เมื่อครู่ขณะที่ทำสมาธิอยู่ ผังเมืองซานเหอที่อยู่ในส่วนลึกของทะเลจิตสำนึกเกิดการเคลื่อนไหวเล็กน้อย จากนั้นพลังมิติที่รุนแรงพลันปะทุออกมาราวกับสายน้ำหลาก
พลังมิติเช่นนี้เขาคุ้นเคยเป็อย่างดี เพราะมันคือไอพลังภายในผังเมืองซานเหอ
แม้พลังขั้นเซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์จะแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเซียนถึงสามคนพร้อมๆ กัน และสังหารตายไปคนหนึ่งได้ เขาต้องพึ่งศาสตราเทพอย่างผังเมืองซานเหอชิ้นนี้ด้วย
ตอนนี้ไอพลังของมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร
หลังจากเรียกเสี่ยวเหยียนไปแล้วแต่ยังไม่มีเสียงตอบกลับมา เขาจึงหลับตาลงอีกครั้งและตรวจสอบเข้าไปภายในทันที
ในส่วนลึกของทะเลจิตสำนึก
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนปรากฏขึ้น ร่างจิติญญาของเขาเด่นชัดกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย ด้วยพลังยุทธ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ร่างจิติญญาของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนสภาพเป็มีตัวตนทีละน้อยจนเป็อย่างในตอนนี้
ภายในทะเลจิตสำนึกเต็มไปด้วยหมอก ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนล่องลอยอยู่ภายในนั้นราวกับอยู่ในอาณาจักรเซียน
เมื่อปรากฏตัวขึ้นในทะเลจิตสำนึก ร่างของเขาก็เคลื่อนที่ไปอย่างต่อเนื่องจนมาถึงเบื้องหน้าผังเมืองขนาดใหญ่ในเวลาไม่นาน
ตอนนี้ผังเมืองยังคงถูกปิดผนึกอยู่ มันเปิดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหมือนภาพที่ถูกม้วนแล้ววางอยู่ในแนวตั้ง
ส่วนที่เปิดออกนั้นมีพลังมิติพวยพุ่งออกมาไม่หยุดหย่อน
แม้จะเปิดออกเพียงเล็กน้อย แต่เสิ่นเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ แววตากลับฉายความตื่นเต้นออกมาอย่างอธิบายเป็คำพูดไม่ได้
“ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดก็เปิดได้สักที”
เสิ่นเสวียนมองม้วนภาพนั้นพลางกล่าวพึมพำ
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วจริงๆ แม้เขาจะฟื้นขึ้นมานานแล้ว แต่ก็รู้สึกเหมือนเื่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่มีใครรู้เลยว่าต้องใช้เวลานานมากแค่ไหน อาจเพียงพริบตาเดียว หรืออาจนานมากจนนับไม่ได้ ตอนนั้นเขาเก็บของทุกอย่างไว้ในม้วนภาพนี้ และผนึกมันไว้ในส่วนลึกของทะเลจิตสำนึกด้วยเคล็ดวิชาชั้นสูงก่อนที่จะะเิตนเอง
และความจริงก็พิสูจน์แล้วว่า ทุกอย่างที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้ว
ศาสตราเทพมีความอัศจรรย์ของศาสตราเทพอยู่ ผังเมืองซานเหอทำให้เศษเสี้ยวิญญาของเขาหนีมาได้จนมีทุกวันนี้
ต่อมา เสิ่นเสวียนที่ยืนอยู่ตรงนั้นพลันสลายร่างให้กลายเป็หมอกิญญา พุ่งเข้าไปรวมตัวอยู่ที่ผังเมืองซานเหอ
หมอกิญญาเ่าั้พุ่งเข้าชนม้วนภาพและหายเข้าไปในม้วนภาพทันที
ภายในโลกที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง จิติญญาของเสิ่นเสวียนรวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้งจนกลายเป็ร่างจิติญญาของเขา
เสิ่นเสวียนมองโลกว่างเปล่าตรงหน้า ที่ปลายสุดของสายตาเขาคือเ้าตัวเล็กสีแดงเพลิงกำลังฉุดกระชากบางอย่างอยู่ตรงนั้น หางขนฟูสีแดงสดโบกสะบัดไปมาไม่หยุด ดูน่ารักอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นเ้าตัวเล็กเสิ่นเสวียนก็ยิ้มออกมาน้อยๆ และเคลื่อนที่เข้าไปหามันอย่างรวดเร็ว
ที่นี่คือทะเลจิตสำนึกของเขา เขาคือเ้าของที่นี่ ระยะห่างเท่านี้สำหรับเขาแล้วไม่มีพันธนาการใดๆ
“เสี่ยวเหยียน”
เสิ่นเสวียนมาถึงด้านหลังของเสี่ยวเหยียนแล้วส่งเสียงเรียกมัน
เสี่ยวเหยียนที่กำลังฉุดกระชากบางอย่างอยู่ได้ยินเสียงของเสิ่นเสวียนจึงหยุดทันทีแล้วหันมองเสิ่นเสวียน จากนั้นเขาบนหัวของเสี่ยวเหยียนพลันมีเปลวเพลิงพวยพุ่ง แล้วกระโจนเข้าสู่อ้อมอกของเสิ่นเสวียนด้วยสีหน้าดีใจ พร้อมใช้ใบหน้าคลอเคลียเสิ่นเสวียนไม่หยุด
“จี๊ดๆ จี๊ดๆ”
มันคลอเคลียเสิ่นเสวียนพลางส่งเสียงร้อง มันไม่ได้เจอเสิ่นเสวียนมานานหลายวันแล้ว ต้องใช้ชีวิตอยู่ในนี้มาตลอดทำให้มันรู้สึกเหงา
เสี่ยวเหยียนในตอนนี้ตัวโตขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังดูตัวเล็กมาก ยังคงอยู่ใน่วัยเด็ก
เสิ่นเสวียนอุ้มเสี่ยวเหยียนไว้ในอกแล้วรู้สึกสบายใจมาก เทียบกับมนุษย์แล้ว เขาชื่นชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งแปลกประหลาดเหล่านี้มากกว่า สัตว์วิเศษมีความรู้สึกนึกคิดที่บริสุทธิ์ ไม่ได้จิตใจชั่วร้ายขนาดนั้น หากทำดีกับพวกมัน พวกมันก็จะทำดีตอบกลับมา
ซึ่งไม่เหมือนกับมนุษย์ จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง รู้หน้าไม่รู้ใจ ต่อให้ทำดีด้วยก็ไม่แน่ว่าจะได้ความดีตอบแทนกลับมา และอาจโดนลอบทำร้ายก็ได้
คิดไปถึงคนที่เขาให้ความสำคัญอย่างที่สุดคนหนึ่งเมื่อก่อนนี้ คนผู้นั้นกลับตอบแทนด้วยการทำร้ายจนเกือบทำให้เขาต้องกลายเป็จุณไป หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยเชื่อใจใครอีกเลย กระทั่งถึงตอนนี้
แม้แต่ในโลกใหม่แห่งนี้ เขารู้สึกว่าเสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนก็ไม่เลว แต่ยังไม่ได้เชื่อใจพวกเขาเต็มที่ขนาดนั้น
“ลำบากเ้าแล้วเสี่ยวเหยียน”
เสิ่นเสวียนกอดเสี่ยวเหยียนไว้พลางกล่าวชื่นชมมัน หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวเหยียน ผังเมืองซานเหอไม่มีทางคืบหน้าได้มากขนาดนี้ แม้การเปิดผนึกยังต้องรอไปอีกสักระยะ แต่คงอีกไม่นานแล้วหากเป็เช่นนี้ไปเรื่อยๆ
“จี๊ดๆ”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าให้เสิ่นเสวียนเบาๆ มันเชื่อฟังคำสั่งของเสิ่นเสวียน และเข้าใจในสิ่งที่เสิ่นเสวียนกล่าว
เสิ่นเสวียนอุ้มเสี่ยวเหยียนมาตรงหน้ากำแพงมิติว่างเปล่า แล้วใช้ร่างจิติญญาัักำแพงนั้น และเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อผ่านกำแพงมิตินี้ไปแล้วต้องเจอกับอะไร
ที่นี่คือคลังพาหนะของเสิ่นเสวียน
ในนี้มีพาหนะหลากหลายชนิดที่เขาเก็บไว้ แน่นอนว่าพาหนะเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็กระบี่เวหาที่เหาะได้
ในนี้ยังมีกระบี่เซียนเก็บไว้อีกเจ็ดเล่ม มันถูกเขาสร้างขึ้นเป็ค่ายกลกระบี่เวหา เมื่อกระตุ้นขึ้นมาแล้วและไปยืนอยู่บนกระบี่เล่มที่อยู่ตรงกลาง จะมีกระบี่ขนาบข้างละสามเล่ม ซึ่งดูสง่างามมาก
เมื่อคิดไปถึงว่ากระบี่เวหาเหล่านี้จะอยู่ในมือเขาในอีกไม่นาน แค่นี้เขาก็ตื่นเต้นมากแล้ว
เสี่ยวเหยียนััได้ถึงความตื่นเต้นของเสิ่นเสวียนก็เหมือนจะเข้าใจเสิ่นเสวียนมากขึ้น มันะโลงไปทันที เปลวเพลิงสีแดงฉานพวยพุ่งออกมาจากเขาบนหัวของมัน ขาทั้งสี่ข้างก็มีประกายไฟปะทุออกมา จัดการกระชากกำแพงมิติตรงหน้าอย่างไม่ลดละ
“ขอบใจเ้ามากเสี่ยวเหยียน ลำบากเ้าแล้ว”
เสิ่นเสวียนลูบหัวเสี่ยวเหยียนที่กำลังทำงานอย่างแข็งขันด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม
ในโลกใหม่แห่งนี้ เสี่ยวเหยียนคือสหายที่เข้าใจเขาอย่างแท้จริง
เสิ่นเสวียนมองเสี่ยวเหยียนที่กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น เขาจึงไม่รบกวนมันอีกและถอยหลังออกไป
เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าผังเมืองซานเหอ แล้วมีช่องโหว่เกิดขึ้นภายในมิติ แสดงว่ามันกำลังจะเปิดออกแล้ว
อาจเป็สิบวัน อาจเป็หนึ่งวัน หรืออาจแค่พริบตาเดียว
ร่างจิติญญากลับออกมาจากทะเลจิตสำนึกแล้ว
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นเดินไปมาอยู่ในเรือน เสี่ยวเหยียนยังช่วยเหลือเขาอย่างไม่หยุดพัก เขาเองก็มิอาจฝึกฝนนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้ได้อีกแล้ว อีกทั้งตอนนี้เขาฝึกฝนมาถึงจุดอิ่มตัวแล้วด้วย ใช่ว่าการฝึกฝนเพียงอย่างเดียวจะทำให้เลื่อนขั้นขึ้นไปได้
เสิ่นเสวียนผลักประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก
เขาเห็นเรือนของเสิ่นเสี่ยวเม่ยดับไฟไปแล้ว เริ่นเสี้ยวเทียนก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาจึงแอบออกไปจากที่นั่นอย่างเงียบเชียบ
ณ แอ่งเถียนซือ
เสิ่นเลี่ยนยืนอยู่ภายในนั้น ในมือของเขาถือกริชไว้เล่มหนึ่ง ซึ่งเป็เล่มที่เสิ่นเสวียนมอบให้เขา
เขาในตอนนี้มีสีหน้าเคร่งขรึม ไร้ความหวาดกลัวไปนานแล้ว
เขาเดินไปมาอยู่ภายในแอ่งเถียนซือ
ส่วนเสิ่นเสวียนกลับมองเห็นบรรยากาศภายในแอ่งเถียนซือต่างออกไป เขาสามารถมองเห็นิญญาร้ายเ่าั้ได้ เสิ่นเลี่ยนกำลังต่อสู้กับิญญาร้ายเ่าั้อยู่ เพียงแต่ว่าในขณะที่ต่อสู้ กริชนั้นมิอาจสังหารอีกฝ่าย ทำได้เพียงให้ฝ่ายตรงข้ามาเ็เท่านั้น
เสิ่นเสวียนไม่ได้เข้าไปในทันที แต่เฝ้าดูอยู่ข้างๆ
เสิ่นเลี่ยนในตอนนี้กำลังทำได้ดีแล้ว แววตาโเี้ กริชในมือสามารถกรีดทะลุร่างคู่ต่อสู้ได้ หากอีกฝ่ายมีร่างกายจริงๆ คงกลายเป็ศพไปแล้ว
ขณะที่ต่อสู้ รูปร่างภายนอกของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็สตรีนางนั้น และทันทีที่แปรเปลี่ยนเป็นาง ร่างของเขาก็เหมือนล่องหนได้และเลือนหายไปจากตรงนั้นทันที
“มือสังหารต้องสำเร็จในก้าวเดียว เ้าพลาดโอกาสไปมากแล้ว”
ขณะนั้นเอง เสิ่นเสวียนเดินออกมาแล้วกล่าวกับเสิ่นเลี่ยนภายในแอ่งเถียนซือ
“หากเจอคนที่แข็งแกร่งกว่าเ้า ตอนนี้เ้าคงกลายเป็ศพไปแล้ว”