กู่อวี่เสวียนชั่งน้ำหนักจี้หยกในมือ ก่อนมองไปยังหนีเจียเอ๋อร์อย่างคนที่เหนือกว่า “แปลว่า เ้าจะชดใช้ด้วยจี้หยกชิ้นนี้สินะ?”
หนีเจียเอ๋อร์กัดฟัน ในใจคิดว่าสักวันจะต้องเอาจี้หยกกลับคืนมาให้ได้
พอสังเกตเห็นท่าทีที่เศร้าสร้อยของนาง ดวงตาของโจวชิงหวาก็ฉายแววอบอุ่น พลางส่ายหน้าเล็กน้อยเป็เชิงบอกว่าไม่เป็ไร
กู่อวี่เสวียนยอมรับจี้หยก แต่ยังคงกังวลว่าหนีเจียเอ๋อร์จะไปโผล่ในงานเลี้ยงขององค์ชายสาม หากคิดจะจัดการนางอีกครั้ง คงมิใช่เื่ง่าย เพราะอีกฝ่ายรู้เจตนาที่แท้จริงของตนแล้ว
ดังนั้น องค์หญิงใหญ่จึงทำท่าจะเดินไปประชิดอีกฝ่าย แต่หญิงสาวกลับหลบเลี่ยงได้อย่างชาญฉลาด กู่อวี่เสวียนจึงปะทะเข้ากับร่างนางกำนัลคนสนิทของตนแทน เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน นางกำนัลผู้นั้นจึงตั้งรับไม่ทัน ทำให้โอกาสที่จะกระแทกร่างหนีเจียเอ๋อร์หลุดลอยไป
ตูม!
ผิวน้ำแตกกระจาย...
กู่อวี่เสวียนพลัดตกทะเลสาบ จนเปียกปอนไปเสียครึ่งตัว
“องค์หญิงตกน้ำ เร็วเข้า มาช่วยองค์หญิงเร็ว!”
นางกำนัลที่ติดตามมาต่างพากันะโลงไปในน้ำ ทว่าก็ไม่อาจทำอันใดได้ เพราะพวกนางว่ายน้ำไม่เป็ แต่ที่จำต้องะโลงมา เพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกฮ่องเต้ลงทัณฑ์
กู่อวี่เสวียนพยายามดิ้นรนประคองร่างตัวเองอย่างทุลักทุเล แต่ทุกครั้งที่โผล่ศีรษะขึ้นมา นางก็จะสำลักน้ำ เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนเปียกปอน เส้นผมรุ่ยรายไม่เป็ทรง ใบหน้าเลอะเทอะ ดูน่าอนาถยิ่งนัก
หนีเจียเอ๋อร์ยกยิ้มมุมปาก ดวงตาพราวระยับราวกับดวงดาว “องค์หญิง ว่ายน้ำมาทางนี้เร็ว หม่อมฉันจะช่วยดึงท่านขึ้นมาเอง”
“ข้าว่ายน้ำไม่เป็... ช่วยด้วย...” กู่อวี่เสวียนยื่นมือออกไปอย่างสิ้นหวัง แต่พอขยับร่าง ตัวก็จมลงไปอีกครั้ง
ดวงตาของโจวชิงหวาฉายแววขบขัน ก่อนมองไปยังหนีเจียเอ๋อร์ แล้วปรามเสียงทุ้ม “พอเถอะ!”
หนีเจียเอ๋อร์ลุกขึ้นยืน กะพริบตาปริบๆ ประหนึ่งไม่รู้เื่ จากนั้นก็ยกมือป้องปากส่งเสียง “ช่วยด้วย เร็วเข้า! องค์หญิงตกน้ำ…”
เสียงฝีเท้าวุ่นวายเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผสานไปกับเสียงอุทานอย่างตื่นตระหนก
จากนั้น ขันทีผู้หนึ่งก็ตะเบ็งเสียง “เร็วเข้า… องค์หญิงตกน้ำ!”
นางกำนัลพากันกระซิบกระซาบ “รีบไปช่วยองค์หญิงเร็ว! หากมีอะไรเกิดขึ้น เราคงต้องโทษหนักเป็แน่”
เมื่อโจวชิงหวาเห็นว่าไม่อาจรีรอไปมากกว่านี้ เพราะกู่อวี่เสวียนสำลักน้ำจนเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว จึงรีบะโลงไปอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมา ก่อนใช้วิชาตัวเบาเหินกลับขึ้นฝั่งอย่างง่ายดาย
พอวางร่างองค์หญิงลงแล้ว ก็ทะยานไปช่วยนางกำนัลคนอื่นๆ ต่อ
องครักษ์ที่เพิ่งมาถึง ต่างก็ะโลงไปช่วยเหล่านางกำนัลอีกแรง
หนีเจียเอ๋อร์นั่งลงข้างๆ กู่อวี่เสวียน พยุงร่างของนางมาตบเข้าที่หลังอย่างแรง จนอีกฝ่ายสำรอกน้ำออกมา
ยามนี้ ทั้งขันทีและเหล่านางกำนัลเข้ามาห้อมล้อมดูแลความปลอดภัยของกู่อวี่เสวียน ก่อนคุกเข่าลงด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง
ขณะเดียวกัน หนีเจียเอ๋อร์ก็ลุกขึ้นสะบัดแขนเสื้อที่เปียกปอนเบาๆ แล้ววิ่งไปหาโจวชิงหวา เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่เป็อะไร แค่รองเท้าและชายเสื้อคลุมเปียกเท่านั้น นางก็โล่งอก
กู่อวี่เสวียนปัดผมไปด้านข้าง เผยให้เห็นสีหน้าซีดเซียว แล้วพูดเสียงเกรี้ยว “ข้ายังไม่ตายสักหน่อย! จะคุกเข่าทำไม?”
นางกำนัลสองคนที่ะโลงไปช่วย รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้น ก่อนพยุงองค์หญิงของตนกลับวังในทันใด
พอขบวนขององค์หญิงจากไป อุทยานที่เคยวุ่นวายก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
“เื่ซ้อมดนตรีคงต้องยกเลิกแล้ว สนใจจะไปเล่นหมากล้อมที่จวนของข้าหรือไม่?” โจวชิงหวายิ้มบางๆ
“ไปสิ!” หนีเจียเอ๋อร์ยกยิ้มมุมปาก แล้วหันหลังเดินนำไปก่อน
...
ในวันที่สาม โจวชิงหวากับหนีเจียเอ๋อร์ก็มาที่พระราชวังในเวลาเดิมอีกครั้ง
เมื่อเห็นเกี้ยวของฮ่องเต้กู่หังจิ่นจอดรออยู่ด้านนอก พวกเขาก็ขมวดคิ้วแล้วสบตากัน จากนั้นจึงเดินเข้าไปข้างในโดยไม่เร่งรีบ
กู่หังจิ่นนั่งอยู่บนบัลลังก์ ถือถ้วยชาไว้ในมือซ้าย แล้วค่อยๆ ลูบฝาถ้วยด้วยมือขวาในกิริยาผ่อนคลาย ไม่เหมือนอยู่ในอารมณ์ขุ่นเคือง
หนีเจียเอ๋อร์จึงคุกเข่าลงพร้อมโจวชิงหวา ด้วยความโล่งใจ
“หม่อมฉัน หนีเจียเอ๋อร์ ถวายพระพรฮ่องเต้ ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปีๆ หมื่นๆ ปี”
“กระหม่อม โจวชิงหวา ถวายพระพรฮ่องเต้ ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปีๆ หมื่นๆ ปี”
“ตามสบาย” กู่หังจิ่นวางถ้วยชาลง พลางพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะมาต่อว่าพวกเ้า แค่มีราชกิจกองเป็ูเาจนรู้สึกเวียนหัว เลยแอบมาหลบอยู่ที่นี่สักพัก”
โจวชิงหวาลุกขึ้น แล้วโค้งคำนับ “ฝ่าาทรงงานหนักและมีราชกิจมากมาย นับเป็บุญของราษฎรแคว้นฉีหลานที่อยู่ใต้ร่มพระบารมี หากแต่สิ่งสำคัญที่สุด ยังคงเป็การถนอมพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ”
หนีเจียเอ๋อร์แสดงท่าทีเห็นด้วย จากนั้นก็หวนนึกบทสนทนาระหว่างบิดากับนายท่านสวี ที่ตนบังเอิญเคยได้ยินมา
นายท่านหนีกล่าวว่า “ฝ่าาทรงเป็หนึ่งในใต้หล้า เพียบพร้อมทั้งศาสตร์ ศิลป์ และการปกครอง ถือเป็ผู้ที่มีพร์อันหาได้ยากยิ่ง นับเป็โชคดีของประชาชนแคว้นฉีหลาน”
เสนาบดีสวีจึงเสริม “แต่สิ่งเดียวที่น่าเป็ห่วงก็คือ หลังจากพระพันปีสิ้นพระชนม์จากศึกในวังหลัง ฝ่าาก็ไม่ฝักใฝ่ในชื่อเสียงหรือความมั่งคั่ง ปรารถนาจะปลงผมออกบวชเป็บรรพชิต อนิจจา ข้าเกรงว่าฮ่องเต้อาจจะยังไม่ล้มเลิกพระประสงค์ หากพระองค์ไม่สนใจการปกครอง ผู้คนมากมายอาจอาศัยช่องโหว่นี้ เพื่อหลอกใช้พระองค์”
แต่พอได้ฟังคำพูดจากปากของฝ่าาโดยตรง ว่าพระองค์ทรงปวดศีรษะกับการบริหารบ้านเมือง หนีเจียเอ๋อร์ก็คล้ายจะเข้าใจความวิตกของนายท่านสวีแล้ว
“ขออภัยเสด็จพี่ ที่น้องมาช้า” กู่อวี่เสวียนออกมาจากห้องด้านใน ด้วยการพยุงของนางกำนัล
สีหน้าของนางดูอิดโรยและซีดเผือดเล็กน้อย แต่พอเห็น ‘ตัวการ’ อย่างหนีเจียเอ๋อร์แล้ว ก็เปลี่ยนท่าทีเป็ดุดันดุจนางสิงห์ในทันใด
หนีเจียเอ๋อร์หลุบตาลงเพื่อปิดบังรอยยิ้มสาแก่ใจ ก่อนกะพริบตาดั่งผู้บริสุทธิ์ แล้วถามอย่างห่วงใย “องค์หญิง รู้สึกดีขึ้นหรือยังเพคะ?”
กู่อวี่เสวียนพูดเสียงเกรี้ยว ใบหน้าฉาบไปด้วยโทสะ “หึ! ไม่ต้องมาเสแสร้งทำเป็เห็นใจข้า!”
กู่หังจิ่นขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ แล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “น้องหญิง แม่นางหนีแค่ทักทายอย่างมีน้ำใจ เหตุใดเ้าถึงได้หยาบคายเช่นนี้?”
กู่อวี่เสวียนไม่กล้าโต้เถียงพี่ชาย ผู้มีตำแหน่งเป็ถึงฮ่องเต้ต่อหน้าคนนอก จึงทำหน้ามุ่ย ก่อนเบือนหน้าหนี มิได้ปริปากเอ่ยอันใดอีก
“ฝ่าา นี่ก็สายมากแล้ว เรามาเริ่มฝึกซ้อมกันเลย ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” โจวชิงหวาไกล่เกลี่ย ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
กู่หังจิ่นพยักหน้า “เริ่มเลยเถอะ”
ว่าแล้ว ก็มองไปที่กู่อวี่เสวียน เป็เชิงส่งสัญญาณให้นางเตรียมตัว
หญิงสาวจึงลุกขึ้นอย่างจำใจ แล้วเดินไปยังกู่ฉิน “วันนี้ ข้าพร้อมแล้ว”
โจวชิงหวาและหนีเจียเอ๋อร์ก้มศีรษะลงอีกครา แล้วเดินไปประจำที่เครื่องดนตรีของตน
ครู่หนึ่ง ท่วงทำนองอันผ่อนคลายก็ดังไปทั่ววัง เสียงไพเราะของขลุ่ยและกู่ฉินสอดประสาน กลายเป็บทเพลงเสนาะหู
กู่หังจิ่นหลับตาลง สดับฟังอย่างเงียบงัน
ทันใดนั้น เสียงของกู่ฉินพลันหยุดลง
กู่อวี่เสวียนทรุดตัวลง กุมหน้าอกอย่างทรมาน หนีเจียเอ๋อร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบเข้าไปหมายจะช่วย แต่กลับถูกผลักไสออกมา พร้อมข้อกล่าวหา ว่านางเป็ผู้วางยาพิษองค์หญิง
โจวชิงหวาเข้าไปประคองหนีเจียเอ๋อร์ให้ลุกขึ้นยืน ก่อนมองกู่อวี่เสวียนด้วยสายตาเข้มลึก กำหมัดแน่น เส้นเืที่หลังมือปูดโปน จนอุณหภูมิภายในห้องคล้ายจะลดต่ำลงมา
ส่วนกู่หังจิ่น ก็มองไปยังจิตสังหารอันเข้มข้น ซึ่งกำจายออกจากร่างอีกฝ่าย แล้วหันไปสั่งเสียงดังทางนอกประตู “ตามหมอมา เร็ว!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้