ไม่รู้ว่ายันต์ที่เฟิงฉี่ใช้คือยันต์อะไร แต่อวี๋มู่ก็ไม่อาจหดร่างให้ตัวเล็กลงได้
เขามองดูใบหน้าของหย่งอวี้ที่มีรอยเืและกำลังถูกทหารคุมตัวไว้ ที่มือขวามีเืเริ่มไหลซิบ ในใจเกิดความรู้สึกหงุดหงิด เขามองไปทางเฟิงฉี่ แล้วเอ่ยถาม “องค์ชายเก้านี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? ทำไมถึงแน่ใจว่าปีศาจร้ายในตัวเฟิงอวี้นั้นยังไม่ถูกกำจัด? ”
เฟิงฉี่ถูกน้ำเสียงเ็าของอวี๋มู่ทิ่มแทงใจ แล้วเอ่ย “สามีอวี๋ เมื่อคืนเ้าน่าจะเห็นว่าเฟิงอวี้นั้นมีปัญหาจริงๆ เขาเกือบจะฆ่าข้า! ตอนนี้เ้ายังมาพูดแทนเขาอย่างนั้นหรือ? ”
“ข้าเห็นอะไรอย่างนั้นหรือ? ” อวี๋มู่หัวเราะแบบประชด แล้วเอ่ย “ข้าเห็นองค์ชายเก้าวิ่งโร่ไปรื่นเริงในโรงเสเภณีกลางดึกมากกว่า”
อวี๋มู่กล่าวด้วยวาจาคมคาย แล้วเอ่ยกับเหล่าทหารที่ล้อมรอบพวกเขา “ท่านทั้งหลายคงรู้ว่าองค์ชายสามนั้นเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ตอนนี้ถือศีลอยู่ แล้วจะไปพบเจอองค์ชายเก้าที่โรงโสเภณีดึกๆ ดื่นๆ ได้อย่างไร”
“สามีอวี๋... ทั้งๆ ที่เ้ารู้ดีว่าข้าไปที่นั่นเพื่อหาเ้า” เฟิงฉี่ยากที่จะเชื่อว่าคำพูดที่เป็บ่อนทำลายตัวเองจะออกมาจากปากของอวี๋มู่
ในความทรงจำของเขา อวี๋มู่ยังคงเป็ชายหนุ่มที่อ่อนโยนและในสายตามีเพียงเขา ไม่ควรช่วยเหลือและเข้าข้างคนนอกอย่างเช่นตอนนี้ คนนอกที่กำลังสร้างความหายนะให้ตัวเองเหมือนุ์
แต่เทียนซือไม่น่าจะคำนวณผิดพลาดได้ หรือว่าสามีอวี๋ของตัวเองจะจำเขาไม่ได้แล้วจริงๆ ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฟิงฉี่รู้สึกเศร้าหมองในใจ เขาเอ่ยเสียงแหบโดยไม่สนใจเหล่าทหารรอบข้าง ข่มสีหน้า แล้วหยิบถุงผ้าข้างเอวออกมาหนึ่งอัน ก่อนจะเอ่ยกับอวี๋มู่ “สามีอวี๋ ข้าจะพยายามทำให้เ้าจำเื่ราวในอดีตของพวกเราให้ได้ ชาติที่แล้วข้าทำผิดต่อเ้าเอง ชาตินี้ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเติมเต็มให้เ้า”
เมื่อเฟิงฉี่กล่าวจบ อวี่มู่ก็รู้สึกถึงแรงดูดบางอย่างพุ่งออกจากถุงผ้า แล้วดูดเขาเข้าไปอยู่ในนั้น
ถุงผ้านั้นไม่ได้มืดนัก อยู่แบบนั้นก็ไม่ได้อึดอัด แต่อวี๋มู่กลับโมโหจนควันออกหู
ด้วยบนศีรษะมียันต์แปะไว้ เขาจึงทำได้เพียงยืนนิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางให้เขาสบถต่อว่าเฟิงฉี่กับระบบได้
พอต่อว่าจนเหนื่อยแล้ว อวี๋มู่ก็เริ่มเป็ห่วงหย่งอวี้ เขาจึงเอ่ยถามระบบ: เ้าระบบ นายว่าตัวตนของเฟิงอวี้นั้นถูกเขาซ่อนตัวไว้ ถ้าอย่างนั้นปีศาจร้ายบนตัวเขาก็ไม่น่าจะถูกตรวจสอบได้สิ ใช่ไหม?
หย่งอวี้ใช้คาถาอะไรไม่เป็ ถึงขั้นคิดว่าร่างกายของตัวเองนั้นไม่มีปีศาจร้ายแล้ว หากว่าเฟิงฉี่ตัดสินว่าบนร่างกายเขายังมีปีศาจร้าย แบบนั้นสิ่งที่รอหย่งอวี้อยู่มีความเป็ไปได้สองอย่าง ถ้าดีหน่อยก็คงถูกจับขังเข้าเจดีย์อีกครั้ง แต่ถ้าเลวร้ายก็คงถูกตัดสินปะา
แต่ว่าในหนังสือกำหนดแล้วว่าหากยืมมือคนอื่นสังหารเฟิงอวี้ จะนำภัยมาสู่ราชวงศ์เฟิง สิ่งเดียวที่จะทำให้บรรลุทั้งสองข้อคือหลอกล่อให้เฟิงอวี้นั้นปลิดชีพตัวเอง
ตอนนี้มีหย่งอวี้ที่เป็ตัวตนด้านเมตตาเป็แกนนำ หากว่าคนของพระราชวังให้เขาปลิดชีพตัวเองจริง...
เ้าซื่อบื้อนั่นคงทำตามนั้นแน่ทีเดียวสินะ?
บัดซบ!
[เื่นี้ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ] ระบบเอ่ย [คะแนนความประทับใจแบ่งเป็สองแถบ ชัดว่าปีศาจร้ายยังคงอยู่ ตอนนี้ทำได้เพียงภาวนาให้เฟิงอวี้ไม่เปิดเผยตัวตนก็พอ]
อวี๋มู่: ถ้าอย่างนั้นนายต้องคอยติดตามหย่งอวี้ไว้ แล้วรายงานสถานการณ์กับฉัน ฉันจะลองคิดหาหนทาง
ทั้งๆ ที่เมื่อวานถูกปฏิบัติตัวแบบนั้น แต่อวี๋มู่พบว่าเทียบกันกับการโกรธเฟิงอวี้ ในตอนนี้เขาเป็ห่วงว่าจะเกิดเื่กับนักบวชน้อยมากกว่า
ไม่เกี่ยวกับภารกิจ แต่เป็ห่วงคนคนนี้จากใจจริง
เขาต้องคิดหาหนทางกล่อมเฟิงฉี่ ในเมื่อไม้แข็งใช้ไม่ได้ผล ก็ต้องใช้ไม้อ่อน จำเป็ต้องช่วยหย่งอวี้ออกมาให้ได้
*
พวกเขาเดินทางผ่านค่ายกลขนส่ง มายังเมืองหลวง
เฟิงฉี่ไม่ได้พาอวี๋มู่เข้าวังแต่อย่างใด แต่กลับพามาจวนแห่งหนึ่งของตัวเองที่อยู่ในเมือง
เขาปล่อยอวี๋มู่ออกมา ชี้ไปที่สวนแล้วเอ่ย “ข้าสั่งให้คนเลียนแบบจวนที่พวกเราพักอาศัยในชาติที่แล้ว เ้าลองดูว่านึกอะไรได้หรือไม่? ”
อวี๋มู่ซ่อนดวงตาที่เป็ประกาย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงโอนอ่อนลง “องค์ชายปลดยันต์แผ่นนี้ออกก่อนได้หรือไม่”
เขาเอ่ย “ไม่มีผู้ใดชอบการถูกจำกัดอิสรภาพ”
เฟิงอวี้เห็นท่าทีเขาเริ่มอ่อนลง ในที่สุดจิตใจก็รู้สึกดีขึ้นมา เขาถึงขั้นไม่ได้สงสัย แต่พูดเพียงว่าได้ แล้วดึงแผ่นยันต์กลางหลังของอวี๋มู่ออก
อวี๋มู่ช้อนตาขึ้น ในวินาทีนั้นที่ได้รับพลังคืนกลับมา ก็กระทุ้งเข่าเฟิงฉี่เข้าให้ จับแขนของอีกฝ่ายไพล่หลัง แล้วกดเขาทับไว้บนพื้นที่เย็นและแข็ง
ท่วงท่าที่ใช้ก็คือท่าที่องครักษ์สองนายกดหย่งอวี้
“เฟิงฉี่ ชาตินี้ข้าจะติดตามแค่เฟิงอวี้ หากเ้ายังเห็นแก่เยื่อใยในอดีต จงปล่อยพวกเราไปเสีย ข้าจะพาเขาไปยังที่ที่เ้าไม่มีทางหาเจอ ไม่ให้เขาทำเื่ชั่วร้ายเป็ภัยต่อราชวงศ์เฟิง”
อันที่จริงเขากล่าวออกมาอย่างรู้สึกผิด เพราะว่าเมื่อคืนเขาล่วงรู้ถึงนิสัยแท้จริงของเฟิงอวี้แล้ว
เขาแทบจะเหมือนกับผู้ป่วยโรคจิตในยุคปัจจุบัน แล้วยังมีใบรับรองการวินิจฉัยเทือกนั้นด้วย
แต่คงเพราะเชื่อและยอมรับในสิ่งที่ได้เห็นมาก่อน เขายังคงให้ความเคารพเฟิงอวี้ เหนือกว่าคนทั้งหมดในโลกใบนี้
“ดังนั้นแล้ว สามีอวี๋ เ้านึกทุกอย่างได้แล้วใช่หรือไม่? ” แม้ว่าเฟิงฉี่จะถูกอวี๋มู่กดลงบนพื้น แต่ไม่ได้มีท่าทีวิตกใดๆ
เขาถึงขั้นดีใจด้วยซ้ำที่อวี๋มู่นั้นยังไม่ได้ลืมเื่ราวระหว่างพวกเขาสองคน
อวี๋มู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
[โฮสต์! เขาใช้คาถา!] ระบบเตือนช้าไป อวี๋มู่รู้สึกว่ามือนั้นโล่ง พริบตาถัดมา ก็ถูกเด็กหนุ่มโอบกอดจากด้านหลังไว้แน่น
เฟิงฉี่นั้นสวมกำไลข้อมือหนึ่งอันบนข้อมือเขาอย่างรวดเร็ว อวี๋มู่รู้สึกว่าทั้งร่างของเขาหนักอึ้งทันใด ไม่ได้ตัวเบาเหมือนก่อนหน้านั้น ไม่อาจใช้คาถาได้และไม่สามารถหดตัวเล็กลงได้
“เดิมทีข้าไม่ได้อยากจะควบคุมอิสระของเ้า” เฟิงฉี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงออกเ็า “แต่เ้าไม่เชื่อฟังแบบนี้ แล้วยังจากข้าไปพร้อมกับอยู่กับเ้าอสูรฟ้าที่สมควรตาย ข้าจำต้องทำเช่นนี้ เ้าอย่าได้กล่าวโทษข้าเลย”
เขาปล่อยอวี๋มู่ แล้วดึงมือให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมา “กำไลลงกลอนิญญานั้นจะขังร่างิญญาของเ้าไว้ และยังปกป้องเ้าไม่ให้ได้รับาเ็ด้วย ทำให้เ้าสามารถยืนเคียงคู่กับข้าใต้แสงตะวันได้อย่างเปิดเผย”
เขาพูดเช่นนี้ จู่ๆ ก็นึกถึงเื่สำคัญบางอย่างได้ แล้วยิ้มกับอวี๋มู่เบาๆ “ข้าถามท่านเทียนซือมาแล้ว เ้าเป็ิญญาุ์ วิธีเดียวที่จะคืนชีพได้ก็คือกินหัวใจของอสูรฟ้า ข้าต้องคิดหาวิธี ให้เขายินยอมมอบหัวใจให้เ้าอย่างเต็มใจ เท่านี้ก็จะเป็การทำให้พวกเราสมหวัง ก็นับว่าเขาตายอย่างคุ้มค่า”
อวี๋มู่จ้องใบหน้าเฟิงฉี่เขม็ง เมื่อได้ยินเขากล่าวจนจบ พลันดวงตาจ้องจนแทบถลน เขาเงื้อหมัดต่อยไปที่เฟิงฉี่ แต่กลับถูกอีกฝ่ายต้านไว้อย่างง่ายดาย แล้วกำไว้ในฝ่ามือ
เดิมทีนึกว่าพระเอกจะเมตตาซื่อตรง ขณะนี้กลับแสดงท่าทีเ็าอย่างแปลกประหลาด
เฟิงฉี่เอ่ย “สามีอวี๋ เ้าคิดว่าข้ารอเ้ามาหลายปีเพียงนี้ ยังจะปล่อยมือง่ายๆ อย่างนั้นหรือ? อย่าได้ริอ่านคิดเื่ที่จะหนีไป ชาตินี้เ้าต้องอยู่เคียงข้างข้าเพียงผู้เดียว”
“เ้าป่วยไปแล้วหรือ? ” อวี๋มู่คว้าคอเสื้อเฟิงฉี่ รู้สึกโมโหจนควันออกหูไม่หยุด “ข้าจะบอกอะไรให้ เฟิงฉี่ ถ้าเ้ากล้าทำร้ายเฟิงอวี้ ข้าจะไม่มีทางปล่อยเ้าไว้แน่! ”
อวี๋มู่คิดไม่ถึงว่าเฟิงฉี่จะรู้เื่ที่คืนชีพิญญานี้ด้วย!
เขานึกว่าพระเอกจะต้องถูกปั่นหัวง่ายหน่อย แิไม่ค่อยรอบคอบ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะคิดผิดถนัด
เฟิงฉี่สามารถเอาชนะในการต่อสู้แก่งแย่งชิงตำแหน่งท่ามกลางบรรดาองค์ชายจนถึงท้ายที่สุด เห็นได้ชัดว่าเฟิงฉี่นั้นไม่ใช่คนที่ต่อกรด้วยง่ายๆ !
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย” เฟิงฉี่คว้ามือของเขา แล้วยิ้มออกมา “ข้าก็ไม่อยากให้เ้าปล่อยข้าไป”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
