สวนลับ 16:00น.
“สวัสดีค่ะ คุณเอเดน ขอโทษที่ต้องให้รอนะคะ พอดี่นี้งานยุ่งนิดหน่อยค่ะ”
ร่างบางเลื่อนประตูเปิดเข้าไปในห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ไม่ห่างจากห้องทำงานของเธอมากนัก ริมฝีปากอวบอิ่มส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มใส่สูทหน้าตาดีที่นั่งรอเธออยู่ด้านในอีกครั้งแล้วหย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเขา
“ไม่เป็ไรเลยครับ ผมต่างหากที่มาไม่บอกไม่กล่าว เฟรย่าจะยุ่งก็ไม่แปลก”
ั์ตาสวยมองผู้ชายที่ชื่อเอเดนส่งยิ้มกลับมาให้เธอ เขาเป็เ้าของที่ดินตรงนี้ที่เธอได้ซื้อต่อมาเพื่อทำธุรกิจหอนายโลม แถมยังเป็คนที่มีอิทธิมากคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ด้วยธุรกิจที่ทำ ภาพลักษณ์ และความนิยมจากคนรุ่นใหม่ เพราะเอเดนเป็หนึ่งในนักการเมืองที่มีผลคะแนนโหวตมากที่สุดทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งเข้ามาเล่นการเมืองได้ไม่นาน ทำให้สื่อต่างจับตามองเพราะผู้ชายตรงหน้าเธอมีแนวโน้มจะได้เป็นายกรัฐมนตรีคนถัดไป
“…ว่าแต่ มีธุระอะไรรึเปล่าคะ มาหาเฟรย่ากะทันหันแบบนี้”
คนตัวเล็กเอ่ยเสียงหวานพลางเหลือบมองพนักงานของตนเองที่กำลังนำอาหารมาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ
“อืม จริง ๆ แค่อยากมาทานข้าวด้วยเฉย ๆ ครับ”
เอเดนพูดออกมาตามตรงพร้อมอมยิ้มมุมปากเล็ก ๆ อย่างคนขัดเขิน แม้ภาพลักษณ์ของเขาจะดูเป็คนสุขุมสำหรับคนภายนอก แต่พอต้องมานั่งอยู่ต่อหน้าสาวสวยกลับมีอาการประหม่าจนตัวเองยังรับรู้ได้
“…อื้ม ค่ะ ความหมายคือ คุณเอเดนสนใจเฟรย่า แบบนั้นรึเปล่าคะ?”
เฟรย่าขยับใบหน้าขึ้นลงแล้วเป็ฝ่ายเริ่มตักอาหารทานโดยปราศจากอาการเขินอายอย่างใครอีกคน เธอพูดถามด้วยความมั่นใจก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อยตามประสาสาวมากเสน่ห์
“ถ้าเข้าใจแบบนั้น…ก็ถูกแล้วครับ”
เอเดนฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันซี่ขาว เขาส่ายหัวไปมากับความมั่นปนแก่นของเฟรย่า สิ่งที่หญิงสาวทำกลับไม่ได้ดูมั่นอกมั่นใจจนเกินไป แต่มันกำลังบอกว่าผู้หญิงคนนี้ฉลาด และมีชั้นเชิงมากขนาดไหนในสายตาเขา
“ถ้าแบบนั้น ก็ไม่ติดอะไรนะคะ แต่หวังว่าคงไม่มองเฟรย่าเป็ของเล่นแก้เบื่อหรอกนะ”
ดวงตาของชายหนุ่มมีประกายความสนใจออกมามากกว่าเดิมเมื่อได้ยินสิ่งที่สาวเ้าของหอนายโลมเพิ่งพูดออกมา เขาเลือกจะส่งอาหารในมือเข้าปากไปก่อนแล้วถึงได้พูดคุยกับเธอต่อ
“คิดว่ายังไงล่ะครับ ผมดูจริงจังไหม?”
“อืมม…ไม่รู้สิคะ คงต้องดูไปก่อน”
เฟรย่ายกยิ้มตอบกลับไป เธอเคี้ยวอาหารในปากด้วยท่าทางสุภาพแล้วถึงได้ยกน้ำขึ้นจิบด้วยท่าทางละเมียดละไม
“ดูไม่ธรรมดาเลยนะครับ ทั้งสวย ทั้งฉลาด”
เอเดนมองทุกการเคลื่อนไหวของมาเฟียสาวอยู่ตลอด เขาเอ่ยออกไปตามที่คิด ทำให้คนที่กำลังวางแก้วน้ำกลับลงไปที่เดิมส่งรอยยิ้มมาให้เขาอีกครั้ง
“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ”
“หึ”
ทันทีที่เฟรย่าตอบกลับไปแบบนั้น หนุ่มใส่สูทสุดเนี๊ยบก็หัวเราะในลำคอออกมาอย่างคนกลั้นไม่อยู่ ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมความมั่นใจของสาวสวยถึงได้ดูน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้
“อยากทานอะไรเพิ่มไหมคะ”
“ไม่ครับ แค่เห็นหน้าเฟรย่าผมก็อิ่มใจละ”
“โอ้ ไหนในข่าวบอกเป็คนสุขุม ฮ่า ๆ”
สาวสวยหัวเราะออกมาโดยไม่ลืมยกมือขึ้นมาปิดปากไว้ด้วย เธอส่ายหัวเบา ๆ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายนิ่ง ๆ อย่างเอเดนจะยิงมุกจีบออกมาตรง ๆ แบบนี้
“…อันนี้อร่อยดีนะครับ”
หนุ่มหล่อรีบเปลี่ยนเื่คุยเพราะรู้สึกแปลก ๆ กับสิ่งที่เพิ่งพูดออกไปเหมือนกัน ซึ่งเฟรย่าก็ให้ความร่วมมือเป็อย่างดีทำให้หลังจากนั้นคนทั้งคู่ต่างพากันรับประทานอาหาร และหาเื่มาพูดคุยกันเป็ระยะ ทั้งมีสาระ และไม่มีสาระ เพื่อทะลายกำแพงให้รู้จักกันมากขึ้น
สองชั่วโมงหลังจากนั้น…
เฟรย่าเดินเคียงคู่ออกมาจากห้องทานอาหารพร้อมกับเอเดน เธอออกมาส่งเขาด้านหน้าแล้วยืนรอจนกระทั่งรถตู้คันสีดำ และผู้ติดตามของเขาขับเคลื่อนออกไปจากอาณาเขตของเธอ
ดวงตารูปทรงอัลมอนด์มองนิ่งไปยังถนนตรงหน้า มุมปากของหญิงสาวยกขึ้นน้อย ๆ เมื่อในหัวของเธอนึกถึงสิ่งที่คุยกับเอเดนขึ้น
“มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรูล่ะนะ”
เฟรย่าพึมพำออกมาให้พอตัวเองได้ยินก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านในพร้อมคนสนิทประจำตัว
สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจเปิดโอกาสให้เอเดนได้ทำคะแนนไม่ใช่เพราะว่าเขาหล่อ หรือจากความชอบส่วนตัว แต่มันเป็เพราะเขาสามารถเอื้อประโยชน์ในธุรกิจที่เธอกำลังทำต่างหาก อีกอย่างเท่าที่พอจะทราบประวัติ เขาก็ดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ค่อนข้างจะสุภาพ ใจเย็น และตรงไปตรงมา เลยค่อนข้างน่าสนใจพอสมควร…
อีกด้านหนึ่ง
ั์ตาคมมองรถตู้คันใหญ่ติดฟิล์มดำทึบเฉกเช่นเดียวกันกับเขาขับออกมาจากหอนายโลมมุ่งหน้าออกไปยังถนนหลัก คิ้วของมาเฟียหนุ่มย่นเข้าหากันเพราะสัญชาตญาณของชายหนุ่มกำลังบอกว่าคนในรถคันนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน
“ถึงแล้วครับ”
หนุ่มญี่ปุ่นนามว่า ‘เรย์’ มือขวาของจินเบเป็คนพูดบอกผู้เป็นายของตนเองพร้อมเปิดประตูก้าวขาลงจากรถเป็คนแรก ตามไปด้วย ‘ริว’ ฝาแฝดของเรย์ ที่รับหน้าที่เป็คนขับรถในวันนี้ คนสนิทประจำตัวมาเฟียหนุ่มทั้งสองคนลงไปยืนรอข้างตัวรถเพื่อรอให้ผู้เป็นายก้าวลงมา
ตึก ตึก ตึก
จินเบลงมาจากรถแล้วใช้มือจัดสูทของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางแล้วถึงได้เดินตรงเข้าไปหาการ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าทางเข้า
“สวัสดีครับ ที่นี่ ‘หอนายโลม’ เราไม่มีบริการสำหรับผู้ชายครับ ต้องขออภัยด้วยครับ”
หนึ่งในการ์ดที่ยืนอยู่บอกกับแขกผู้ชายหน้าตาดีที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนจะโค้งตัวก้มหัวให้ด้วยท่าทางสุภาพ
“ฉันมาพบเ้าของที่นี่ ไปบอกนายพวกนายสิว่า จินเบ มาหา”
ร่างสูงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วสอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่สิ่งที่เขาเพิ่งพูดบอกออกไปทำเอาการ์ดสามสี่คนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าต่างหันมองหน้ากันเอง ก่อนจะมีคนหนึ่งเดินหายเข้าไปด้านใน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณเฟรย่าครับ คุณจินเบมาขอพบครับ”
เสียงของวิคดังเข้ามาด้านในทันทีหลังจากที่เขาเคาะประตู ทำให้สาวสวยที่กำลังนั่งทำงานอยู่ต้องยอมละสายตาออกจากหน้าจอคอมฯ เมื่อหูของเธอได้ยินชื่อมาเฟียหนุ่ม
“ให้เข้ามา”
เสียงหวานติดเผด็จการอนุญาตออกไป และเพียงไม่ถึงสิบนาทีผู้ชายคนนั้นก็มายืนอยู่หน้าห้องทำงานของเธอแล้ว
กริ๊ก!
ร่างแบบบางลุกออกมาจากเก้าอี้แล้วเดินไปปลดล็อกประตูห้อง ตาของเธอปะทะเข้ากับตาคมของจินเบทันทีที่ประตูอ้าออกจากกัน ั์ตาสวยไล่สายตามองมาเฟียหนุ่มอีกครั้งเพราะนี่เป็ครั้งแรกที่เธอเห็นเขาใส่เสื้อผ้า ไม่สิ! ใส่สูท…
“มีธุระอะไร”
ปากเล็กถามออกไปแล้วชำเลืองมองผู้ชายอีกสองคนที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังเขา ฝาแฝดอย่างนั้นหรอ?
“เรย์ กับ ริว มือขวา มือซ้ายฉัน”
จินเบพูดออกมาเมื่อเห็นว่าเฟรย่ายังไม่เลิกชะเง้อคอมองคนของตัวเอง
“ไม่ได้ถาม สรุปนายมีอะไร?”
หญิงสาวตอบกลับทันทีโดยไม่ลืมถามย้ำถึงเหตุผลที่ทำให้เขามายืนอยู่ตรงนี้
“เข้าไปคุยกันข้างใน…ไปรอฉันข้างนอก”
มาเฟียหนุ่มบอกกับสาวเ้าของหอนายโลมก่อนที่ท้ายประโยคเขาจะหันไปสั่งสองคนสนิทของตัวเอง เรย์กับริวก้มหัวให้ผู้เป็นายแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ เหลือเพียงผู้ชายใส่แว่นดำตัวใหญ่ที่ยังยืนเฝ้าเ้านายคนสวยของตนเองไม่ขยับไปไหน
“บอกคนของเธอสิเฟรย่า”
จินเบเอียงหัวเล็กน้อย เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วชำเลืองตามองวิคก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าเธอ
“เฮ้อ! วิคฉันขอคุยกับหมอนี่ก่อน นายไปดูงานตรงอื่นเถอะ”
“ครับผม”
ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ชายร่างสูงใหญ่ก็เดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เข้าไปข้างใน”
เสียงทุ้มบอกกับสาวเ้าของห้อง แต่เ้าตัวกลับเป็ฝ่ายเลื่อนประตูห้องแล้วแทรกตัวเข้าไปเสียเอง โดยไม่ลืมคว้าข้อมือของเฟรย่าให้เข้าไปข้างในด้วยกันกับเขาด้วย
“เมื่อกี๊มีแขกคนใหญ่คนโตมาหรอ ก่อนเข้ามาฉันเห็นมีรถตู้ขับออกไปสามคัน เหมือนพวกมีอิทธิพลไม่มีผิด”
จินเบถามออกไปตามตรง เขาปล่อยมือออกจากข้อมือของเธอแล้วเอามือไปเท้าเอวแทน
“ทำท่าอะไรของนาย เป็นักเลงรึไง”
เฟรย่ายกแขนขึ้นกอดอกแล้วไล่ตามองมาเฟียหนุ่มั้แ่หัวจรดปลายเท้า
“ตอบคำถามฉัน”
จินเบกดเสียงเข้ม เขาปล่อยแขนตกลงข้างตัวแล้วย่างเท้าเข้ามาประชิดตัวเธอมากกว่าเดิม
“ปกติลูกค้าฉันก็มีแต่คนมีชื่อเสียง และมีหน้ามีตาในสังคมอยู่แล้ว แต่จะให้บอกนายว่าเป็ใครคงไม่ได้เพราะนั่นเป็กฎของที่นี่”
คนตัวเล็กกว่าจ้องผู้ชายตรงหน้านิ่ง แม้ในใจจะรู้ดีว่าจินเบคงเห็นรถของเอเดนที่ขับสวนออกไป แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องบอกเขานี่นา
“…มาหาฉันเพราะจะถามแค่นี้เหรอ?”
เฟรย่าเห็นว่ามาเฟียหนุ่มเอาแต่จ้องหน้าเธอ เธอเลยเร่งถามถึงเหตุผลที่เขาพาตัวเองมาถึงที่นี่แทน
“เปล่า ฉันมีคลิปที่เรามีอะไรกันคืนนั้น”
ชายหนุ่มปฏิเสธพร้อมล้วงเอาแฟลชไดร์ฟออกมาจากเสื้อสูทแล้วชูมันขึ้นให้สาวสวยได้เห็น
“…อือฮึ แล้ว? จะแบล็กเมลฉันงี้เหรอ?”
ใบหน้าสวยเชิดขึ้นก่อนจะใช้สายตาจ้องไปที่อะไหล่ชิ้นเล็ก ๆ ในมือเขา
“ไม่หรอก เพราะเธอคงไม่กลัว”
“ก็จริง ไม่ใช่ไม่กลัวหรอก แต่เพราะฉันรู้ว่านายไม่ทำ…นายแค่หาเื่มานอนกับฉันเฉย ๆ ติดใจล่ะสิ”
เฟรย่าเยื้องย่างกายเข้าไปหาคนตัวสูง เธอยกแขนทั้งสองข้างโอบรอบคอชายหนุ่มแล้วเอียงใบหน้าเล็กน้อยส่งยิ้มหวาน ๆ ไปให้อย่างคนมั่นใจ เพราะเธอรู้ทันความคิดของเขา
