“หุบปาก! เ้ายังไม่รู้จักชายผู้นี้ดีพอ คนอย่างจิวอี้ซิง ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ยิ่งกว่าสิ่งใด เื่ไร้สาระเช่นนั้นเขาไม่มีวันทำให้เสื่อมเสีย หากเป็การตัดสินจากเขา ข้าก็ยิ่งมั่นใจ ว่าแท้จริงแล้วฝีมือของเ้าสู้หวางฟางเฟยไม่ได้จริง ๆ” อีกฝ่ายกำมือแน่น พยายามเก็บความคับแค้นใจไว้อย่างเงียบ ๆ ก่อนพระสนมจะกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น
“พรุ่งนี้เป็การสอบวิชาการ ข้าจะไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย หวังว่า จะทำให้เ้ามีกำลังใจ มากกว่านี้” เยี่ยนหวางน้อมกายลงเล็กน้อยเพื่อเป็การตอบรับ
ขณะฮ่องเต้ทรงนั่งสนทนาอยู่กับจิวอี้ซิง ในห้องส่วนตัว ร่างของพระสนมเถียนหลันก็เดินเข้ามาพร้อมอาหารว่าง สายตาหวานเลื่อนมองไปยังฮ่องเต้
“อาหารว่างเพคะ หม่อมฉันตั้งใจทำสุดฝีมือ”
“ข้ากำลังมีเื่ปรึกษากับท่านมือปราบ เ้ามีอะไรไปทำก็ไปเถอะ” นางน้อมกายลงด้วยท่วงท่าสง่างาม เสี้ยวหนึ่งของสายตาเลื่อนมองไปยังจิวอี้ซิงอย่างมีความหมาย ก่อนเขาจะเอ่ยขึ้น
“พระสนมช้าก่อน” คำพูดของเขา ทำให้ฮ่องเต้และพระสนมชะงักนิ่ง ก่อนเขาจะล้วงเอาบางอย่างออกจากซอกเสื้อแล้วยื่นให้อีกฝ่ายด้วยท่าทีสงบ
“วันนี้ข้าไปช่วยอาจารย์กั๋วเจี้ยนสอบวัดผลบัณฑิต พบกล่องพู่กันสีแดงนี้ ตกอยู่บริเวณทางเข้าสถานศึกษานูเหริน คิดว่าต้องเป็ของสกุลหวัง เพราะมีตราประทับติดอยู่ จึงนำมามอบคืนให้กับพระสนม” หญิงสาวรู้สึกหัวใจพองฟูเป็อย่างมาก นับจากนางถูกแต่งตั้งขึ้นเป็พระสนม จิวอี้ซิงก็เว้นระยะห่างจนแทบไม่เคยได้เจรจากัน
“เป็ของน้องสาวข้าเอง หวังเยี่ยนหวาง” นางพูดพร้อมรอยยิ้ม แล้วเอื้อมมารับไปด้วยกิริยางดงาม ทำให้จิวอี้ซิงรีบชักมือกลับ แล้วควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ให้หวั่นไหวกับนาง
“เมื่อครู่นางพึ่งมาที่ตำหนักข้า แล้วเล่าเื่ราวให้ฟังว่านางทำกล่องพู่กันหาย ทำให้พลาดลำดับที่หนึ่งไป ข้ายินดีกับความสามารถของหวางฟางเฟยด้วย” สิ้นเสียงของพระสนม เขาน้อมกายลงเคารพเล็กน้อย ก่อนนางจะเอ่ยขึ้น
“พรุ่งนี้ข้าคิดว่า จะไปเฝ้าดูการสอบวิชาการเสียหน่อย อย่างน้อยก็เป็กำลังใจให้กับเยี่ยนหวาง หากท่านมือปราบว่างก็เชิญเช่นกัน” คำพูดของนางทำให้เขารับรู้แล้วว่า หวางฟางเฟยกำลังเป็จุดสนใจ จึงทำได้เพียงแน่นิ่ง แล้วน้อมกายลงเล็กน้อย ก่อนนางจะยิ้มแล้วเบี่ยงตัวเดินจากไป
“หวางฟางเฟย บุตรสาวบุญธรรมของเสนาบดีจิว ที่ว่าเก็บนางมาเลี้ยงั้แ่เด็กใช่หรือไม่” ฮ่องเต้ทรงสอบถาม ก่อนชายหนุ่มจะยิ้มแล้วตอบกลับ
“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ นางเป็น้องสาวบุญธรรมของข้า” คำตอบของชายหนุ่ม ทำให้พระสนมที่กำลังเดินจากไป ได้ยินทุกถ้อยคำชะงักนิ่งครู่หนึ่ง พร้อมรวบรวมข้อมูลอย่างเงียบ ๆ พลางใช้เล็บจิกมือตัวเอง เพื่อข่มความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้น
ภายในจวนสกุลจิว เสนาบดีจิวหยางเหรินนั่งจิบชา พร้อมรอยยิ้มมีความสุข ก่อนจะหันไปยังภรรยาที่นั่งปักผ้าอย่างเงียบ ๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าฝีมือการเขียนภาพของหวางฟางเฟยจะพัฒนามาก ถึงขนาดคว้าอันดับหนึ่งมาได้ ส่วนเยว่หลิวก็ใช่ว่าจะไร้ความสามารถนางสอบได้ถึงที่สาม ตอนนี้ข้าเดินไปทางใด ก็มีแต่เหล่าขุนนางมาชมเชย ชื่อนามของหวางฟางเฟย กับเยว่หลิวก็เป็ที่รู้จักมากขึ้น ฮูหยินเ้ารู้หรือไม่ มีเสนาบดีหลายคนทาบทามลูกสาวทั้งสองของเราด้วยล่ะ” ชายกลางคนกล่าวด้วยสีหน้าชื่นมื่น รู้สึกภูมิใจเป็อย่างมาก แตกต่างจากจิวฮูหยินที่พยายามข่มความคับแค้นใจไว้ภายใน
เมื่อใต้เท้าจิวเข้านอนแล้ว จิวฮูหยินก็ส่งให้เปาอินไปสืบเื่ราว โดยอ้างว่านำเสื้อผ้ามาให้กับเยว่หลิว ในมือเหี่ยวย่นถือห่อผ้าเข้ามายังสถานศึกษานูเหริน พร้อมมองหาเยว่หลิว ที่กำลังนั่งสำราญกับเพื่อน ๆ ขณะพักการสอบ
“เปาอิน เ้ามาได้ยังไง” เมื่อเยว่หลิวเห็นสาวใช้ จึงรีบเดินเข้ามาหาในทันที ก่อนเปาอินจะกระซิบบอก
“ข่าวที่หวางฟางเฟย สอบเขียนภาพได้อันดับหนึ่ง ทำให้นายท่านกล่าวชมไม่หยุดปาก นายหญิงกลัวว่าการสอบในวันนี้จะทำให้คุณหนูพ่ายแพ้ต่อนางอีก ก็เลยให้ข้านำสิ่งนี้มาให้กับคุณหนูเ้าค่ะ” เปาอินหันซ้าย หันขวาแล้วแอบยื่นสมุนไพรขวดหนึ่งให้กับอีกฝ่าย
“คืออะไร”
“เป็ยาเมาเ้าค่ะ เพียงแค่คุณหนูหาโอกาส ใส่ยานี้ลงในน้ำ หรืออาหารของหวางฟางเฟย ก็จะทำให้นางมีอาการคล้ายคนเมา จนไม่เป็อันทำอะไร” เยว่หลิวรีบรับยานั้นพร้อมห่อผ้าของเปาอิน ก่อนร่างของหญิงชราจะเดินกลับออกจากสถานศึกษาไป โดยไม่มีผู้ใดใส่ใจแม้แต่น้อย
หวางฟางเฟยเห็นหลังไว ๆ ของเปาอินที่กำลังเดินออกจากสถานศึกษา ทำให้นางรู้สึกแปลกใจ สายตากลมเลื่อนมองไปยังเยว่หลิว ที่หอบเอาห่อผ้าไปเก็บไว้ยังห้องพัก
‘เอาชุดมาให้งั้นเหรอ คนอย่างเยว่หลิว ไม่มีทางเตรียมชุดมาไม่ครบ สงสัยต้องไปดูเสียหน่อย’ เมื่อคิดได้ยังนั้นหวางฟางเฟยที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อน ๆ ค่อย ๆ หาโอกาสแยกตัวออกมา มุ่งตรงไปยังห้องพัก ที่สถานศึกษาจัดไว้ให้
หลังจากเยว่หลิวเข้าไปจัดการห่อผ้า และเก็บขวดยาไว้อย่างมิดชิด นางจีบรีบออกจากห้องพักไปอย่างลุกลี้ลุกลน ขณะที่หวางฟางเฟยแอบหลังต้นไม้ รอให้อีกฝ่ายจากไป
เมื่อเห็นว่าปลอดผู้คน หวางฟางเฟยจึงเดินเข้าไปยังห้องพัก เลื่อนสายตามองหาเตียงของจิวเยว่หลิว