“นายท่านไฮว่คุณกลับมาแล้วเหรอคุณปู่ให้ผมมาพบคุณ” จู้จื่อที่ไม่ได้พูดจามาโดยตลอดก็พลันลุกขึ้นเป็คนแรกแล้วพูดกับกัวไฮว่อย่างเซ่อซ่า
“นั่งลงไม่ต้องเกรงใจในนี้ไม่มีคนนอก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ทำไมพี่ๆ ยังอยู่ที่โรงเรียนล่ะ”
“เ้าสี่เป็ไงบ้างพวกพี่รอแกอยู่ที่นี่ซาบซึ้งไหมล่ะ” เจี่ยหยวนดื่มเบียร์ไปอึกหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ
“ซาบซึ้งครับซาบซึ้ง ครั้งนี้ผมดูแลไม่ดีเองมาโรงเรียนพวกเราแล้วผมก็ไม่ได้จัดการข้าวเที่ยงให้แต่ก็โทษผมไม่ได้นะเพราะตอนการประมูลยังไม่จบผมก็ไม่เห็นเงาพี่ๆ แล้ว” กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ
“ก็ถูกเหล้าแกทำเสียคนน่ะสิพี่ใหญ่ยังดีนะที่พรุ่งนี้ไปอเมริกาเลย แต่ฉันกับเ้าสามเนี่ยซวยเมื่อกี้พ่อฉันโทรศัพท์มาหาบอกไม่ว่าจะใช้วิธีไหนฉันก็ต้องเอาเหล้ามาจากแกให้ได้ ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับไปอีก”เจี่ยหยวนพูดหน้ามุ่ย
“พี่ๆ ไม่ต้องร้องไห้แล้วผมให้เหล้าพวกพี่ไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ผู้ใหญ่ในบ้านตัวเองก็จัดการกันเองเถอะเหล้าน่ะผมมีอยู่นิดเดียวแต่จะให้พวกพี่อีกไม่ได้แล้ว” กัวไฮว่พูดพลางถือน้ำเต้าในมือจากนั้นก็ดื่มไปอึกใหญ่
“เหอะๆๆ น้องสี่ดูแกพูดเข้าสิทำอย่างกับเรามาหาแกเพราะจะเอาเหล้า” หวังเซิงพูดยิ้มๆ “พวกเรามาครั้งนี้หลักๆ แล้วจะมาดูว่าน้องชายเราอยู่ที่โรงเรียนเป็ยังไงบ้างไม่ถูกใครรังแกใช่รึเปล่า”
“พี่ๆ วางใจเถอะ ผมเนี่ยบุคคลอันดับหนึ่งของโรงเรียนฟู่จงถ้ามีใครอยากหาเื่พี่ไฮว่ของผมต้องมาถามผมก่อนว่าตกลงหรือเปล่า”เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง
“ฮ่าๆ ไอ้น้องเมื่อก่อนไม่เห็นว่าแกจะมีความสามารถขนาดนี้เลยทั้งเฉียนตัวตัวทั้งจู้จื่อแถมยังมีสาวสวยสี่คนอีกแกเพิ่งมาโรงเรียนได้ไม่กี่วันเองนะ แก๊งลูกน้องกับสาวสวยแถมสาวสวยยังเยอะกว่าลูกน้องอีก”หลี่เย่าพูดหยอกล้อ
“เหอะๆ พี่ๆ ก็หยอกผมไปพี่เย่าบอกมาเถอะมีเื่อะไรกันแน่พี่ไม่เหมือนกับพี่สองพี่สามมีอะไรก็บอกมาตรงๆได้” กัวไฮว่ไม่ได้ใช้วิชาอ่านจิตกับพี่ๆ พวกนี้ไม่จำเป็ต้องใช้หรอก
“ไม่มีอะไรหรอกแก ยังจำเื่ที่แกไปเคลียร์ให้ฉันที่ใต้หล้าอู่เฉิงหรือเปล่าแกไม่อยากรู้เหรอว่าคนที่อยากจัดการแกวันนั้นเป็ใคร” หลี่เย่าหรี่ตาพูด
“พี่เย่าอย่าเพิ่งบอกก่อนว่าเขาเป็ใครผมอยากรู้ศักยภาพของผมในตอนนี้ ว่าสามารถจัดการคนที่พี่พูดถึงได้ขนาดไหน”กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่ง
“ถ้านับสามตระกูลของเราแล้ว ทรัพยากรที่เรามียังจัดการกับมันไม่ได้เพราะว่าฉันเดาได้แค่รางๆว่าคนที่จะจัดการแกเป็ใคร” หลี่เย่าพูดเบาๆ ด้วยความจนใจ
“งั้นก็อย่าเพิ่งบอกก่อนพวกเราแล้วก็พวกลูกน้องจะได้ไม่ปวดสมอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
คราวนี้หลี่เย่าเจี่ยหยวนและหวังเซิงทั้งสามคนถึงกับนิ่งอึ้งไป กัวไฮว่เป็คนยังไงนิสัยยังไงมีแค้นย่อมต้องชำระไม่คาดคิดว่าเขาดันพูดแบบนี้ออกมาได้
“พี่ๆ ตอนนี้ผมอยากจะจัดการชีวิตมอปลาย่นี้ให้เรียบร้อยรถชนครั้งก่อน ทำให้ผมััได้ว่าผมไม่ควรพึ่งพาคนในครอบครัวหรือว่าพึ่งพาพี่ๆทั้งสามไปตลอด”
“เ้าสี่แกคิดแบบนี้ได้ไม่เลวเลยแต่ว่าในเมื่อฉันพอเดาว่าเป็ใค รฉันว่าเขาก็ควรจะรู้หน่อยนะว่าพวกเราเดาออกแล้ว่นี้มันจะได้ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม”หลี่เย่าพูดเสียงเบา “ถ้าพวกมันยังไม่กล้าลงมือฉันแนะนำให้ฉวยประโยชน์ก่อนนะ”
“ขอบคุณนะพี่เย่าเื่นี้รอให้ผมจัดการเถอะวันนี้ในที่นี้ก็เป็พี่ๆ น้องๆกันทั้งนั้นเรามาดื่มกันเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“คุณไฮว่เหล้านี่ไม่เห็นจะดีตรงไหนให้ผมกินเหล้าเมื่อตอนเที่ยงวันอีกได้ไหม”จู้จื่อเกาศีรษะแล้วพูดขึ้น
“จู้จื่อเหล้าน่ะให้แกกินได้แต่ว่ามีเื่หนึ่งต้องคุยกับแกหน่อย” กัวไฮว่พูดพลางจ้องจู้จื่อด้วยเจตนาร้าย
“ไม่ต้องคุยกันหรอกมีเื่อะไรคุณไฮว่พูดได้เลยตาแก่บ้าบอกไว้แล้วว่ามีอะไรก็ให้ผมเชื่อฟังคุณ”จู้จื่อพูดยิ้มๆ
“ดีเดี๋ยวฉันจัดการเื่เหล้าให้แต่ว่าต่อไปถ้าฉันให้แกจัดการใครแกห้ามปฏิเสธ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
เฉียนตัวตัวก็เป็คนที่น่าประหลาดใจคนหนึ่ง ออกไปได้ไม่ถึงห้านาทีก็เอากับข้าวกลับมาหลายสิบอย่างกัวไฮว่เองก็เอาองคชาติวัวที่แย่งมาจากมือซูเยี่ยไปให้จู้จื่อทำอาหารเมนูง่ายๆเมื่อพวกหลี่เย่าได้กินทั้งสามถึงกับยกนิ้ว
“น้องสี่ตอนนี้พี่เสียใจแล้วล่ะ รู้งี้พี่ให้เสี่ยวฮวาทำหนังสือเข้าเรียนให้ดีกว่าลูกน้องแกสุดยอดไปเลยนี่แค่เวลาสองสามวันเองนะแกจัดสาวสวยได้ตั้งหลายคนพี่ยังสู้ไม่ได้เลย” เจี่ยหยวนพูดพลางเอามือโอบกัวไฮว่
“เ้าสี่ตอนที่แกยังไม่มาพี่ใหญ่บอกแล้วว่าเด็กผู้หญิงพวกนี้ไม่ธรรมดาทั้งนั้นแกต้องจัดการให้ดีๆ นะไม่งั้นคนที่จะมาจัดการก็คือคนในบ้านเด็กผู้หญิงพวกนี้เนี่ยแหละที่จะทำเสาหลักอย่างแกเละเป็ผัก”
“พี่ๆ วางใจเถอะสาวสวยเงินทองอำนาจอีกไม่นานพวกเราอยากได้อะไรก็ต้องได้สิ่งนั้นพวกพี่กลับไปกันเถอะผมไม่ไปส่งนะ” กัวไฮว่เดินไปยังหน้าประตูแล้วพูดกับทั้งสามคนอย่างยิ้มๆว่า “พี่เย่าพี่กลับมาก่อนผมมีอะไรจะให้พี่”
ทั้งสามคนนิ่งอึ้ง เจี่ยหยวนกับหวังเซิงมองกันและกันไม่ได้รอหลี่เย่าเดินไปยังประตูลิฟต์
“พี่เย่าผมมีลางสังหรณ์ว่าพี่ไปอเมริกาครั้งนี้จะอันตรายมากๆ ผมให้นี่พี่นะเอาไว้คุ้มครองชีวิต”กัวไฮว่พูดพลางยื่นกล่องหยกหน้าตาดูไม่ดีส่งไปให้หลี่เย่า
“เ้าสี่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกเอาของแปลกโบราณเยอะขนาดนี้มาจากไหนแต่ฉันรับของนี่ไว้แล้วกันกลับมาจากอเมริกาแล้วฉันจะมาหาแก” หลี่เย่าพูดพลางรับกล่องหยกที่กัวไฮว่ส่งมาให้จากนั้นก็จากไปอย่างเชื่องช้า
“ท่านพี่บอกแค่พิกัดที่เทพแห่งจิตลงมาคนเยอะแยะขนาดนี้ข้าจะไปหาเจอได้อย่างไรกันไม่ได้บอกว่าเขาเกิดที่ไหนจะหาได้อย่างไร” เด็กสาวอายุสิบห้าสิบหกนั่งอยู่บนยอดตึกที่สูงที่สุดในเมืองอู่เฉิงเธอมองไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืนนอกหน้าต่างพูดพึมพำกับตนเอง
“ก๊อกก๊อกก๊อก!” เสียงเคาะประตูดังจนรบกวนสมาธิเด็กสาว
“เข้ามา!” เด็กสาวรวบรวมสติแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“คุณหนูอวี้เอ๋อร์นี่คือแครอทที่คุณ้าครับ” ชายวัยกลางคนใส่ชุดสูททั้งตัวพูดพลางวางแครอทที่ล้างมาอย่างสะอาดสะอ้านตะกร้าหนึ่งลงบนโต๊ะน้ำชา
“ออกไปเถอะในนี้ไม่มีธุระอะไรของเธอแล้ว” อวี้เอ๋อร์พูดเสียงเบา“จริงสิ่นี้ในเมืองอู่เฉิงมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นบ้างรึเปล่า”
“อะไรแปลกๆ? เรียนคุณหนูไม่มีครับแต่ถ้ามีเื่อะไรผมจะรีบมาบอกคุณทันที”ชายวัยกลางคนพูดเสียงเบา
“อือออกไปเถอะ” ชายวัยกลางคนค่อยๆ ปิดประตูจากนั้นอวี้เอ๋อร์ก็ไปนั่งบนโซฟาไม่นานก็กินแครอทลงท้องไป
“กินยากจัง” อวี้เอ๋อร์ไม่ได้หยิบหัวที่สองขึ้นมา“ของก็กินยากพลังปราณก็มีน้อยพลังเวทก็เหลือนิดเดียวท่านพี่จะให้ข้าตามหาเทพแห่งจิตอย่างไรกัน”