รวดเร็ว! รุนแรง!
ไม่สวยงาม ไม่อลังการ
หมัดนี้ของเฉินกัง แสดงถึงสไตล์นักชกมวยใต้ดินที่ดีทันที และหมัดนี้เลือกจังหวะออกได้ดีมาก เฉินกังมีโอกาสที่จะต่อยโดนเป้าหมายมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์
ปึง!
หมัดที่รวดเร็วและรุนแรงของเฉินกัง ควรจะกระแทกหน้าฉินหลาง แต่ในขณะที่หมัดของเขาใกล้จะถึงหน้าฉินหลางนั้น ฉินหลางยกฝ่ามือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รับหมัดที่รุนแรงและรวดเร็วราวสายฟ้าฟาดของเฉินกังไว้ได้
เฉินกังประหลาดใจเล็กน้อย แต่ความระห่ำในใจเขากลับทวีคูณขึ้น เปลี่ยนหมัดเป็กรงเล็บ จับข้อมือของฉินหลางกลับ ยกเข่าขึ้นเพื่อให้กระแทกกับหน้าท้องฉินหลาง อย่างไม่ลังเล ท่านี้ไม่ได้เป็กังฟูจีน แต่เป็แม้ไม้มวยไทย อาวุธหนักของมวยไทยคือเข่าและศอก ดังนั้นการแทงเข่าจะช่วยเพิ่มแรงปะทะให้มากขึ้นได้
ปึง!
มืออีกข้างหนึ่งของฉินหลางดันลงไป หยุดเข่าของเฉินกังไว้ได้อย่างพอดิบพอดี
โจมตีสองครั้งต่อเนื่อง โดยฉินหลางตั้งรับอย่างเดียว!
เฉินกังตีเข่าไม่สำเร็จ หมุนตัวด้วยความรวดเร็วและรุนแรง เหวี่ยงข้อศอกขวาไปบริเวณใบหน้าฉินหลาง
การโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ท่าเหล่านี้ไม่ได้เป็กระบวนท่า แต่เขากลับโจมตีได้อย่างต่อเนื่องและลื่นไหล แสดงถึงประสบการณ์ที่ล้นหลามของเฉินกัง ซึ่งมันสร้างแรงกดดันให้ฉินหลางได้ระดับหนึ่ง
การฝึกซ้อมกระบวนยุทธ์ จะให้ความสนใจกับกลยุทธ์ต่างๆ ในการต่อสู้ แต่การต่อยตีทั่วไม่ได้สนใจกระบวนท่า สนใจเพียงความรวดเร็วและรุนแรง ทุกครั้งที่โจมตีจึงแม่นยำและทรงพลังมาก
ทว่าหากผู้ที่เชี่ยวชาญในกระบวนท่า เจอคู่ต่อสู้ที่ต่อยตีที่มีประสบการณ์มากๆ เมื่อไร ท่าของเขาถูกสกัด จะต้องเสียเปรียบมากแน
กระบวนท่าที่ฉินหลางฝึกซ้อมมีไม่มาก แต่ ‘ฐาน’ ของเขามั่นคงไร้ที่ติ โยกย้าย เบี่ยงตัวหลบ ตอนป้องกัน ทุกก้าวล้วนหนักแน่น เสียงดังเหมือนกับเสียงกลอง แม้แต่ตอนเป็ฝ่ายตั้งรับ ก็ยังถอยอย่างมีสเต็ป ฐานมั่นคง
“ฐานหนักแน่นมั่นคงมาก!”
เฉินกังรู้สึกหดหู่ใจ เพราะเขาเคยต่อสู้กับศิษย์หลายสำนัก ไม่มีใครฝึกซ้อม ‘ฐาน’ จนมั่นคงอย่างฉินหลางได้เลย ช่างมั่นคงดั่งขุนเขา สั่นคลอนได้ยาก!
ปึงๆๆ! ปึงๆ!
เสียงปะทะของทั้งคู่ ดังสนั่นหวั่นไหว นักโทษในห้องขังรอบข้างต่างพูดเป็เสียงเดียวกัน แค่เสียงจากการปะทะยังรุนแรงขนาดนี้ พละกำลังของทั้งคู่ ต้องน่ากลัวมากแน่ๆ!
ชั่วพริบตา ทั้งคู่ประลองแล้วกันไปมากกว่า 30 ท่า
ในเวลานี้ พื้นฐานของทั้งคู่ เริ่มเห็นความแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากการโจมตีรวดเร็วและรุนแรงต่อเนื่อง ทำให้จ้าวกังตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ จนเริ่มน้ำไหลลงมาตามเสื้อกั๊กแล้ว เห็นได้ชัดว่าสูญเสียพละกำลังไปมากพอสมควรแล้ว ทว่าสถานการณ์ของฉินหลางนั้นดีกว่าเยอะ มีเพียงด้านหลังเท่านั้นที่มีเหงื่อ เพราะการต่อสู้เท่านั้น
ข้อดีของฝูหลงจู้ เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว
ฉินหลางเองก็ดูออกแล้ว ดังนั้นเขาเตรียมที่จะโจมตีกลับบ้างแล้วเตรียมที่จะหยุด
ในเวลานั้นเอง อยู่ๆ เฉินกังก็ะโถอยหลัง เสมือนว่าเรากำลังจะเลิกโจมตีอย่างไรอย่างนั้น
ในเวลาที่ฉินหลางกำลังประหลาดใจอยู่นั้น เฉินกังหยิบยาม้าสองเม็ดออกมา “เสียงกลืน” กลืนลงไปอย่างรว ดเร็ว เหมือนเขาจะรู้ว่าฉินหลางกำลังสงสัยอยู่ จึงสบถออกมา “นี่เป็ยาม้าที่ใช้เพิ่มกำลังตอนชกมวยใต้ดิน! แกควรจะภูมิใจ ที่ทำให้ฉันต้องใช้มัน!”
“ภูมิใจหัวแม่ม!” ฉินหลางโมโหแล้ว ไอ้เ้านี่กินยาม้าเพิ่มกำลัง มันขี้โกงชัดๆ ขี้โกงยังไม่พอ ยังจะมาพูดเก๊กหล่อ ว่าฉินหลางควรจะภูมิใจอีก
“โมโหแล้วเหรอ? ดีมาก! เพราะมันจะต้องสนุกมากขึ้นแน่” เฉินกังยิ้มก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นออกไป
ซิ่ว!
หมัดของเฉินกังครั้งนี้ได้ยินเสียงลม หลังจากที่เขากินยาม้าเข้าไปการโจมตีของเขาเร็วและแรงกว่าตอนแรกมาก!
ทว่าตอนนี้ฉินหลางก็โมโหแล้วเหมือนกัน ตอนแรกฉินหลางยังให้เกียรติเขาอยู่บ้าง เพราะฉินหลางรู้สึกว่าเขาเป็อีกหนึ่ง “บุคคล” แต่ตอนนี้ สิ่งที่ฉินหลางมีให้ไอ้สารเลวนี่มีเพียงความโมโหเท่านั้น
คนส่วนมากเวลาโมโห จะกำหมัดไว้แน่น แต่ตอนที่ฉินหลางโมโห กลับคลายกำปั้นออก เพราะตอนนี้กำปั้นของเขาได้กลายมาเป็มีดแล้ว—
มีดตั๊กแตน!
เมื่อก่อนเคยมีปรมาจารย์ผู้มีวิทยายุทธ์แก่กล้า มองเห็นตั๊กแตนออกล่า หาอาหาร เข้าใจสัจธรรมที่อยู่ในท่านั้น นำมาประยุกต์ใช้จนกลายเป็หมัดตั๊กแตนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ หลายวันมานี้ฉินหลางปล่อยตั๊กแตนสีเืออกมาจากถุงผ้าหมื่นพิษอยู่เป็ประจำ ฉินหลางเอาตั๊กแตนสีเืมาเป็ครู ศึกษาและสังเกต การออกล่าของมัน ทำให้ฉินหลางได้ความเฉียบคม ว่องไว และการลวงตาคู่ต่อสู้ นำมาประยุกต์ใช้เป็ท่าใหม่ “มีดตั๊กแตน”
ตอนที่ต่อสู้กับกระทิง ฉินหลางเพิ่งได้เข้าใจกระบวนท่าของหมัดตั๊กแตนเป็ครั้งแรก ในตอนนั้นยังเพิ่งจะใช้หมัดตั๊กแตนเป็ แต่หลายวันมานี้ ฉินหลางสังเกตจากการหาอาหารของ ‘ครูตั๊กแตนสีเื’ และสารคดี ‘การล่าเหยื่อของตั๊กแตน’ ทำให้เขาเข้าใจ ‘มีดตั๊กแตน’ ได้ลึกซึ้งมากขึ้น
แต่ทว่า ถ้า้าให้มีดคมกริบ จำเป็จะต้องมีหินลับมีด
และตอนนี้ เฉินกังก็คือ ‘หินลับมีด’ ที่ฉินหลางกำลังรอคอย!
เห็นฉินหลังเป็กำปั้นเป็ฝ่ามือ เฉินกังหัวเราะเยาะเสียงเย็นเยือก เพราะในสายตาเขา กำปั้นเท่านั้นที่เป็อาวุธโจมตีที่ดีที่สุด ฝ่ามือ นิ้วมืออะไรพวกนี้ เป็เพียงท่าฟุ่มเฟือย ดูเยอะเท่านั้นไม่มีความรุนแรงใดๆ
“ตัด!”
เห็นหมัดของเฉินกังที่กำลังพุ่งเข้ามา ฉากที่ตั๊กแตนสีเืฆ่างูใหญ่ก็พรั่งพรูเข้ามาในสมองของฉินหลาง เขาสั่นไหวเล็กน้อย ลมปราณในร่างกายมารวมตัวกันอยู่ที่กลางฝ่ามือ ฟาดไปที่หมัดเฉินกังด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด!
ปึง!
กำปั้นกับฝ่ามือปะทะกัน ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เฉินกังรู้สึกถึงความเจ็บพุ่งเข้ามาทางกำปั้น เ็ปอย่างรุนแรงราวกับราวกับหมัดของตัวเองไม่ได้ต่อยลงบนเนืุ้์ แต่ต่อยไปบนเหล็กกล้ามากกว่า
แต่หลังจากที่กินยาม้าเข้าไป เฉินกังทนความเจ็บได้เพิ่มมากขึ้นหลายเท่า กระตุ้นความดุร้ายในร่างกาย เขาไม่สนใจความเ็ปอย่างสิ้นเชิง เหวี่ยงกำปั้นไปทางฉินหลางอีกครั้ง
ฉินหลางรับกำปั้นนั้นเหมือนเดิมอีกครั้ง ฟาดฝ่ามือลงไปอีกที!
ปึงๆๆ! ปึงๆ!
ฉินหลางใช้มีดตั๊กแตนอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะรุนแรงจนน่าใแล้ว ยังเลือกมุมที่ป้องกันได้ยาก เขาเอาการเลือกมุมของตั๊กแตนเวลาล่าเหยื่อ ความรวดเร็ว รุนแรง แม่นยำมาผสานในมีด (ฝ่ามือ) ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ทุก ‘มีด’ ราวกับสายฟ้า!
ตอนแรกเฉินกังดูถูกกระบวนยุทธ์จีน เขาคิดว่ากระบวนยุทธ์จีนดูได้แต่ใช้ไม่ได้ แต่ตอนนี้ได้เห็นความรวดเร็ว รุนแรง และความแข็งแกร่งจากฝ่ามือของฉินหลาง เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาเขาคิดผิดมาตลอด
เมื่อได้หินลับมีดอย่างเฉินกังแล้ว มีดตั๊กแตนของฉินหลางมีความคล่องแคล่วมากขึ้น ถึงแม้เฉินกังจะกินยาม้าเข้าไป แต่กลับไม่สามารถเอาชนะฉินหลางได้
แต่ถึงยังไงเฉินกังก็เป็นักชกมวยใต้ดิน มวยใต้ดินไม่เพียงโหดร้าย บ้าเื แต่ยังเป็การใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชัยชนะ ดังนั้นเมื่อเฉินกังเห็นตัวเอง เป็ฝ่ายเสียเปรียบ เขายกเตียงเหล็กขึ้น ทุ่มไปทางฉินหลาง ฉินหลางรีบเบี่ยงตัวหลบ เฉินกังรีบฉวยโอกาสพุ่งไปล็อกคอฉินหลางไว้ในท่ามวยปล้ำ ออกแรงรัดคอฉินหลาง เขา้าที่จะรัดคอฉินหลางให้หมดสติ!
“ไสหัวออกไป—”
“ฮ่า” ฉินหลางคำราม กระทืบเท้าบนพื้น สะบัดไปทั้งร่างกายอย่างรุนแรงและรวดเร็ว แรงสั่นะเืดีดมือของเฉินกังออก จากนั้นใช้แขนข้างเดียวจับเฉินกังฟาดออกไป กระแทกเข้ากับประตูห้องขังอย่างแรง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เฉินกังเริ่มทุลักทุเล แต่ด้วยความที่เ้านี่เป็คนเหี้ยมโหด บวกกับยาม้าที่กินเข้าไป เขาดีดตัวเองขึ้นจากพื้น แล้วกระโจนเข้ามาทางฉินหลางต่อทันที
ตอนนี้ ‘มีด’ ตั๊กแตนของฉินหลางได้ถูกลับจนคมแล้ว มีภาพตอนตั๊กแตนสีเืฆ่างูใหญ่พุ่งเข้ามาในสมอง จู่ๆ เขาก็คิดกระบวนท่าใหม่ขึ้นมาได้ และมันเป็ท่าไม้ตายที่แท้จริง—
“ตั๊กแตนล้มช้าง!”
ฉินหลางคำราม ยืนออกแรงในท่าฝูหลงจู้ นำพละกำลังทั้งหมดในร่างกายมารวมกันที่ฝ่ามือทั้งสอง สะบัดแขนซ้ายอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จากนั้นกระโจนลงมาจาก้าลงสู่ด้านล่าง ฝ่ามือทั้งสองที่เป็เสมือนคมมีด ยืมพละกำลังจากการกระโจนด้วยความรวดเร็วฟันลงไปบนหน้าอกของเฉินกัง!
“ไม่ดี!”
ในเสี้ยววินาทีที่มีด (ฝ่ามือ) จะลงถึงหน้าอกเฉินกัง ฉินหลางตระหนักได้ว่าฝ่ามือนี้รุนแรงเกินไป รีบดึงพละกำลังกลับมาครึ่งหนึ่ง
ปังๆๆ!
เสียงของแข็งแตกดังขึ้นสามครั้งบนหน้าอกเขา ในฐานะที่เป็นักชกมวยใต้ดิน เขารู้ดีว่าเสียงที่ได้ยินเป็เสียงหักของกระดูกซี่โครงของเขาเอง
มีด (ฝ่ามือ) ของฉินหลางฟันลงไป ทำให้หน้าอกของเฉินกังมีเืซึมออกมาเป็รอยยาวประมาณหนึ่งไม้บรรทัด แต่าแไม่ได้ลึกมาก ทว่ากระดูกซี่โครงแตกหักสามซี่ ทำให้เฉินกังหมดทางต่อสู้ ต่อให้เขาจะกินยาม้าเข้าไปก็ทนไม่ไหวอยู่ดี!
ฉินหลางแอบดีใจที่ดึงพละกำลังกลับมาก่อนครึ่งหนึ่ง ไม่งั้นเฉินกังอาจจะต้องตายเพราะทนพิษาแไม่ไหวเลยก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็อาจจะนำปัญหามาให้ฉินหลางอยู่ดี
ดูจากการกระทำของเฉินกังก่อนหน้านี้ เ้าหมอนี่เป็คนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อชัยชนะ ตอนนี้เขาเจอ “ท่าไม้ตาย” ของฉินหลางฟันกระดูกซี่โครงหัก เขาจะต้องไปฟ้องผู้คุมว่าฉินหลางทำร้ายร่างกายเขา เพื่อสร้างข้อหาให้ฉินหลางมากขึ้นแน่
ในเวลานี้เอง เฉินกังที่นอนหมอบอยู่กับพื้นพูดขึ้น “ฉินหลาง นายชนะแล้ว…ท่านอัน ฝากฉันมาบอกนายเื่หนึ่ง…เข้ามาหน่อย”
ฉินหลางเดินเข้าไป ตอนที่เข้าไปใกล้เฉินกังนั้น จู่ๆ เฉินกังก็เอามีดเล็กที่มันซ่อนไว้ข้างหลัง แทงไปบนขาของฉินหลาง มีดเล่มนี้ทั้งเล็กทั้งสั้น เล็กกว่ามีดเหลาดินสอของเด็กประถมเสียอีก เพราะแม้ผู้คุมจะรับสินบนจากซางคุน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าให้เฉินกังเอามีดเข้ามาฆ่าคน หากแต่เห็นได้ชัดว่าเฉินกัง้าที่จะเอาชีวิตฉินหลาง ฉะนั้นถึงได้ซ่อนมีดเล็กไว้บนตัว มิหนำซ้ำพิษงูบนมีดเล่มเล็กนี่ สามารถฆ่าคนได้สบาย!
*ฐาน : ท่อนล่างของลำตัว ั้แ่เอวลงไปถึงเท้า