“ทำไม นายดูถูกฉันเหรอ?” เถารั่วเซียงสบถ “ถึงฉันจะเป็อาจารย์ แต่อย่างน้อยฉันก็เคยเรียนอาชญาวิทยา ดูแค่เื่ความเป็มืออาชีพ ฉันมีความเป็มืออาชีพมากกว่านายซะอีก!”
น้ำเสียงของเถารั่วเซียงบ่งบอกว่าเธอมีความมั่นใจมาก และฉินหลางก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเถารั่วเซียงนั้นมีความรู้จริงๆ นอกจากนั้นยังเป็คนช่างสังเกตมากด้วย ไม่อย่างนั้น เธอก็คงไม่มีทางรู้ความลับในตัวฉินหลางหรอก
“ถ้าอาจารย์เถายอมช่วยเหลือ ก็ต้องดีอยู่แล้วสิครับ!” ฉินหลางรับข้อเสนอของเถารั่วเซียงด้วยความเต็มใจ จากนั้นจึงแสร้งถามขึ้น “งั้นตอนนี้เราควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนครับอาจารย์เถา?”
“ถ้าจะจัดการกับคนพวกนี้ด้วยกฎหมาย ให้พวกมันได้รับโทษในความผิดที่พวกมันก่อตามกฎหมาย ก่อนอื่นเลยเรา้าหลักฐาน พยานบุคคล ถึงตอนนี้เราจะมีโจวหลิงหลิงแล้ว แต่มีพยานบุคคลแค่คนเดียวมันยังไม่พอ เรายัง้าพยานบุคคลเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ พยานหลักฐานก็เป็ประเด็นสำคัญ เรา้าหาหลักฐานที่สามารถยืนยัน รวมไปถึงวิธีการว่าพวกเขาหลอกล่อเด็กนักเรียนให้ไปทำสิ่งผิดกฎหมายได้ยังไง หลิงหลิง ช่วยเล่าวิธีการตอนที่พวกเขาหลอกล่อเธอให้พวกเราฟังอย่างละเอียดได้ไหม?” เถารั่วเซียงวิเคราะห์อย่างมีหลักการ เป็ขั้นเป็ตอน ฉันหลางพยักหน้าอย่างอดไม่ได้ พูดในใจ ให้เถารั่วเซียงมาช่วย เป็การตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ ด้วย
“เวลานั้น เป็ตอนปิดภาคเรียน่ฤดูหนาวค่ะ มีเพื่อนตอน ม.ต้นของหนูคนหนึ่งชวนหนูไปงานวันเกิดเธอ ตอนนั้นพวกเราไปร้องเพลงที่ร้านคาราโอเกะด้วยกัน วันนั้นหนูไม่ได้ดื่มเหล้า หนูดื่มแค่น้ำผลไม้เท่านั้น หนูมีสติไม่ได้เมา ระหว่างนั้นเองเขาก็ได้แนะนำให้หนูรู้จักกับผู้ชายหนึ่งคน บอกว่าเป็คุณอาของเขา หนูไม่รู้ว่าทำไม หนูรู้สึกดีกับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นมาก เสมือนว่า ในตัวเขามีอะไรที่ทำให้เกิดแรงดึงดูดได้มากเป็พิเศษ…”
ความทรงจำ่นั้นทำให้เธอรู้สึกเ็ปมาก ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากที่จะนึกถึง “หลังจากร้องเพลงกันเสร็จ เขาพาหนูไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง—เช้าวันที่สอง จู่ๆ หนูก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจมาก และเมื่อนึกถึงตอนหนูมีอะไรกับเขา หนูยิ่งขยะแขยงจนอยากอ้วก แต่หนูก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน ทำไมเมื่อคืนถึงต้องมีอะไรกับเขาด้วย จากนั้นตอนที่เขาจะกลับไปได้ให้เงินหนูมาจำนวนหนึ่ง แต่หนูทิ้งไปหมดแล้ว ตอนแรกหนูคิดว่าเื่นี้จะจบลงแค่นี้ คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็เพียงการเริ่มต้นของฝันร้าย ครั้งที่สองที่หนูออกไปกับเพื่อน หนูติดยาเสพติดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วที่ยิ่งกว่านั้น หนูไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่อยู่ๆ หนูก็ไปมีอะไรกับผู้ชายที่น่ารังเกียจอีกคนอีก หลังจากนั้นเพราะอยากยาเสพติดหนู้าเงินมากขึ้น…สุดท้าย หนูก็ทำตัวตกต่ำอย่างสมบูรณ์แบบ ตกต่ำจนกลายเป็คนที่ขนาดตัวหนูเองก็ยังรังเกียจ”
“โจวหลิงหลิง ถ้าฉันได้ยินไม่ผิด เธอบอกว่าครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้า เธอมีด้วยความ ‘เต็มใจ’ เหรอ?” เถารั่วเซียงจับประเด็นสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
“ค่ะ!” โจวหลิงหลิงกัดฟันพูดพลางพยักหน้า “อาจารย์เถาค่ะ บางทีคุณอาจรู้สึกว่าหนูใฝ่ต่ำ—”
“มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก!” ฉินหลางพูดแทรก “ถ้าฉันเดาไม่ผิด คนที่ต้องเจอกับเื่แบบนี้ ยังมีผู้หญิงคนอื่นอีกใช่มั๊ย? และที่สำคัญ เพื่อนสมัย ม.ต้นที่ชวนเธอออกไป เขาต้องเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนแล้วแน่เลยใช่มั๊ย?”
ได้ยินฉินหลางพูดเช่นนี้ เถารั่วเซียงพยักหน้าเล็กน้อย พูดในใจ เ้านี่มองปัญหาได้คล่องแคล่วว่องไวดีนะ
“ฉินหลาง เธอคิดว่าประเด็นสำคัญของปัญหานี้อยู่ตรงไหน?” เหมือนว่าเถารั่วเซียงอยากจะหยั่งเชิงฉินหลาง
“เห็นได้ชัดว่าเป็กระบวนการลักพาตัวเด็กผู้หญิงในโรงเรียนมัธยม และวิธีการของอาชญากรนั้นเ้าเล่ห์มาก จากการวิเคราะห์ของผม พวกเขาน่าจะใช้ยาปลุกเซ็กส์บางชนิดที่มีความซับซ้อนสูง ทำให้เด็กผู้หญิงเหล่านี้อยู่ในสถานการณ์ที่มีสติครบถ้วน แต่ทว่าพวกเธอไม่สามารถควบคุมความปรารถนา ความ้าของตัวเองได้ เพื่อหาผลประโยชน์จากพวกเธอ และใช้พวกเธอเป็เครื่องมือในการหาเงิน อาจารย์เถาครับ นี้คือการวิเคราะห์ของผม คุณคิดว่าไงบ้าง?”
“โดยรวมก็ประมาณนี้แหละ” เถารั่วเซียงพยักหน้า จากนั้นหันไปมองโจวหลิงหลิง “หลิงหลิง ฉันเชื่อว่าเธอเป็ผู้หญิงที่ดี เป็ไปไม่ได้ที่เธอจะทำตัวตกต่ำเอง และครูเชื่อการตัดสินใจของครู ดังนั้นตอนนี้ฉันกับฉินหลาง พวกเราจะไปหาหลักฐานการกระทำความผิดของเดรัจฉานพวกนั้น แล้วกวาดล้างพวกมันให้หมด แต่ว่า พวกเรายัง้าความช่วยเหลือจากเธอ”
“อาจารย์เถาค่ะ ถ้าหนูพอที่จะทำได้หนูยินดีช่วยพวกคุณทุกอย่างค่ะ แต่ข้อมูลที่หนูรู้มามีน้อยมากจริงๆ…จริงสิ หนูรู้จักคนๆ นึง เธอน่าจะรู้ข้อมูลมากกว่าหนู เธอชื่อ ‘หวางเยี้ย’ เธอเป็นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเซี่ยหยาง หนูจะให้วิธีติดต่อของเธอกับพวกคุณนะคะ ฉินหลาง นายน่าจะรู้จักเธอ—โดยรวม หนูหวังว่าเธอจะให้เบาะแสกับพวกคุณได้”
โจวหลิงหลิงเขียนวิธีการต่อหวางเยี้ย ด้วยกระดาษและปากกาที่เถารั่วเซียงยื่นให้
เถารั่วเซียงเก็บกระดาษใส่กระเป๋า แล้วจึงหันไปพูดกับฉินหลาง “ฉินหลาง ตอนนี้โจวหลิงหลิงกำลังอยู่ใน่ฟื้นฟูร่างกาย ้าสภาพแวดล้อมที่ดี ฉันว่าเราควรเปลี่ยนที่พักรักษาตัวให้เธอน่าจะดีกว่า นายไม่ต้องห่วง ฉันจะหาที่ที่ปลอดภัย อากาศดีและเหมาะสมกับการพักฟื้น”
“อาจารย์เถา คุณเชื่อผมเถอะ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยกว่าที่นี่อีกแล้ว” ฉินหลางพูดอย่างมั่นใจ
เพราะเขารู้ว่าที่นี่เป็ที่ที่ตาเฒ่าพิษเลือก ในเมื่อตาเฒ่าพิษจะช่วยชีวิตโจวหลิงหลิง ก็ไม่มีใครจะสามารถเอาชีวิตเธอไปได้ แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่ได้เลย!
“งั้น…หลิงหลิง เธออดทนอีกหน่อยนะ เธอไม่ต้องห่วง รอให้พวกเราเอาคนชั่วพวกนั้นเข้าตารางได้หมดเมื่อไร เธอก็จะได้กลับไปอยู่กับคนในครอบครัวของเธอแล้ว” เถารั่วเซียงพูดปลอบใจโจวหลิงหลิง
โจวหลิงหลิงฝืนยิ้มพลางพูดขึ้น “อาจารย์เถาไม่ต้องเป็ห่วงหนูหรอกค่ะ ผ่านเื่นี้มาแล้ว หนูกล้าหาญขึ้นมากละค่ะ ฉินหลางพูดถูก ความจริงแล้วหนูก็รู้สึกว่าที่นี่ปลอดภัยเหมือนกัน”
จากนั้นฉินหลางกับเถารั่วเซียงก็ออกจากบ้านร้าง
เมื่อออกไปแล้ว เถารั่วเซียงพูดกับฉินหลางอย่างเหลืออด “ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายต้องให้โจวหลิงหลิงอยู่ในที่เปลี่ยวๆ อย่างนั้นคนเดียวด้วย ที่นี่ทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ตลอด”
“ถ้าไม่ปลอดภัย อาการของโจวหลิงหลิงจะยิ่งอยู่ยิ่งดีได้ยังไง?” ฉินหลางถามกลับ
เถารั่วเซียงครุ่นคิด ที่เขาพูดมามันก็จริง แต่เธอก็ยังคงถามด้วยความสงสัยต่อ “แต่ที่เธอบอกว่าปลอดภัย มันดูได้จากตรงไหน?”
“เอาอย่างงี้ คุณลองเดินออกไปให้ห่างจากผมเกินสิบเมตรดู” ฉินหลางบอกกับเถารั่วเซียง เห็นว่าเธอไม่ตอบสนอง จึงเดินถอยหลังไปจนห่างจากเธอประมาณสิบเมตรเอง
ตอนแรกเถารั่วเซียงไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉินหลางทำ แต่เพียงไม่นานเธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างมีความผิดปกติ ในพงหญ้าเสียงต้นไม้ใบหญ้าเสียดสีกับอะไรบางอย่าง เธอก้มดูมองพงหญ้า เห็นเพียงงูนานาชนิดยั้วเยี้ยอยู่เต็มไปหมด และงูพวกนี้กำลังเลื้อยมาทางเธอ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
“กรี้ด!”
เถารั่วเซียงกรีดร้องด้วยความใ ใบหน้าที่งดงามซีดเผือด หลังจากเธอสงบสติลงแล้วเพิ่งจะสังเกตว่าตัวเองกอดฉินหลางไว้แน่น ในขณะที่ฉินหลางยืนอึ้งอยู่ เหมือนตกตะลึงที่อยู่ๆ เถารั่วเซียงก็เข้ามากอดแบบไม่บอกไม่กล่าว
ฉินหลางกำลังอึ้งจริงๆ เขาอึ้งเพราะความนุ่มเด้งจนเหลือเชื่อของเถารั่วเซียง ในฐานะที่เป็ผู้ชายพรหมจรรย์ ฉินหลางควบคุมสติเวลาเจอเื่แบบนี้ได้น้อยมาก โดยเฉพาะเวลาที่สุดยอดสาวสวยอย่างเถารั่วเซียงมากอดไว้แน่นอย่างนี้ด้วยแล้ว นอกจากจะได้กลิ่นหอมๆ ที่โชยมาจากตัวของเธอแล้ว ฉินหลางยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นะเืจากหน้าอกนุ่มเด้งของเธอเป็ระยะๆ อีก มันยิ่งทำให้ฉินหลางรู้สึกล่องลอยไปในอากาศจนไม่รู้ทิศทางเลยแหละ
“งูๆ! รีบไปกันเถอะ!”
แม้ตอนนี้เถารั่วเซียงจะสงบสติลงได้บ้างแล้ว ทว่ายังไม่กล้าปล่อยฉินหลาง เพราะสำหรับเธอแล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกก็คืองูชนิดต่างๆ นี่แหละ
“แล้วผมจะเดินยังไง?”
เถารั่วเซียงเกาะอยู่บนตัวฉินหลางไว้แน่นราวกับเถาวัลย์ ทำให้ตอนนี้เขาก้าวเท้าไปไหนไม่ได้เลย ทว่ามีแสงผ่านสมองของฉินหลางเขาจึงพูดสิ่งที่เพิ่งคิดได้ออกมา “อาจารย์เถาครับ หรือให้ผมอุ้มคุณออกจากที่นี่ไหม?”
“ไม่เอา!”
แม้ว่าเถารั่วเซียงจะกลัว แต่เธอคิดว่าการให้นักเรียนอุ้มมันไม่ค่อยดีแน่ แม้จะกลัวมากแต่ก็ยังปฏิเสธฉินหลางอยู่ดี เวลานี้เธอทำใจกล้ามองไปรอบๆ อีกครั้ง แต่กลับไม่มีงูอยู่แล้ว เธอขยี้ตาตัวเองเหมือนไม่อยากจะเชื่อสายตา
หลังจากแน่ใจว่าไม่มีงูอยู่แล้ว เถารั่วเซียงจึงรีบปล่อยฉินหลาง
ฉินหลางถอนหายใจในความโชคร้าย เขาไม่น่าพูดคำพูดก่อนหน้านี้เลย ควรจะออกไปก่อนแล้วค่อยบอกทีหลังถึงจะถูก
เถารั่วเซียงรีบเดินออกมาจากป่าอย่างรวดเร็ว แล้วจึงหันกลับไปถามฉินหลาง “เมื่อกี้ที่นายบอกว่าโจวหลิงหลิงอยู่ที่นี่ปลอดภัย เป็เพราะงูพวกนั้นรึเปล่า? ช่างเถอะ อย่าพูดถึงงูเลย รีบไปหาหวางเยี้ยกันเถอะ”