กลางป่าที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ก้านหลิวลืมตาขึ้นมาท่ามกลางป่าเขียวขจีกลิ่นหอมของใบไม้และอากาศอับชื้นหน่อยๆ ทำให้ก้านหลิวมึนงงยิ่ง และคิดว่าคงเป็เพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้ที่กินเข้าไปสองเม็ดก่อนหน้านี้
"เรากินยาเยอะไปหน่อยหรือไม่ทำไมยังมึนหัวอยู่เลยทั้งที่หลับ ไปพักใหญ่แล้วแล้วก็ฝันอะไรแปลก ๆปกติฝันจะไม่มีกลิ่นมีสีมันแปลกมากจริงๆ"
“หรือว่าเราเสียชีวิตแล้วและทะลุมิติมาแบบในนิยายที่เคยอ่าน”
ก้านหลิวเป็เด็กสาวต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมืองอยู่ตัวคนเดียวเพราะพ่อกับแม่เสียชีวิตไปั้แ่ยังเล็กก้านหลิวอยู่กับยายมาโดยตลอดหลังจากเรียนจบ ม. 6 ยายก็เสียชีวิต ก้านหลิวเลยมาเช่าห้องทำงานเป็พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง่หลังมานี้การหลิวเป็ภูมิแพ้บ่อยๆ จึงทานยาแก้แพ้เป็ประจำแล้วนี่จึงเป็เหตุทำให้เสียชีวิตและทะลุมิติมา
“ไม่เรายังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยเพิ่งจะอายุ 21 ปีเอง”
“กรอปแก๊ป”
“พี่ใหญ่พี่อยู่ตรงนี้เองพวกข้าเดินตามพี่ใหญ่ตั้งนาน”
เสียงของเด็กชายและเด็กหญิงอายุไม่เกินหกปีดังขึ้นพร้อมกัน ก้านหลิวจึงหันไปมอง เด็กน้อยทั้งสองคนทั้งคู่น่ารักเด็กหญิงน่าจะอายุประมาณสักสี่ขวบเด็กชายน่าจะหกขวบที่แปลกเด็ก ทั้งสองคนเรียกนางว่าพี่ใหญ่
“พี่เป็อะไรไปหรือไม่ทำไมถึงนิ่งเงียบแบบนี้ อย่าเป็แบบนี้เลย” เด็กชายจับมือนางและเขย่าพี่ใหญ่ๆ
“พี่ใหญ่ข้าและพี่รองตามหาพี่ใหญ่จนเจอท่าน ตอบข้ามาสิไม่สบายตรงไหนหรือไม่” ให้ข้าฟื้นขึ้นมาก็เป็ภาระให้น้องๆ แล้วเหรอนี่ ที่น่าแปลกนางสามารถฟังภาษาที่เด็กทั้งสองพูดได้เข้าใจเป็อย่างดี
"ข้าจำอะไรไม่ได้เลยพวกเ้าเป็ใคร "นางพูดได้เท่านั้น เด็กทั้งสองคนต่างร้องไห้โฮ
“พี่ใหญ่จำพวกข้าไม่ได้แล้วหรือเ้าคะ พวกเราออกเดินทางมาจากเมืองหลวง พร้อมกับท่านพ่อท่านแม่ เพื่อจะไปเมืองสุริยัน แต่ระหว่างทางเกิดพายุหมุนทำให้พลัดหลงกันไปหมด”
"ยังดีที่ข้ากับพี่รองถูกท่านพ่อได้มัดติดกัน พอพายุหมุนพัดมาเลยมาตกที่เดียวกัน พวกเราออกเดินตามหามาเรื่อยๆไม่เจอใครจนมาเจอท่านพี่”
“เออ!เื่เป็ไปอย่างไรเ้าทั้งสองคน ช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อย ข้าจำอะไรไม่ได้เลย”
“ท่านพี่ท่านคงจำไม่ได้แล้วว่าท่านพ่อกับท่านแม่สั่งเอาไว้ว่าไม่ให้เราพูดถึงอดีตที่ผ่านมาอีก แต่ที่พอจะเล่าให้ท่านฟังได้ก็คือท่านมีชื่อว่าหลิวซี เป็พี่ใหญ่แล้วยัง มีข้าหลิวหยางน้องเป็รอง และน้องเล็กหลิวซิง เราทั้งสามคนเป็พี่น้องร่วมสายเื ส่วนว่าตรงนี้เป็ที่ไหน ข้าเองก็ไม่รู้เพราะบรรยากาศแบบนี้ ไม่เคยเจอไม่แน่ใจว่าเราอาจจะอยู่เมืองในหมอกก็ได้”
หลิวซีหรือก้านหลิว มองหน้าเด็กสองหน้าตาน่ารักและท่าทางฉลาด ทั้งคู่มีดวงตาที่สดใส ฟันขาวสะอาดจมูกเล็กปากหน่อยแค่นี้ใจนางก็เหลวเป็น้ำแล้ว
“โครก!!” น้องเล็กบิดตัวเขินอายเพราะเสียงท้องร้องของนางดังมาก"ขออภัยเ้าค่ะพอดีข้ากำลังหิว"
“อย่างงั้นเราหาอะไรกินกันก่อนเถอะ ช่วยกันมองหาผลไม้ที่พอจะประทังความหิวได้ไปก่อน แต่ห้ามกินก่อน ให้นำมาพี่ใหญ่ดูก่อนเข้าใจหรือไม่”
เฮ้อ! ตัวเราก็ไม่มีทักษะอะไรเลยเป็แค่พนักงานต๊อกต๋อยในร้านสะดวกซื้อเท่านั้น จะว่าไปป่าที่นี่ก็ดูแปลกต้นไม้ใบหญ้าทำไมถึงคล้ายกันไปหมด ทุกอย่างมีแต่ใบไม่มีผลทุกต้นยืนตรงไม่มีเอียงเลยหรือมีคนมาปลูกป่าไว้เมื่อนานมาแล้ว
“พี่ใหญ่ว่าพวกเราต้องลองเดินเข้าไปลึกอีกหน่อย เพราะจากที่ดูตรงนี้ไม่มีผลไม้อะไรให้เราทานได้เลย พวกเ้าว่าอย่างไร”
"แล้วแต่พี่ใหญ่เลยเ้าค่ะ ข้าและพี่รองจะทำตามท่านบอก"
ทั้งสามเดินลึกเข้าไปอีกไกลโขอยู่ จากต้นไม้รกทึบเริ่มกลายเป็ทุ่งกว้าง มีดอกไม้ใบหญ้าสีสันแปลกตาขึ้นเต็มไปหมด ทั้งสามคนอ้าปากค้างตกตะลึงกับความงดงาม ที่ปรากฎอยู่ข้างหน้าพวกเขา
“มันสวยมากเ้าค่ะพี่ใหญ่พี่รอง แต่จะมีอะไรที่กินได้หรือเปล่านี่สิ”
“พวกเ้าตรงนั้นพุ่มไม้มีพลไม้สีแดงและมีแสงจางๆ ออกมาด้วยมีนกเกาะกินหลายตัวแสดงว่าเราต้องกินได้”
“พี่ใหญ่ขอรับผลไม้สีแดงก็จริงแต่ข้าไม่เห็นจะมีแสงเลย" "พี่ใหญ่ข้าก็มองไม่เห็นแสง” หลิวซีขยี้ตาตัวเองเบาๆ
หรือเป็เพราะยาแก้แพ้ที่กินเข้าไปยังไม่หมดฤทธิ์ ทำให้ตาลายคงเป็ไปได้ ก้านหลิวได้แต่คิดอยู่ในใจ
ทั้งสามคนเดินเข้าไปใกล้ๆ ต้นไม้ผลสีแดง ฝูงนกพากันใบินหนี หลิวซีเก็บผลไม้สีแดงที่ว่าขึ้นมาลองกัดกินดูปรากฎว่ามันหวานฉ่ำ เมื่อกลืนลงท้องจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้อาการอ่อนเพลียและมึนงงหายไปทันที นางเลยรีบเก็บผลไม้แบ่งให้น้องรองและน้องเล็กทันที
“มันอร่อยมากเลยเ้าค่ะพี่ใหญ่ ใช่ไหมเ้าคะพี่รอง”
“ใช่น้องเล็กกินแล้วทำให้สดชื่น ข้าหายเหนื่อยเลยตอนนี้และไม่หิวแล้วด้วย”
“พี่ใหญ่ก็เห็นเช่นนั้น ข้าว่าเราช่วยกันเก็บผลไม้นี้ไว้ก่อนดีกว่า” ทั้งสามคนช่วยกันเก็บผลไม้สีแดงไม่มีชื่อนี้ไว้โดย ไม่ลืมเหลือไว้ให้นกเ้าถิ่นได้กินกัน
“เรารีบออกเดินทางกันต่อเถอะต้องหาที่พักก่อนจะมืดเสียก่อน”
“ซ่า ซ่า!”
สามพี่น้องคนเดินทางมาได้สักพักก็ได้ยินเสียงน้ำตก ทั้งสามคนหันหน้ามองกันและเร่งเดินทางไวขึ้นแต่ เนื่องจากสภาพรอบข้างเริ่มมืดลงและเป็สถานที่ไม่คุ้นเคย และไม่รู้ว่ารอบข้างจะมีอันตรายอะไรรออยู่หรือไม่ จึงตัดสินใจหาที่พัก แถวนั้นรอเช้าแล้วจึงค่อยเดินทางต่อ
“คืนนี้ข้าว่าพวกเราจะต้องพักที่นี่ น้องรองกับน้องเล็กช่วยกันมองหา ฟืนมาก่อไฟเพื่อไล่ความหนาวและไม่ให้สัตว์เข้ามาใกล้”
“ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจะลองไปหาฟืนแถวใกล้ๆ นี้ดูขอรับ”
"งานเข้าแล้วเฮ้อ! จะเอาอะไรมาจุดไฟในป่าแบบนี้ เคยอบรมสมัยเป็เด็กนักเรียนตอนเข้าค่ายพักแรม ลืมไปหมดละตายแน่งานนี้
“พี่ใหญ่ข้ากลับมาแล้วขอรับเดี๋ยวข้าจุดไฟให้”
“ห้ะ!!น้องรองเ้าจุดไฟได้ด้วยรึ”
“จะไปยากอะไรพี่ใหญ่” พูดเสร็จน้องรองดีดมือ
"แป๊ะ!"
มีไฟลุกขึ้นมาจากนิ้วชี้แล้วก็จี้ไปที่ฟืน เป็อันเสร็จไฟเริ่มติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย" นี้เราอยู่ที่ไหนยุคที่มีพลังพิเศษด้วยรึ ไม่ใช่เราย้อนมา 3000 ปีเหรอนี่"
"พี่ใหญ่คงลืมไปแล้วว่าตระกูลเราทุกคนเกิดมาก็ พอมีอายุถึงห้าหนาวก็สามารถใช้ไฟได้แล้ว"
“นอกจากไฟแล้วเรายังใช้อย่างอื่นได้หรือไม่น้องรอง”
“ไม่ได้ขอรับพี่ใหญ่เพราะตระกูลเราใช้ได้แค่ไฟเท่านั้น”
“แล้วพี่ใหญ่อย่างข้าใช้ได้ไหม แล้วต้องทำอย่างไร”
“พี่ใหญ่ตั้งสมาธิเพ่งไปที่นิ้วมือแล้วดีดเบาๆ ลองดู เพราะพี่ใหญ่เคยทำได้และเป็คนสอนข้าเองกับมือเลยนะขอรับ”
ก้านหลิวทำตามที่น้องรองแนะนำ ตั้งสมาธิแล้วเพ่งไปที่นิ้วมือดีดมือทันที
"เป๊าะ" เงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เป็ไปได้ยังไงครับพี่ใหญ่ท่านลองใหม่อีกรอบ”
ก้านหลิวลองใหม่ อีกรอบและอีกรอบและหลายๆ รอบ ผลออกมาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้น้องรองและน้องเล็กสับสนมึนงงทำไมถึงเป็เช่นนี้
“หรือว่าเราทะลุมิติมาสิงร่างพี่ใหญ่ของพวกเขา เลยทำให้ไม่สามารถใช้พลังพิเศษได้”
“เอาไว้วันหลังตอนพี่ใหญ่หายดีแล้วค่อยฝึกฝนใหม่ก็ได้ขอรับ ข้าจะสอนเองรับรองท่านต้องเก่งเหมือนเดิมแน่”
“จริงเ้าค่ะพี่ใหญ่ท่านเก่งอยู่แล้ว” ทั้งสามคนนั่งล้อมกองไฟและยังไม่รู้สึกง่วง ก้านหลิวจึงชวนน้องทั้งสองคุย
“พี่ใหญ่ขอถามพวกเ้าตอนนี้พวกเราอยู่ในจักรวรรดิไหนใครเป็ จักรพรรดิ”
“พี่ใหญ่เราอยู่ในราชวงศ์เทียน มีเทียนหลงเป็จักรพรรดิมีทั้งหมดสี่แคว้น มีเมืองหลงหยกที่อุดมไปด้วยทองคำหยกแร่ต่าง ๆ เมืองอวินจิง เป็เมืองท่าอยู่ใกล้ทะเล ส่วนมากคนทำอาชีพค้าขายเป็ส่วนใหญ่ เมืองสุริยันที่มีอากาศกำลังดีชาวเมืองทำการเกษตรเป็ส่วนใหญ่และอีก แคว้นหนึ่งมีมนุษย์อาศัยอยู่ น้อยมากคือเมืองในหมอกครับ”
“เราใช้เงินหรือตำลึงแบบไหน และค่าของตำลึง”
“เราใช้เป็ตำลึง 1000 อีแปะ = 1 ตำลึงเงิน100 ตำลึงเงิน = หนึ่งตำลึงทองขอรับ”
“น่าจะเป็จีนโบราณสมัยหลายพันปีที่แล้ว ไม่มีชื่อในประวัติศาสตร์หรืออาจจะเป็โลกคู่ขนาน”
“น้องรองน้องเล็ก นอนพักผ่อนเถอะพี่ใหญ่จะอยู่เวรยามเองพี่ไม่รู้สึกง่วงเลย พวกเ้ายังเล็กต้องพักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวจะไม่สูงเอานะ”
เด็กทั้งสองคนเชื่อฟังเป็อย่างดีทั้งคู่นอนลงข้างกองไฟ ที่มีเพียงใบหญ้าปูรองพื้นไว้เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บตัวเวลานอน
“เปี๊ยะ!”เสียงจากกองไฟสีส้มที่ส่งเสียงดังขึ้นเป็ระยะ ก้านหลิวนั่งนึกถึงเหตุผลที่มันไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ ว่าทำไมตัวเองถึงไม่อยู่ตรงนี้ แล้วมาอยู่เพื่ออะไรนั่งนึกไปก็ไม่ได้คำตอบ “แล้วเ้าของร่างเดิมที่ข้ามาอาศัยอยู่นางเสียชีวิตไปแล้วหรือน่าส่งสารเสียจัง”
“ขอให้เ้าไม่ต้องเป็ห่วง ข้าจะดูแลน้องทั้งสองของเ้าเองขอให้เ้าไปสู่สุคติเถิด”
พอกล่าวเสร็จเหมือนมีสายลมวูบหนึ่งผ่านหน้านางไป “คงเป็เ้าของร่างเดิมที่มาบอกลาแล้วจากไป”
“ซ่าๆ” เสียงน้ำตกทำให้นางสะดุ้งตื่นขึ้นมา “นี่ข้าเผลอหลับไปั้แ่ตอนไหนดีนะที่ป่าแห่งนี้ไม่มีสัตว์ร้าย ไม่งั้นต้องแย่แน่เลย ”นางหันไปมองน้องสองคนยังหลับสนิทอยู่
“เด็กทั้งสองคนจะรู้มั้ยนะว่าพี่สาวตัวจริงไม่อยู่แล้ว แต่ข้าก็ไม่บอกหรอกว่าไม่ใช่พี่แท้ๆ ของพวกเ้า ข้ารับปากกับเ้าของร่างเดิมแล้วข้าจะช่วยดูแลน้องทั้งสองคนเพราะชาติที่แล้ว ข้าก็ไม่มีน้องเหมือนกัน”
“พี่ใหญ่ได้พักบ้างหรือไม่เ้าค่ะข้าหลับสนิทเลย”เสียงเด็กหญิงดังขึ้นทำให้สติของก้านเหลวกลับมา ยังปัจจุบันนางมองเด็กหญิงด้วยสายตารักใคร่และเอ็นดู
“พี่ใหญ่ไม่เป็ไรถ้าพวกเ้าตื่นแล้ว พวกเราเตรียมตัวเดินไปที่น้ำตกกันเถอะ”
ทั้งสามพี่น้องพากันเดินทางมาที่น้ำตก เพราะได้ยินแต่เสียงมาั้แ่่เย็นของเมื่อวานแล้ว พวกเขาทั้งสามคนเดินมาถึงภาพที่ปรากฎตรงหน้าถ้าทำให้ทั้งสามคนยืนอ้าปากค้าง
“อะไรจะสวยขนาดนี้เ้าคะ พี่ใหญ่พี่รองสายน้ำขาวสะอาด ดูสินั้นมีสายรุ้งด้วย”
เสียงน้องเล็กดังขึ้นอย่างมีความสุข ลืมเื่ร้ายๆ ที่เจอมาเสียสิ้น สายน้ำขาวสะอาดเป็ละอองน้ำกระจาย ไปทั่ว ทำให้เกิดสายรุ้งสวยงาม มีดอกไม้นานาพันธุ์แข่งกันบานสะพรั่ง ขึ้นตามขอบสระผีเสื้อหลากสีบินว่อนทำให้เกิดภาพสวยงามสุดบรรยาย อากาศที่สดชื่นมีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ลอยไปตามอากาศ
“น้ำนี้ลงอาบได้ไหมเ้าคะ ถึงจะเช้าแต่ข้าไม่รู้สึกหนาวเลย ได้ไหมเ้าคะพี่ใหญ่”
“น้องเล็กเ้าไม่กลัวรึ ไม่รู้ด้วยว่าที่นี่จะปลอดภัยหรือ มีอะไรอยู่ใต้น้ำหรือเปล่า พี่ว่าเ้าอดใจไว้ก่อนดีกว่า”
“พี่ใหญ่ข้าไม่เล่นน้ำก็ได้ เริ่มกลัวแล้วเ้าค่ะ”
“แต่ทุกคนสามารถล้างหน้า เช็ดตัวได้เราไม่ต้องลงน้ำเ้าทั้งสองเข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจแล้วเ้าค่ะพี่ใหญ่ ถ้ามีถังน้ำก็คงจะดีจะได้ตักขึ้นมาอาบได้”ทั้งสามคนล้างหน้า เช็ดตัวอยู่ข้างสระน้ำ
“พี่ใหญ่เ้าคะ ดูในน้ำสิเ้าคะมีปลาสีสวยด้วย เราจะมาจับทำอาหารกินได้ไหมเ้าคะ”
“สวยขนาดนั้นเ้ากินลง หรือน้องเล็ก”เสียงหลิวหยางพูดขึ้น
“ตูม ซ่า!”
ศิษย์พี่อย่าทิ้งข้าไว้ข้างทางศิษย์พี่อย่าทิ้งข้าไว้ข้างหลัง ฝันร้ายนี้ไม่ใช่ของ ข้าใครเรียกหารอก่อนข้าจะปลูกผัก
