ิอวี่รู้สึกเหมือนตัวเองฟังผิด เมื่อลองมองออกไปอีกทีก็พบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ด้วยความหัวเสีย ซึ่งคนคนนั้นก็คือจี้เฟิงอวิน
และด้านหลังของก็คือซ่งเหยาที่สวมชุดกระโปรงสีชมพู ในเวลานี้นางมีสีหน้าท่าทางเ็าอย่างมาก หากสายตานั้นฆ่าคนได้นางคงใช้มันฉีกิอวี่เป็ชิ้นๆ แล้ว
ก่อนหน้านี้ประมาณเกือบหนึ่งเดือน จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาพยายามเร่งการเดินทางอย่างมาก และระหว่างทางก็ได้ไปพบกับร่องรอยของเ้านกกระเรียนเซียนเมฆา
พวกเขาจึงตามเ้านกกระเรียนเซียนเมฆากลับมา และรีบเร่งเดินทางมาทางทิศตะวันออกอย่างบ้าคลั่ง
เดิมจากระยะที่ิอวี่สลัดพวกเขาไว้ จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาก็คงจะต้องใช้เวลาห่างประมาณหนึ่งอาทิตย์กว่าจะตามหเขาได้ทัน แต่ิอวี่กลับใช้เวลาพักฝึกหมัดคชสารัไปสามถึงสี่วัน ทั้งหลังจากนั้นเขาก็ยังเจอพายุฝุ่นทรายอีกสามวัน
นับรวมเวลาพักก็เกือบหนึ่งอาทิตย์พอดี
เป็เพราะิอวี่แท้ๆ ทำให้ทุกครั้งที่จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยานึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นในถ้ำก็รู้สึกโกรธเป็ฟืนเป็ไฟจนแทบกระอักเืออกมา
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา พวกเขาคิดแค่ว่าต้องเร่งเดินทางให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วมากเท่าไรยิ่งดี เพราะมีแต่วิธีนี้เท่านั้นถึงจะตามิอวี่ได้ทันและสามารถฉีกเขาเป็ชิ้นๆ ได้
แต่ใครจะคิดว่าในเวลาเดือนกว่าๆ จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาตามิอวี่ไม่ทันเลย พวกเขาเหมือนต้องยอมรับความจริงอันโหดร้ายในเื่นี้ไปแล้วว่าอย่างไรก็ตามไม่ทันแน่
พวกเขาทำได้แค่ภาวนาว่าเมื่อมาถึงค่ายกลขนส่งไปสำนักเทพอัคคี จะสามารถเจอิอวี่อีกครั้งเพื่อแก้แค้น
และในตอนนี้ ตอนที่พวกเขามาถึงที่ค่ายกลขนส่งด้วยความสิ้นหวัง กลับตรวจพบลมปราณของิอวี่!
แค่เสี้ยววินาที จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาก็รู้สึกดีใจอย่างมาก สายตาของพวกเขาเกิดเป็ประกาย เืลมในร่างกายเริ่มสูบฉีด และมีความตื่นเต้นดีใจอย่างมาก
ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถล้างแค้นความอัปยศได้แล้ว!
จี้เฟิงอวินบังคับเ้านกกระเรียนเซียนเมฆาให้บินเร็วขึ้น แทบจะพริบตาเดียวก็บินเข้ามาใกล้แล้ว เมื่อเห็นิอวี่อยู่ห่างออกไปแค่ห้าสิบเมตร พวกเขาสองคนก็ะโลงมาจากหลังนกกระเรียนเซียนเมฆาและค่อยๆ เดินมาหาิอวี่
ซึ่งในระหว่างนั้น ลมปราณของทั้งสองคนก็คละคลุ้งมาก ลมปราณที่ดุดันแผ่ข่มไปที่ิอวี่!
“นี่มัน ... ”
เหลียงชิงซานหรี่ตามอง เมื่อเขาเห็นสัญลักษณ์กระบี่ที่หน้าอกของจี้เฟิงอวินกับซ่งเหยา สายตาก็เต็มไปด้วยความตะลึง “คนของราชวงศ์เวิ่นเจี้ยน!”
จูหงเองก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา “ลมปราณกระบี่ของพวกเขาสองคนแข็งแกร่งมาก ดูจากลมปราณน่าจะมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าสูงสุด และที่พวกเขาตามมาถึงที่นี่ได้ก็น่าจะมีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว เป็ผู้กล้าที่คิดอยากจะไปยังสำนักเทพอัคคี ชิงซาน เ้าว่าพวกเขาจะ ... ”
รู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว จูหงไม่ต้องพูดเหลียงชิงซานก็รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไร เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ เป้าหมายของพวกเขาคือิอวี่ เ้าไม่เอาไหนนั่นไม่รู้ไปบ้าอะไรมา ถึงกล้าล่วงเกินคนของราชวงศ์เวิ่นเจี้ยน”
“แต่หากพวกเขาสองคนชนะ จำนวนคนที่เหลือ ... ”
จูหงยังพูดไม่จบเหลียงชิงซานก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ไม่เป็ไร เรารอดูสถานการณ์ไปก่อน ฆ่าเ้าไม่เอาไหนนั่นก่อนแล้วเราค่อยไปที่กระแสทรายวน ถึงเวลานั้น ต่อให้คนของราชวงศ์เวิ่นเจี้ยนจะแข็งแกร่งกว่าเรา ก็ไม่มีทางขวางเราเข้าไปในกระแสทรายวนแน่”
จูหงพยักหน้า ความคิดของเหลียงชิงซานตรงกับเขา
ถูกต้อง ไม่ว่าจี้เฟิงอวินหรือว่าซ่งเหยาจะมีความแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางตามความเร็วที่พวกเขาเข้าไปในค่ายกลขนส่งได้ทัน
ทั้งคู่หารือกันแบบเงียบมาก แทบจะไม่มีใครได้ยินว่าพวกเขาพูดอะไร
ิอวี่ยืนอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ไกล ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าจูหงกับเหลียงชิงซานพูดอะไรกัน แต่ไม่ต้องได้ยินก็รู้ว่าพวกเขาต้องคิดอะไรไม่ดีแน่
ในเวลานี้ ิอวี่เหลือบมองไปที่คนทั้งสองแล้วใช้จิตดึงเอาน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ออกมาจับตามอง หากพวกเขาเข้าใกล้กระแสทรายวนเมื่อไหร่ ิอวี่ก็จะทำการโจมตีใส่ทันที
“มองอะไร หาพวกหรือไง คิดอยากจะให้พวกเราไปช่วยเ้าอย่างนั้นหรือ? ฝันไปเถอะ” จูหงมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาดูถูก
“เหอะๆ ”
ิอวี่แค่นยิ้ม “ข้าจัดการเื่ในครอบครัวของข้า พวกเ้าก็ไม่มีสิทธิมายุ่ง”
จูหงขมวดคิ้ว เื่ในครอบครัวหรือ? หรือว่าิอวี่กับสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ทางสายเืหรือ?
“ใครเป็ครอบครัวของเ้ากัน? ิอวี่ จนถึงตอนนี้แล้วเ้ายังหน้าด้านขนาดนี้อีกหรือ”
ซ่งเหยาสีหน้าเ็าอย่างมาก “ราชวงศ์เวิ่นเจี้ยนของเราสูงส่งแค่ไหน แค่เป็คนเปลี่ยนรองเท้าให้เราเ้ายังไม่มีสิทธิเลย! คุกเข่าลงตอนนี้แล้วยอมรับการลงทัณฑ์ของข้า”
พอพูดจบซ่งเหยาก็ชักกระบี่ออกมา ลมปราณของนางพลุ่งพล่านและแผ่กระจายไปทั่ว จนทำให้เกิดลมและฝุ่นทราย
ตอนนี้ซ่งเหยาไม่ใช่เซียนเทพธิดาสาวสวยคนนั้นแล้ว กำลังรบของนางไม่ธรรมดา พูดได้เลยว่าเป็เทพธิดาที่ไร้เทียมทาน!
“อย่างนั้นหรือ? แต่ข้ากลับจำได้ดีเลยนะ เ้าเรียกข้าว่าท่านปู่ไม่ใช่หรือ? อกตัญญูไปแล้วนะหลานสาวคนสวย” คำพูดของิอวี่นั้นน่าใมาก
“เ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ! จะตายอยู่แล้วยังปากดีอีก!” ซ่งเหยาท่าทางดุดันมาก ลมปราณสังหารในร่างกายสั่งสมเอาไว้จนถึงขีดสุดแล้ว!
จูหงกับเหลียงชิงซานที่อยู่ข้างๆ ถึงกับตาโต เมื่อครู่ิอวี่บอกว่าซ่งเหยาเรียกเขาว่าท่านปู่ ไม่อยากจะเชื่อเลย เพราะผู้กล้าราชวงศ์เวิ่นเจี้ยนอย่างซ่งเหยาจะเรียกิอวี่ว่าท่านปู่ได้อย่างไรกัน?
... แต่ว่า ดูจากปฏิกิริยาของซ่งเหยาที่รุนแรงมาก พวกเขาก็เริ่มสงสัย หรือว่าิอวี่กับซ่งเหยา ... จะมีเื่อะไรที่คนอื่นไม่รู้กันนะ?
แม้แต่ชายที่เ็าไม่พูดไม่จาอีกคนก็ยังมองมาที่ิอวี่ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
“ความจำของเ้าไม่ดีเอง ลืมไปแล้ว หรือว่าเ้าเป็คนมีปัญหาถึงไม่ยอมรับแบบนี้ล่ะ?”
ิอวี่ยิ้มแสยะ “วันนั้นพวกเ้าเปลือยกายกอดอยู่ด้วยกัน ถูกอสูรร้ายทั้งเลียทั้งกัด ร้องไห้เรียกข้าว่าท่านปู่ ขอร้องให้ข้าปล่อยพวกเ้าไป เื่แบบนี้น่าจะจดจำไปชั่วชีวิตถึงจะถูกนะ!”
วันนั้นหากจี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาให้ิอวี่ดูแลเ้านกกระเรียนเซียนเมฆาก็คงไม่เท่าไร แต่พวกเขากลับโลภอยากจะได้ทรัพย์สินของเขาด้วย อีกทั้งยังคิดจะฆ่าเขาอีก แค้นนี้ิอวี่จำได้ขึ้นใจ
ซ่งเหยากับจี้เฟิงอวินผิดก่อน แต่ยังแสดงท่าทีมีคุณธรรมสูงส่ง ิอวี่จะไม่โกรธได้อย่างไร? คำพูดของเขาที่ออกมาจึงค่อนข้างห้วน!
เมื่อได้ยินคำพูดของิอวี่ สีหน้าของซ่งเหยากับจี้เฟิงอวินก็เปลี่ยนไปทันที ตอนนี้เขากล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าบุคคลที่สาม มันทำให้พวกเขาขายหน้าถึงที่สุด!
“ข้าจะฆ่าเ้า!” จี้เฟิงอวินกำลังจะบุกเข้ามา แต่ซ่งเหยาห้ามเอาไว้
“เฟิงอวิน ข้าไปเอง เ้าอย่าวู่วาม ฟันกระบี่ทีเดียวก็สังหารเขาได้แล้ว แต่ข้าจะตัดแขนตัดขาของเขาก่อน จากนั้นก็เลาะหนังเฉือนกระดูกของเขาให้ค่อยๆ ทรมาน”
ระหว่างที่พูด ซ่งเหยาก็ค่อยๆ เดินบีบเข้าหาิอวี่ และปล่อยลมปราณกระบี่พุ่งใส่เขา
ิอวี่ใช้นิ้วชี้ไปที่ซ่งเหยา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังอำนาจออกไปว่า “เ้าคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า ถ้าเ้าลงมือ ข้าก็ไม่ติดนะที่จะสังหารญาติมิตรเพื่อผดุงคุณธรรม ใช้กระบี่ ทำลายวรยุทธ์ของเ้า”
“ไปตายซะ!”
เดิมซ่งเหยารู้สึกว่าจี้เฟิงอวินนั้นบุ่มบ่ามเกินไป แต่พอได้ยินคำพูดของิอวี่ก็ทำให้ซ่งเหยาถึงกับกรีดร้องเพราะสติหลุดไปแล้ว ตอนนี้นางแค่้าสังหาริอวี่ให้ตายเท่านั้น นางบุกขึ้นหน้าแล้วฟันกระบี่ออกไปในทันที!
กระบวนท่าสังหารของเพลงกระบี่เวิ่นชิง ศาสตร์แห่งกระบี่เวิ่นชิงถือเป็กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด เป็ทักษะการต่อสู้ระดับเสวียนที่ไม่มีใครต้านทานได้!
“กระบี่มา”
ิอวี่สะบัดข้อมือ แล้วกระบี่ยาวสามฉือก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา ในเวลานี้รอบกายของิอวี่เต็มไปด้วยหมอกน้ำแข็งสีดำ เขาเปิดใช้งานสถานะหยินขั้นสุด!
มันเย็นะเือย่างมาก และเด็ดขาดที่สุด!
หมอกน้ำแข็งพุ่งล้อมไปทั่วกระบี่หวงฉวน ิอวี่ใช้อสรพิษหลงทาง ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวเหมือนเงาและพุ่งแทงกระบี่ออกไป ลมปราณสีดำตัดอากาศจนขาดและทะลุทะลวงมาด้านหน้า
กระบี่ในมือของซ่งเหยาหักลงทันที สีหน้าของนางทั้งตกตะลึงและหวาดกลัว หลังจากนั้น ... กระบี่หวงฉวนก็พุ่งเข้ามาที่หน้าอกของซ่งเหยา ลมปราณกระบี่กระจายตัวออกแล้วสลายกลายเป็ลมปราณกระบี่ทั้งหมดสามหมื่นหกพันสาย มันกรีดฟันไปบนร่างกายของซ่งเหยาอย่างบ้าคลั่งจนทำให้ชีพจรของนางขาดลง เมื่อลมปราณไม่มีที่กักเก็บก็กระจายออกนอกร่างของนางทันที
“อ่า!”
ลมปราณทั่วตัวของซ่งเหยาพุ่งออกมาด้านนอก ทำให้นางทรุดตัวลงกับพื้นและส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่ากลัวมาก!
เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ิอวี่ก็ทำลายวรยุทธ์ของนางทั้งหมดแล้ว!
จูหงกับเหลียงชิงซานและคนอื่นตกตะลึงอย่างมากจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้เลย เป็ไปไม่ได้ นี่มันภาพลวงตา จะต้องเป็ภาพลวงตาแน่!
พวกเขาสองคนเองก็มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว และรู้ดีว่าผู้กล้าในระดับสูงสุดเองก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ตามทักษะการต่อสู้ ประสบการณ์การต่อสู้ และศาสตราวุธได้ แต่ผู้กล้าที่มีระดับเท่ากัน ใช้เวลาในการต่อสู้ไม่ถึงอึดใจก็ตัดสินแพ้ชนะได้แล้ว มันเป็เื่เหลือเชื่อมากเกินไป!
เดิมพวกเขาคิดว่าิอวี่เป็พวกไม่เอาไหน แต่แค่กระบวนท่าเดียวที่ธรรมดาทำให้พวกเขาต้องหันกลับมามองิอวี่อีกครั้ง ต่างรู้สึกว่าิอวี่นั้นมีหน้ากากลึกลับที่มองอย่างไรก็มองไม่ออกเลย
“เหยาเอ๋อร์!”
จี้เฟิงอวินวิ่งมาหาซ่งเหยาอย่างรวดเร็ว เขาััได้ว่าชีพจรในร่างกายของซ่งเหยานั้นาเ็สาหัส ดวงตาของเขาเป็สีเื เขายกกระบี่แล้วพุ่งเข้ามาโจมตีิอวี่ทันที!
ในตอนนี้ พูดมากเกินไปก็ไม่มีประโยชน์อีก ตอนนี้ในใจของจี้เฟิงอวินมีเพียงการฆ่าเท่านั้น เขา้าฆ่าิอวี่ เขาจะต้องแก้แค้นให้ซ่งเหยาให้ได้!
“ไม่ฆ่าเ้า ข้าก็ไม่มีหน้าจะอยู่ต่อไปอีก”
ครั้งนี้จี้เฟิงอวินถือกระบี่เอาไว้ในมือ ในตอนนี้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปมาก ลมปราณที่บ้าคลั่งของเขานั้นหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความเ็าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!
ความรู้สึกของเขาตอนนี้ ไร้ความยินดี ไร้ความเศร้า ไร้ความสุข ไร้ความรัก และไร้ความปรารถนา!
หากเพลงกระบี่ของซ่งเหยาแฝงไปด้วยความรัก ความแค้น และความปรารถนา กระบี่ของจี้เฟิงอวินก็เต็มไปด้วยความไร้อารมณ์ความรู้สึก
มันคือหลักสำคัญของกระบี่เจ็ดมรณา!
เจ็ด หมายถึงการตัดอารมณ์ความรู้สึกเจ็ดอย่างทิ้งไป ซึ่งประกอบไปด้วยความดีใจ ความโกรธ ความเศร้า ความสุข ความรัก ความชั่วร้าย ความปรารถนา ตอนนี้จี้เฟิงอวินนั้นยังไม่อาจตัดความโกรธและความชั่วร้ายได้ แต่ความรู้สึกอื่นอีกห้าอย่างเขาตัดขาดได้ทั้งหมดแล้ว
ดังนั้น ตอนนี้จี้เฟิงอวินจึงสามารถปล่อยออกมาได้เพียงกระบี่ห้ามรณาเท่านั้น!
ถึงแม้กระบวนท่านี้ยังไม่ใช่กระบวนท่าสูงสุดของกระบี่มรณา แต่ว่าเขาฟันกระบี่ไร้อารมณ์ทั้งห้าออกมาได้อย่างแข็งแกร่ง และอยู่ในระดับเสวียนระดับล่าง!
