ทันทีที่ฉินเฟิงมาถึงที่นั่งเขาก้มลงและวางมือลงบนขาเนียนนุ่มของสวี่รั่วโหรว
สวี่รั่วโหรวกลัวมากจนเกือบจะะโจากเก้าอี้เธอเอามือทาบอกและอุทานด้วยความใ “ว้าย...ฉะ...ฉินเฟิง คุณนี่เองคะ...คุณทำให้ฉันใแทบตาย!”
“รั่วโหรวแสดงว่าถ้าเป็คนอื่นจับขาเธอ เธอจะใแทบตาย แต่ถ้าเป็ฉัน เธอจะไม่กลัวงั้นเหรอ?” เมื่อฉินเฟิงพูด เขาก็บีบที่ขาของเธอเบาๆ
สวี่รั่วโหรวโกหกไม่เก่งหลังจากลังเลสักพัก เธอก็พยักหน้าอย่างเขินอาย
สวี่รั่วโหรวไม่รู้ว่าทำไมแต่มันเหมือนกับว่าเธอชินกับการที่ฉินเฟิงััขาของเธอแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักแต่เมื่อไรก็ตามที่เธอคิดว่าผู้ชายคนอื่นััขาของเธอแบบนี้เธอก็รู้สึกค่อนข้างรังเกียจ
เมื่อเห็นสวี่รั่วโหรวยอมรับอย่างเขินอายฉินเฟิงก็เหมือนกับถูกกระตุ้นและเลื่อนมือขึ้นไปลึกยิ่งกว่าเดิมในกระโปรงของเธอ
สวี่รั่วโหรวใมากและรีบหนีบขาของเธอทำให้มือของฉินเฟิงติดอยู่ระหว่างขาของเธอและขยับไม่ได้ตอนนี้เธอรู้สึกอายอย่างมาก “ฉะ...ฉินเฟิง อย่าทำแบบนี้ ฉะ...ฉันต้องทำงาน”
ฉินเฟิงตระหนักได้ว่าเขาทำเกินไปเมื่อเห็นสวี่รั่วโหรวดูไม่ค่อยมีความสุขเขาจึงรีบเอามือออก และเมื่อเขากำลังจะเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมเสียงเ็าก็ดังมาจากข้างหลังเขา “ฉินเฟิง มาหาฉันที่ออฟฟิศหัวหน้าหลี่”
ฉินเฟิงหันไปมองข้างหลังและเห็นหวังเชากำลังยืนอยู่พร้อมกับจมูกที่แปะผ้าก๊อซดูเหมือนว่าอาการาเ็ของเขาจะไม่เบาและดูค่อนข้างน่าตลก
“โอ้หวังเชา เกิดอะไรขึ้นกับจมูกของนายเนี่ย? โดนใครต่อยมางั้นเหรอ?คนคนนั้นต้องมีคุณธรรมแน่ๆ เลย!” ฉินเฟิงเยาะเย้ยเขาทำให้ดวงตาของหวังเชาเกือบจะะเิด้วยความโกรธ
“ฮึ่มเลิกไร้สาระและรีบมาที่ออฟฟิศหัวหน้าหลี่ได้แล้ว”
หลังจากที่หวังเชาออกไปด้วยความโกรธสวี่รั่วโหรวก็หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่หวังเชาพยายามจะล่วงเกินเธอตอนนี้เธอจึงเกลียดเขาอย่างลึกซึ้งเธอค่อนข้างมีความสุขที่ได้เห็นฉินเฟิงเยาะเย้ยเขาอย่างนั้น
“ฉินเฟิงระวังตัวด้วยนะ สามวันที่ผ่านมาคุณไม่ได้มาทำงานหวังเชาก็ไม่ได้มาเพราะาเ็เหมือนกันฉันคิดว่าทันทีที่เขามาที่นี่เขาคงมาหาคุณเพื่อแก้แค้น”สวี่รั่วโหรวเตือนฉินเฟิงด้วยเสียงเบา
ฉินเฟิงทำเป็กลัวขณะนั่งพิงหลัง“รั่วโหรว แล้วฉันควรจะทำไงดี? หวังเชาเป็หัวหน้าทีมของพวกเราและเขาต้องรายงานเื่ฉันแน่ๆ ฉันไม่มีอำนาจหรือสถานะอะไรในบริษัทเลยดูเหมือนว่าฉันจะโดนไล่ออกซะแล้ว”
ฉินเฟิงที่ดูน่าสงสารทำให้สวี่รั่วโหรวรู้สึกผิดเนื่องจากเธอรู้ว่าฉินเฟิงหาเื่หวังเชาเพราะเธอั์ตาที่ชื้นของเธอฉายความอ่อนโยนขณะมองไปที่ฉินเฟิง “ยะ...อย่ามองในแง่ร้ายสิคุณเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่นาน และผู้มาใหม่ก็ย่อมผิดพลาดกันได้ฉะ...ฉันคิดว่ามันคงไม่เป็อะไรหรอก”
นี่เป็ครั้งแรกที่สวี่รั่วโหรวพยายามปลอบใจคนอื่นฟังดูค่อนข้างอึดอัดและน่ารัก
ฉินเฟิงขมวดคิ้วขณะที่พูดอย่างผิดหวัง“แต่ก่อนหน้านี้ฉันไปทำให้หัวหน้าหลี่โกรธโดยไม่ได้ตั้งใจถ้าเธอพยายามจะแก้แค้นด้วย ฉันคงไม่รอดแน่ๆ”
สวี่รั่วโหรวไม่รู้ว่าจะปลอบฉินเฟิงอย่างไรเธอจึงรีบถามเขา “งะ...งั้นเราควรทำยังไงกันดี?”
ฉินเฟิงที่ดูโศกเศร้าอย่างมากก็ยิ้มกริ่มทันทีและมองกลับไปหาเธอ“ถ้าเธอให้ฉันััขาของเธอ ฉันก็คงไม่กลัวอีกต่อไป”
สวี่รั่วโหรวกัดริมฝีปากและรู้สึกเหมือนโดนหลอกเธอไม่พูดอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง
“เฮ้อลืมไปเถอะ ฉันต้องไปแล้ว ถ้าฉันโดนไล่ออกจริงๆ งั้นเธอก็พยายามเข้านะ”ฉินเฟิงกล่าวขณะเดินไปแบบไม่มีกำลังใจ
สวี่รั่วโหรวไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหนเธอจับมือของฉินเฟิงและเลื่อนมาที่ขาของเธอ เธอดึงมือของเขาขึ้นมาลึกขึ้นลึกขึ้น...
สุดท้ายแล้วเธอก็หยุดอยู่ตรงที่ต่ำกว่าสวนต้องห้ามของเธอเพียง5 เิเ แม้แต่คอของเธอก็เริ่มแดงขณะที่บอก “ฉะ...ฉินเฟิงฉันให้คุณจับได้เพียงเท่านี้ คะ...คุณยังกลัวอยู่หรือเปล่า?”
ฉินเฟิงรู้สึกถึงความนุ่มและความอบอุ่นบนมือเขารู้สึกว่าสวี่รั่วโหรวใจดีมาก เขาทนแกล้งเธอไม่ไหวอีกต่อไปและดึงมือกลับพร้อมกับลูบแก้มที่ร้อนเป็ไฟของเธอขณะพูดด้วยรอยยิ้ม“หลังจากที่พี่จัดการไอ้หมาหวังเชากับยายพนักงานนั่นและกลับมาพร้อมชัยชนะฉันจะจับขาเธอต่อไปทุกวันเลย”
หลังจากพูดจบฉินเฟิงก็รีบไปที่ออฟฟิศของหลี่อวี่เฉินราวกับสายลม ทิ้งสวี่รั่วโหรวที่เอียงอายกับหัวที่ก้มจนกดกับหน้าอกของเธอ
หวังเชากำลังรอฉินเฟิงในออฟฟิศอย่างยาวนานเมื่อเขาเห็นฉินเฟิงเข้ามา สีหน้าของหวังเชาก็มืดมนเขาอยู่ในโรงพยาบาลสามวันเพราะฉินเฟิงทั้งต่อยและเตะ ตอนนี้เขาอยากจะฆ่ามัน
“ดูสิครับหัวหน้าหลี่ผมเรียกฉินเฟิงมาที่นี่ตั้งนานแล้ว แต่เขาก็เพิ่งมาถึงทั้งที่เขาเพิ่งมาใหม่ในบริษัท แต่กลับแสดงความดื้นรั้นอยู่อีกคนคนนี้ก็เหมือนกับปลิงที่คอยดูดบริษัท”
หลี่อวี่เฉินก็ค่อนข้างโกรธเมื่อเห็นฉินเฟิงเมื่อไรก็ตามที่เขามองเธอ มักจะเป็สายตาหื่นกามตลอด ทั้งแผนกการขายมีแค่ฉินเฟิงเท่านั้นที่กล้ามองเธอแบบนี้ทำให้เธอไม่สบายใจอย่างมาก
“ฉินเฟิงหัวหน้าทีมหวังบอกว่าคุณไม่ได้มาทำงานสามวันและไม่แม้แต่จะขอลานี่เป็บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเว่ยเฉิง ไม่ใช่บ้านของคุณ คุณจะเข้าๆ ออกๆตามใจชอบไม่ได้” หลี่อวี่เฉินกล่าวขณะจ้องฉินเฟิงด้วยความเ็า
สำหรับฉินเฟิงนี่เป็บ้านของเขาเองอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดว่าพ่อของเขาโกรธแค่ไหนเมื่อดูจากเมื่อคืนเขาก็ควบคุมตัวเองไว้ที่เขาไม่ได้มาทำงานสามวันก็เพราะเขาโดนฉินหวงสั่งไม่ให้ออกจากบ้านเขาจึงแอบส่งข้อความไปหาฉินหวงบอกให้แก้ปัญหาเื่นี้
“หัวหน้าหลี่ผมมีเื่สำคัญมากที่ต้องทำในระหว่างนั้น ผมจึงมาไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วงผมค่อนข้างชอบหวงเจียกรุ๊ป ตอนนี้ผมยังไม่มีแผนจะโดดไปบริษัทอื่นหรอก”ฉินเฟิงกล่าวขณะที่ตบอกตัวเองอย่างภูมิใจและเชิดหัวขึ้น
หลี่อวี่เฉินและหวังเชาทั้งคู่ตะลึงงันและมองดูฉินเฟิงด้วยความทึ่งหลังจากนั้นสักพัก หวังเชาก็ะเิเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฮ่าๆๆ ฉินเฟิงนี่แกมีน้ำไหลเข้าสมองเหรอ? ตอนนี้หัวหน้าหลี่กับฉันกำลังพูดคุยกันว่าจะไล่แกออกและแกยังไม่คิดจะขอร้องเราให้แกอยู่ต่อหรืออะไรเลยหรือไง?”
“ฮ่าๆๆพ่ออยากจะหัวเราะให้ฟันหลุด!” หวังเชาหัวเราะบ้าขึ้นและบ้าขึ้นเหมือนกับว่าเขาได้ยินเื่ที่ตลกที่สุดในโลก
ฉินเฟิงไม่ค่อยพอใจและขมวดคิ้ว“ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่เคยคิดเื่ลาออก แต่พอได้ยินนายพูดแบบนี้แล้ว ฉันไม่พอใจเลยตอนนี้หากนายไม่ขอร้องให้ฉันอยู่ต่อ ปู่คนนี้จะออกไปจริงๆ ล่ะ”
“ฮ่าๆๆฉินเฟิง แกคิดว่าตัวเองเป็คนใหญ่คนโตหรือไง? แกอยากออกเหรอ?พ่ออยากให้แกออกจะตายอยู่แล้ว!หวงเจียกรุ๊ปไม่สนใจคนที่เกียจคร้านและไม่กระตือรือร้นอย่างแกหรอก”
ก่อนหน้านี้หลี่อวี่เฉินไม่ได้มีแผนจะไล่ฉินเฟิงออกแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจฉินเฟิง แต่เธอก็เป็คนที่แยกระหว่างเื่ส่วนตัวกับเื่งานออกเธอไม่ปฏิบัติกับคนอื่นด้วยความไม่ยุติธรรมเพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัว
เธอเรียกฉินเฟิงมาที่นี่เพื่อตักเตือนเท่านั้นเขาไม่มาทำงานสามวันโดยไม่ระบุเหตุผลอะไรเลย อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นฉินเฟิงดูวางท่า หลี่อวี่เฉินจึงตัดสินใจว่าเธออาจจะต้องเปลี่ยนแผน
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหลี่อวี่เฉินก็ดังเข้ามาเธอจ้องฉินเฟิงขณะรับโทรศัพท์ เมื่อเธอได้ฟัง เธอก็ตอบกลับ อืมอย่างจริงจังไม่กี่คำก่อนจะวางสาย คงจะเป็บุคคลสำคัญในบริษัท
หลังจากวางสายหลี่อวี่เฉินมองดูฉินเฟิงด้วยท่าทีเปลี่ยนไปทันที ั์ตาสีดำเต็มไปด้วยความใและหลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง เธอมาหาฉินเฟิงขณะที่พูดอย่างใจเย็น “ฉินเฟิงคุณกลับไปทำงานได้แล้ว”
เมื่อหลี่อวี่เฉินกล่าวอย่างนี้หวังเชาก็ดูเหมือนกับกินขี้ไปถังหนึ่ง
วันนี้เขา้าจะใช้ฉินเฟิงที่ขาดงานโดยไม่ระบุเหตุผลเพื่อรายงานหัวหน้าหลี่และลงโทษเขา
เขาไม่เคยคิดว่าหัวหน้าหลี่จะปล่อยฉินเฟิงไปง่ายดายขนาดนี้
“หัวหน้าหลี่ครับฉินเฟิงไม่มาทำงานสามวันและไม่ได้ระบุเหตุผลอะไรอีก คุณทำ...”
ก่อนที่หวังเชาจะพูดจบประโยคออร่ารอบตัวของหลี่อวี่เฉินก็เย็นะเืขึ้นและตัดบทเขาอย่างเ็า“หัวหน้าทีมหวัง คุณไม่พอใจกับการตัดสินของดิฉันเหรอ? ตกลงคุณหรือดิฉันกันแน่ที่เป็หัวหน้างานของแผนกการขาย?”
หวังเชาใจนเงียบหลี่อวี่เฉินมีชื่อเสียงในแผนกการขายเื่ความเ็า เข้มงวด และไร้อารมณ์ไม่มีใครกล้าคัดค้านเธอ
แม้ว่าหวังเชาจะไม่เข้าใจว่าทำไมท่าทีของหลี่อวี่เฉินถึงเปลี่ยนไปทันทีเขาก็ทำได้แค่ยอมแพ้ ในอนาคต เมื่อเขามีโอกาส เขาจะลงโทษฉินเฟิง
หวังเชากำลังเดินออกด้วยสีหน้าบูดบึ้งแต่เสียงของฉินเฟิงก็ดังออกมา
“เดี๋ยวสิฉันบอกว่าถ้านายไม่ขอร้องให้ฉันอยู่ต่อ ฉันจะเซ็นใบลาออกวันนี้นะ”ฉินเฟิงกล่าวขณะที่มือประสานไว้บนท้ายทอยพร้อมกับยิ้มให้หวังเชา
หวังเชากัดฟันและกล่าว“ถ้าแกอยากออกก็ออกไปสิ พ่อจะดีใจมากเลยถ้าแกออก”
เมื่อเขากำลังจะออกไปอีกครั้งหลี่อวี่เฉินก็พูดอย่างเ็า “หัวหน้าทีมหวัง ถ้าฉินเฟิงออกด้วยคำพูดของคุณจริงๆละก็คุณก็ออกไปกับเขาด้วยเลย”
ท่าทีของหลี่อวี่เฉินเปลี่ยนไป180 องศาเพราะโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งรับสาย เพราะมันโทรมาจากรองผู้จัดการฝ่ายบริหารหวังจุน เขาอธิบายเหตุผลที่ฉินเฟิงไม่ได้มาสามวันและบอกหลี่อวี่เฉินว่าอย่าทำเื่ยากกับฉินเฟิง
หลี่อวี่เฉินไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างหวังจุนกับฉินเฟิงแต่เธอจะหาเื่หวังจุนไม่ได้ด้วยเหตุนี้เธอต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ฉินเฟิงอยู่ต่อ
“หะ...หัวหน้าหลี่ผมได้ยินผิดไปหรือเปล่า?” หวังเชาตะลึงขณะจ้องหลี่อวี่เฉินอย่างโง่ๆ
“คุณจะแกล้งไม่ได้ยินและออกไปทันทีเลยก็ได้นะ”ออร่ารอบตัวของหลี่อวี่เฉินเย็นะเืขึ้น เป็หลักฐานว่าเื่นี้มองข้ามไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้