ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งพยักหน้ารับ
“ไม่ขายหรอก แบบนี้ก็เป็การหลอกลวงน่ะสิครับ!”
หลินเยว่ตอบปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เื่หลอกคนแบบนี้เขาจะทำได้อย่างไร?
“อ้อ?”
ความตรงไปตรงมาของหลินเยว่ทำให้ท่านเจี่ยตกตะลึงมาก
นี่เป็เงินหลักแสนเลยนะ ไม่ขายหรือ?
“ทำไมถึงไม่ขายล่ะ นี่เป็เงินมูลค่ากว่าแสนหยวนเลยนะ”ขณะที่พูด ท่านเจี่ยก็มองสีหน้าของหลินเยว่โดยไม่ให้คลาดสายตา
“เื่หลอกลวงคนแบบนี้ ผมไม่ทำหรอก”
น้ำเสียงของหลินเยว่ยังคงมีความหนักแน่นเด็ดขาดเช่นเดิม
ท่านเจี่ยไม่เห็นสีหน้าผ่อนคลายจากใบหน้าของหลินเยว่เลยสุดท้ายท่านจึงได้แต่ถอนหายใจ แล้วพูดกับท่านเฮ่อ “คุณหาลูกศิษย์ได้ดีจริงๆ เลย!ตอนแรกผมยังไม่เชื่อ แต่วันนี้ผมก็ต้องเชื่อแล้วจริงๆกล้าซื้อแจกันเคลือบแบบนี้ก็แสดงว่าเขาเป็คนใจกล้า ถึงแม้ว่าคงไม่ได้จ่ายเงินไปเยอะแยะแต่ว่าก็เป็ตัวสะท้อนความใจกล้าของเขาอย่างชัดเจนแล้วยังไม่ยอมที่จะขายของปลอมเพื่อหลอกคนอื่นก็แสดงว่าเขาเป็คนดีที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ตาแก่อย่างคุณช่างโชคดีจริงๆลูกศิษย์ที่ดีแบบนี้กลับเป็คุณที่หาจนเจอ”
น้ำเสียงของท่านเจี่ยเหวยเกิ่งก็สะท้อนความอิจฉาอยู่ลึกๆและก็เป็การชื่นชมหลินเยว่มากเช่นกัน
ท่านเฮ่อหัวเราะ “ฮ่าๆ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
กำลังชมผมหรือ?
ทำไมถึงชมล่ะ
สำหรับเื่อื่นๆ แล้วหลินเยว่มักจะรู้ก่อนใครเสมอ แต่ยกเว้นเวลาที่คนอื่นเอ่ยชมเขา เขามักจะเป็คนที่รู้ตัวทีหลังคนอื่นพูดชมชัดเจนขนาดนี้แล้ว เขายังไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายกำลังชมเขาอยู่?!
“ตาแก่นี่ชมอาจารย์ต่างหาก เขาชมว่าอาจารย์เก่งที่หาลูกศิษย์ที่ดีอย่างคุณ”ท่านเฮ่อฉางเหอพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับหลินเยว่
และครั้งนี้หลินเยว่ก็รู้ตัวได้ทันทีมันเป็การชมอาจารย์ของเขาเสียที่ไหนล่ะ มันเป็การชมตัวเขาเองชัดๆ เลยนะ
ดังนั้น เขาจึงยิ้มอย่างขัดเขินแล้วโค้งคำนับให้กับท่านเจี่ยเหวยเกิ่งพร้อมพูดขึ้น “ท่านเจี่ย ท่านชมเกินไปแล้ว”
“ผมก็หวังว่าผมจะชมเกินไปจริงๆ แบบนี้ผมจะได้ไม่ต้องอิจฉาอาจารย์ของคุณยังไงล่ะ”
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งรำพึงรำพันกึ่งเล่นกึ่งจริง
หลินเยว่เกาศีรษะด้วยความเขินการที่มีผู้ใหญ่ชมเขา เขาก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นจริงๆเขารู้สึกมาตลอดว่าสิ่งที่ตนเองทำยังไม่ถือว่าดีมากแต่ทว่ากลับถูกคนอื่นชมเชยมาหลายครั้ง
เขารู้สึกกระดากใจจริงๆ นะ
“พอได้แล้ว เลิกชมเขาได้แล้วหากชมอีกเดี๋ยวเขาจะเริ่มอวดดีแล้วนะ รีบโทรหาตาแก่จวงสิ วันนี้เขามาถึงที่นี่พอดีเื่แบบนี้นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครทำได้อีก” ท่านเฮ่อฉางเหอพูดพร้อมรอยยิ้ม
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งหัวเราะ “เหอๆ”แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหา “ตาแก่จวง” ที่ท่านเฮ่อพูดถึง
ผ่านไปไม่นานนัก ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“พวกเขามาแล้ว” ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งพูดขึ้น
หลินเยว่รีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปทางประตูห้องเพราะการเปิดประตู หากมีลูกศิษย์อยู่ด้วย แล้วจะให้อาจารย์เป็คนลุกมาเปิดประตูได้อย่างไรหน้าที่ของคนที่เป็ลูกศิษย์เขาก็รู้ดีอยู่
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งถือโอกาสตอนที่หลินเยว่เดินไปเปิดประตูจึงรีบเดินเข้าไปข้างๆท่านเฮ่อแล้วพูดขึ้นเสียงเบา “หลินเยว่มีจิตใจดีแบบนี้ แต่วงการวัตถุโบราณมีแต่ความซับซ้อนผมคิดว่านิสัยของเขาดูไม่ค่อยเหมาะกับการวางแผนออกอุบายคอยรับมือกับคนอื่นสักเท่าไร”
ท่านเฮ่อฉางเหอได้ยินเช่นนี้ก็ได้แต่หัวเราะเหอๆเขาพูดขึ้น “ตอนแรกผมก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ตอนที่อยู่บนถนนวัตถุโบราณก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็คนละคนต่อรองราคากับพวกนักธุรกิจที่ขายวัตถุโบราณพวกนี้ก็ไม่ได้ยอมง่ายๆ เลยเขามีความเป็นักธุรกิจจอมเ้าเล่ห์แฝงอยู่ แต่ว่าเวลาที่เขาเจอคนดีเขามักจะใจอ่อน แต่การที่เขาเป็คนแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่ถูกคนอื่นเอาผลประโยชน์หรือความเชื่อใจมาผูกมัดตัวเขาได้เลย”
“อ้อ? มีความเป็นักธุรกิจจอมเ้าเล่ห์แฝงอยู่?”ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งมองเื้ัของหลินเยว่ ในสมองของเขาพลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที
หรือว่าไอ้หนุ่มคนนี้จะเป็คนหลายบุคลิกด้วยล่ะ?
หลินเยว่เปิดประตูออกไปเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เขาก็ตกตะลึงไปในทันที
เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าใครเป็คนเปิดประตูก็รู้สึกใเช่นกัน
บุคคลผู้นี้เป็ผู้าุโที่เขาเจอเมื่อเช้าวันนี้คนนั้นนั่นเองและเื้ัของเขาก็ยังคงมีหลานสาวที่ชื่อเสี่ยวเตี๋ยตามมาด้วย
“ท่านคือ?”
ผู้าุโหัวเราะฮ่าๆ และพูดขึ้น“คาดไม่ถึงว่าคุณจะเป็ลูกศิษย์ของสหายเก่าของผมอาจารย์ของคุณคือเฮ่อฉางเหอใช่ไหมล่ะ?”
“ผมก็คาดไม่ถึงว่าท่านจะเป็เพื่อนของอาจารย์ของผมเชิญเข้ามาเลยครับ” หลินเยว่ยิ้มเล็กน้อย แล้วหลีกทางให้อย่างนอบน้อม
ผู้าุโยิ้มแล้วเดินเข้าไปด้านในเสี่ยวเตี๋ยก็ตามเข้ามาด้วยเช่นกัน แต่ทว่า... ขณะที่เธอเดินผ่านหลินเยว่เธอก็สบถในลำคอด้วยความโกรธ
“หึ!”
หลินเยว่ยิ้มอย่างอ่อนใจหญิงสาวคนนี้ถูกคนเอาใจจนเคยตัว ผมยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ก็แค่เถียงกันไม่กี่ประโยคแต่เธอกลับคิดแค้นผมเสียแล้ว
หลินเยว่รีบปิดประตูห้องจังหวะที่เขาหมุนตัวกลับมาจึงเห็นผู้าุโและอาจารย์ของตนและท่านเจี่ยเหวยเกิ่งผลัดกันกอดตามลำดับดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว
และเสี่ยวเตี๋ยที่แสนหยิ่งยโสและแข็งกระด้างคนนั้นกลับแสดงท่าทางเหมือนสาวน้อยน่ารักที่ว่าง่ายเสียเหลือเกินเธอทำความเคารพท่านผู้าุโทั้งสองพร้อมพูดขึ้น “สวัสดีค่ะคุณปู่ทั้งสองท่าน!”
หรือว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก?
หญิงสาวแข็งกระด้างก็มีมารยาทเช่นนี้เหมือนกันด้วยหรือ?
หลินเยว่หยิกขาตนเองอย่างแรงหนึ่งที เจ็บมาก... แสดงว่าเป็ความจริง
“ฮ่าๆ สวัสดีเสี่ยวเตี๋ยคาดไม่ถึงว่าไม่เจอกันไม่กี่ปีหนูก็กลายเป็สาวน้อยแสนสวยเสียแล้ว”ท่านเฮ่อฉางเหอยิ้มและพูดขึ้น
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งก็พูดพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน“ผู้หญิงมักมีหน้าตาเปลี่ยนไปเสมอ ยิ่งสวยขึ้นทุกวัน เสี่ยวเตี๋ยนอกจากจะสวยแล้วท่าทางก็ยิ่งโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นดูแล้วจะต้องสืบทอดโดยตรงมาจากตาแก่จวงอย่างแน่นอน”
“คุณปู่เฮ่อ คุณปู่เจี่ยพวกท่านชมเสี่ยวเตี๋ยเกินไปแล้วค่ะ” เสี่ยวเตี๋ยพูดถ่อมตัว
หลินเยว่แอบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบๆเขาแอบคิดในใจ “ก็ชมเกินไปจริงๆ นั่นแหละ”
“ตาแก่จวง ไม่ได้เจอกันมา 5 ปีแล้วนะ ผมขอแนะนำลูกศิษย์ของผมให้กับคุณหน่อยหลินเยว่”
ท่านเฮ่อฉางเหอยิ้มแล้วเรียกหลินเยว่ให้เข้ามา
หลินเยว่รีบเดินเข้าไปหา แล้วโค้งคำนับให้กับท่านจวงพร้อมพูดขึ้น“ท่านจวง สวัสดีครับ”
“ฮ่าๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองขนาดนี้ก็ได้พวกเราก็ถือว่าเคยเจอกันมาแล้ว ตาแก่เฮ่อ คุณหาลูกศิษย์ได้ดีทีเดียว”
ท่านจวงหัวเราะ “ฮ่าๆ”
“พวกคุณเคยเจอกัน?”
ท่านเฮ่อฉางเหอและท่านเจี่ยเหวยเกิ่งต่างตกตะลึง
“เจอกันที่ถนนวัตถุโบราณเมื่อเช้านี้น่ะพอเห็นเครื่องเคลือบสีเขียวบ๊วยในมือของเขา ผมก็รู้สึกอยากรู้ก็เลยเดินเข้าไปหาแต่ใครจะไปรู้ว่าเขาไม่ยอมขาย ฮ่าๆ......”
หลินเยว่ได้ยินเช่นนี้ก็ทำท่าอึกๆ อักๆ ทันที
ส่วนท่านเจี่ยเหวยเกิ่งที่อยู่ด้านข้างกลับหัวเราะ“ฮ่าๆ” ออกมา แล้วพูดขึ้น “คุณเคยสังเกตแจกันเคลือบใบนี้มาแล้วก็ดีเลยสิ ผมกับตาแก่เฮ่อรู้สึกไม่แน่ใจคุณบอกหน่อยว่ามันเป็ของแท้หรือของปลอม?”
“ก้นแจกันเป็ของปลอม ตัวแจกันเป็ของแท้”ท่านจวงตอบด้วยท่าทางเรียบง่ายสบายๆแต่ทว่าน้ำเสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง
ท่านเจี่ยและท่านเฮ่อต่างสบตาและส่งยิ้มให้กัน สายตาของพวกเขาทั้งคู่สะท้อนออกมาว่าเป็ไปตามที่คาดการณ์ไว้จริงๆ
ท่านเฮ่อฉางเหอตบบ่าหลินเยว่ที่กำลังเหม่อลอย“ไอ้หนุ่มเก็บตกได้อีกแล้ว”
“และการเก็บตกครั้งนี้ก็ถือว่าไม่น้อยเลยนะใช้เงิน 1 พันหยวนซื้อเครื่องเคลือบมูลค่าเป็หลักล้านการเก็บตกได้ก้อนใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้เป็สิ่งที่ใครๆ ก็สามารถทำได้”
ท่านจวงพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความนัยลึกซึ้งพร้อมมองไปที่หลินเยว่
เสี่ยวเตี๋ยมองหลินเยว่ด้วยสายตาดูถูกในใจของเธอแอบคิด “คนเหยียบขี้หมานำโชค”
แต่ ณ เวลานี้หลินเยว่กลับยังตกอยู่ในความตกตะลึง
จริงหรือ?
นี่เป็ความจริงใช่ไหม?
ถ้าเป็อย่างนี้......ความรู้สึกที่เขาััได้...... ก็ไม่ผิด?
พลังพิเศษตาทิพย์สามารถใช้พิสูจน์เครื่องเคลือบว่าอยู่ในยุคสมัยไหนได้?
เขาสามารถช่วยอาจารย์ของตนกู้หน้าได้แล้วและไม่ต้องทำให้อาจารย์ของตนต้องเสียชื่ออีกด้วย?
หลินเยว่กำลังัักับหัวใจของตนที่กำลังเต้น“ตึกตักๆ” อย่างรวดเร็วและรุนแรง สมองของเขากำลังอยู่ในภาวะมึนงงความรู้สึกหลังจากเกิดความพลิกผันมันทำให้เขารู้สึกราวกับหลุดออกมาจากนรกแล้วลอยขึ้นสู่์ทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้