เมืองชิงหยูที่ไม่เคยเงียบสงบ สถานที่ที่ถูกตั้งขนานนามว่าเป็เมืองไม่เคยหลับ แม้ในยามค่ำคืนยังหนาแน่นเต็มไปด้วยแสงไฟและฝูงชน โดยเฉพาะฝั่งทางทิศตะวันตกของเมือง
ยิ่งในคืนนี้ มีสิ่งกระตุ้นให้เหล่าผู้คนที่รักสนุกตื่นตัวมากขึ้นเป็พิเศษ ทางถนนจึงเต็มไปด้วยบรรดารถม้าของผู้มีฐานะ ที่ต่างวิ่งมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
และจุดหมายของรถม้าทุกคัน จะไปหยุดอยู่ที่ไหนไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ 'หอนางโลม อ้ายซ่าง'
ทุกสามเดือนหอนางโลมอ้ายซ่าง จะมีเปิดให้ประมูลพรหมจรรย์สาวงาม วันนี้คือครบกำหนดสามเดือนนั้นพอดี
ไม่ต้องมีเทียบเชิญ บุรุษทุกคนก็ต่างพร้อมใจกันมาอย่างพร้อมเพียง ยิ่งครั้งนี้เป็การเปิดประมูลพรหมจรรย์ของ 'หรูรั่วซี'
ั้แ่นางปรากฎตัวที่หอนางโลมอ้ายซ่าง บุรุษทุกคนต่างเฝ้ารอให้ถึงวันนี้
วันที่จะได้เป็ผู้เปิดพรหมจรรย์ของนางเป็คนแรก
หอนางโลมอ้ายซ่าง เป็หอคณิกาอันดับหนึ่งในเมืองชิงหยู และนับเป็อันดับต้น ๆ ของแคว้นก็ว่าได้ บุรษที่มาใช้บริการหากมีเงินถุงเงินถังไม่มากพอ ก็อย่าหวังว่าจะได้เหยียบเข้าใกล้
หออ้ายซ่างมีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง ก่อสร้างอาคารสูงถึงห้าชั้น ตัวหอตั้งตระหง่านอยู่ในเขตพื้นที่ด้านตะวันตกของเมือง ในแต่ละชั้นประดับตกแต่งสีฉูดฉาด เสาแต่ละต้นประกอบไปด้วยภาพวาดการเสพสังวาสมิรู้จบ ไว้สำหรับแขกท่านใดที่นึกท่วงท่ามิออก ก็สามารถหยิบยืมท่าสวาทจากต้นเสาไปใช้งานได้
บรรยากาศในหออ้ายซ่างตอนนี้ เต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมการประมูล โดยมีเหล่าสาวงามที่สวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น คอยเดินให้บริการแขกทุกคนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ทั้งนี้ระดับแขกที่ร่วมประมูลจะแบ่งระดับกันจากที่นั่งต่างชั้น ยิ่งเงินหนาก็ยิ่งได้นั่งอยู่ชั้นสูงของหอ บริเวณลานกลางแสดงมีดนตรีบรรเลง ให้นางรำร่ายรำระหว่างคอยเวลาที่จะเริ่มประมูล
ปัง ปัง ปัง
เสียงกลองดังขึ้นเพื่อเรียกความสนใจของแขกทุกคน เสียงทุกอย่างจึงเงียบลงหลังจากได้ยินเสียงกลอง บนเวทีมีสาวงามปรากฎกายขึ้น อาภรณ์ที่หญิงสาวสวมใส่ยังออกแบบมาเพื่อยั่วยวนสายตาจากแขกทุกคน
แขกบางคนถึงกับจ้องหวังได้ ทั้ง ๆ ที่ฝ่ามือยังล้วงรูสวาทนางโลมข้างกายไม่หยุด
"หนี๋เอ๋อร์ต้องขอรบกวนเวลาแขกทุกท่านแล้ว เนื่องจากยามนี้ได้ถึงเวลาอันดี ที่จะเริ่มประมูลพรหมจรรย์ของซีเอ๋อร์ของเราแล้ว"
สิ้นคำประกาศ ทุกคนต่างชะโงกหน้าออกมาจากระเบียง หวังเชยชมสาวงามที่ตนตั้งใจหอบเงินก้อนโต เพื่อมาประมูลนางในครั้งนี้
เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง หญิงงามที่ทุกคนเรียกหาก็ปรากฎกายขึ้น เรือนร่างอรชรสวมใส่อาภรณ์สีแดงเพลิงตัดกับผิวกายขาวดุจหิมะ ใบหน้าเรียวประกอบด้วยความงามที่ลงตัวขององคาพยพทั้งห้า
ทรวงทรงโค้งเว้าได้รูป ส่วนไหนควรนูนก็นูน ส่วนไหนควรเว้าก็เว้า ยิ่งหน้าอกอวบอิ่มที่ถูกบีบล้นขึ้นมาจากชุดสวย จงใจยั่วยวนให้บุรุษทุกคนได้น้ำลายหก โดยเฉพาะเรียวขาเนียนที่โผล่ให้เห็นยามนางก้าวเดิน เพราะอาภรณ์แหวกเป็ใจ ทำให้ยากที่จะหยุดมองนางได้
"ทุกท่านนี่คือ หรูรั่วซี สตรีที่รอให้ทุกท่านได้ประมูลในค่ำคืนนี้ เพื่อจะได้นางไปเ้าค่ะ"
เสียงโห่ร้องกลับมาดังก้องหออ้ายซ่างอีกครั้ง หลังจากความเงียบระหว่างชมสาวงาม
หรูรั่วซีไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางทำเพียงยืนกลางเวที ให้พี่หนี๋เอ๋อร์ของนาง เป็ผู้คอยประกาศดำเนินพิธีการไปผู้เดียว
"ทองคำสิบชั่ง" ชายอ้วนชั้นล่างะโบอกจำนวนทองคำที่ประมูลออกมาคนแรก
เนื่องจากหรูรั่วซีเป็หญิงสาวที่ชมชอบทองคำเป็พิเศษ การประมูลนางวันนี้จึงได้ตั้งกฎแปลกจากทุกที คือการใช้ทองคำแทนเงินในการประมูล
"เฮอะ มีทองคำเท่านี้ยังมีหน้ามาบอกประมูลคนแรก ข้าให้ห้าสิบชั่ง"
"ข้าให้หนึ่งร้อยชั่ง"
"ข้าสองร้อยชั่ง"
จำนวนทองคำเริ่มถูกะโขึ้นมาไม่หยุด จำนวนถูกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนบุรุษชั้นหนึ่งและสองเริ่มเงียบลง ได้แต่ทำหน้าเสียดาย เพราะพวกเขาไม่อาจสู้
"ข้าห้าร้อยชั่ง"
เป็เสียงที่ดังลงมาจากชั้นสามของหอ ทำให้ตอนนี้ทุกคนต่างเริ่มมีความลังเล ทองคำจำนวนไม่น้อย หากให้มาเสียเพราะการประมูลพรหมจรรย์นางโลมนางหนึ่งคงไม่ใช่ที่
ทว่าหากพลาดนางไปก็น่าเสียดาย ความคิดตอนนี้จึงตีรวนกันในหัวยิ่งนัก
"ข้าให้หนึ่งพันชั่ง"
ครานี้เป็เสียงดังลงมาจากชั้นบนสุดของหอ ทำให้ทุกคนพร้อมใจกันเงียบเสียงลงอีกครั้ง
ผู้ใดกัน ทองคำจำนวนเยอะเช่นนี้ ยังเอามาทิ้งเล่นกับนางโลมได้
"ตอนนี้ราคาอยู่ที่หนึ่งพันชั่ง มีผู้ใดจะเสนอให้มากกว่านี้อีกหรือไม่เ้าคะ ถ้าไม่มีหนี๋เอ๋อร์จะเริ่มนับแล้วนะเ้าคะ"
เมื่อสิ้นสุดเสียงประกาศ ทุกคนจึงตกอยู่ในความเงียบและจมอยู่ในความคิด แม้อยากจะได้พรหมจรรย์หรูรั่วซีมาครองมากเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่อาจวางทองคำสู้ต่อได้แล้ว
ทว่าถึงจะไม่ได้นางมาครองในคืนนี้ สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องรับลูกค้าในคืนต่อ ๆ ไปอยู่ดี วันหน้าพวกเขาค่อยมาใหม่ก็ยังไม่สาย
พอคิดได้เช่นนี้ พวกเขาจึงพากันปล่อยวางความเสียดาย และวางแผนที่จะมาหาหญิงสาวในคืนต่อไปแทน
"หนึ่งพันชั่งครั้งที่หนึ่ง”
“หนึ่งพันชั่งครั่งที่สอง”
“หนึ่งพันชั่งครั่งที่สาม"
ปัง ปัง ปัง
หลังสิ้นเสียงขานครั้งที่สาม เสียงกลองก็ดังขึ้นเพื่อประกาศสิ้นสุดการประมูลสาวงามในค่ำคืนนี้ทันที
และนับว่าคืนนี้เป็การปิดประมูลที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทั้งยังเป็การประมูลที่ราคาแพงที่สุดที่หออ้ายซ่างเคยมี
"คืนนี้ซีเอ๋อร์ต้องฝากตัวกับคุณชายเฟิงด้วยนะเ้าคะ"
***************************
นิยายเื่นี้มีจัดทำเป็ E book แล้วนะคะ
สามารถเสิร์จหาจากชื่อนิยายหรือชื่อนักเขียน Hawthorn ใน meb ได้เลยค่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้