เซียวหานมีความหวัง มือเรียวจับแขนของหยวนจุนไว้แน่น ก่อนจะถามด้วยเสียงแหบแห้งว่า “เ้ามีวิธีถอนพิษเมืองหลงิญญาจริงๆ หรือ!?”
เมื่อหยวนจุนถูกเซียวหานรบกวน นิ้วที่ควบคุมเพลิงอัคคีกลืน์อยู่จึงะเืไปมา ส่งผลให้พลังปราณที่กำลังเข้าไปในร่างกายของเซียวจั้นกระจัดกระจายในทันที ทำให้เขาต้องร้องครวญครางออกมาด้วยความเ็ป
“หากแม่นางเซียว้าช่วยชีวิตพ่อของเ้า เช่นนั้นก็ปล่อยมือเสีย”
หลังจากถูกหยวนจุนเตือน เซียวหานจึงรีบปล่อยมือที่จับแขนเขาไว้ นางร้องไห้ด้วยความดีใจแล้วกล่าวว่า “ได้ ข้าขอโทษ!”
เสี่ยวเมิ่งพาเซียวหานออกมาแล้วตบเบาๆ ที่หัวไหล่เพื่อปลอบโยน อาจเป็เพราะปู่ของนางก็ถูกเมือกหลงิญญานี้สังหาร เมื่อเสี่ยวเมิ่งเห็นสภาพของเซียวหานในตอนนี้ จึงรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนั้นหยวนจุนก็อยากช่วยท่านปู่ถอนพิษของเมือกหลงิญญา แต่น่าเศร้าที่พิษได้แพร่เข้าสู่หัวใจไปแล้ว ที่จริงหยวนจุนรู้อยู่แล้วว่าเปลวไฟความร้อนสูงของเพลิงอัคคีกลืน์สามารถปกป้องอวัยวะภายในจากพิษของเมือกหลงิญญาได้
พลังปราณที่หยวนจุนควบคุมอย่างแม่นยำได้แพร่เข้าไปในเส้นปราณของเซียวจั้นอย่างช้าๆ แค่กลุ่มต้นเพลิงอัคคีกลืน์เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้พิษที่อยู่ในเส้นปราณของเซียวจั้นระเหยออกมาได้แล้ว
ผู้าุโชิวและผู้จัดการฉางถอยออกมา พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถามเสี่ยวเมิ่งว่า “ผู้าุโกวน อย่างที่ข้าเคยทราบ มีเพียงบุปผาขับิญญาเท่านั้นที่สามารถถอนพิษของเมืองหลงิญญาได้!”
“แต่สมุนไพรนี้หายากเป็อย่างยิ่ง เพราะั้แ่ก่อตั้งโรงประมูลขึ้นในเมืองเทียนอวิ่นก็ยังไม่เคยได้เปิดประมูลของสิ่งนี้เลย การที่หยวนจุนทำเช่นนี้จะสามารถขับพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของผู้นำเซียวได้จริงหรือ?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยของพวกเขา เซียวหานที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงตัวสั่นเทาในทันที
“บุปผาขับิญญาสามารถดูดซับปราณดาราและก่อให้เกิดเปลวไฟได้ หากกลืนมันเข้าไปจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ชีพจรและอวัยวะภายใน รวมถึงขับโรคภัยทั้งหมดในร่างกาย และสารพิษที่ตกค้างด้วย”
เสี่ยวเมิ่งชะงักเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “วิธีนี้ของพี่จุน นอกจากจะจำลองการกลืนบุปผาไล่ิญญาแล้ว ยังช่วยให้ภายในแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย”
นางมิได้ตอบออกไปตรงๆ ผู้าุโชิวกับผู้จัดการฉางจึงมิได้ถามอะไรอีก พวกเขามองไปที่หยวนจุนอย่างมุ่งมั่น อดไม่ได้ที่จะมองบุรุษหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ใหม่
กระทั่งหยวนจุนควบคุมปราณต้นเพลิงไปจนถึงอวัยวะภายในแล้วขับพิษส่วนใหญ่ออกมา เซียวจั้นจึงหันศีรษะไปด้านข้างและกระอักเืสีดำขุ่นออกมาทันที
แม้จะยังควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้อย่างที่้า แต่เซียวจั้นก็มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว
เซียวหานรีบประคองเซียวจั้นให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง หยวนจุนจึงลุกขึ้นยืนและเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เขารู้สึกว่าร่างกายผ่อนคลายขึ้นเป็อย่างมาก
“อวัยวะภายในของผู้นำเซียวปลอดภัยแล้ว แต่ภายในยังมีพิษของเมือกหลงิญญาหลงเหลืออยู่จึงต้องทำการรักษาอีกหน่อย ภายในสามปีจึงจะสามารถฟื้นฟูพลังได้เท่ากับระดับปัจจุบัน”
สามารถฟื้นฟูพลังยุทธ์ระดับจันทราขั้นห้าได้ภายในสามปี สำหรับเซียวหานแล้วเป็ระยะเวลาที่นางเองก็คาดไม่ถึง
เดิมทีนางคิดว่าแม้จะสามารถรักษาชีวิตของเซียวจั้นไว้ได้ ก็คงกลายเป็คนธรรมดาที่ไม่สามารถใช้ปราณดาราได้อีก
แต่ประโยคนี้ของหยวนจุน กลับทำให้นางมีความหวังและความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอบคุณมาก ครั้งนี้ข้าเป็หนี้เ้า” เซียวหานกล่าวขณะที่กำลังจะยกมือเรียวแสดงมารยาทต่อหยวนจุน
เขาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แสดงให้เห็นว่าเขาเต็มใจช่วยนาง เนื่องจากทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำช้าของหลิววั่นซาน
“แม่นางเซียวจะทำอย่างไรต่อไป? หากกลับไปที่จวนตระกูลเซียว เกรงว่าเ้าจะถูกโจมตีกลางทาง การที่หลิววั่นซานและหลิวหรูเยียนไม่กลับจวน แต่กลับตั้งค่ายอยู่ทีู่เาสองแดน เห็นได้ชัดว่าพวกเขา้าจะทำให้เ้าหมดโอกาสรอด”
“เช่นนั้นกลับไปที่โรงประมูลกับเราก่อนดีหรือไม่ รอให้ผู้นำเซียวฟื้นฟูร่างกายก่อน แล้วพวกเ้าค่อยคิดหาทาง” เมื่อผู้าุโชิวเห็นเซียวหานมีท่าทีลังเลจึงเอ่ยปากเชิญ
“เช่นนั้นต้องรบกวนผู้าุโกับผู้จัดการฉางแล้ว!”
เซียวหานเข้าใจเหตุผลของผู้าุโชิวเป็อย่างดี หากตอนนี้นางกลับไปเมืองลั่วฝาน จะต้องถูกโจมตีกลางทางอย่างแน่นอน อีกทั้งนางยังไม่สามารถเอ่ยปากขอร้องให้ผู้าุโชิวและคนอื่นๆ ช่วยไปส่งนางกลับจวนตระกูลเซียวด้วย
เนื่องจากเขาเป็ถึงผู้าุโของโรงประมูล จึงเป็เื่ยากที่เขาจะเอ่ยปากทำเพื่อพ่อของนาง
แน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เซียวหานรับปากอย่างง่ายดาย
การที่หยวนจุนถอนพิษของเมือกหลงิญญาให้พ่อของนางได้ แสดงว่าเขาเป็ผู้ที่มีความสามารถ หากมีทั้งสองอยู่ใกล้ๆ อย่างน้อยก็สามารถป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดได้
ที่จวนตระกูลเซียวยังมีปู่ที่แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าพ่อของนาง ซึ่งหลิววั่นซานคงไม่กล้าพอที่จะบุกโจมตีที่นั่น ดังนั้นนางจึงไม่กังวลเกี่ยวกับฝั่งจวนตระกูลเซียว
หยวนจุนแบกเซียวจั้นกลับไปที่โรงประมูล ถนนหนทางในเมืองเทียนอวิ่นเต็มไปด้วยผู้คน ประตูจวนตระกูลเจียงถูกปิดอย่างแ่า ด้านนอกมีกลุ่มนักยุทธ์ล้อมอยู่แน่นขนัด
การจากไปอย่างน่าสลดใจของผู้นำตระกูลเจียงในวันนี้ รวมถึงการจากไปของเจียงเทียนมิ่งที่เป็ผู้าุโของตระกูลในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ตระกูลเจียงสูญเสียเสาหลักไปอย่างสิ้นเชิง
มีนักยุทธ์ระดับดาราเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคอยปกป้องรักษาตระกูลเจียง ซึ่งในสายตาของคนนอก เช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับกำแพงกระดาษที่กั้นไฟ เพราะไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์ แต่ยังเพิ่มความเหิมเกริมให้แก่คนนอกด้วย
หยวนจุนมองอักขระสีทองที่อยู่เหนือประตูของจวนตระกูลเจียง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวว่า “ถ้าอักขระพวกนั้นถูกแทนที่ด้วยคำว่าจวนตระกูลหยวน บางทีอาจเป็ทางเลือกที่ไม่เลว”
เขากล่าวออกมาโดยที่มิได้คิดอะไร แต่ผู้จัดการฉางกลับจับใจความได้ ก่อนจะยิ้มแล้วบอกกับเขาว่า “หากเ้า้า พรุ่งนี้จวนแห่งนี้จะกลายเป็จวนใหม่ของตระกูลหยวน! และมีผู้นำที่อายุน้อยที่สุดของเมืองเทียนอวิ่นปรากฏขึ้น!”
หยวนจุนปิดปากไม่พูดอะไรแล้วส่งเซียวจั้นกับเซียวหานให้โรงประมูลดูแล ซึ่งหลังจากจัดการเื่ของเซียวหานเรียบร้อยแล้ว เขากับเสี่ยวเมิ่งจึงออกจากห้องของเซียวจั้น
“พี่จุน ท่าน้าก่อตั้งจวนตระกูลหยวนจริงๆ หรือ?” เสี่ยวเมิ่งหยุดเดินแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
ชุดกระโปรงยาวสีดำมิอาจปกปิดเรียวขายาวที่สวยงามได้ นั่นจึงทำให้เห็นรูปร่างของนางอย่างชัดเจน
หยวนจุนวางมือไว้บนต้นคออย่างเบื่อหน่าย เขาพึมพำออกมาว่า “หากข้ากลับไปที่วังโต้วเทียน คงไม่สามารถกู้วังคืนได้ด้วยแรงของข้าเพียงลำพัง การวางแผนฝึกกำลังของผู้ที่เชื่อถือได้ั้แ่ตอนนี้คงดีกว่า ถึงตอนนั้นปัญหาจะได้เกิดน้อยลง”
“แม้แต่เมืองใหญ่อย่างเทียนอวิ่น อย่างมากคงฝึกฝนนักยุทธ์ระดับจันทราได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระดับความสามารถย่อมสำคัญกว่าพละกำลัง”
“การเริ่มคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถจากที่นี่ ถือเป็วิธีที่สร้างรากฐานในอนาคตได้ดีทีเดียว”
หยวนจุนตบมือออกมาหนึ่งที แววตาเปลี่ยนเป็มุ่งมั่น จากนั้นจึงกล่าวเสียงเบาว่า “ในเมื่อตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นต้องทำให้สำเร็จ!”
“จวนตระกูลหยวน ฮาฮา!”
เขายิ้มจนดวงตาเรียวเล็ก ก่อนจะเดินไปยังจวนตระกูลเจียงกับเสี่ยวเมิ่ง
เมื่อพวกนักยุทธ์ที่กำลังปิดล้อมทางเข้าเห็นทั้งสองเดินมาจึงพากันหลีกทางให้ พวกนั้นรวมตัวกันแล้วกระซิบกระซาบ คอยดูว่าพวกเขาจะทำสิ่งใดต่อไป
หยวนจุนหยุดอยู่ที่หน้าประตูจวนตระกูลเจียง ฝ่ามือปรากฏเปลวไฟที่กำลังลุกโชน ก่อนจะพังประตูจนยับเยินโดยที่ไม่กล่าวอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้