เมื่อเดินต่อไปด้านหน้าอีกครั้งเย่เทียนเซี่ยก็ค่อยๆระมัดระวังมากขึ้นอีกหน่อย แท่งน้ำแข็งที่ไม่รู้ว่าจะตกลงมาอีกตอนไหนทำให้ผู้เล่นธรรมดาต้องก้าวไปอย่างระมัดระวัง แต่สำหรับเย่เทียนเซี่ยภายใต้ความระมัดระวังของเขาทันทีที่แท่งน้ำแข็งจาก้าขยับไหวก็มากพอที่จะทำให้เขารับรู้และสามารถหลบหลีกมันได้อย่างทันท่วงทีด้วยความสามารถในการตอบสนองและความสามารถในการรับรู้ของเขา
พลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว 15 หน่วยในทุกๆวินาทีแต่พลังชีวิตของเขาก็มีการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว 5 หน่วยในทุกวินาทีเช่นกัน เย่เทียนเซี่ยสามารถหลบหลีกแท่งน้ำแข็งที่พร้อมจะหล่นลงมาได้ตลอดเวลาพร้อมทั้งดื่มน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตไปด้วยได้อย่างง่ายดาย
ระยะเวลาสิบนาทีนอกจากหมาป่าหิมะสามตัวแรกแล้วเย่เทียนเซี่ยก็ไม่พบมอนสเตอร์ตัวไหนอีก ในคำอธิบายของภารกิจบอกไว้ว่าเป้าหมายสุดท้ายของภารกิจก็คือ “จัดการความอาฆาตแค้นของหมาป่าหิมะน้ำแข็งให้สำเร็จ” ไม่ใช่ให้เอาชนะมัน จะว่าไปแล้วด้วยระดับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์เซียน ผู้เล่นในตอนนี้จะสามารถจัดการมันได้อย่างนั้นเหรอ
เพราะงั้นเห็นได้ชัดเลยว่าภารกิจนี้ไม่ใช่ภารกิจที่เน้นการต่อสู้เป็หลัก และก่อนหน้านี้ตอนที่ญาญ่าถามคำถามแปลกๆกับเขาก็พิสูจน์ชัดแล้วว่า..........ต้องฉลาดถึงจะไม่ถูกหมาป่าผู้น่ากลัวจับกิน
ต้องฉลาด
เมื่อผ่านไปอีกสิบกว่านาทีเส้นทางตรงหน้าของเย่เทียนเซี่ยก็มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันไม่ได้เปลี่ยนเป็เส้นทางที่กว้างใหญ่ขึ้น แต่มันกลับแคบลงอย่างเห็นได้ชัด มันยังคงเป็ทางเดินน้ำแข็ง......... แต่สีของน้ำแข็งตรงหน้ากลับแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง มันกลายเป็สีฟ้า และยังเป็สีฟ้าเข้มด้วย สีฟ้านี้ก็คือสีฟ้าของน้ำแข็งบริสุทธิ์ที่ทำให้แค่มองไปยังสีฟ้าพวกนี้แวบเดียวก็สามารถจินตนาการได้เลยว่าความหนาวเย็นจนถึงกระดูกนั้นมันเป็อย่างไร
เมื่อเย่เทียนเซี่ยเดินเข้าไปในโลกน้ำแข็งอีกใบความหนาวเย็นที่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันก็พุ่งเข้ามาทันที เพียงแค่วินาทีต่อมาความหนาวเย็นที่แทบจะทำให้เืแข็งตัวก็แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเย่เทียนเซี่ยไปทุกซอกทุกมุม มันหนาวไปถึงเส้นผมทุกเส้นและเืทุกหยดของเขา.........
ถ้าความหนาวก่อนหน้านี้สามารถทำให้ร่างกายคนแข็งค้างได้ ความหนาวเย็นในตอนนี้ก็คงจะสามารถแช่แข็งร่างกายคนจนทำให้สติหลุดลอยไปได้เลย
ในขณะเดียวกันนั้นเสียงแจ้งเตือนระบบเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาข้างหูของเย่เทียนเซี่ย
“ติ๊ง! ท่านได้เข้าสู่ดินแดนอันตราย ‘เส้นทางกระดูกน้ำแข็ง’ ภายในเส้นทางกระดูกน้ำแข็งแห่งนี้ระดับอุณหภูมิที่น่ากลัวจะจำกัดความเคลื่อนไหวของร่างกายท่าน และจะลดพลังชีวิตของท่านของท่าน 10% ทุกวินาที ดังนั้นขอให้ท่านกรุณาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะเข้าไป”
ลดพลังชีวิต.............. 10% ทุกวินาที!?
ด้วยพลังชีวิต 2,727 ของเขาในตอนนี้.......... หมายความว่าหลังจากเข้าไปในแผนที่นี้แล้วไม่เพียงต้องอดทนกับความหนาวเย็นอันแสนทรมานแต่พลังชีวิตของเขายังจะลดลง 273 หน่วยทุกวินาทีอีกด้วย!
-273!
-273……
ตัวเลขความเสียหายสามหลักลอยขึ้นมาบนหัวของเย่เทียนเซี่ย ตัวเลขสีแดงทำให้เย่เทียนเซี่ยตกตะลึงอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น เขาในตอนนี้สามารถใช้น้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตที่ดีที่สุดได้โดยมันจะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของเขา 400 หน่วยทุกๆ 5 วินาที นั่นก็หมายความว่ามันจะฟื้นฟูพลังชีวิตของเขา 80 หน่วยต่อวินาที ความเร็วในการฟื้นฟูเช่นนี้อาจจะเพียงพอต่อผู้เล่นธรรมดาที่มีพลังชีวิตเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเท่านั้น ถ้ารวมกับการฟื้นฟูพลังชีวิตของนักบวชเข้าไปด้วยก็ยิ่งไม่มีปัญหาเข้าไปใหญ่ แต่สำหรับเย่เทียนเซี่ย.......... การอยู่ในเส้นทางกระดูกน้ำแข็งตรงหน้า พลังชีวิตอันสูงส่งของเขากลับกลายเป็ปัญหาร้ายแรง
และนอกจากแหวนแห่งชีวิตที่เพิ่มพลังชีวิตมา 200 หน่วยแล้ว พลังชีวิตอย่างอื่นก็ล้วนเพิ่มมาจากคุณสมบัติของอาชีพัปีศาจพิชิตฟ้าทั้งสิ้น ดังนั้นไม่ว่าเขาจะอยากกำจัดมันไปแค่ไหนก็ทำไม่ได้...........
เย่เทียนเซี่ยหมุนตัวกลับจากเส้นทางกระดูกน้ำแข็งอันน่ากลัว เขากวาดตามองไปที่หลอดเืที่ว่างเปล่าไปแล้วถึงหนึ่งในสามอย่างรวดเร็วแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น ความหนาวเย็นตรงหน้าถือเป็ศัตรูที่น่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดสำหรับเขา.......... เพราะมันไม่สามารถต่อต้านได้ ไม่ว่าจะมีความสามารถและพร์ที่สูงส่งแค่ไหนก็ไม่อาจหลบเลี่ยง เย่เทียนเซี่ยกรอกน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตระดับสูงเข้าไปเพื่อฟื้นฟูหลอดเืที่ว่างเปล่าให้เต็มหลอด เขาครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะก้มหน้าลงแล้วพูดออกมาเสียงต่ำ “เหยาเหยา!”
จิ้งจอกหิมะเหยาเหยาปรากฏตัวออกมาอยู่ข้างเท้าของเขาตามเสียงเรียก เหยาเหยาที่ถูกเรียกออกมาน้อยมากไม่ได้ชื่นชมไปกับโลกน้ำแข็งรอบๆ แต่มันกลับกระดิกหางที่เหมือนหิมะของมันไปมาแล้วเงยหน้าขึ้นมองเ้านายของตัวเอง
จิ้งจอกหิมะทมิฬ : สัตว์เลี้ยงระดับ 3
ระดับ : เลเวล 12
ที่มาไม่ชัดเจน มันเพิ่งหลุดออกมาจากผลึกเทพัที่ถูกเทพัผนึกเอาไว้เมื่อเจ็ดพันปีก่อน มีรูปร่างสวยงาม นิสัยเชื่องและจะไม่ทำการโจมตีสิ่งมีชีวิตก่อน
เ้านาย : เซี่ยเทียน (เนื่องจากได้ทำพันธะสัญญาเืแห่งิญญาจึงไม่สามารถทรยศได้ตลอดกาล)
คุณสมบัติ
พลังชีวิต : 340
พลังเวทย์ : 1,360
พลังในการโจมตีทางกายภาพ : 58
พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ : 116
การหลบหลีก : 17
การสร้างความเสียหาย : 17
ความเร็วใจการโจมตี : 150
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : 180
เหยาเหยาเลเวล 12 แล้วแต่มันก็ยังคงไม่มีความสามารถในการโจมตีใดๆทั้งสิ้น ทักษะของมันเน้นไปทางด้านการสนับสนุนและรักษา แต่ถ้าเทียบกับนักบวชที่มีเลเวลเท่ากัน พลังชีวิต 340 ของมันก็ถือว่ามากแล้ว แต่พลังเวทมนต์ 1,360 ของมันกลับน่ากลัวยิ่งกว่า หากเทียบกันแล้วพลังโจมตีและพลังโจมตีด้วยเวทมนต์ของมันก็ค่อนข้างน่าสงสารอยู่นิดหน่อย...... แต่ผลของทักษะของมันกลับแข็งแกร่งกว่าผลของทักษะรักษาของนักบวชขั้นต้นอยู่หลายเท่า
ด้วยพลังโจมตีเวทมนต์ 116 หน่วยของมันในตอนนี้ พลังชีวิตที่ฟื้นฟูขึ้นมาจากการใช้ทักษะเยียวยาิญญาทมิฬทุกครั้งจะสูงถึง 580! หน่วยเลยทีเดียว หากแปลงเป็วินาทีแล้วก็จะสามารถชดเชยพลังชีวิตที่หายไปของเย่เทียนเซี่ยได้ถึงวินาทีละ 116 หน่วย
รวมเข้ากับการฟื้นฟูของน้ำยาฟื้นฟูและแหวนแห่งชีวิต ทุกวินาทีเย่เทียนเซี่ยก็จะสูญเสียพลังชีวิตไปแค่ประมาณ 70 หน่วยเท่านั้น
70 หน่วย.............
ถ้ารวมเข้ากับเวลาคูลดาวน์ 10 วินาทีของทักษะฟื้นฟูิญญาทมิฬ ของเหยาเหยาแล้ว............
ทักษะฟื้นฟูิญญาทมิฬสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ 30% ใช้เวลาคูลดาวน์ 10 วินาที ด้วยพลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยพลังชีวิต 30% ก็จะเท่ากับ 816 หน่วย........... ถ้าเป็อย่างนั้นก็จะสามารถชดเชยพลังชีวิตที่หายไปของเย่เทียนเซี่ยได้พอดี
เมื่อคิดคำนวณคุณสมบัติของเหยาเหยาอยู่นานเย่เทียนเซี่ยก็อดจะตกตะลึงไม่ได้ ตอนนี้เหยาเหยาเป็สัตว์เลี้ยงระดับ 3 เลเวล 12 ความสามารถในการรักษากลับไปถึงขั้นนั้นแล้ว นี่มากพอจะทำให้ผู้เล่นอาชีพนักบวชทั้งหมดรู้สึกอับอายกันเลยทีเดียว........... และถ้ามีสร้อยข้อมือเจ็ดสีอีกล่ะก็ ซูเฟยเฟยที่มีความสามารถในการรักษาเพิ่มขึ้นสองเท่าก็ยังห่างชั้นกับจิ้งจอกหิมะทมิฬอยู่มาก
“เหยาเหยา เธอไม่หนาวเหรอ?” เมื่อมองเหยาเหยาตัวน้อยที่ยืนอยู่ตรงนั้นสะบัดหางไปมาเย่เทียนเซี่ยก็ถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะดูจากภายนอกเห็นได้ชัดว่ามันไม่มีความลำบากต่อสภาพอากาศของที่นี่เลยแม้แต่น้อย
เหยาเหยาฟังคำพูดของเย่เทียนเซี่ยรู้เื่ดังนั้นมันจึงส่ายหัวไปมา
“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าไป....... เหยาเหยา ครั้งนี้ต้องรบวนเธอแล้ว”
เย่เทียนเซี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเดินเข้าไปในเส้นทางกระดูกน้ำแข็งอีกครั้ง ทันทีที่เดินเข้าไปความหนาวเย็นที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่อาจรับได้ก็ทำให้เขาพ่นลมหายใจออกมา
แน่นอนว่าเส้นทางนี้คือเส้นทางแห่งความตาย
แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเหยาเหยาที่ะโโลดเต้นอยู่ด้านหลังของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากความหนาวเย็นเลยแม้แต่น้อย ฟันของเย่เทียนเซี่ยสั่นกระทบกันกึกๆ หลังจากมองดูเหยาเหยาสักพักแล้วเขาก็ลากสังขารที่หนักกว่าปกติหลายเท่าวิ่งเข้าไปด้านในด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
-273,-273,-273……
+580。
-273,
+400,
เหยาเหยามีสติปัญญาระดับสูงอย่างเห็นได้ชัด มันรู้สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ของเย่เทียนเซี่ยอย่างชัดเจน ทุกครั้งที่เวลาคูลดาวน์ของทักษะรักษาของมันเป็ศูนย์มันก็จะปลดปล่อยทักษะออกมาที่ร่างของเย่เทียนเซี่ยทันทีและทุกครั้งที่มันปลดปล่อยทักษะรักษาออกมาร่างของมันก็จะหยุดลงโดยอัตโนมัติ แต่ร่างของมันมีความยืดหยุ่นมาก ความเร็วในการเคลื่อนที่ก็ดูเหมือนจะเป็สองเท่าของเย่เทียนเซี่ยด้วยซ้ำ รวมเข้ากับร่างของเย่เทียนเซี่ยที่ถูกความหนาวทำให้แข็งค้าง ความเร็วของเขาจึงช้ากว่าปกติไปถึงครึ่งหนึ่ง ดังนั้นแม้ว่าเหยาเหยาจะเดินๆหยุดๆก็ไม่ถูกเย่เทียนเซี่ยทิ้งห่างไปแน่นอน
การเดินทางท่ามกลางความหนาวเย็นผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีเย่เทียนเซี่ยก็รู้สึกเหมือนว่ามันยาวนานเป็ศตวรรษ แต่เส้นทางกระดูกน้ำแข็งกลับไม่ได้สงบเงียบอยู่ตลอด ด้านหน้าของเย่เทียนเซี่ยปรากฏเงาร่างสีขาวแถวเล็กๆขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หมาป่าหิมะ!
หมาป่าหิมะหกตัวยืนเรียงกันเป็แถวราวกับกำลังรอคอยเย่เทียนเซี่ยอยู่ เมื่อเย่เทียนเซี่ยเข้าไปใกล้ฝีเท้าของหมาป่าหิมะทั้งหกตัวก็พุ่งเข้ามาที่ร่างของเย่เทียนเซี่ยทันที
ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาปรากฏขึ้นในมือของเย่เทียนเซี่ย การจู่โจมภายใต้ความหนาวเย็นนี้ทำให้มือทั้งสองข้างของเย่เทียนเซี่ยเหมือนกับไม่ใช่มือของตัวเอง ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาที่กอบกุมไว้ในมืออย่างยากลำลากราวกับมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นพันเท่า แม้แต่จะยกมันขึ้นมาก็ยังยากลำบากเต็มที เย่เทียนเซี่ยหายใจรุนแรง ดวงตาของเขาหรี่ลง ร่างของเขาพยายามที่จะบิดหมุนหลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาของหมาป่าหิมะสามตัว แต่ทันใดนั้นกรงเล็บของหมาป่าหิมะด้านหลังก็ตะปบเข้าที่ร่างของเย่เทียนเซี่ยอย่างจัง
-91,-92,-95,-272……
การโจมตีของหมาป่าสามตัวและความหนาวที่กัดกินทำให้พลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยหายไปช่องใหญ่ ร่างของเหยาเหยาเคลื่อนไหวไปมาด้วยความยืดหยุ่นระหว่างหมาป่าหิมะทั้งสามตัวเมื่อเวลาคูลดาวน์เหลือศูนย์มันก็ปลดปล่อยทักษะ “ฟื้นฟูิญญาทมิฬ” ออกมาทำให้พลังชีวิตที่หายไปของเย่เทียนเซี่ยกลับมาเต็มอีกครั้ง แต่ขณะที่ร่างของมันกำลังหยุดนิ่งกรงเล็บของหมาป่าหิมะตัวหนึ่งก็ตวัดวูบไปบนร่างของมัน........
-162!
พลังป้องกันของเหยาเหยานั้นอ่อนแอมาก การโจมตีตรงๆของหมาป่าหิมะทำให้พลังชีวิตของเหยาเหยาหายไปถึงครึ่งหนึ่ง ทักษะรักษาตัวเองของเหยาเหยาเริ่มทำงานทันทีทำให้พลังชีวิตของมันถูกฟื้นฟูกลับมาเต็มหลอดอีกครั้ง..........
ปั้ง!
ัสะบั้นโจมตีถูกหมาป่าตัวหนึ่งจนมันต้องถอยกลับไป แต่เย่เทียนเซี่ยก็ถูกหมาป่าสามตัวโจมตีเข้ามาพร้อมกันอีกครั้ง ความแข็งเกร็งของร่างกายดูเหมือนจะกัดกินความยืดหยุ่นของเย่เทียนเซี่ยไปจนหมด แม้แต่ความถี่ในการโจมตีของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสงสาร ระดับความแม่นยำในการโจมตีก็ลดลงอย่างมาก เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 วินาทีหมาป่าสามตัวที่เย่เทียนเซี่ยโจมตีโดนกลับไม่มีตัวไหนตายลงไปเลยสักตัว แต่พลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยที่แม้จะมีเหยาเหยาคอยใช้ทักษะรักษาอย่างต่อเนื่องกลับลดลงไปถึงครึ่งนึงแล้ว
เย่เทียนเซี่ยถอนหายใจ เขารีบเรียกเหยาเหยาหลับมาใกล้ๆร่างอีกครั้งแล้วปลดปล่อยิญญาัปีศาจออกมา ไม่นานกำแพงัปีศาจก็ปรากฏขึ้น
เมื่ออยู่ในกำแพงัปีศาจอันแข็งแกร่งเขาก็ได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบ “แน่นอน” นั่นหมายความว่าเขาไม่เพียงต้านทานการโจมตีทุกรูปแบบและทุกระดับความแข็งแกร่งได้ แต่เขายังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกอีกด้วย
สิ่งนั้นรวมถึงอุณหภูมิ
และความเกลียดชังของมอนสเตอร์ด้วยเช่นกัน
กำแพงัปีศาจครอบคลุมร่างของเย่เทียนเซี่ยและเหยาเหยาที่อยู่ใกล้ๆเท้าของเขาเอาไว้ด้วย เมื่อทักษะนี้เริ่มทำงานพลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ความรู้สึกหนาวเหน็บอันน่ากลัวกลับหายไปโดยสิ้นเชิง หมาป่าหิมะด้านนอกยังคงโจมตีต่อไป การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกมันไม่สามารถผ่านเข้ามาในกำแพงไร้รูปนี้ได้และยังไม่สามารถััร่างของเย่เทียนเซี่ยได้อีกด้วย
เย่เทียนเซี่ยหยิบม้วนคัมภีร์กลับเมืองออกมาอย่างหมดหนทาง เขาที่อยู่ภายใต้กำแพงัปีศาจมีสถานะอิสระ สามารถใช้ม้วนคัมภีร์กลับเมืองหนีไปเมื่อไรก็ได้
ครั้งแรกที่เข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งเขาก็ต้องพ่ายแพ้กลับไปเช่นเดียวกับการเข้าไปในซากหมื่นกระดูก แต่อย่างน้อยการพ่ายแพ้ครั้งที่สองก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยรู้แล้วว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับอะไร
ครั้งต่อไปที่มาที่นี่เขาคงไม่ต้องผ่านการทดสอบของญาญ่าตัวน้อยอีกหรอกมั้ง..........เมื่อคิดถึงตรงนี้เย่เทียนเซี่ยก็ปวดหัวตุบๆ จากนั้นเขาก็รีบทำลายม้วนคัมภีร์กลับเมืองทันทีก่อนที่กำแพงัปีศาจจะถูกยกเลิก