เรือนสี่ประสานหลังที่เธอซื้อนั้นอยู่ที่สือช่าไห่ เซี่ยจื่ออวี้จะเห็นได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ตอนไปที่เรือนสี่ประสานที่ซีซานหวน [1] เพราะเซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยอาศัยอยู่ที่นั่น เซี่ยเสี่ยวหลานจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะซื้อเรือนสี่ประสานหลังนั้น
เรือนสี่ประสานที่หนานหลัวกู่กับสือช่าไห่ เซี่ยจื่ออวี้ไม่มีทางรู้จักอย่างแน่นอน ยุคนี้การบันทึกข้อมูลหลายอย่างยังไม่เป็ระบบระเบียบ เซี่ยจื่ออวี้ย่อมไม่มีทางสืบได้ว่าเธอมีอสังหาริมทรัพย์ในความหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าเซี่ยจื่ออวี้ไม่มีทางพูดโดยไม่หวังผล เช่นนั้นนี่คงเป็หลุมพรางที่ขุดรอเธอตกลงไปสินะ!
หลุมพรางอะไร?
เซี่ยเสี่ยวหลานพอเดาได้ และรอดูอย่างเงียบๆ ว่าเซี่ยจื่ออวี้คิดจะทำอะไรต่อไป
ความจริงแล้วคนอื่นๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็พิเศษ ซื้อเรือนเล็กๆ แถบชานเมืองปักกิ่งใช้เงินแค่สองสามหมื่นหยวนเท่านั้นมิใช่หรือ สามารถคบค้าสมาคมกับกวนฮุ่ยเอ๋อได้ อีกทั้งถ้าพ่อแม่ทำงานด้วยกันทั้งคู่ เงินเดือนที่ได้ไม่ต้องเอาไปเลี้ยงดูคนนับสิบคน หรือใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท จะมีเงินเก็บสักสองสามหมื่นย่อมไม่ใช่ปัญหา
ตำแหน่งยิ่งสูงเงินเดือนก็ย่อมเพิ่มขึ้นตาม นอกจากค่าอาหาร เสื้อผ้า และค่าเช่าจำนวนน้อยนิดต่อเดือน รวมถึงยามป่วยไข้ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน หากเป็เช่นนี้แน่นอนว่าการเก็บออมเงินนั้นค่อนข้างง่าย
คนต่างมณฑลซื้อบ้านที่ปักกิ่งแล้วอย่างไร แสดงว่าแฟนของโจวเฉิงอยากลงหลักปักฐานที่ปักกิ่งจากใจจริง มองในมุมของฝ่ายหญิงถือว่าจริงใจมากพอแล้วน่ะสิ!
ทว่าหร่านซูอวี้คือผู้ที่รู้พื้นเพของตระกูลเซี่ยเป็อย่างดี ทั้งตระกูลไม่มีญาติคนไหนเป็ที่นับหน้าถือตาได้ ทุกคนล้วนเป็ชาวชนบทที่ยากจน ก่อนหน้านี้เธอนึกว่าพ่อแม่ของเซี่ยจื่ออวี้นั้นมีความสามารถ สุดท้ายก็เป็แค่พวกเปิดแผงขายอาหารว่างข้างทางที่ปักกิ่ง หรือว่าตระกูลโจวเป็คนซื้อเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งให้กับเซี่ยเสี่ยวหลาน?
โจวเฉิงพึงพอใจในตัวว่าที่ภรรยาขนาดนี้เชียวหรือ?
“ครอบครัวพวกเธอช่างดีกับสะใภ้มากจริงๆ!”
แม้ปากจะกล่าวเช่นนั้น แต่ในใจหร่านซูอวี้กลับคิดถึงจุดประสงค์ของการพูดถึงเื่นี้ของเซี่ยจื่ออวี้ เธอกำลังบอกใบ้ให้ตระกูลหวังซื้อบ้านให้เซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยตั้งรกรากหรือเปล่า? ฝันไปเถอะ ต่อให้ตระกูลหวังมีเงินเหลือใช้ก็ไม่มีทางจ่ายให้
กวนฮุ่ยเอ๋อเริ่มรู้สึกผิดสังเกต พี่สาวของเสี่ยวหลานผู้นี้ช่างพูดจาคลุมเครือไม่ชัดเจน อยากทำให้คนอื่นคิดไกลหรืออย่างไรกัน?
อะไรคือการบอกว่าเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานไปซื้อบ้านกับคู่ครอง คิดว่าตระกูลโจวเป็ผู้ซื้อเรือนสี่ประสานที่สือช่าไห่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานอย่างนั้นหรือ?
แววตาของกวนฮุ่ยเอ๋อมีความเคลือบแคลงใจ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ไม่คิดจะไว้หน้าอีกฝ่าย
“พี่คงไม่เคยเจอคู่ครองของฉันสินะคะ อย่างไรก็ตามเื่ซื้อบ้านคงไม่เหมาะจะนำมาพูดในสถานที่เช่นนี้ พี่คิดว่าอย่างไรคะ”
ถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็งานเลี้ยงแห่งการโอ้อวดน่ะสิ ผู้ร่วมงานมีทั้งคนที่ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน และคนที่ไม่จำเป็ต้องซื้อเองเนื่องจากรัฐจัดสรรบ้านพักให้ มีแค่คนต่างถิ่นเท่านั้นที่เห็นความสำคัญของบ้านเช่นนี้ ไม่มีบ้านเท่ากับไม่มีรกรากที่ปักกิ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานมีปมเื่นี้ และเชื่อว่าเซี่ยจื่ออวี้ก็มีเช่นกัน
เซี่ยจื่ออวี้ส่งยิ้มให้เซี่ยเสี่ยวหลานอย่างอ่อนโยน “เจี้ยนหัวเป็คนเห็นน่ะ น้องกับคู่ครองเป็นักศึกษาหัวชิงเหมือนกันมิใช่หรือ พี่ไม่ได้มีเจตนาอื่น ก็แค่รู้สึกว่าคู่ครองของน้องดีกับน้องมากจริงๆ และคุณน้ากวนก็ดีกับน้องมากเช่นกัน”
เดิมทีเซี่ยจื่ออวี้อยากกล่าวว่า เด็กที่มาจากชนบทอย่างเธอกับเซี่ยเสี่ยวหลานอยากซื้อบ้านที่ปักกิ่งนั้นไม่ง่าย แต่หากพูดเช่นนั้นก็จะตรงเกินไป ไม่มีประโยชน์ในการยุยงน่ะสิ
บางครั้งก็ต้องเว้นช่องว่างให้คนอื่นจินตนาการเอาเองบ้าง จะได้ผลดีกว่าการพูดออกมาอย่างชัดเจน
หวังเจี้ยนหัวเป็คนเห็นอย่างนั้นหรือ?
คนที่เขาเห็นคือจี้เจียงหยวนไม่ใช่รึ?
เซี่ยเสี่ยวหลานตื่นตัวทันที เซี่ยจื่ออวี้ช่างเป็พวกชอบทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดเสียจริง!
“คุณน้ากวน ที่พี่สาวฉันพูดถึงน่าจะเป็จี้...”
เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าใจแล้ว ครั้งก่อนที่หน้าหัวชิง หวังเจี้ยนหัวเห็นเธอกับจี้เจียงหยวนมีท่าทีที่ค่อนข้างสนิทกัน ดังนั้นจึงคิดว่าจี้เจียงหยวนคือคู่ครองของเธอสินะ
เซี่ยเสี่ยวหลานลองคิดแบบพวกไร้สมอง เื่ตนวางแผนซื้อเรือนสี่ประสาน เซี่ยฉางเจิงเป็คนเห็นเองกับตา เช่นนั้นเซี่ยจื่ออวี้ย่อมรู้เื่นี้ด้วย ทว่าเซี่ยจื่ออวี้ไม่รู้ว่าเธอได้ซื้อบ้านหรือเปล่า เมื่อครู่พอเจอกันจึงพยายามหลอกล่อหาคำตอบ พอเห็นเธอไม่ได้เถียงกลับ เซี่ยจื่ออวี้จึงมั่นใจว่าเธอซื้อเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งแล้วจริงๆ
เรือนสี่ประสานที่ซีซานหวนหลังนั้น เ้าของบ้านเรียกราคาหลายหมื่น เซี่ยจื่ออวี้คงสงสัยว่าเธอมีเงินซื้อได้อย่างไร จึงเกิดความเข้าใจผิดว่าจี้เจียงหยวนเป็แฟนของเธอ และนึกว่าแฟนเธอเป็คนออกเงินให้?
ท่าทางของจี้เจียงหยวนแค่มองก็รู้ว่าเป็คนมีเงิน!
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าคงไม่ผิดไปจากที่ตนคาดเดาสักเท่าไร แต่เซี่ยจื่ออวี้ลากใครไม่ลาก ดันลากเธอกับจี้เจียงหยวนมาเกี่ยวข้องกันเสียได้
พอเซี่ยเสี่ยวหลานพูดเช่นนี้กวนฮุ่ยเอ๋อก็เข้าใจทันที เป็ไปอย่างที่โจวกั๋วปินกล่าวไว้ คนตระกูลหวังโลกแคบกันทุกคน
“เจี้ยนหัว น้าเห็นหลานมาั้แ่ยังเล็ก เมื่อก่อนหลานเป็เด็กฉลาดเฉลียว ทว่าหลานจำโจวเฉิงไม่ได้แล้วหรือ หลานกับโจวเฉิงไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น ตอนนี้โจวเฉิงอยู่ที่กองทัพ ไม่ได้เป็เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกับเสี่ยวหลาน... อย่างไรก็ตามที่มหาวิทยาลัยมีผู้ชายหลายคนตามจีบเสี่ยวหลาน นั่นก็เพราะคนเก่งไม่ว่าจะชายหรือหญิงการมีคนจีบย่อมไม่ใช่เื่แปลกจริงหรือไม่ อีกอย่างก่อนรู้ข้อเท็จจริง น้าคิดว่าเื่บางเื่ก็ไม่ควรพูดเหลวไหล หลานคิดว่าจริงไหม”
หวังเจี้ยนหัวหน้าแดงลามไปถึงใบหู
นักศึกษาชายของหัวชิงคนนั้นแค่ดูก็รู้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับเซี่ยเสี่ยวหลาน หากบอกว่าทั้งคู่ไม่ได้มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว หวังเจี้ยนหัวไม่มีทางเชื่อแน่นอน
ทว่าตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานกลับกลายเป็แฟนสาวที่โจวเฉิงพาเข้าบ้าน และดูท่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะได้รับการยอมรับจากตระกูลโจวแล้ว มิเช่นนั้นกวนฮุ่ยเอ๋อคงไม่พามางานเชื่อมสัมพันธ์ และกางปีกปกป้องเช่นนี้น่ะสิ!
กวนฮุ่ยเอ๋อกำลังเตือนเขาว่าอย่าพูดจาเหลวไหล
“คุณน้ากวน ต้องขออภัยด้วยครับ เป็ผมที่อธิบายกับจื่ออวี้ไม่ชัดเจนเอง เธอไม่รู้จักโจวเฉิงจึงเข้าใจผิดไป”
เซี่ยจื่ออวี้ไม่กล้าพูดมากอีกต่อไป กวนฮุ่ยเอ๋อผู้นี้ดูน่าเกรงขามเหลือเกิน
ทว่ากวนฮุ่ยเอ๋อไม่มีทางปล่อยเซี่ยจื้ออวี้ไปง่ายๆ จึงหันศีรษะมากล่าวว่า
“เสี่ยวหลานเป็คนยอดเยี่ยมแค่ไหนครอบครัวเราย่อมรู้ดี เธอมาจากเมืองเล็กๆ แต่สามารถสอบเข้ามาเรียนที่ปักกิ่งได้ ที่เธอสอบติดมหาวิทยาลัยหัวชิงก็เพราะเธอทั้งฉลาดและขยันหมั่นเพียร และยิ่งไปกว่านั้นคือเธออาศัยความสามารถของตัวเอง ร่วมแรงร่วมใจกับคนในครอบครัวจนสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้ เื่ซื้อบ้านที่ปักกิ่ง ตระกูลโจวไม่เคยให้ความช่วยเหลือทั้งด้านเงินทองหรือลู่ทาง อย่างไรก็ต้องขอบคุณที่หลานเป็ห่วงเสี่ยวหลาน แต่เื่นี้หากอธิบายไม่ชัดเจนจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย!”
ก็แค่อยากทำให้เธอรู้สึกไม่ดีกับเซี่ยเสี่ยวหลานมิใช่หรือ?
นึกว่าเธอไม่รู้เื่ซื้อเรือนสี่ประสานหรืออย่างไร?
กวนฮุ่ยเอ๋อเชื่อมั่นในตัวลูกชายตนเอง โจวเฉิงบอกว่าเรือนสี่ประสานที่สือช่าไห่เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนซื้อเอง โจวเฉิงไม่เคยควักเงินสักแดงเดียว กวนฮุ่ยเอ๋อย่อมเชื่อลูกชายของตนเองอยู่แล้ว
เื่เงินทอง เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยเอาเปรียบตระกูลโจวแม้แต่น้อย
เมื่อวานกวนฮุ่ยเอ๋อเพิ่งได้ฟังเซี่ยเสี่ยวหลานเล่าเื่ธุรกิจของตน เซี่ยเสี่ยวหลานทำธุรกิจทั้งที่ซางตูและเผิงเฉิง ดังนั้นความสามารถในการซื้อเรือนสี่ประสานย่อมเป็ที่ประจักษ์อย่างแน่นอน
ไม่ว่าเซี่ยจื่ออวี้จะรู้จักโจวเฉิงหรือไม่ แต่การจงใจพูดให้เซี่ยเสี่ยวหลานดูมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับชายอื่น เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงจิตใจอันชั่วร้ายของเซี่ยจื่ออวี้อย่างชัดเจน!
หน้าตาก็ดูปกติดี ทำไมถึงมีจิตใจเช่นนี้?
เซี่ยเสี่ยวหลานพูดถูก เธอกับญาติฝ่ายพ่อมีความขัดแย้งกันอย่างร้ายกาจ!
เื่คราวนี้ทำเอาพวกคุณน้าจานรู้สึกมึนงง เดิมทีพวกเธอเพียงเอ็นดูคนที่เข้ามาทักทายก่อนอย่างเซี่ยเสี่ยวหลาน ความเป็เด็กเก่งทำให้พวกเธอชื่นชม ในขณะที่เซี่ยจื่ออวี้ได้หร่านซูอวี้เป็คนพามาร่วมงาน พวกเขาทั้งสามคนแต่งตัวมอซอ ได้เงินเดือนชดเชยที่ประเทศจ่ายย้อนหลังให้ตั้งหลายปี เสื้อผ้าดีๆ ไม่กี่ชุดยังซื้อไม่ได้เลยหรือ?
เซี่ยจื่ออวี้มาถึงก็เล่นงานเซี่ยเสี่ยวหลาน แน่นอนว่าคุณน้าจานย่อมรู้สึกแย่กับเธอั้แ่ครั้งแรกที่พบหน้า
เซี่ยจื่ออวี้รับรู้ได้ถึงสายตาเคลือบแคลงของคนอื่นจึงรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อีกทั้งเธอรู้แล้วว่าตนเข้าใจเื่เซี่ยเสี่ยวหลานผิด หลังพูดออกไป เื่ที่พูดดันไม่ใช่เื่จริง ว่าที่แม่สามีของเซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่เชื่อเลยสักนิด หรือไม่ก็เก็บงำความสงสัยไว้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอกยังคงให้เกียรติเซี่ยเสี่ยวหลาน คนแบบนี้เหนือชั้นกว่าคนหน้าเนื้อใจเสืออย่างหร่านซูอวี้หลายเท่า!
ทำไมเซี่ยเสี่ยวหลานถึงดวงดีแบบนี้เสมอกัน!
เชิงอรรถ
[1]ทางตะวันตกของถนนวงแหวนรอบที่สาม 3 ในปักกิ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้