"ไม่ ท่านแม่...ไม่ได้!"
เหนียนอีหลานนึกถึงหลีอ๋องจ้าวเยี่ยน ดวงตาของนางสั่นไหว พลางกัดฟันแน่น "มีแค่คนขายเนื้อคนเดียว...รับมือนางไม่ไหวหรอก!"
ั้แ่ครั้งแรกที่เจอจ้าวเยี่ยน นางก็คิดเื่นี้มาตลอด เห็นได้ชัดว่า จ้าวเยี่ยนมีความรู้สึกให้เหนียนยวี่ แบบชายหญิง ทว่ากลับปล่อยให้นางจัดการกับเหนียนยวี่ โดยไม่คิดเข้ามายุ่ง แม้กระทั่ง รู้เื่ที่ท่านแม่จะให้เหนียนยวี่แต่งงานกับคนขายเนื้อ เขาก็ยังไม่คิดขัดขวาง นี่มันหมายความว่าเยี่ยงไร?
เหนียนอีหลานไม่สามารถเดาความคิดของจ้าวเยี่ยนได้ แต่นางรู้ว่า จ้าวเยี่ยนต้องมีแผนของตนอย่างแน่นอน
และแผนนั้น จะเป็ประโยชน์ต่อนางหรือไม่ นางเองก็ไม่แน่ใจนัก
ยิ่งรู้สึกไม่แน่ใจมากเท่าใด เหนียนอีหลานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น
เหนียนอีหลานสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ของตัวเอง “นับวันแล้ว นับวันเล่า หากจ้าวอิ้งเสวี่ยนั่นท้อง นางก็น่าจะมีปฏิกิริยาอะไรออกมาได้แล้ว แผนการรับมือต่อจากนี้เรียบร้อยแล้วหรือ?”
“เรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยแล้ว แม่ทำตามแผนการของเ้าเรียบร้อย สั่งการลงไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น จ้าวอิ้งเสวี่ยจะต้องะเิออกมาอีกครั้งแน่” ครั้นหนานกงเยวี่ยกล่าวเื่นี้ ดวงตาของนางพลันเปล่งประกาย
“เมื่อถึงเวลา…” ดวงตาของเหนียนอีหลานหรี่ลง โทสะในดวงตาก่อนหน้านี้ พลันแปลเปลี่ยนเป็ความโหดร้าย “โอกาสครานี้...หึ ลูกเองก็รู้สึกว่า วันเกิดของน้องยวี่เอ๋อร์ในวันนั้น จะต้องเป็โอกาสที่ดีแน่ พอดีเลย ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็ทรงเสด็จมา งิ้วครั้งนี้ จะขาดนางไม่ได้เด็ดขาด! รวมถึงเหนียนยวี่นั่นด้วย...”
เหนียนอีหลานกำลังครุ่นคิดคำนวณถึงวันเกิดของเหนียนยวี่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ในใจนางยามนี้ รู้สึกคาดหวัง ตั้งตารอมากขึ้นเรื่อยๆ
......
ในวันเกิด อายุครบสิบห้าปีของบุตรีอนุจวนเหนียนผู้หนึ่ง ในเมืองชุ่นเทียนแห่งนี้ เดิมทีควรเป็แค่เศษธุลีที่ร่วงหล่นลงน้ำ ไม่มีอะไรน่าใเลยแม้แต่น้อย
แต่เพราะด้วยฐานะที่บุตรีอนุภรรยาตัวกระจ้อย ได้ขึ้นเป็ธิดาบุญธรรมขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ก่อนจะถึงวันเกิดของนางสองสามวัน องค์หญิงจึงส่งคนมาที่จวนเหนียน เพื่อให้มาจัดงานวันเกิดของเหนียนยวี่โดยเฉพาะ
ยิ่งใกล้วันเกิดนาง จวนเหนียนก็ยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้นเท่านั้น
ไม่เพียงแค่นี้ ข่าวที่ท่านอ๋องมู่กล่าวว่าจะมาสู่ขอคุณหนูรองในวันนั้น แพร่สะพัดไปทั่วทั้งมุมตรอก ซอกซอยน้อยใหญ่ แทบทุกคนในเมือง ต่างพากันอิจฉาบุตรีอนุจวนเหนียนผู้นี้ ที่ได้โบยบินไปบนยอดกิ่งกลายเป็หงส์งาม ตระกูลสูงศักดิ์แต่ละตระกูลในเมือง ไม่มีผู้ใดกล้าพลาดงานนี้ ต่างเตรียมของกำนัลแสดงความยินดีไว้ั้แ่เนิ่นๆ ไม่กล้าละเลยมองข้ามสตรีที่อยู่ในสายตาของท่านอ๋องมู่ผู้นี้
คนอื่นๆ อิจฉาในความโชคดีของนาง ทว่าเหนียนยวี่ที่อยู่ในโลกของหอชิงยวี่ตามลำพัง ยิ่งคิดว่าใกล้ถึงวันเกิดนางเท่าใด นางก็ยิ่งประหม่ามากขึ้นเท่านั้น
เพราะนางต้องตัดสินใจเื่สำคัญก่อนนั้น
เหลืออีกเพียงสามวันเท่านั้นจะถึงวันเกิด ในสามวันนี้ ทั่วทั้งจวนเหนียนและแม้กระทั่งทุกสิ่งรอบตัว ล้วนสงบนิ่งอย่างยิ่ง ทว่าเหนียนยวี่รู้ดีว่า ภายใต้ความสงบนี้ มีดวงตานับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองมา เมื่อคลื่นใต้น้ำเคลื่อนไหวอีกครั้ง จะต้องเกิดความสั่นะเืครั้งใหญ่เป็แน่
หนานกงเยวี่ยกับฮูหยินผู้เฒ่าเหนียน เตรียมให้นางไปเป็ภรรยาของชายเฒ่าขายเนื้อ ทว่านางกลับอยากรู้เหลือเกินว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกนางจะทำให้นางแต่งงานกับชายเฒ่าขายเนื้อเยี่ยงไร
“คุณหนู ท่านอ๋องมู่ เขา…วันนี้ยังกลับมาไม่ถึงเมืองชุ่นเทียนเลยเ้าค่ะ...” ชิวตี๋ที่อยู่ด้านข้าง เอ่ยหยั่งเชิงนางอย่างระมัดระวัง มะรืนนี้จะถึงวันเกิดแล้ว หากเขาไม่กลับมา เช่นนั้นเื่สู่ขอ...
ท่านอ๋องมู่มีฐานะสูงศักดิ์ และใจดีคุณหนูอย่างยิ่ง ทว่าไม่ว่าจะเป็ความหมายของคุณหนูหรือองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ พวกเขาต่างไม่อยากแต่งกับราชวงศ์ กลับเป็ท่านแม่ทัพหลวงที่ดูจะเหมาะสมกับคุณหนูมากกว่า
หากท่านอ๋องมู่ไม่กลับมาตามกำหนด การแต่งงานครั้งนี้จะพลิกผันไปหรือไม่?
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว
ยามที่จ้าวอี้เดินทางออกไป นางรู้อยู่แล้วว่า หากฮองเฮาอวี่เหวินได้ส่งเขาไปแล้ว นางไม่มีทางปล่อยให้เขากลับมาอย่างราบรื่นแน่ ส่วนตัวเอง...
ครั้นนึกถึง บทสนทนาที่คุยกับฮองเฮาอวี่เหวินในสวนร้อยสัตว์วันนั้น ดวงตาของเหนียนยวี่พลันดำมืดขึ้นเล็กน้อย
ชิวตี๋ด้านข้าง คอยเฝ้ามองเหนียนยวี่ ครั้นเห็นคุณหนูของตนเองขมวดคิ้ว ไม่พูดไม่จา นางจึงคิดว่า เหนียนยวี่คงจะกังวลเื่ของจ้าวอี้จะเป็อะไร จึงคิดจะเอ่ยปลอบใจคุณหนูของตนเอง ครั้นกำลังจะเอ่ยปาก เสียงของเหนียนยวี่พลันดังขึ้น...
“ไปเอาของที่อยู่ในลิ้นชักนั่นมา”
ยามที่เอ่ยออกมา ทุกโทนเสียงของเหนียนยวี่ ราวกับถูกความสงบนิ่งห่อหุ้มไว้
ชิวตี๋ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง พริบตาพลันได้สติ รีบเอ่ยขานรับ และก้าวเดินไปเปิดลิ้นชักตามคำสั่งของเหนียนยวี่อย่างรีบเร่ง
ในลิ้นชัก มีห่อผ้าไหมห่อหนึ่งในนั้น
ปกติ นางเองก็เคยเห็นคุณหนูเอาของมาเก็บไว้ในลิ้นชักนี้ ทว่านางไม่เคยรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น ใน่สองสามวันนี้ บางครั้งบางคราว นางเห็นคุณหนูมายืนมองของในลิ้นชักนี่อย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“คุณหนูเ้าคะ นี่คือ...” ชิวตี๋นำห่อผ้าไหมนั่นออกมา วางลงบนโต๊ะตรงหน้าของเหนียนยวี่ เฝ้ามองเหนียนยวี่ ในที่สุดก็เอ่ยถามออกไปว่า “บ่าวจะออก...”
“ไม่จำเป็” เหนียนยวี่เอ่ย ยามที่พูดออกไป นางกำลังยื่นมือไปเปิดห่อผ้า
ชิวตี๋คิดว่า สิ่งนี้เป็ความลับของคุณหนู คงไม่้าให้คนอื่นเห็น ทว่าเมื่อได้ยินคำว่า "ไม่จำเป็" กลับใช้เวลานานกว่านางจะตอบสนอง ครั้นได้สติ นางก็เห็นห่อผ้านั้นถูกเปิดออกแล้ว กล่องเล็กๆ สวยงามหลายสิบกล่องปรากฏต่อหน้านาง
ของพวกนี้...คืออะไร?
ชิวตี๋อยากรู้อยากเห็น
เหนียนยวี่หยิบกล่องสองกล่องออกมาอย่างรวดเร็ว เปิดฝากล่อง ปิ่นหยกอันหนึ่ง และต่างหูหยกขาวคู่หนึ่งที่แกะสลักอย่างประณีต คมชัด ประหนึ่งมีชีวิต
ชิวตี๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เหนียนยวี่นำปิ่นปักผมและต่างหูไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง และปักปิ่นหยกลงบนเส้นผมของตนเอง รวมถึงเปลี่ยนมาใส่ต่างหูหยกสีขาวแทนต่างหูเดิม พลางจ้องมองเงาของตัวเองบนกระจกทองเหลือง ดูเหมือนว่าเหนียนยวี่จะตัดสินใจได้แล้ว ดวงตาของนางฉายแววแน่วแน่มากขึ้น
“คุณหนู ปิ่นหยกกับต่างหูพวกนี้ เหมาะกับคุณหนูมากเลยเ้าค่ะ” ชิวตี๋เฝ้ามองเหนียนยวี่ มิอาจระงับความรู้สึกสรรเสริญในใจได้
“งั้นหรือ?” เหนียนยวี่ค่อยๆ ยกยิ้มเสี้ยวหนึ่ง นางรู้สึกเพลิดเพลินเล็กน้อย เพียงครู่เดียว ครั้นกลับมารู้สึกตัว นางพลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เอ่ยสั่งชิวตี๋ให้เฝ้าหอชิงยวี่ไว้ เพราะนางจะออกไปข้างนอกตามลำพัง
เหนียนยวี่ออกไปนอกจวนเหนียน และกลืนหายไปในกลุ่มผู้คน โดยไม่ทำตัวเป็จุดสนใจ
แม้ว่านางจะไม่ทำตัวเป็จุดสนใจ ทว่าใครบางคน เพียงเหลือบมองแวบเดียว กลับยังคงเห็นนางโดดเด่นออกมาจากฝูงชน
หนานกงฉี่ที่กำลังขี่ม้า ชั่วขณะที่เขาเห็นเหนียนยวี่ในฝูงชน เขาพลันรีบกุมบังเหียนเปลี่ยนทิศทางทันที
เหนียนยวี่...
นางรีบเร่งเดินถึงเพียงนี้ จะไปไหนกันแน่?
่นี้ มีข่าวเล่าลือเื่ท่านอ๋องมู่จะไปสู่ขอนางแต่งงาน แพร่สะพัดไปทั่วเมือง...
หนานกงฉี่คิดอยากตามนางไป โดยที่แทบจะไม่รู้ตัวทันที ทว่าเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในหัว เขากลับเห็นเงาลับๆ ล่อๆ ร่างหนึ่งกำลังตามหลังเหนียนยวี่ไปอย่างระมัดระวัง
หึ ยังมีคนอื่นแอบตามเหนียนยวี่ไปด้วยอีกงั้นหรือ?
ดวงตาเ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกของหนานกงฉี่ พลันส่องสว่างเป็ประกาย
เหนียนยวี่ผู้นี้ คนที่จับจ้องนาง มีไม่น้อยเลยจริงๆ !
หญิงสาวคนนั้น มีแรงดึงดูดที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนเทียบได้อย่างแท้จริง
ว่าแต่ คนที่กำลังตามนางไปนั้น ผู้ใดเป็คนส่งมา? และจุดประสงค์คืออะไรกันแน่?
ั์ตาของหนานกงฉี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ครุ่นคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขารีบะโลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว โยนสายบังเหียนให้คนรับใช้ที่ติดตามมาด้านข้าง และเดินตามหลังเหนียนยวี่ไปอย่างเงียบๆ
ระหว่างทาง เหนียนยวี่เข้าไปฟังเื่เล่าในโรงน้ำชา จากนั้นก็ไปร้านขายแป้งสีชาด และอีกหลายๆ ร้าน ยามที่หนานกงฉี่รู้สึกแปลกใจว่าเหนียนยวี่้าจะทำอะไรกันแน่นั้น เหนียนยวี่ได้เดินเข้าไปในร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่ง และใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานถึงหนึ่งก้านธูป
ไม่ใช่แค่คนอีกคนที่ติดตามเหนียนยวี่ไม่กล้าเข้าไป หนานกงฉี่เองก็ไม่กล้าเข้าไปเช่นกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน หนานกงฉี่ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ เขาจึงรีบเข้าไปในร้านตัดเสื้อนั่นทันที เพียงมองปราดเดียว ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเหนียนยวี่อีกต่อไปแล้ว