“ขอบคุณท่านอาจารย์ ศิษย์หวังเค่อ ขอกราบท่านอาจารย์ขอรับ!” หวังเค่อรีบเร่งคารวะทันที
ความตั้งใจเดิมของหวังเค่อคือการที่มันได้เข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์เป็ศิษย์ทั่วไป แค่นั้นก็ต้องจุดธูปขอบคุณฟ้าดินเป็การใหญ่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่สมดั่งปรารถนา แต่ยังได้ฝากตัวเข้าเป็ศิษย์ประมุขพรรค กลับกลายเป็ศิษย์คนที่สองที่ท่านประมุขไม่เคยคิดรับไว้ นี่คือรัชทายาท ไม่สิ คือรัชทายาทองค์ที่สองชัดๆ! แล้วจะไม่ให้หวังเค่อตื่นเต้นดีใจได้อย่างไร?
ทันทีที่เฉินเทียนหยวนเปิดปาก ย่อมไม่มีเหตุให้ต้องเรียกคำพูดกลับคืนไปอีก ทั้งยังมีแขกจากสำนักเซียนอยู่เป็สักขีพยาน ก็เสมือนว่าฝุ่นผงร่วงหล่นหมดแล้ว[1] มีแต่ใบหน้าของมู่หรงลวี่กวงที่ยังหดหู่อึมครึมสุดแสน
องค์หญิงโยวเยว่ทางด้านข้างได้รับการช่วยเหลือจากหวังเค่อตลอดเวลาที่ผ่านมา พอเห็นมันได้สมดั่งปรารถนาก็รู้สึกยินดีไปกับมันด้วย
แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ยังทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจสถานการณ์ นั่นคือจางเจิ้งเต้า ทว่ามันคงได้ยินเสียงซุบซิบหารือกันของผู้คนรอบด้านจนทราบว่าที่แท้เื่ราวเป็มายังไงกันแน่ ทันใดนั้นคนก็ตาเหลือกขึ้นศีรษะ อีกแค่นิดเดียวก็จะน้ำลายฟูมปากสลบกลางอากาศไปแล้ว นี่ตนกลับประเคนความดีความชอบครั้งใหญ่ให้หวังเค่อไปหรือนี่?
“ประมุขเฉิน! ข้าเองก็สร้างคุณความดีไว้ให้พรรคเทพหมาป่า์เหมือนกันนะ ข้าคือคนที่เริ่มแผนการช่วยเหลือองค์หญิงโยวเยว่ ข้าคือผู้เคาะระฆัง! ข้าเองก็เป็พี่น้องที่ดีของหวังเค่อ ข้าเองก็นับถือท่านมานานแล้ว ข้าเองก็อยากจะกราบท่านเป็ท่านอาจารย์เหมือนกัน ท่านอาจารย์!” จางเจิ้งเต้าพุ่งตัวเข้ามาคุกเข่าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมเอ่ยอย่างตื่นเต้นลุ้นระทึก
เสียงะโนี้เรียกสายตาของทุกคนมาทางจางเจิ้งเต้า
“จางเจิ้งเต้า?” เฉินเทียนหยวนนิ่วหน้ามองจางเจิ้งเต้า
เห็นได้ชัดว่าเฉินเทียนหยวนรู้ที่มาที่ไปของจางเจิ้งเต้า
“ใช่แล้วขอรับ ท่านอาจารย์จำข้าได้หรือนี่? เยี่ยมไปเลย!” จางเจิ้งเต้าพลันตื่นเต้นยินดี
“อย่ามาเรียกข้าว่าท่านอาจารย์ ด้วยฐานะของเ้า ข้าย่อมไม่อาจรับเ้าเข้าเป็ศิษย์ได้!” เฉินเทียนหยวนส่ายหน้า
ฐานะ? ทุกคนมองดูจางเจิ้งเต้าผู้นี้ด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้
“ทำไมกันล่ะ?” จางเจิ้งเต้าทำหน้างง
“ครั้งนี้เ้าเคาะระฆังสร้างคุณความดีต่อพรรคข้า แต่ว่าเ้าเองก็ทำกระดูกของบรรพบุรุษพรรคข้าป่นปี้เสียหายด้วยเช่นกัน...!” เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วกล่าวคำ
“ขะ ข้าถูกหวังเค่อบีบคั้นมาต่างหาก ข้าไม่ได้ตั้งใจ!” จางเจิ้งเต้ากล่าวอย่างร้อนรน
“ไม่ตั้งใจ? ถูกหวังเค่อบีบคั้น? ช่างปะไร! เ้าทำลายการพักผ่อนของบรรพบุรุษพรรคเทพหมาป่า์ ดังนั้น ผลงานของเ้าจึงถูกบั่นทอนลง ถูกหวังเค่อบีบให้เคาะระฆัง ถือว่าลดโทษที่เ้าทำลายกระดูกบรรพบุรุษไป ดังนั้นคุณความดีของเ้าถือเป็โมฆะ!” เฉินเทียนหยวนประกาศออกมาอย่างสงบ
“อ๋า? แต่ แต่ว่าข้าเป็คนเคาะระฆังนะขอรับ!” จางเจิ้งเต้าเผยสีหน้าไม่ยินยอมพร้อมใจ
“จางเจิ้งเต้า ท่านอาจารย์ข้าตัดสินเื่ราวอย่างยุติธรรม แต่เ้ากลับสงสัยการตัดสินใจของท่านงั้นรึ?” หวังเค่อถลึงตาขู่คาดมาจากด้านข้าง
จางเจิ้งเต้าหน้าม่อยคอตก ตอนนี้ถึงเถียงไปก็เปล่าประโยชน์
“ประมุขเฉิน ข้าไม่คาดคั้นเื่เคาะระฆังแล้วก็ได้ แต่ฐานะขององค์หญิงโยวเยว่นั้นข้ารู้ ข้าในฐานะคนริเริ่มแผนปฏิบัติการในครั้งนี้เองก็ถือว่ามีความชอบครั้งใหญ่! ข้า ข้าก็แค่อยากกราบท่านเป็ท่านอาจารย์เท่านั้น! ช่วยทำให้ความปรารถนาของข้าเป็ความจริงทีเถอะ!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างหมายมั่นปั้นมือ
ตัวท่านไม่ติดใจเอาความข้าแล้วก็จริง แต่ศิษย์ที่เหลือของพรรคเทพหมาป่า์จะคิดแบบเดียวกันหรือ? ขืนพวกมันลงไม้ลงมือเอากับข้าในภายหลังขึ้นมาจะทำยังไง? ยังคงเลียนอย่างหวังเค่อ กอดขาใหญ่ของท่านไว้ให้มั่นจึงจะนับว่าสำคัญที่สุด
แต่เฉินเทียนหยวนกลับส่ายหน้า “ข้ารับเ้าเข้าเป็ศิษย์ไม่ได้จริงๆ แต่ข้าเองก็รู้ว่าตอนนี้เ้ากำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะงั้นข้าจะช่วยคลายความกังวลให้กับเ้าเอง!”
“เอ๋? จริงหรือ?” จางเจิ้งเต้าตาลุกวาว
“สืบเนื่องจากความผิดของบิดาเ้า ทำให้เ้าต้องแบกรับความผิดทำคุณความดีชดใช้กรรม ดังนั้นตัวเ้าจึงถูกลงผนึกไว้ ข้าจะช่วยคลายผนึกแรกออกให้เ้าเอง! หากเบื้องบนถามขึ้นมาก็ให้มาหาข้าแล้วกัน!” เฉินเทียนหยวนว่า
ขณะที่พูด เฉินเทียนหยวนก็จี้นิ้วใส่หน้าอกของจางเจิ้งเต้า พลังขุมหนึ่งชำแรกเข้าไปในร่าง
“ปง!”
บังเกิดเสียงกึกก้องขึ้นในตัวจางเจิ้งเต้า ราวกับว่าพันธนาการบางอย่างได้ถูกปลด จากนั้นรัศมีพลังของจางเจิ้งเต้าก็พุ่งทะยานเร็วรี่ ฝุ่นหินดินทรายรอบด้านปลิวฟุ้งอย่างบ้าคลั่ง
“รัศมีพลังขอบเขตดวงธาตุทองคำ?” มู่หรงลวี่กวงอุทานอย่างตื่นตะลึง
หวังเค่อเองก็เบิกตาโต จางเจิ้งเต้าก่อนหน้านี้แม้แต่เนี่ยเทียนป้าเซียนเทียนขั้นสูงสุดก็ยังจะเอาชนะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้รัศมีพลังของมันกลับทะยานไปถึงขอบเขตดวงธาตุทองคำ? นี่ นี่เป็ไปได้ยังไง? ไอ้เส็งเคร็งนี่หลอกข้ามาโดยตลอดเลยสิ
“ขอบคุณประมุขเฉินเป็อย่างสูง เพียงแต่ เพียงแต่เมื่อเทียบกับการปลดผนึกแรกให้แล้ว ข้ากลับปรารถนาฝากตัวเป็ศิษย์ท่านมากกว่า! ความถวิลหาที่ข้ามีต่อพรรคเทพหมาป่า์ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใดจะมาเข้าใจได้! แล้วอีกอย่าง ท่านช่วยข้าคลายผนึกแรกเยี่ยงนี้ เกิดเบื้องบนไม่เห็นแก่หน้าท่านขึ้นมา ข้าก็ยังต้องซวยอยู่ดีนี่นา!” จางเจิ้งเต้าโอดครวญ
เฉินเทียนหยวนนึกไม่ถึงว่าจางเจิ้งเต้าจะหน้าด้านไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้! แต่ไหนๆ ก็จัดการมาถึงขนาดนี้แล้ว คนดีอย่างมันก็ต้องจัดการให้ถึงที่สุดจึงจะถูกต้อง
“ข้าไม่รับศิษย์ ส่วนเ้าก็กังวลว่าเบื้องบนจะเอาเื่ เอาอย่างนี้เถอะ เ้าก็เข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์ของข้าเสีย! กราบไหว้อาจารย์ลืมไปได้เลย แต่เ้าเองก็มีมรดกวิชาของตระกูลเ้าอยู่แล้ว! เ้าจงรับตำแหน่งเป็าุโเค่อชิง[2]ของพรรคเทพหมาป่า์ไปก็แล้วกัน เช่นนี้แล้ว หากเบื้องบนยังจะสร้างความลำบากให้เ้าอีก เ้าก็แค่บอกกล่าวฐานะนี้ออกไปแล้วให้มันมาหาข้าก็พอ!” เฉินเทียนหยวนขบคิดกล่าววาจา
“ขอบคุณประมุขพรรค!” จางเจิ้งเต้ากล่าวอย่างตื่นเต้นยินดี
จากนั้นก็หันมาทำหน้าทำตาอย่างผู้ชนะใส่หวังเค่อ ราวกับกำลังจะบอกว่าปู่เ้าคนนี้ได้เป็าุโเค่อชิง ส่วนเ้าก็แค่ศิษย์ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เ้าจะต้องให้ความเคารพแก่ข้า
หวังเค่อมองเมินจางเจิ้งเต้าไปโดยปริยาย
“จริงสิ ท่านประมุข แล้วองค์หญิงโยวเยว่เล่าจะทำยังไง? นางไม่มีที่ไปแล้วนะขอรับ!” จางเจิ้งเต้ามองเฉินเทียนหยวน
“ดรุณีแห่งอาณาจักรที่ล่มสลายรังแต่จะเพิ่มปัญหาให้ประมุขเฉินเสียเปล่า แต่หากประมุขเฉินไม่ถือสา จะยอมรับข้าเข้าเป็ศิษย์ด้วยได้หรือไม่?” องค์หญิงโยวเยว่เปิดปากถามขึ้นมาทันที
แม้จะไม่รู้ว่าทำไมเสด็จแม่ของนางถึงได้ให้นางมาหาเฉินเทียนหยวน แต่ถ้าได้กราบไหว้เฉินเทียนหยวนเป็อาจารย์ มีหวังเค่อเป็ศิษย์ร่วมอาจารย์ เช่นนั้นก็ดูจะไม่เลวอยู่เหมือนกัน
“องค์หญิงโยวเยว่ ศักดิ์ของท่านสูงส่งนัก ข้าไม่กล้ารับท่านเข้ามาเป็ศิษย์หรอก เพียงแต่ท่านวางใจได้ มีพรรคเทพหมาป่า์ข้าอยู่ พวกเราย่อมต้องปกป้องท่านให้ดีที่สุด ข้าจะให้คนไปรายงานครอบครัวของท่านโดยเร็วที่สุดและให้พวกเขามารับตัวท่านไป ส่วนตอนนี้ท่านก็พักอยู่ที่พรรคเทพหมาป่า์ข้าไปพลางๆ ก่อนเถอะ!” เฉินเทียนหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเป็คนนอก อยู่ที่นี่คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่ นี่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวอย่างไรดี” องค์หญิงโยวเยว่ยิ้มเฝื่อน
เฉินเทียนหยวนครุ่นคิด “เอาอย่างนี้เถอะ หากองค์หญิงไม่ถือสา ท่านเองก็มาเป็าุโเค่อชิงของพรรคเทพหมาป่า์ข้าด้วยเลยสิ? ท่านจะได้ไม่ต้องถูกศิษย์คนอื่นชี้นิ้วบงการ มีฐานะเทียบเท่ากับข้า!”
“าุโเค่อชิง?” แขกทุกคนเผยสีหน้าสงสัยใคร่รู้
องค์หญิงโยวเยว่ผู้นี้เป็องค์หญิงจากแคว้นที่ล่มสลาย จำเป็ต้องยกระดับนางไว้สูงถึงขนาดนั้นด้วยหรือ? หรือว่าเื้ันางยังมีฐานะอื่นอยู่อีก?
มู่หรงลวี่กวงในตอนนั้นนึกอยากตบหน้าตัวเองสักฉาดหนึ่ง เดิมคิดว่าองค์หญิงโยวเยว่คือสุนัขเร่ร่อน เว้นแต่รูปโฉม นางก็ไม่มีอะไรอีกเลย แต่ตอนนี้กลับค้นพบว่าตนเองคิดผิดไป นางดูจะยังมีเบื้องลึกเื้ัอยู่ แถมเื้ัที่ว่าก็ดูจะไม่ได้ด้อยไปกว่าฐานะองค์หญิงแห่งราชวงศ์ชือกุ่ยในตอนแรกอีกด้วย แต่ตนกลับสะบั้นการแต่งงานนี้ไปด้วยมือของตัวเองเสียอย่างนั้น?
“ข้า? ผู้าุโ?” องค์หญิงโยวเยว่รำพึงอย่างตกตะลึง
“ถูกแล้ว นับแต่นี้ไป ท่านก็คือาุโเค่อชิงของพรรคเทพหมาป่า์ข้า ด้วยคำสั่งของเปิ่นจุน[3] ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์จะช่วยปกป้องท่านเหมือนอย่างที่พวกมันปกป้องพรรคเทพหมาป่า์! พบเห็นท่านก็เหมือนพบเห็นเปิ่นจุน!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงขรึม
“คารวะผู้าุโ!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ทั้งหมดพากันคุกเข่าคำนับ
องค์หญิงโยวเยว่สีหน้าเหม่อลอย
“องค์หญิงโยวเยว่เองก็มีผนึกบนตัวด้วยเหมือนกันหรือนี่? ข้าจะช่วยท่านคลายผนึกเอง ว่ายังไงล่ะ?” อยู่ๆ เฉินเทียนหยวนก็ถามขึ้นมา
“นี่เป็ฝีมือของพวกขุนนางกังฉินของราชวงศ์ชือกุ่ย คงต้องรบกวนท่านประมุขแล้ว!” องค์หญิงโยวเยว่พยักหน้า
เฉินเทียนหยวนขยับมือออกมาเล็กน้อย เมื่อกะระยะได้ ลำแสงสีดำก็พุ่งตรงไปที่หน้าผากขององค์หญิงโยวเยว่
“ปง!”
เกิดเสียงทึบดังขึ้นมาจากภายในร่างขององค์หญิงโยวเยว่ กระแสปราณทรงพลังระลอกหนึ่งแผ่พุ่งออกจากร่าง พันธนาการในร่างนางถูกทำลายลงแล้ว
“ขอบเขตดวงธาตุทองคำ?” หวังเค่อเผยสีหน้าประหลาดออกมา
จางเจิ้งเต้ากับองค์หญิงโยวเยว่ต่างก็กลายเป็ผู้ที่อยู่ในขอบเขตดวงธาตุทองคำ? ดูเหมือนว่าตนเองจะมีระดับฝึกปรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดนะว่าไหม?
“เอาละ ประมุขเฉิน น้องชายข้าถูกกลอสนี์ปะามารของพรรคเทพหมาป่า์ท่านทำร้ายจนเจ็บหนัก จนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่ทราบว่าเป็ตายร้ายดีอย่างไรบ้าง ศิษย์ของท่านขโมยป้ายคำสั่งอีกาทองคำของมันไป พวกท่านควรที่จะให้คำอธิบายแก่พวกเราเสียหน่อยท่านว่าจริงไหม?” จางหลี่เอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงต่ำลึก
หวังเค่อนำป้ายอีกาทองคำพร้อมกับยันต์สั่งการของกลอสนี์ปะามารส่งให้เฉินเทียนหยวนทันที
“ท่านอาจารย์ พวกเราสามคนถูกเนี่ยเทียนป้าดักฆ่าระหว่างทาง และป้ายอีกาทองคำนี้ก็ได้มาจากมือของเนี่ยเทียนป้า หาได้ชิงมาจากจางเสินซวีไม่ ส่วนที่ว่าพวกเราเข้าพรรคเทพหมาป่า์มา แม้จะปลอมตัวเป็ศิษย์พรรคอีกาทองคำ แต่ทั้งหมดก็เพื่อการปราบมาร อาการาเ็ของจางเสินซวีเป็ฝีมือของซุนซงที่เป็มารอสูร ไม่เกี่ยวกับพรรคเทพหมาป่า์ของเราเลย จึงเรียนมาให้ท่านอาจารย์ได้รับทราบ!” หวังเค่อรีบลบล้างความผิดทั้งหมดออกไปจนเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน
ต่อให้จางเสินซวีเจ็บตัว มันก็โยนหม้อความผิดทั้งหมดให้ซุนซงรับไป ให้พรรคอีกาทองคำไม่มีที่จะระบายโทสะได้
“จางเสินซวีตอนนี้อยู่ที่ไหน?” เฉินเทียนหยวนหันมามองมู่หรงลวี่กวง
มู่หรงลวี่กวงให้คนไปนำตัวจางเสินซวีมาทันที
บนเปลหาม จางเสินซวีได้รับการดูแลรักษาอย่างเรียบง่าย ตลอดทั้งตัวคือผ้าพันแผล สภาพน่าดูชมเป็อย่างยิ่ง จะขยับตัวทีก็ยังกินแรงสุดประมาณ มีแต่ตากับปากเท่านั้นที่อยู่นอกผ้าพันแผล แน่นอนว่านี่คือสภาพที่ดีที่สุดแล้ว หากไม่มีผ้าพันแผลรัดติ้วมา ร่างที่ไหม้เกรียมไปตลอดทั้งตัวจะต้องเป็ภาพที่น่าเวทนากว่านี้แน่
“ท่านพี่! เป็มัน เป็ฝีมือพวกมัน...!” จางเสินซวีที่นอนแบ็บอยู่บนเปลหามยกนิ้วอันสั่นเทิ้มขึ้นชี้มาทางหวังเค่อและจางเจิ้งเต้า สามารถมองเห็นความอาฆาตพยาบาทภายในดวงตาคู่นั้นได้ไม่ยาก
“ประมุขเฉิน! ท่านดูน้องชายข้า! หากไม่ใช่เป็เพราะว่าศิษย์ของท่านปลอมตัวเป็มัน มันก็คงจะไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอก!” จางหลี่เอ๋อร์ถลึงตาอย่างโกรธเกรี้ยว
เห็นได้ชัดว่าจางหลี่เอ๋อร์เองก็ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน[4] ต่อให้หวังเค่อล้างมลทินออกไปจากตัวจนหมด แต่จางหลี่เอ๋อร์ก็ยังไม่คิดจะปล่อยไป น้องชายนางถูกทำร้ายจนตกอยู่ในสภาพนี้แล้วจะให้นางปล่อยผ่านไปได้ยังไง? จางหลี่เอ๋อร์แม้จะไม่ได้กำลังปลอมตัวเป็เหยื่อใส่ความคนก็จริง แต่ลองนางได้รีดเอาทรัพย์ใครขึ้นมาก็จะไม่มีการผ่อนผันโอนอ่อนต่อกันอย่างแน่นอน
เฉินเทียนหยวนนิ่งคิดอยู่สักพักก่อนพยักหน้าออกมาในที่สุด “เ้าพูดถูกแล้ว จางเสินซวีาเ็ถึงขั้นนี้ พวกหวังเค่อถือว่ามีส่วนรับผิดชอบ แต่เป็เพราะหวังเค่อปลอมตัวเป็พวกเ้า มันถึงได้คลี่คลายวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ เพราะฉะนั้นแล้วจึงกล่าวได้ว่าการทำลายแผนการร้ายของมาราุโในครั้งนี้ จางเสินซวีเองก็มีความดีความชอบด้วยเช่นกัน!”
จางเสินซวีเบิ่งตามองเฉินเทียนหยวน ความดีความชอบ? ข้าจะอยากได้ความดีความชอบไปทำผายลมอะไร? ข้าอยากล้างแค้นต่างหาก! ข้าอยากให้เ้าลงโทษหวังเค่อต่างหาก!
“เห็นทีข้าคงจะต้องไปแสดงความขอบคุณต่อประมุขพรรคอีกาทองคำสักครั้ง ไหนๆ แล้วก็จะได้ขอให้ประมุขพรรคอีกาทองคำช่วยตกรางวัลให้กับการเสียสละของจางเสินซวีในครั้งนี้ไปด้วยเลย! ท่านทั้งสองวางใจเถอะ! ประมุขพรรคอีกาทองคำแยกผิดถูกชัดเจน ดังนั้นจะต้องมอบคำตอบที่น่าพึงพอใจให้แก่พวกท่านทั้งสองแน่!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยอย่างขึงขังพร้อมกับส่งคืนป้ายอีกาทองคำ
จางหลี่เอ๋อร์ “…!”
จางเสินซวี “…!”
ประมุขเฉิน นี่ท่านกำลังโยนหม้ออยู่ใช่หรือไม่? พวกเรากำลังเอาเื่ศิษย์ของท่าน แต่ท่านกลับบอกว่าจะให้ประมุขพรรคอีกาทองคำตกรางวัลพวกเรา? ข้าอยากได้รางวัลขี้ไก่นั่นหรือไง? ข้าอยากได้คำขอโทษจากพวกท่านต่างหาก คำขอโทษน่ะ! ท่านเพิ่งจะรับตัวศิษย์คนนี้ไปแหม็บๆ ไม่ทันไรก็กางปีกปกป้องมันแล้ว?
“ท่านทั้งสองยังมีอะไรจะเสริมอีกหรือไม่?” เฉินเทียนหยวนมองจางหลี่เอ๋อร์สองพี่น้อง
“ฮึ่ม พวกเราไป พวกเราไป จากนี้ไปอย่าให้ข้าเจอตัวพวกหวังเค่ออีกก็แล้วกัน ฮึ่ม!” จางหลี่เอ๋อร์กำป้ายอีกาทองคำแน่นขณะเอ่ยออกมาอย่างเป็เดือดเป็แค้น
จางหลี่เอ๋อร์สะบัดชายแขนเสื้อตั้งท่านำศิษย์พรรคอีกาทองคำจากไป เฉินเทียนหยวนเล่นถือหางกันอย่างนี้แล้วตนยังจะทำอย่างไรได้? แขกสำนักเซียนรอบด้านต่างก็ถูกเฉินเทียนหยวนซื้อใจด้วยกุศลก่อนหน้านี้กันหมดแล้ว มีหรือจะยอมช่วยตนพูดน่ะ?
หวังเค่อ? จางเจิ้งเต้า? พวกเ้าคอยก่อนเถอะ! ไว้มาดูกันว่าข้าจะจัดการกับพวกเ้ายังไง!
ศิษย์พรรคอีกาทองคำเดินกระแทกเท้าจากไป บรรดาแเื่เองก็ทยอยกันกล่าวขอตัว อย่างไรซะสำนักเซียนของพวกตนต่างก็มีมารอสูรแฝงตัวอยู่ จำต้องกลับไปรายงานให้ประมุขพรรคและเหล่าเ้าสำนักได้ทราบเพื่อที่จะได้ทำการตรวจค้นสำนักกันอีกสักรอบ
เฉินเทียนหยวนส่งแขกอย่างชำนิชำนาญไม่เหนือบ่ากว่าแรง พวกมู่หรงลวี่กวงเองก็ไม่กล้าป้วนเปี้ยนอยู่ตรงหน้าเฉินเทียนหยวน ต่างก็รุดออกไปล่าล้างมารอสูรนอกประตูพรรคเพื่อสร้างความดีไถ่ถอนความผิด!
“ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยปกป้อง!” หวังเค่อกล่าวต่อเฉินเทียนหยวนอย่างซาบซึ้งใจ
“หวังเค่อ ทำไมหว่างคิ้วเ้าถึงได้เป็สีดำกันล่ะ? หรือว่าร่างของเ้าจะมีอะไรผิดปกติ?” เฉินเทียนหยวนมองหวังเค่อด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้
“ท่านอาจารย์ สายตาของท่านช่างเฉียบคมนัก! ตลอดสิบปีมานี้ ศิษย์ถูกโชคร้ายตามพัวพันไม่เลิกรา ได้ยินว่ากระจกสะกดแสงของท่านอาจารย์สามารถทำลายโชคร้ายนี้ได้ ท่านอาจารย์โปรดช่วยข้าด้วย!” หวังเค่อขยับตัวเข้าใกล้เฉินเทียนหยวนพลางเอ่ยอย่างตื่นเต้น
ในเมื่อตอนนี้พวกมันต่างก็เป็ศิษย์อาจารย์กันแล้ว เช่นนั้นหวังเค่อก็จะไม่ขอเกรงใจอีกต่อไป
“ถูกโชคร้ายตามพัวพันมาตลอดสิบปี?” เฉินเทียนหยวนนิ่วหน้า
“ใช่ขอรับ ข้ารับรองได้!” จางเจิ้งเต้าทางด้านข้างพยักหน้าให้การรับรอง
องค์หญิงโยวเยว่เองก็เผยสีหน้าสงสัยใคร่รู้
“ที่เคราะห์ร้ายพัวพันตัวเ้าอยู่น่าจะเป็เพราะว่าเ้านั้นขาดคุณธรรม!” เฉินเทียนหยวนวิเคราะห์ออกมา
หวังเค่อ “…!”
“หวังเค่อข้าก็บอกแล้วไงว่าเ้าน่ะทำเื่ชั่วร้ายมามากเกินไป! เ้าก็ไม่ยอมเชื่อข้า!” จางเจิ้งเต้าได้ทีก็หัวร่อเยาะใส่หวังเค่อโดยพลัน
หวังเค่อ “…!”
ข้า? ชั่วร้าย?
[1] เปรียบเทียบกับเื่ราวที่สิ้นสุดลงแล้ว
[2] เค่อชิง หมายถึงข้าราชการ/ข้ารับใช้ต่างถิ่น เป็ตำแหน่งของขุนนางที่เชิญคนจากต่างแคว้นมารับ
[3] คำแทนตัวแสดงความเหนือกว่า
[4] หมายถึงคนที่รับมือได้ง่ายๆ
