เสียงของหลี่เฉิงไม่ได้ดังนัก ทั้งยังพูดเสียงเรียบ ทว่ากลับมีความน่าเกรงขามอย่างน่าแปลกประหลาด ทำให้ทุกคนในกระท่อมหยุดพูด แล้วฟังเขาเงียบๆ
“ข้าได้รับาเ็ บังเอิญพบกับแม่นางซ่งที่ขึ้นมาเก็บสมุนไพรบนหุบเขา แม่นางซ่งจิตใจดีจึงช่วยเหลือข้าเอาไว้ นางอยู่บนหุบเขาเพื่อดูแลข้า เมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า พวกเราจึงเริ่มรักกัน เดิมทีอยากจะแต่งงานกันหลังจากที่าแของข้าหายดี แต่ในเมื่อวันนี้ผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว เช่นนั้นก็ขอให้ท่านช่วยเป็พยานให้กับพวกเรา พวกเราจะแต่งงานกันในสองวันนี้ขอรับ”
หลี่เฉิงพูดจบแล้วยื่นาแที่ขาให้ผู้ใหญ่บ้านดู
ผู้ใหญ่บ้านสงสารซ่งอวี้เป็ทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่อยากขับไล่นางออกจากหมู่บ้าน เวลานี้ได้ยินหลี่เฉิงพูดเช่นนี้ เขาจึงพูดขึ้นต่อทันที “เช่นนั้นย่อมเป็การดีที่สุด ในเมื่อเ้าตกลงที่จะแต่งงานกับนาง เช่นนั้นก็รีบจัดงานแต่งให้เรียบร้อยเสีย มิเช่นนั้นชายโสดหญิงยังมิได้ออกเรือนอยู่ด้วยกันย่อมไม่สะดวกเท่าใดนัก”
ซ่งอวี้มองไปทางหลี่เฉิงด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นแววตาอ่อนโยนของเขาที่พยักหน้าให้ตน นางจึงอดกลั้นเอาไว้ มิได้พูดสิ่งที่อยากจะพูดออกไป นางรู้ว่าหลี่เฉิงทำเช่นนี้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของนาง ในเมื่อเขาพูดไปแล้ว หากนางปฏิเสธ จะเป็การทำลายความหวังดีของเขา
ซ่งอวี้ครุ่นคิด แม้จะแต่งงานก็แค่แต่งงานปลอมๆ เท่านั้น นางจึงปิดปากเงียบเอาไว้ เมื่อผ่านเื่นี้ไป วันข้างหน้าค่อยว่ากันใหม่ สมัยโบราณย่อมมีการหย่าร้างไม่ใช่หรือ?
ผู้ใหญ่บ้านมองไปทั่วกระท่อม เขาโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “กระท่อมนี้เล็กเกินไป แล้วจะอยู่กันได้อย่างไร? ข้าว่าวันนี้พวกเ้าสองคนลงเขาไปพร้อมกับพวกข้าเถิด หลังจากนั้นค่อยเลือกฤกษ์ยามมงคลแล้วแต่งงานกัน”
“ขอรับ” หลี่เฉิงตอบตกลงทันที ซ่งอวี้ก็ไม่อาจพูดสิ่งใดได้
เฉินต้าฮวามองค้อนไปที่ซ่งอวี้ด้วยความไม่ยินยอม แต่ก็คิดหาวิธีจัดการนางไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อยนางไป
พวกเขาทั้งสองคนเก็บของแล้วตามผู้ใหญ่บ้านลงเขาไป
เมื่อกลับไปถึงเรือน ซ่งอวี้เห็นข้าวของในเรือนกระจัดกระจาย แม้แต่ของเพียงชิ้นเดียวที่พอจะมีราคาก็ถูกกวาดไป นางรู้ทันทีว่าเฉินต้าฮวาต้องเคยมาที่เรือน ซ่งอวี้ขุ่นเคืองยิ่งนัก แต่นางยังคิดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงเก็บกวาดเรือนเงียบๆ
เมื่อเก็บกวาดเตียงเรียบร้อย นางก็พยุงหลี่เฉิงไปนั่งบนเตียง “ท่านนอนที่นี่เถิด”
หลี่เฉิงกวาดตามองรอบๆ สีหน้าของเขาฉายความลำบากใจ
“ข้านอนที่นี่ แล้วเ้านอนที่ใด?”
“ข้านอนได้ทุกหนแห่ง เพียงปูผ้านอนบนพื้นก็พอแล้ว ตอนอยู่บนหุบเขาพวกเราก็นอนเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?” ซ่งอวี้ไม่ยี่หระแม้แต่น้อย นางนอนพื้นในห้องผ่าตัดจนเคยชินแล้ว
นางครุ่นคิดว่าตนได้ใช้จ่ายเงินไปจำนวนไม่น้อยกับค่ายา อีกทั้งมื้อค่ำยังไม่ตกถึงท้อง นางจึงบอกกับหลี่เฉิง “ตอนนี้ยังไม่เย็นมากนัก ท่านพักผ่อนเถอะก่อนเถอะ ข้าจะนำสมุนไพรที่เก็บมาได้ไปขายในตลาด”
หลี่เฉิงพยักหน้าเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่เป็ไร
ซ่งอวี้เก็บยาสมุนไพรใส่ตะกร้า ยกตะกร้าขึ้นสะพายแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังตลาด พูดคุยต่อรองราคากับเถ้าแก่ร้านขายยาอยู่พักใหญ่ กว่าจะขายได้ราคาดี นางมองดูสีของท้องฟ้าที่เริ่มมืดลง จึงรีบเดินกลับเรือน แต่เมื่อเดินไปถึงหน้าหมู่บ้าน นางก็พบเจอเฉินต้าฮวาอีกครั้ง
เฉินต้าฮวาและสตรีอีกหลายคนยืนอยู่หน้าหมู่บ้าน พวกนางกำลังยืนจับกลุ่มนินทา เมื่อเห็นซ่งอวี้เดินมา จึงเดินเข้ามาขวางนางทันที “สตรีชั้นต่ำเช่นเ้ามีหน้ากลับมาในหมู่บ้านอีกหรือ! ข้าว่าเ้าควรถูกจับใส่กรงหมูแล้วถ่วงน้ำไปเสีย! ผู้ใหญ่บ้านกลับปกป้องเ้า ดูท่าแม้แต่ผู้ใหญ่บ้าน เ้าก็เคยหลับนอนกับเขามาแล้ว!”
ซ่งอวี้อยากจะฉีกปากหยาบคายของเฉินต้าฮวาให้ขาดจริงๆ แต่เมื่อคิดว่าการกัดกับสุขันบ้า เป็การลดตัวลง นางขี้คร้านจะโต้เถียง จึงพูดเสียงเยือกเย็น “หลีกทางให้ข้า!”
เฉินต้าฮวาเอามือท้าวเอว “ข้าไม่หลีก เ้าจะทำอะไรข้าได้?”
เปลวไฟแห่งความขุ่นเคืองปะทุขึ้นมาในอกของซ่งอวี้ นางยื่นมือออกไปแล้วผลักเฉินต้าฮวา
เฉินต้าฮวาโมโหทันที นางกรีดร้องเสียงดัง “นังสตรีชั้นต่ำ เ้ากล้าผลักข้า วันนี้ข้าจะฉีกร่างเ้าเป็ชิ้นๆ !” ขณะพูดนางก็ผลักซ่งอวี้อย่างแรง
เฉินต้าฮวาอ้วนท้วม แรงเยอะยิ่งนัก ร่างกายของร่างเดิมซ่งอวี้ทั้งซูบผอมและอ่อนแอ หาใช่คู่ต่อสู้ของเฉินต้าฮวาไม่ เพียงครู่หนึ่งก็ถูกเฉินต้าฮวาผลักจนถอยหลังล้มลง
ด้านหลังซ่งอวี้ดันมีสระน้ำเล็กๆ ทำให้นางตกลงไปในนั้น เกิดเสียงดัง “ตู้ม” สระน้ำไม่ลึกเท่าใดนัก แต่เมื่อตกลงไป ก็ทำให้เสื้อผ้าและผมเปียกแฉะไปหมด
เฉินต้าฮวาและเหล่าสตรีต่างพากันหัวเราะเสียงดัง จงใจไม่สนใจนางแล้วเดินจากไป ซ่งอวี้จนปัญญา ทำได้เพียงคลานขึ้นมาจากสระน้ำด้วยตนเอง เสื้อผ้าของนางเปียกไปหมด จึงแนบชิดกับเรือนร่าง นางอึดอัดยิ่งนัก โชคดีที่เงินซึ่งได้จากการขายสมุนไพรไม่หล่นหาย นางจึงเดินกอดแขนสาวเท้ากลับเรือน
ระหว่างทางนางเจอชาวบ้านที่กลับมาจากการทำนาพอดี บุรุษเ่าั้เห็นอาภรณ์เปียกโชกที่แนบชิดเรือนร่างอรชรของซ่งอวี้ ต่างมองกันตาค้าง บางคนถึงขั้นผิวปากแล้วจะเข้ามาลวนลามนาง ซ่งอวี้ไม่กล้ามีปัญหากับพวกเขา นางจึงรีบวิ่งกลับเรือนทันที
ตอนที่นางกลับไปถึงเรือน หลี่เฉิงเพิ่งใช้เก้าอี้ช่วยพยุงเดินออกมาจากห้อง
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เขาเห็นว่าซ่งอวี้ยังไม่กลับมา จึงตั้งใจว่าจะออกมาดูนางที่หน้าประตู ทว่าคิดไม่ถึงว่าเพิ่งเดินออกมาถึงหน้าประตู ก็เห็นซ่งอวี้เดินกอดแขนเข้ามาในเรือนด้วยร่างกายที่เปียกปอน
เรือนร่างของนางอรชร อาภรณ์เปียกชื้นแนบชิดกาย แม้นางจะกอดแขนป้องเรือนร่างส่วนหน้าเอาไว้ แต่ก็เห็นสัดส่วนอันงดงามได้อย่างชัดเจน เมื่อหลี่เฉิงเห็นภาพนี้ หัวใจของเขาพลันร้อนรุ่มขึ้นมาทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้