เฮอร์ไมโอนี่ฟาดหนังสือเก่าเล่มใหญ่เล่มหนึ่งลงบนโต๊ะก่อนจะเปิดหน้าหนังสืออย่างรวดเร็ว ปากพึมพำไปด้วยว่า
"นิโคลัส เฟลมเมล เป็ผู้เดียวที่รู้จักในการสร้างศิลาอาถรรพ์!"
"นั่นคือวัตถุที่มหัศจรรย์มาก มันสามารถเปลี่ยนโลหะใด ๆ ให้กลายเป็ทองคำแท้ และยังสามารถสร้างยาวิเศษแห่งชีวิตะ ที่จะทำให้ผู้ดื่มไม่มีวันตายอีกต่อไป"
ทั้งสามนึกถึงห้องทางเดินฝั่งขวาชั้นสี่ ห้องที่มีเซอเบอรัสสามหัวเฝ้าอยู่
"เ้าหมาสามหัวตัวนั้น ต้องเฝ้าศิลาอาถรรพ์ของเฟลมเมลแน่!"
"หินก้อนเดียวที่เปลี่ยนเป็ทองได้ แถมยังทำให้เป็ะ!" แฮร์รี่พูด "ไม่แปลกเลยที่สเนปจะหมายตาไว้ ใคร ๆ ก็อยากได้มันทั้งนั้น!"
"ไม่แปลกใจเลยที่เราไม่เจอชื่อเฟลมเมลใน วิวัฒนาการศาสตร์เวทมนตร์ยุคใหม่" รอนว่า "ถ้าเขาอายุหกร้อยหกสิบห้าแล้ว แบบนี้คงไม่จัดว่าเป็ ‘ยุคใหม่’ หรอก ใช่มั้ย?"
ทั้งสามคิดว่าพวกเขาไขปริศนาได้แล้ว
แต่จากนั้น พวกเขาก็เริ่มชะงัก ถ้าทั้งหมดเป็เพราะสเนปอยากได้ศิลาอาถรรพ์แล้วเผลอถูกเซอเบอรัสข่วน?
แล้วศาสตราจารย์ควีเรลล์ล่ะ? เขาทำไมถึงเล่นงานแฮร์รี่?
เหมือนกับว่าพวกเขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่ขณะเดียวกันกลับเหมือนหลงเข้าไปในปริศนาใหม่
การแข่งขันควิดดิชใกล้เข้ามาทุกที และหัวใจของแฮร์รี่ก็ตึงเครียดขึ้นทุกวัน
คะแนนบ้านกริฟฟินดอร์ตอนนี้ร่วงลงมาอยู่อันดับสุดท้าย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เพราะคะแนนจากการแข่งขันควิดดิชสามารถแปลงเป็คะแนนบ้านได้แบบ 1 ต่อ 1
นั่นหมายความว่า ถ้าเขาคว้า สนิชทองคำ ได้สำเร็จในการแข่งขันรอบนี้ ก็จะสามารถเอาคะแนนที่เดม่อนเสียไป 150 คะแนนกลับคืนมาได้เลย!
เพราะเหตุนี้ แฮร์รี่จึงตัดสินใจจะทุ่มสุดตัว!
แม้กรรมการจะเป็สเนป แม้ควีเรลล์จะมีโอกาสร่ายคาถาใส่เขาอีกครั้ง เขาไม่แคร์อีกแล้ว เขาต้องเอาคะแนนคืนมาให้ได้!
เร็วที่สุด! ชัดเจนที่สุด!
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนเองก็เตรียมตัวพร้อมรับมือ พวกเขาจับตาดูศาสตราจารย์ควีเรลล์อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ยังเฝ้าระวังสเนปด้วย แม้เดม่อนจะบอกว่าสเนปไม่มีความผิด แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังจำได้ว่าเธอเห็นสเนปร่ายคาถาใส่แฮร์รี่ แล้วเขาจะช่วยแฮร์รี่เพราะความหวังดีได้ยังไงกัน?
ตามคำพูดของแฮร์รี่ เขามักจะเห็นสเนปโผล่มาอยู่ใกล้ ๆ อยู่เรื่อย ๆ เ้า "ค้างคาวแก่" นั่นเหมือนจะอ่านใจคนออก แฮร์รี่ถึงกับสงสัยว่าสเนปรู้แล้วว่าพวกเขากำลังสืบเื่ศิลาอาถรรพ์
และใน่เวลาที่ทั้งกลุ่มอยู่ในความกดดัน เดม่อนซึ่งใช้เวลากว่าสองเดือนหมกตัวอยู่ในห้องต้องประสงค์เพื่อศึกษา กฎการแปลงสภาพของกัมพ์ ก็ยอมออกจากห้องพร้อมเอกสารวิจัยหนากว่าหนึ่งเิเ ความยาวเกินครึ่งฟุต มอบมันให้กับศาสตราจารย์มักกอนนากัล
"นี่คืออะไร?"
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลดันแว่นขึ้น พร้อมสีหน้าจริงจังขณะรับเอกสารจากเดม่อน ั้แ่เหตุการณ์ที่เดม่อนลงไม้ลงมือกับมัลฟอยต่อหน้าคนทั้งหอ เธอก็ปฏิบัติกับเขาแบบทางการสุด ๆ มาโดยตลอด
แม้ในใจเธอจะมีความลำเอียงอยู่ไม่น้อย แต่ยิ่งเป็แบบนั้น เธอยิ่งตั้งใจจะรักษาความยุติธรรมให้ถึงที่สุด
"ศาสตราจารย์ ลองเปิดอ่านดูเองจะดีกว่า"
เดม่อนยิ้มเล็กน้อย สีหน้ามั่นใจในงานของตัวเอง เขาทิ้งตัวลงนั่งแล้วใช้คาถาเสกน้ำชากับขนมมาอย่างสบายอารมณ์
มักกอนนากัลกลอกตาเล็กน้อยก่อนหยิบเอกสารขึ้นมา เธอตั้งใจแน่วแน่ว่าหากเอกสารนี้เป็แค่งานบ้านที่แต่งขึ้นแบบลวก ๆ เธอจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เดม่อนลอยนวลด้วยท่าทีเช่นนี้แน่นอน
แต่พอเปิดหน้าแรก เธอก็ชะงักทันที
“งานวิจัยสุดล้ำในการฝ่าทะลุกฎข้อที่สองของกฎการแปลงสภาพของกัมพ์:
การประยุกต์ใช้คาถาเชิงจุลภาคและการจัดระเบียบพลังเวทใหม่”
เดม่อน ไวท์
บทคัดย่อ:
กฎการแปลงสภาพของกัมพ์ถือเป็รากฐานของศาสตร์แปลงร่างในโลกเวทมนตร์ โดยเฉพาะกฎข้อที่สองซึ่งระบุว่าคาถาแปลงร่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลง "แก่นแท้" ของวัตถุได้
งานวิจัยนี้เสนอคาถาใหม่ 2 บท ได้แก่ [คาถาเชิงจุลภาค] และ [การจัดระเบียบพลังเวท] ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปแทรกแซงโครงสร้างระดับจุลภาคของวัตถุ เพื่อทำให้สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติพื้นฐานของวัตถุนั้นได้
หมายเหตุ: หากคุณไม่เข้าใจคำว่า ‘จุลภาค’ ‘โมเลกุล’ ‘อะตอม’ หรือ ‘คุณสมบัติพื้นฐาน’
โปรดไปลงเรียนวิชาเคมีของพวกมักเกิ้ลระดับมัธยมก่อน
ลมหายใจของศาสตราจารย์มักกอนนากัลแทบจะหยุดนิ่ง
เด็กคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? วิจัยทะลุกฎข้อที่สองของกัมพ์? กล้าเอาชื่อหัวข้อแบบนี้มาวางไว้หน้ากระดาษได้ยังไง?
หัวข้อนี้เคยมีพ่อมดแม่มดมากมายตั้งข้อสันนิษฐานไว้ตลอดหลายศตวรรษ แต่จนถึงปัจจุบัน… ยังไม่มีใครสำเร็จแม้แต่คนเดียว!
แต่ในเวลานี้ เธอกลับไม่สามารถละสายตาออกจากงานวิจัยตรงหน้าได้เลยด้วยซ้ำ แม้แต่หันไปมองเดม่อนก็ยังเสียดายสายตา
เดม่อนเป็อัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเคยแปลงสัตว์ชนิดหนึ่งให้กลายเป็อีกชนิดหนึ่งได้สำเร็จมาแล้วใน่เวลาไม่นานมานี้
เมื่ออัจฉริยะระดับนี้เขียนงานวิจัยอย่างจริงจัง
พอศาสตราจารย์มักกอนนากัลเห็นว่างานนี้มีมากกว่าสี่สิบหน้า เธอก็ยิ่งคาดหวังและตื่นเต้นขึ้นอย่างกดไม่อยู่ ถึงขั้นรู้สึกคันยุบยิบในลำคอ
คาถาเชิงจุลภาค (Incantatio Microcosmica)
การจัดระเบียบพลังเวท (Ordinatio Magica)
นี่มันคาถาอะไรกัน? เด็กคนนี้สร้างคาถาใหม่ขึ้นมาเองจริงเหรอ? แล้วทำไมไม่เคยบอกเธอสักคำ?
มักกอนนากัลอ่านต่อ
วิธีทดลอง
ผลลัพธ์และอภิปราย
บทสรุป:
งานวิจัยนี้พิสูจน์ได้ว่า การใช้คาถา [เชิงจุลภาค] และ [จัดระเบียบพลังเวท] สามารถทำให้ศาสตร์แปลงร่างก้าวข้ามกฎการแปลงสภาพของกัมพ์ข้อที่สองได้ภายใต้เงื่อนไขบางประการ
บรรณานุกรม
[1] กัมพ์, กฎการแปลงร่างและกฎแห่งวัตถุเวทมนตร์, สำนักพิมพ์เวทมนตร์, 1750
[2] อัลบัส ดัมเบิลดอร์, ประวัติศาสตร์เวทมนตร์และอนาคต, สำนักวิชาการเวทมนตร์, 1945
[3] นิโคลัส เฟลมเมล, ศิลาอาถรรพ์และการเปลี่ยนแปลงพลังเวท, สำนักวิจัยศาสตร์ลี้ลับ, 1380
มักกอนนากัลอ่านงานทั้งสองหมื่นคำจบในรวดเดียว แล้วจึงถอนหายใจยาวๆ เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองกลั้นหายใจตอนไหน และเพิ่งจะได้หายใจอีกทีเมื่ออ่านจบ
เธอเปิดไปหน้าสุดท้าย แล้วชะงักอีกรอบ
ที่หน้านั้น มีก้านไม้ขีดไฟติดอยู่ ในงานเขียนระบุว่านี่คือไม้ขีดที่แปลงมาจากกระดาษ หากเนื้อหาในงานวิจัยเป็จริง นั่นหมายความว่า...
เธอหยิบไม้ขีดขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองเดม่อนที่นั่งรออยู่
เด็กหนุ่มกำลังจิบชาอย่างสบายใจ เห็นสีหน้าตกตะลึงของอาจารย์ก็ยิ้มบาง ๆ แล้วพูดว่า:
"ศาสตราจารย์ลองหักมันดูสิครับ"
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้