การประชุมจบลงอย่างไม่น่ารื่นรมย์รถตู้เก็บรวบรวมสื่อประชาสัมพันธ์ออกจากถนนคาบูกิโจอิจิบังอย่างรวดเร็วเก็บไปแม้กระทั่งกระดาษเช็ดปาก แต่กลับทิ้งเสิ่นิและเซี่ยวอี๋ไว้ที่นั่น
“ฉันว่าการแนะนำตัวของนายมันดิบเถื่อนไปหน่อยไหม? อ่อนโยนกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ”เซี่ยวอี๋ไม่เข้าใจว่าเสิ่นิพูดอะไร แต่จากท่าทางของคานาโกะนั้นแม้ว่าจะกล่าวคำขอบคุณ แต่ท่าทีของเธอก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณเลยแม้แต่น้อยสีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ผมไม่มีเวลาสนใจความรู้สึกของเธอ ตามข้อมูลแล้วสิ่งที่คานาโกะไม่ชอบคือการใช้ความรุนแรงแต่ปัญหาของเธอต้องแก้ไขด้วยความรุนแรงเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่น ไปกันเถอะ”เสิ่นิชักชวนเซี่ยวอี๋ให้กลับไปที่รถและขับเคลื่อนเ้า SMART น้อยติดตามไป
ในรถตู้ที่ขับเคลื่อนอยู่ด้านหน้าโอบาตะ ทาเคชิสังเกตเห็นเสิ่นิกับเซี่ยวอี๋ได้จากกระจกมองหลังเขารีบรายงานอย่างตื่นตระหนก “คุณคานาโกะ ชายหญิงเมื่อครู่นี้ติดตามเรามา”
“ฉันคิดว่าพวกเขาดูไม่เหมือนคนเลว โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้น เขาหล่อมากเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ในอนิเมะ” ลีอาห์ยิ้มตาหยีจนเห็นตีนกา
“ผมชอบท่าเตะของหญิงสาวคนนั้น ขายาว สูงขนาดนั้นยังเหยียดขาตรงได้อยากโดนเตะเสียจริงๆ!” อาคิตะเป็อุเคะ1น้อยเขามักจะชื่นชมสาวแกร่งอยู่เสมอ
“พวกคุณอย่าพูดถึงพวกเขาอีกเลยพวกเขาเคยชินกับการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาวัตถุประสงค์ของแคมเปญในการหาเสียงของเราคือป้องกันการแพร่กระจายของความรุนแรงให้สังคมกลายเป็สถานที่ปลอดภัยจากแก๊งมาเฟีย”คานาโกะเปลี่ยนชุดกระต่ายหลังม่านแต่งตัวที่เบาะหลังของรถตู้เธอเปลี่ยนเป็ชุดกระโปรงสีขาวและกลับไปนั่งที่เบาะหน้าเธอทานแซนด์วิชพลางดูโปสต์การ์ดต่างๆ ที่แฟนๆ มอบให้เมื่อครู่นี้นี่คือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีค่าที่สุดของเธอ
“แต่ในขณะที่สายตาของคุณจับจ้องไปที่เป้าหมายเราก็ควรดูแลความปลอดภัยของตนเองด้วย เมื่อวานผมได้รับพัสดุที่มีซากเท้าของสุนัขติดมาด้วยจดหมายข่มขู่ระบุว่าหากเรายังใช้สโลแกนรณรงค์ต่อต้านแก๊งมาเฟียแบบนี้อยู่อีกเราอาจไม่รอดชีวิตจนถึงวันเลือกตั้ง”
โอบาตะทาเคชิตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเขาเพิ่งจะรับตำแหน่งเป็ที่ปรึกษาแคมเปญให้กับคานาโกะได้เพียงแค่ครึ่งเดือนแต่กลับได้รับจดหมายข่มขู่มาแล้ว 8 หรือ 9ครั้ง
“ไม่เป็ไร เราซื่อตรงก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้นรายงานปัญหาทุกอย่างกับตำรวจโดยเร็ว ให้ความยุติธรรมและกฎหมายปกป้องเรา”คานาโกะยืนกราน
ความยืนหยัดของคานาโกะลำพังเพียงคนเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะพูดอะไรได้มากกว่านี้บางครั้งเธอก็ไร้เดียงสาและดื้อรั้น แต่ก็เป็คนดีที่เต็มไปด้วยศรัทธาและความเมตตาถ้าเธอได้รับเลือกให้เป็ ส.ส. จะต้องเป็เื่ดีต่อเวทีการเมืองของญี่ปุ่นแน่ทุกคนยืนหยัดที่จะทำงานเคียงข้างเธอเนื่องด้วยความคิดเช่นนี้
รถตู้ขับวนกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของแคมเปญคานาโกะมันคือโกดังอันทรุดโทรมขนาดสิบกว่าตารางเมตรหลังตรอกเล็กๆหากไม่ใช่เพราะป้ายสำนักงานใหญ่ของแคมเปญที่ติดอยู่ที่ประตูคงจะเข้าใจว่าที่นี่คือช่องสำหรับกองเศษขยะ
ชั่วโมงการทำงานของลีอาห์และอาคิตะสิ้นสุดลงแล้วพวกเขาตรงกลับบ้านทันที มีเพียงคานาโกะและโอบาตะทาเคชิเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในสำนักงานใหญ่ที่เปิดไฟเรืองรองเสิ่นิจอดรถตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ เขาเริ่มงานบอดี้การ์ดวันแรกของตน
เขาโทร.ไปสั่งซูชิพรีเมี่ยม3ชุด และนั่งทานอาหารเย็นกันในรถอาหารค่ำของแพนด้าเป็ซาซิมิแซลมอนแท้ การกินอยู่ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างหรูหราทั้งสามกินอาหารญี่ปุ่นมื้อแรกใช้เงินไปทั้งสิ้น 100,000 เยนแพนด้ากินอย่างหน้าชื่นตาบาน แม้ว่าพวกมันจะเป็ปลาแซลมอนเหมือนๆ กันแต่เห็นได้ชัดว่าปลาที่ญี่ปุ่นนั้นเป็ปลาขนาดใหญ่ทั้งศิลปะการลงมีดและวัตถุดิบนั้นล้วนแต่ทำให้แพนด้าฟินสุดๆ
แพนด้าผู้ซึ่งอิ่มท้องแล้วก็ทะยานขึ้นไปยังตึกสูงด้านข้างตามคำสั่งของเสิ่นิ มันพักผ่อนและคอยสังเกตสองฟากฝั่งของถนนไปด้วย
“คุณพักผ่อนเถอะ ผมจะคอยจับตาดูเอง” เสิ่นิกล่าวกับเซี่ยวอี๋ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อีก 2 ชั่วโมงค่อยสลับกันนะ คุณก็น่าจะเหนื่อยแล้วจะว่าไปผู้หญิงคนนี้อึดเกินไปหรือเปล่า? สามทุ่มแล้วยังทำงานอยู่อีกไม่มีครอบครัวหรือยังไง?” เซี่ยวอี๋หาว
“เปล่า เธอมีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนแล้ว วัย 6 ขวบ”เสิ่นิจำข้อมูลของคานาโกะได้จนขึ้นใจ
“ลูกสาว 6 ขวบเหรอ? ฉันจำได้ว่าเธออายุแค่24 ปี?” เซี่ยวอี๋ใ
“ตอนอายุ 18 ปีเธอไม่ได้สอบเอ็นทรานซ์เพราะตั้งครรภ์และคลอดบุตรหลังจากคลอดจึงสมัครศึกษาทางไกลจนได้รับประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยและหลังจากที่คลอดบุตรแล้ว ชีวิตดาราผู้ถ่ายโฟโตบุ๊คของเธอก็ได้เริ่มต้นขึ้นเป้าหมายของเราแข็งแกร่งกว่าที่เราคิด” เสิ่นิกระซิบ
“แล้วสามีของเธอล่ะ?” เซี่ยวอี๋สงสัย
“เธอยังไม่ได้แต่งงาน พ่อของเด็กเป็นักเลงในชั้นเรียน ณ ตอนนั้นก่อนที่เด็กจะถือกำเนิด เขาก็เข้าร่วมในแก๊งมาเฟียและถูกฟันจนเสียชีวิตคานาโกะยืนกรานที่จะให้กำเนิดลูก เธอจึงถูกครอบครัวตัดขาดเธอทำมาหากินด้วยการเป็ดาราถ่ายโฟโต้บุ๊ค” สิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับการรายงานจากสื่อแต่ข้อมูลที่เมาส์หาได้นั้นครบถ้วนสมบูรณ์
“ผู้หญิงนะ...เมื่อมีลูก ก็ทำได้ทุกอย่าง…”เซี่ยวอี๋ดูเหมือนจะเข้าใจอารมณ์ของคุราชินะ คานาโกะ และแล้วเธอก็หลับตาลงและพักผ่อนในขณะที่พูดที่สุดแล้ว การอยู่ที่ต่างประเทศ หากมีอาการ Jet lagเล็กน้อยก็ถือเป็เื่ปกติ
4 ทุ่มแล้ว ในที่สุดโอบาตะ ทาเคชิก็ทำงบการเงินของสัปดาห์ที่แล้วเสร็จเขายืดเอวบิดี้เี และเมื่อรู้สึกว่าตนทำงานหนักจนไม่ได้สนใจคนงามของเขาเลยเขาจึงหันกลับไปดู คุราชินะคานาโกะยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานและตอบจดหมายถึงประชาชนและแฟนๆ
การเลือกตั้งครั้งนี้สำหรับคุราชินะ คานาโกะแล้วถือเป็าที่ไม่อาจชนะได้เลย ทุกคนรู้ดีผู้สมัครที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเช่นเธอและไม่รับเงินบริจาคทางการเมืองจากนักธุรกิจเมื่อถึงใน่ท้ายๆ ก็จะเลือนหายไปจากสายตาของสาธารณชน
ในโลกทุนนิยมต้นทุนถือเป็าาของทุกสิ่งแม้แต่การเลือกตั้งเองก็ยังเป็เกมการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความมั่งคั่ง
คานาโกะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งยิ่งไม่มีหวัง เธอยิ่งต้องพยายามให้มากขึ้น เธอเชื่อว่าความพยายามของเธอจะได้รับผลตอบแทน
“คุณคานาโกะอันที่จริงคุณไม่จำเป็ต้องเขียนตอบจดหมายด้วยตัวเองทุกตัวอักษรพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วก็เพิ่มแค่ลายเซ็นในตอนท้ายเอาก็ได้” โอบาตะทาเคชิเกลี้ยกล่อมเธอด้วยความเป็ห่วง
“ไม่ได้หรอก ฐานเสียงของเรา แฟนๆ ที่สนับสนุนเราด้วยความจริงใจฉันจะตอบจดหมายที่พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์อย่างไม่จริงใจได้อย่างไร”คานาโกะยิ้มแล้วกล่าว ทันใดนั้นเธอก็ดึงธนบัตรญี่ปุ่นมูลค่าหมื่นเยนออกมาจากซองจดหมาย “ดูสิ นี่คือเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนแคมเปญจากแฟนๆที่ส่งมาในจดหมาย! จดไว้ในบัญชีด้วยนะ!”
“ได้ครับหัวหน้า” โอบาตะ ทาเคชิยิ้มและรับเงินหมื่นเยนมาเขาอาจจะชอบคานาโกะสาวงามผู้ดื้อรั้นเช่นนี้ ถึงได้ไม่จากไปไหน?
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของคานาโกะก็ดังขึ้น เป็สายเรียกเข้าจากเพื่อน
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอ? ใจเย็นๆ นะ! โอเค! ได้!ฉันจะรีบไป! ไม่ต้องห่วง! รอฉันก่อน!” คนาโกะตื่นตระหนกและวางสายโทรศัพท์ไปเธอคว้ากระเป๋าถือและวิ่งไปที่ประตู
“มีเื่อะไรเหรอ?” โอบาตะทาเคชิถามด้วยความเป็ห่วง
“อาโออิน่ะ อาโออิทำร้ายคนอื่นอีกแล้ว” คานาโกะตื่นตระหนกเธอกล่าวอย่างรวดเร็ว “ขอโทษนะ ฉันไปก่อน คุณก็รีบกลับบ้านไปพักผ่อนล่ะเจอกันพรุ่งนี้!”
คานาโกะตื่นตระหนกราวกับมีคนไล่ฆ่าเธอมาเธอวิ่งมาถึงถนนเพื่อโบกแท็กซี่ แต่ ณ เวลานี้ถนนด้านหลังกลับไม่มีแท็กซี่ผ่านมาเลย
“ถึงเวลาที่คุณต้องลงจากรถแล้ว” เสิ่นิปลุกเซี่ยวอี๋ซึ่งอยู่ข้างๆ
“ยังไง? เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยวอี๋ถูกดันออกจากรถด้วยความงุนงงเธอยืนอยู่บนถนนที่ไม่รู้จักในประเทศที่ไม่คุ้นเคย
เสิ่นิขับSMARTไปหาคานาโกะ เขาเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ “จะโบกรถหรือเปล่า?บังเอิญว่าผมว่างอยู่”
เมื่อคานาโกะเห็นเสิ่นิก็คิดที่จะปฏิเสธแต่เธอเห็นว่าโทรศัพท์สั่นขึ้นอีกครั้ง เธอจึงจำเป็ต้องขึ้นรถไป
"ต้องรบกวนคุณแล้ว 15 ถนน XX คุณไปเป็หรือเปล่า?”คานาโกะพยายามคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างยากลำบาก อกคัพ K ก็เป็เช่นนี้ มองแล้วสบายตา แต่ใช้ชีวิตช่างแสนลำบาก
“เป็สิ 5 นาทีถึง”เสิ่นิติดเครื่องยนต์เทอร์โบคู่และพาเ้า SMART ขับเคลื่อนไปอย่างกับรถสปอร์ตอยู่ๆ ก็เร่งเครื่องสะบัดหางกระทั่งูเาั์สองลูกบนหน้าอกของคานาโกะซึ่งอยู่ภายใต้เข็มขัดนิรภัยนั้นแกว่งไกวไปมาอย่างดุเดือดจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งมันจะเหินออกมาจากคอเสื้อเมื่อใดก็ไม่ทราบ
คานาโกะจับราวจับที่้าศีรษะไว้แน่นพร้อมกล่าวอย่างประหม่า “ฉันรีบ แต่คุณก็ต้องระวังเื่ความปลอดภัยด้วย!”
“อยู่กับผม อุบัติเหตุทางรถยนต์คร่าชีวิตคุณไม่ได้แน่”เสิ่นิไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เขายังคงกระแทกคันเร่งต่อไปและเร่งความเร็วขึ้นอีกรอบแรงเฉื่อยทำให้คานาโกะแน่นหน้าอกจนอึดอัดไปหมด
“ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ผมชื่อเสิ่นิ ชาวจีน อาชีพบอดี้การ์ด”เสิ่นิเคลื่อนรถผ่านถนนซึ่งมีการจราจรที่คับคั่งพร้อมกับแนะนำตัวไปด้วยอย่างเย็นใจ
“ฉันชื่อคุราชินะ คานาโกะ...ไฟแดง!” คานาโกะใจนกระทั่งหน้าซีด
“ชื่อเพราะดี การพบกันท่ามกลางฝูงชนถือเป็โชคชะตาคุณอยากจ้างผมเป็บอดี้การ์ดไหม? ตอนนี้บริษัทของเราอยู่ใน่ขยายตลาดสู่ต่างประเทศธุรกิจทั้งหมดทำให้ฟรี เรารับผิดชอบค่าอาหารเองด้วย”ในขณะที่เสิ่นิกำลังส่งเสริมการขายอยู่นั้น เขาก็ฝ่าไฟแดงอีกครั้งคานาโกะใจนหนีบสองขาแน่น รูม่านตาของเธอเบิกกว้างไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือจะปัสสาวะราดก่อนกัน
“คุณบ้าไปแล้วหรือไง? ฉันบอกแล้วว่าไม่ชอบใช้ความรุนแรงสู้กับความรุนแรง!”คานาโกะเสียใจที่ตนเองตัดสินใจนั่งรถของคนแปลกหน้าบางทีมันอาจเป็เพราะสายตาอันหมดจดของเสิ่นิที่ทำให้เธอลดความระมัดระวังตัวต่อเขาลง
“คุณไม่ชอบมันก็ไม่ได้พิสูจน์ว่ามันไม่มีอยู่จริง สังคมเสรีการดำรงอยู่นั้นสมเหตุสมผล ไม่ใช่เพราะคุณชอบทานเนื้อแกะแล้วจะปล่อยให้หมูสูญพันธุ์ไปหมดหรือ?” เสิ่นิถกตรรกะในขณะที่สะบัดท้ายเขาพารถขนานแทรกตัวไปกับแนวจราจรอันติดขัด เขาเร่งความเร็วพุ่งไปข้างหน้า
“แต่อย่างน้อย! ฉันก็หยุดความรุนแรงที่ฉันจำเป็ต้องเห็นได้ใช่หรือไม่?การจ้างคุณก็เหมือนกับฉันทรยศต่อความเชื่อในการใช้ชีวิตของฉัน”คานาโกะยังคงยืนหยัด
“คุณไม่ชอบเห็นคนทะเลาะกันผมก็สามารถคุ้มครองคุณได้โดยที่ไม่ต้องให้คุณเห็นการต่อสู้บอดี้การ์ดที่ดีมีหน้าที่ป้องกันภัยอันตราย ไม่ใช่ท้าทายความอันตราย คุณเข้าใจแิของบอดี้การ์ดและนักฆ่าผิดไป”เสิ่นิอธิบาย “จ้างผมสิ ผมจำเป็ต่อคุณนัก”
“ไม่! ปล่อยฉันลงจากรถ!” คานาโกะแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วเนื่องจากเสิ่นิเริ่มขับรถสวนทางรถที่ขับผ่านมา เสียงวูบวาบกระทบหูคานาโกะกลัวว่าจะตายก่อนได้กลับไปเห็นหน้าลูกสาว
“บอกแล้วว่าจะพาคุณไปส่ง ยังไม่ถึงที่หมายเลย จะปล่อยให้ลงได้ยังไง?ผมก็มีหลักการในการใช้ชีวิตเหมือนกัน” เสิ่นิยิ้มก่อนจะผ่าไฟแดงอีกครั้ง
********************
1 อุเคะ ฝ่ายตั้งรับ(ฝ่ายรับ)