สวี่เยว่โกรธจนหน้าเสียรูป
ตลอดเวลาที่ผ่านมามีแต่เธอที่สาดโคลนใส่สวี่ฮุ่ย ไม่คิดว่าสวี่ฮุ่ยจะรู้วิธีและกล้าใส่ร้ายเธอ!
สวี่เยว่ร้องไห้น้ำตา ทันที “พ่อ พี่เขาใส่ร้ายหนู”
“ฉันใส่ร้ายเธอเหรอ?” สวี่ฮุ่ยหัวเราะเยาะหยัน “ถ้าฉันใส่ร้ายเธอ แม่คงตบฉันไปนานแล้ว แม่ปกป้องเธอจะตายไป”
สาเหตุที่กู่ซิ่วไม่ออกมาปกป้องสวี่เยว่ทันทีนั้นมีเหตุผลอยู่
ถ้าเธอประณามว่าสวี่ฮุ่ยใส่ร้าย ก็เท่ากับยอมรับทางอ้อมว่าเธอเป็คนบังคับให้สวี่ฮุ่ยไปสอบเข้าทำงาน
แต่ยอมรับว่าตัวเองเป็คนบังคับสวี่ฮุ่ยไปสอบเข้าทำงาน ก็กลัวสามีจะโกรธเธอ จึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ตอนนี้เธอเห็นว่าอยู่เฉย ๆ คงท่าไม่ดี ไม่อย่างนั้นลูกสาวสุดที่รักจะถูกยัยเด็กเวรสวี่ฮุ่ยใส่ร้ายจนตายได้
กู่ซิ่วก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าอึมครึม “ฉันเป็คนให้แกไปสอบเข้าทำงานเอง เลิกป้ายสีน้องสาวแกได้แล้ว!”
สวี่ฮุ่ยพูดอย่างมีเลศนัย “หัวเธอมีสีอยู่แล้ว จะต้องให้ใครป้ายอีก? แม่ก็ปกป้องเข้าข้างสวี่เยว่มาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง! ”
สวี่ต้าซานพูดใส่อารมณ์กับกู่ซิ่ว “เธอเป็แม่ ไม่ควรลำเอียงขนาดนี้ ฮุ่ยฮุ่ยต้องเรียนมหาวิทยาลัย ใครก็คัดค้านไม่ได้!”
จากนั้นเขาก็พูดกับสวี่เยว่ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง “พ่อสอนลูกออกมาเป็คนสองหน้าแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
สวี่เยว่ร้องไห้ด้วยความน้อยใจ มีเพียงกู่ซิ่วที่คอยปลอบใจเธอ
หลังกินข้าวเสร็จ กู่ซิ่วพูดกับสวี่ต้าซาน “ผลสอบของฮุ่ยฮุ่ยออกมาแล้ว ผลสอบของเยว่เยว่ก็น่าจะออกแล้วเหมือนกัน บ่ายนี้ฉันอยากพาเยว่เยว่ไปดูผลสอบที่โรงเรียน คุณช่วยไปลาหยุดให้ฉันหน่อย”
สวี่ต้าซานตกลง
กู่ซิ่วพาสวี่เยว่ออกจากบ้าน
เมื่อพ้นประตูบ้านพัก สวี่เยว่ก็บ่น “แม่ พี่สอบได้เป็จ้วงหยวน ทำไมลุงถึงไม่รีบบอกพวกเราล่ะคะ?”
ถ้าพวกเขารู้ล่วงหน้าว่าสวี่ฮุ่ยเป็จ้วงหยวน เมื่อกี้ก็คงไม่ขายหน้าแบบนั้น
ถึงแม้ลุงของสวี่เยว่จะเป็แค่ข้าราชการตำแหน่งไม่ใหญ่ไม่เล็กในสำนักงานศึกษาธิการของอำเภอ แต่เขาก็รู้ข่าวสารรวดเร็ว สามารถรู้ผลสอบล่วงหน้า
แถมยังมีอิทธิพลพอที่จะใช้เส้นสาย เปลี่ยนผลสอบของคนอื่นได้ด้วย
กู่ซิ่วคิดไม่ตกเื่นี้เหมือนกัน เธอเลยอ้างว่าจะไปดูผลสอบที่โรงเรียน รีบพาสวี่เยว่ไปหาพี่ชายตัวเองเพื่อถามให้รู้เื่
กู่ซิ่วพูด “เดี๋ยวพอเจอลุงแกแล้ว พวกเราค่อยถามเขาดู”
เดินไปได้สักพัก สวี่เยว่ก็พูดขึ้นอีก “แม่ พี่เป็จ้วงหยวน ทางโรงเรียนให้เงินรางวัลเธอ อำเภอกับจังหวัดก็ต้องให้ด้วยแน่ ๆ เงินรางวัลน่าจะเยอะอยู่นะคะ”
“ต่อให้เยอะก็เป็ของพวกเรา!”
สวี่เยว่ถึงได้เงียบลง เธอรอประโยคนี้นานแล้ว
สองแม่ลูกลงจากรถที่ตัวอำเภอและตรงไปยังสำนักงานศึกษาธิการ
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหา พวกเธอไม่ได้เข้าไปในสำนักงานศึกษาธิการ แต่ไปหาโทรศัพท์สาธารณะโทรเรียกลุงใหญ่ กู่เจี้ยนกั๋วออกมาแทน
กู่ซิ่วถามทันทีที่เห็นกู่เจี้ยนกั๋ว “สวี่ฮุ่ยเป็จ้วงหยวนระดับมณฑล เื่ใหญ่ขนาดนี้ทำไมพี่ถึงไม่บอกพวกเรา”
กู่เจี้ยนกั๋วอธิบายด้วยสีหน้าลำบากใจ “ปีนี้ไม่เหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา ปีที่แล้วมีข้าราชการคนหนึ่งในสำนักงานศึกษาธิการของอำเภอเปลี่ยนผลสอบของจ้วงหยวนประจำอำเภอเป็ของลูกตัวเอง แล้วโดนคนอื่นรายงานปีนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก สำนักงานศึกษาธิการมณฑลเลยตัดสินใจส่งผลสอบของจ้วงหยวนแต่ละอำเภอและเมืองจากกระทรวงไปยังโรงเรียนโดยตรง ไม่ได้ผ่านสำนักงานศึกษาธิการอำเภอ พี่ถึงไม่ได้รับข่าวทันที พอได้รับข่าวก็สายไปแล้ว”
กู่ซิ่วถาม “เยว่เยว่สอบได้กี่คะแนน?”
กู่เจี้ยนกั๋วส่ายหน้า “ผลสอบของนักเรียนที่ไม่ได้ติดหนึ่งในร้อยอันดับแรกยังไม่ได้ส่งมาที่สำนักงานศึกษาธิการอำเภอ”
“พาเยว่เยว่ไปอยู่บ้านพ่อแม่ก่อนหนึ่งวัน ถ้าบ่ายนี้ผลสอบยังไม่มา พรุ่งนี้เช้าต้องมาแน่ ๆ”
กู่ซิ่วมีภูมิหลังครอบครัวดี พ่อของเธอเป็อดีตอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอ
ตอนนั้นคะแนนสอบเข้าของสวี่เยว่ไม่ถึง แต่ยังได้เรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายหมายเลขหนึ่งประจำอำเภอ ก็เพราะคุณปู่กู่
คุณปู่และคุณย่ากู่อาศัยอยู่ในบ้านสามห้องนอน หนึ่งห้องรับแขกในเขตบ้านพักครูของอำเภอ
ที่ตั้งบ้านพักครูอยู่ในซอยเล็ก ๆ ค่อนข้างไกล แต่สภาพแวดล้อมดี เงียบสงบ
ตอนที่กำลังเดินเข้าซอย สวี่เยว่เห็นชายร่างเตี้ยท่าทางเหมือนขอทานกำลังคุ้ยหาของกินในถังขยะ
ถึงจะเห็นแค่ด้านข้าง แต่สวี่เยว่กลับรู้สึกว่าคน ๆ นั้นหน้าตาคล้ายกับผู้ต้องหาตัวเตี้ยที่หลบหนีไปในประกาศจับบนหนังสือพิมพ์
ชายร่างเตี้ยคนนั้นเห็นคนเดินเข้าซอยก็รีบหลบเข้าไปในซอกหลืบ
สวี่เยว่เห็นเข้า ก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคิด
เธอกลอกตาแล้วพูดกับกู่ซิ่ว “แม่ แม่รู้ไหมว่าพี่สาวเคยไปแจ้งตำรวจเื่ผู้ต้องหาสองคนนั้นเพื่อเงินรางวัลหนึ่งพันหยวน?”
สวี่เยว่ไม่รู้ว่าสวี่ฮุ่ยไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เธอจงใจพูดเสียงดังก็เพื่อให้ผู้ต้องหาที่อยู่ในซอยได้ยิน เธออยากโยนความผิดให้สวี่ฮุ่ยเท่านั้น
เอาให้ผู้ต้องหาโกรธจนฆ่าสวี่ฮุ่ยได้เลยยิ่งดี!
“ลูกรู้ได้ยังไง?”
“วันนั้นหนูบังเอิญเห็นพี่สาวจ้องมองใบประกาศจับที่ติดอยู่บนเสาไฟฟ้าอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เดินเข้าไปในสถานีตำรวจ ถ้าไม่ไปแจ้งความ พี่จะเข้าไปในสถานีตำรวจทำไมล่ะ?”
กู่ซิ่วโมโหเลือกขึ้นหน้า “ยัยเด็กเวรนี่บ้าไปแล้วหรือไง ไม่กลัวผู้ต้องหาคนนั้นตามมาแก้แค้นพวกเราถึงบ้านบ้างเหรอ?”
สวี่เยว่พูด “ใครทำคนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าผู้ต้องหาจะตามก็ให้ตามพี่สาวไปสิ พวกเราไม่ได้แจ้งความจับเข้าสักหน่อย”
ชายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดกำหมัดแน่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้