็ยอดคนผู้เด่นล้ำจริงๆ และยังเป็ราชันปีศาจที่มาป่วนโลก ผู้รักทรัพย์สินข้าวของล้ำค่ายิ่งชีวิต ใต้หล้านี้ ตอแยผู้ใดก็ได้แต่อย่าไปแหย่ถูกดาวมฤตยูผู้นี้อย่างเด็ดขาด ไม่ใช่แค่เสียทรัพย์สินเงินทอง เขายัง้าชีวิตอีกด้วย
ั้แ่นั้นมา ผู้คนเริ่มเคารพนับถือจ้านอู๋มิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีผู้ใดคิดมาก่อนว่าเงินทองยังสามารถหาด้วยวิธีนี้ก็ได้ เล่นงานคนก็สามารถทำเช่นนี้ก็ได้ด้วย มือขวาเป็เมฆ มือซ้ายคือฝน เมฆก้อนหนึ่งกับฝนกลุ่มหนึ่ง คู่ต่อสู้ยังต้องยิ้มแย้มนำเงินมาส่งให้ถึงมือท่าน ทั้งยังต้องขอบคุณอย่างสุดซึ้งอีกด้วย
สิบราชันนับเป็ตัวอะไร? ราชันปีศาจคนนี้ต่างหากจึงจะเป็ผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
……
ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยตายแล้ว ราชันวายุ หนานกงเฉิงตายแล้ว น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงเดือดพล่านแล้ว การวางเดิมพันครั้งนี้ แรกเริ่มสำนักบริบาลเดรัจฉานรู้สึกขุ่นข้องหงุดหงิดมาก กลับจบลงอย่างคาดคิดไม่ถึง สำนักบริบาลเดรัจฉานได้รับผลกำไรจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน สำนักกระบี่ิญญาและตระกูลหนานกงพ่ายแพ้ย่อยยับ เสียเดิมพันจำนวนมหาศาล
ที่สำนักบริบาลเดรัจฉานมีความสุขไม่เพียงเพราะชนะเดิมพันเท่านั้น อีกทั้งยังเป็เพราะจ้านอู๋มิ่งทำให้สำนักบริบาลเดรัจฉานได้เชิดหน้าชูตา ทำให้ชื่อเสียงสำนักบริบาลเดรัจฉานเลื่องลือไปทั่วทั้งมหาสมุทรวันสิ้นโลก ใบหน้าแก่ชราของเยว่หลิงซานที่ยามปกติไม่ค่อยยิ้ม ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มระรื่นเช่นดอกไม้บานแล้ว
ส่วนตระกูลหนานกง เมื่อขึ้นเรือแล้วตำหนิว่าเหตุใดจึงฆ่าศิษย์ของตระกูลหนานกงจนหมดสิ้น ใบหน้าของเยว่หลิงซานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนต้นไม้เก่าแก่มีดอกไม้เบ่งบานพลันเคร่งขรึมลง สองเท้าเตะคนของตระกูลหนานกงทั้งหมดลงจากเรือวิเศษของสำนักบริบาลเดรัจฉาน จากนั้นพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “ถ้า้าต่อสู้ก็ต่อสู้เลย อย่ามาพูดพล่ามให้บิดารำคาญใจที่นี่ คนของตระกูลพวกเ้าไม่เอาไหนเอง ยังหาญกล้ามาเสนอหน้า แสดงความคิดเห็นถึงสำนัก ไม่รู้เื่รู้ราวอะไรเสียเลย ถ้ามีความสามารถจริง พวกเ้าไปที่น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงไปคิดบัญชีกับจ้านอู๋มิ่งที่โน่นเลย!”
ความหยิ่งทระนงของเยว่หลิงซาน ทำให้ตัวประหลาดเฒ่าของสำนักนิกายต่างๆ พูดไม่ออก ตาเฒ่าผู้นี้บ้าคลั่งขึ้นมาก็โเี้ไม่ธรรมดา กล่าววาจาตรงๆ ออกมาว่า “ถ้า้าต่อสู้ก็ต่อสู้เลย” หมายความว่าไม่เห็นตระกูลหนานกงอยู่ในสายตาสักนิด คิดจะทำสิ่งใดกับสำนักบริบาลเดรัจฉานของข้า ข้าจะรับไว้ทั้งหมดเอง เห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่งว่าเื่ที่จ้านอู๋มิ่งนำกลุ่มลงมือสังหารลูกศิษย์ตระกูลหนานกงจนหมดสิ้น เยว่หลิงซานก็ยังคงสนับสนุนจ้านอู๋มิ่งอย่างมาก
ตระกูลหนานกงแทบอาเจียนเป็เืแล้ว แต่เื่นี้ก็ไม่อาจจะตำหนิผู้ใด ราชันวายุแห่งตระกูลหนานกงของเ้าช่างหยิ่งผยองยิ่งนัก ทันทีที่เข้าสู่น่านน้ำมหาสมุทรก็ลั่นวาจาว่าจะฆ่าจ้านอู๋มิ่งให้ได้ แถมยังประกาศไปทั่วทั้งน่านน้ำมหาสมุทร ยามนั้นสำนักบริบาลเดรัจฉานก็ไม่ออกมาแสดงตัวว่าตระกูลหนานกงทำไม่ถูกต้อง กลับเห็นว่าเป็ความขัดแย้งระหว่างผู้เยาว์ด้วยกัน สมควรให้พวกเขาไปแก้ปัญหากันเอง ระหว่างการต่อสู้ ถ้าหากทักษะการต่อสู้ไม่เท่าผู้อื่น ตายไปก็สมควรแล้ว
เวลานี้ ราชันวายุ หนานกงเฉิงเสียชีวิตด้วยน้ำมือจ้านอู๋มิ่ง พวกเ้าก็ะโออกมาหาคนพูดจาเื่เหตุผล นี่ไม่ใช่ทำตัวแบบอันธพาลไร้ยางอายอีกหรือ? เพียงยอมให้ตระกูลเ้าฆ่าคนอื่นเท่านั้น ห้ามมิให้คนอื่นฆ่าเ้า? ยังมีอีก ก่อนหน้านี้ตระกูลหนานกงก็หยิ่งยโสเอาแต่ใจยิ่งนัก ร่วมมือกับสำนักกระบี่ิญญาโจมตีศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉาน ทำให้ลูกศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานเสียชีวิตและาเ็มากมาย ยามนั้น สำนักบริบาลเดรัจฉานได้แต่เปิดตาข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่ง ไม่ได้ไปหาตระกูลหนานกงและสำนักกระบี่ิญญาเพื่อคิดบัญชีใช่หรือไม่? ยามนี้พวกเ้าเสียเปรียบแล้ว รีบออกมาขอให้สำนักบริบาลเดรัจฉานอธิบายเหตุผลเพื่อหาเื่สร้างปัญหาล้วนๆ
ตระกูลหนานกงพัวพันอีนุงตุงนัง ไปหาผู้เฒ่าเยว่หลิงซานขอแสดงความคิดเห็น กลับถูกอีกฝ่ายเตะส่งออกมา ส่งยอดฝีมือไปน่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงเพื่อหาเื่จ้านอู๋มิ่งอีก นั่นไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกหรือ? ในน่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิง แม้แต่ราชันวายุ หนานกงเฉิงก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้านอู๋มิ่ง ยังจะมีผู้ใดกล้าพูดว่าสามารถฆ่าจ้านอู๋มิ่งได้อย่างแน่นอนอีก?
ส่งสัตว์ประหลาดเฒ่าไป? สัตว์ประหลาดเฒ่าเข้าสู่น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงแล้ว ฐานบ่มเพาะก็จะถูกสะกดข่มอยู่ในระดับราชันาขั้นต้น จะร้ายกาจกว่าราชันวายุ หนานกงเฉิงหรือไม่? กล่าวอีกครั้ง เลวี่ยเหวินซิว คนคลั่งเฒ่าได้นำกองทัพราชันสัตว์อสูรของสำนักบริบาลเดรัจฉานเข้าสู่น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงแล้ว เห็นได้ชัดว่า้าทะเลาะกันอย่างรุนแรงสักครั้ง ยามนี้เข้าไปหาเื่กับจ้านอู๋มิ่ง ถึงเวลานั้นคนคลั่งเฒ่าคนหนึ่งบวกกับคนคลั่งน้อยคนหนึ่ง จะยังไม่ก่อกวนจนฟ้าถล่มอีกหรือ
สำนักกระบี่ิญญาเองก็หดหู่ยิ่งนัก การต่อสู้ของราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยและจ้านอู๋มิ่งพ่ายแพ้อย่างน่าพิศวง ต่อสู้ไปต่อสู้มา กลับดึงเอาราชันพิษ เหยียนชิงชิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย สุดท้ายศิษย์ของสำนักกระบี่ิญญาได้ต่อสู้กับคนของสำนักเบญจพิษขึ้นมา
ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยตายอย่างลึกลับ ส่งผลกระทบกระเทือนครั้งใหญ่ต่อสำนักกระบี่ิญญา เฝิงอู๋เซวี่ยเป็อัจฉริยะแห่งมรรคากระบี่ของสำนักกระบี่ิญญา เป็เป้าหมายสำคัญที่ฝึกฝนเพื่อดำรงตำแหน่งเ้าสำนักรุ่นต่อไป
แม้ว่าพวกเขาทราบดีว่าเื่นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้านอู๋มิ่ง แต่เฝิงอู๋เซวี่ยภายใต้สายตาที่จับตามองของฝูงชน เสียชีวิตเพราะถูกการกลืนกินของพิษมีชีวิตจริงๆ ตัวประหลาดเฒ่าของแต่ละสำนักนิกายหลักล้วนทราบกัน พิษมีชีวิตคือไม้ตายสังหารลับประจำสำนักเบญจพิษ ทั่วใต้หล้า มีเพียงคนของสำนักเบญจพิษเท่านั้นที่สามารถใช้พิษมีชีวิตได้
ถึงแม้สำนักกระบี่ิญญาจะยืนยันหนักแน่นว่าจ้านอู๋มิ่งใช้พิษมีชีวิตลอบสังหารราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ย ทั่วหล้าก็คงไม่มีผู้ใดเชื่อเช่นกัน
สิ่งที่ทำให้สำนักกระบี่ิญญาโกรธเคืองมากที่สุดก็คือ จ้านอู๋มิ่งกลับปล้นชิงแหวนจักรวาลของศิษย์ในสำนักทุกคนไปอย่างไร้ยางอาย สิ่งนี้สร้างความอัปยศอย่างใหญ่หลวง แต่เวลาที่ผู้อื่นคว้าเอาแหวนจักรวาลของศิษย์สำนักกระบี่ิญญาไป ยังมีหน้ามาถามพวกเขาว่ายินยอมหรือไม่ ศิษย์ในสำนักก็ยิ้มแย้มอย่างขอบคุณผู้อื่นด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะถูกบีบบังคับ แต่สายตาฝูงชนก็มองดูอยู่ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนล้วนสามารถเป็พยานได้ ต่อให้สำนักกระบี่ิญญาไปหาสำนักบริบาลเดรัจฉานเพื่อขอคำอธิบาย ผู้อื่นก็จะถีบพวกมันตกลงมหาสมุทรไป ถึงเวลานั้นสำนักกระบี่ิญญาก็จะเสียหน้ายิ่งกว่าตระกูลหนานกงแล้ว
ยังมีอีกเื่หนึ่งที่ทำให้สำนักกระบี่ิญญาขุ่นเคืองยิ่งนัก หลังการต่อสู้ครั้งใหญ่บนเกาะนิรนาม เวลานี้ สายตาของคนในสำนักเบญจพิษที่จ้องมองพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นเกลียดชัง
ลูกศิษย์ของสำนักเบญจพิษนั้นแตกต่างกับศิษย์สำนักนิกายอื่น สำนักเบญจพิษตั้งอยู่ในป่ารกร้างแดนเถื่อน การเปิดรับศิษย์ค่อนข้างเข้มงวดกวดขันยิ่ง ดังนั้น ศิษย์ในสำนักส่วนใหญ่ล้วนเป็คนของตระกูล ความสัมพันธ์ระหว่างลูกศิษย์กับตัวประหลาดเฒ่าจึงค่อนข้างใกล้ชิด
ในบรรดาศิษย์ของสำนักเบญจพิษที่ถูกศิษย์สำนักกระบี่ิญญาปิดล้อมในครั้งนี้ มีหลายคนที่เป็แก้วตาดวงใจของตัวประหลาดเฒ่าแห่งสำนักเบญจพิษ มิฉะนั้นก็คงไม่ส่งจักรพรรดิาสูงสุดไปปกป้องแล้ว แม้ว่าจะเป็เช่นนี้ แก้วตาดวงใจของตัวประหลาดเฒ่าเ่าั้ก็ยังถูกสำนักกระบี่ิญญาสังหารไปบางส่วน คนของสำนักเบญจพิษจะไม่เกลียดชังและเคียดแค้นสำนักกระบี่ิญญาได้หรือ? พวกเขาไม่ได้โปรยพิษเป็วงกว้างเพื่อแพร่พิษให้คนในสำนักกระบี่ิญญาเสียชีวิตจนหมดสิ้นก็นับว่าไม่เลวแล้ว
หลังจากทราบข่าวแล้ว ตัวประหลาดเฒ่าของสำนักเบญจพิษยังไปเยือนบนเรือของสำนักบริบาลเดรัจฉาน แสดงความขอบคุณที่ได้ช่วยชีวิตศิษย์ของสำนักตนเอาไว้ ใบหน้าแก่ชราของเยว่หลิงซานแย้มยิ้มเบิกบาน ดุจดอกไม้ก็มิปาน
เขารู้สึกชื่นชมและพึงพอใจจ้านอู๋มิ่งผู้นี้ยิ่งนัก คว้าเอาแหวนจักรวาลของผู้อื่นมาแล้ว ผู้าุโของสำนักนิกายอื่นยังเดินทางมาแสดงความขอบคุณด้วยตนเอง สามารถทำได้ถึงขนาดนี้ นี่จึงเรียกว่ายอดเยี่ยมล้ำเลิศ!
นอกจากนี้ จ้านอู๋มิ่งรู้จักกาลเทศะและการวางตัวยิ่งนัก จะร่ำรวยเงินทองก็พาศิษย์ร่วมสำนักไปร่ำรวยด้วยกัน แทบจะเป็เทพเ้าแห่งความมั่งคั่งของลูกศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานไปแล้ว! ลูกศิษย์แบบนี้ หากไม่ให้ชื่นชมก็ทำไม่ได้แล้ว!