“พวกเ้ารีบหนีไป! หากไม่รีบไปตอนนี้จะไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ! เยว่เซียนกู ฮวาซินทำไมพวกเ้ายังไม่รีบพาพวกเขาหนีไปอีก?”
หลงไซ้หนานไม่เพียงแค่ทั่วร่างที่เต็มไปด้วยเื แม้กระทั่งบนใบหน้าก็เต็มไปด้วยเืและเศษชิ้นเนื้อ นางควงกระบี่ัคำรามในมือฟาดฟันเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่กรูกันเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าให้ล่าถอยกลับไป จากนั้นหันหน้ากลับมาถลึงดวงตาคู่ที่แดงก่ำไปด้วยเืของนางจ้องมองมายังพวกเยว่ชิงเฉิง เฟิงจื่อพร้อมกับร้องคำรามออกมา
“ไม่! พี่สาวพวกเราไปพร้อมกัน ถ้ายังไม่ไปท่านก็จะตายอยู่ที่นี่!” ดวงตาคู่ไข่มุกดำที่สดใสแวววาวของเยว่ชิงเฉิงเต็มไปด้วยน้ำตา ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น
“แม่นางหลง ไปด้วยกันเถอะ ถ้าท่านไม่ไปพวกข้าจะมีหน้าไปบอกท่านจ้าวเขตปกครองได้อย่างไรกัน?” เฟิงจื่อบังคับกระบี่ดำเล่มใหญ่ฟันกวาดออกไปใส่นักรบเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจ จากนั้นร้องคำรามออกมาด้วยสีหน้าดุร้าย
“ถ้าหากข้าหนีไป แล้วนักรบเขตปกครองเทพาคนอื่นๆ ที่ตายไปเล่า ใครจะรับผิดชอบต่อการตายของพวกเขา? วันนี้ตัวข้าจะรับผิดชอบในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เอง... เฟิงเิ เยว่เซียนกู ฮวาซิน หูของพวกเ้าหนวกไปแล้วหรืออย่างไร มารดาพวกเ้าเถอะ...ข้าสั่งให้พวกเ้าพาพวกเขาหนีไปเดี๋ยวนี้!” หลงไซ้หนานร้องคำรามออกมาอีกครั้ง และเป็คำหยาบครั้งที่สองที่นางพูดออกมาั้แ่ขึ้นมาบนเกาะแห่งความมืดมิดนี้ พูดจบมุมปากกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้น เนื่องจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยเืเมื่อยิ้มขึ้นมาจึงกลายเป็ภาพใบหน้าที่น่าหวาดกลัวขนลุกขนพองขึ้นมาทันที
“เทพเทวดาบน์ ท่านโปรดช่วยเหลือพวกเขาที ช่วยพี่สาวไซ้หนาน ช่วยลูกหลานของเขตปกครองเทพาทีเถอะ...” เยว่ชิงเฉิงมองดูหลงไซ้หนานที่ตั้งใจจะตายอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ น้ำตาของนางไหลพรั่งพรูออกมาราวกับสายฝน รำพึงรำพันออกมาพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาอย่างสุดชีวิต
“ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือนางได้ และไม่มีใครสามารถที่จะสามารถช่วยเหลือลูกหลานเขตปกครองเทพาหลายพันคนเหล่านี้ได้เช่นกัน คุณหนูพวกเราไปกันเถอะ!” สีหน้าของเยว่เซียนกูก็เศร้าสลดเช่นเดียวกัน ถอนหายใจและพูดออกมาอย่างอับจนหนทาง มือซ้ายคว้าจับเยว่ชิงเฉิงไว้ มือขวาถือยันต์หยกอันหนึ่ง เตรียมพร้อมใช้เพื่อตีฝ่าวงล้อมออกไป
“ไปกันเถอะนายน้อย!” เฟิงเิก็ส่ายหัวอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะทำอะไรได้ไม่ต่างกัน คว้าจับเฟิงจื่อมาไว้ข้างกาย
ฮวาซินและฮวาเฉ่ามองตากันครั้งหนึ่ง ต่างมองเห็นความอับจนปัญญาและความหงอยเหงาภายในดวงตาของอีกฝ่าย ศึกครั้งนี้พวกเขาพ่ายแพ้ยับเยินอย่างแท้จริง...
“หลงไซ้หนานและนักรบเขตปกครองเทพาทุกคนจงฟัง ข้าจะให้โอกาสพวกเ้าเป็ครั้งสุดท้าย ยอมแพ้แล้ววางอาวุธลงซะแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเ้าทั้งหมด!”
ปีศาจนกตัวหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไปบินขึ้นมาบนท้องฟ้าอย่างฉับพลัน บนหลังของมันมีเยาขาข่ายืนอยู่อย่างทระนงองอาจ ชุดคลุมที่อยู่บนร่างถูกลมพัดปลิวสะบัดบังเกิดเสียงดังออกมาอยู่ไม่ขาด เส้นผมและขนสีทองปลิวไสวขึ้นตามแรงลม มองดูดุจดั่งเทพปีศาจที่ยโสโอหังองค์หนึ่งเยื้องกรายลงมาสู่โลกมนุษย์เบื้องล่างฉันนั้น
“เยาขาข่า หมันก้าน และรวมไปถึงนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนทั้งหมด พวกเ้าฟังข้าผู้เป็นายน้อยคนนี้ให้ดี จงยอมแพ้แล้ววางอาวุธลงซะแล้วข้าผู้เป็นายน้อยคนนี้จะไว้ชีวิตพวกเ้าทั้งหมด หาไม่แล้วละก็วันนี้พวกเ้าจะต้องย่อยยับกันทั้งหมด!”
เฟิงจื่อได้ยินเยาขาข่าพูดจาออกมาให้ยอมแพ้อย่างวางท่าอำนาจบาตรใหญ่ พร้อมกับท่าทางยโสโอหังของมันที่แสดงออกมา เดิมทีคิดที่จะะโร้องด่าออกมาสักหลายคำ แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกคนชิงตัดหน้าไปก่อน
มุมปากกระตุกขึ้นครั้งหนึ่ง ครุ่นคิดอยู่ภายในใจว่าใครกันที่มีความกล้ามากมายเช่นนี้ถึงกับกล้าด่าทอเยาขาข่าซึ่งๆ หน้า เพียงแต่วินาทีต่อมากลับรู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินนี้ช่างคุ้นหูเสียจริง ทันใดนั้นร่างกายกระตุกขึ้นมาทันที ทั่วทั้งร่างเริ่มสั่นเทิ้มขึ้น จากนั้นหันมองไปยังตำแหน่งที่มาของเสียง
ไม่เพียงแต่เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่าก็รู้สึกแปลกประหลาดใจเช่นเดียวกัน คล้ายกับว่าคำว่า “นายน้อย” คำนี้คุ้นหูอย่างมาก วินาทีต่อมาร่างกายของเขาเริ่มแข็งทื่อขึ้นมาเช่นเดียวกัน หันมองไปทางตำแหน่งที่มาของเสียงอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ
เยว่ชิงเฉิงที่น้ำตาที่เพิ่งจะเริ่มหยุดไหลออกมา วินาทีแรกที่เสียงนั้นดังขึ้นนางฟังออกได้ทันทีว่าเ้าของเสียงนั้นคือผู้ใด เสียงที่เคยปรากฏขึ้นในความฝันบ่อยๆ ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้กลับมาปรากฏขึ้นในสถานการณ์ที่อันตรายร้ายแรงเช่นนี้ ตอนนี้จมูกของนางเริ่มเจ็บแปลบขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาที่เพิ่งจะหยุดไหลกลับเริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้งหนึ่ง
หลงไซ้หนานอึ้ง ฮวาซินทำหน้าตามึนงงราวกับคนโง่ เยว่เซียนกูยิ้มพรายขึ้น หลงสุ่ยหลิวอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เฟิงเิสีหน้าดำคล้ำยิ่งกว่าเก่า ห้าองครักษ์โลหิตยิ้มขึ้น ลูกหลานตระกูลเย่ยิ้มขึ้น ในวินาทีนั้นเวลาราวกับถูกหยุดเอาไว้ ทุกคนราวกับถูกแช่แข็งไปในทันที...
เยาขาข่าโกรธเดือดดาล หมันก้านเอามือลูบหัวโล้นไม่มีเส้นผมอย่างงุนงง นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนมองหน้ากันเลิ่กลั่กไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น!
สุดท้ายทุกคนต่างสาดสายตามองไปยังตำแหน่งที่มาของเสียง ทุกคนของฝ่ายเขตปกครองเทพา้าที่จะยืนยันว่าเ้าของเสียงที่ได้ยินใช่คนที่พวกเขาคิดไว้ในใจหรือไม่? ส่วนทางฝั่งเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนอยากจะดูว่าเป็ไอ้คนโง่เขลาคนใดที่กำลังพูดจาเพ้อเจ้ออยู่เช่นนี้...
ตำแหน่งที่มาของเสียงชัดเจนมองหาได้ง่ายและเป็ที่สะดุดตา เพราะว่าตำแหน่งที่มาของเสียงนั้นมาจาก้าศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อนร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง มาจากเด็กหนุ่มร่างซูบผอมใบหน้าสดใสเรียบราบในชุดคลุมสีดำที่กำลังยืนอยู่บนศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อน ชุดคลุมปลิวไสวจากแรงลมแ่เบาที่พัดผ่าน บวกกับรอยยิ้มที่เป็มิตรสนิทสนมบนใบหน้าทำให้ผู้มองเกิดความรู้สึกสุภาพและสง่างามเกินกว่าที่จะหาสรรหาคำมาบรรยายได้หมด
เกิดอะไรขึ้น?
เกิดอะไรขึ้น?
ทั้งเผ่าปีศาจ เผ่าคนเถื่อน และเขตปกครองเทพา ในสมองของทุกๆ คนตอนนี้รู้สึกเลอะเลือนและมึนงงเล็กน้อย
ภายในสมองตอนนี้ปรากฏเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยกันทุกคน! เด็กหนุ่มที่พูดท้าทายเยาขาข่าคือเย่ชิงหานไม่ผิดแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงยืนอยู่บนศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อน? โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูจากลักษณะแล้วนักรบเผ่าคนเถื่อนคนนั้นระดับพลังฝีมือยังอยู่ในระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนเสียด้วย
เพียงแต่ว่า...นักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนคนนั้นไม่เพียงไม่รู้สึกไม่พอใจที่เด็กหนุ่มยืนอยู่บนศีรษะของมัน แต่ดูเหมือนกับว่ามันรู้สึกพอใจและมีความสุขเป็อย่างมากเสียด้วยซ้ำไป
เกิดอะไรขึ้น?
นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนมองหน้ากันไปมา นักรบเขตปกครองเทพามองตากันและก็มองหน้ากันไปมาเช่นเดียวกัน...ทุกคนมึนงงไม่ต่างกัน!
เย่สือซาน เย่สือชี และเย่ชิงอู่ที่อยู่ด้านหลังของเย่ชิงหาน สีหน้าอาการของทั้งสามสุดที่จะบรรยายอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ว่าเป็อย่างไร เย่ชิงหานทำได้อย่างไร? ในตอนที่พวกเขาได้สติกลับคืนมาและรีบวิ่งตามเย่ชิงหานออกมานั้น พบว่าทั่วร่างของเย่ชิงหานแผ่พุ่งกระแสพลังแสงสีม่วงชนิดหนึ่งออกมาปกคลุมนักรบเผ่าคนเถื่อนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้า จากนั้นเย่ชิงหานก็ะโขึ้นไปบนศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อนคนที่สูงใหญ่ที่สุดในกลุ่ม แล้วก็ปรากฏภาพเหตุการณ์อย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้
เผ่ามนุษย์และเผ่าคนเถื่อนปรับความเข้าใจกันแล้วอย่างนั้นรึ? พวกเขาละทิ้งความแค้นจับมือคืนดีกันแล้วอย่างนั้นรึ? แถมยังสนิทสนมกันถึงระดับนี้แล้วรึอย่างไร?
“ไอ้โง่หมันซาน! จัดการฉีกมันเป็ชิ้นๆ เดี๋ยวนี้!”
เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธของหมันก้านเรียกสติของทุกคนกลับคืนมา นักรบเผ่าคนเถื่อนที่อยู่โดยรอบรีบกรูกันเข้าไปหาเย่ชิงหานในทันทีเพียงแต่...หมันซานที่อยู่ใต้เท้าของเย่ชิงหานยังคงยืนทำหน้าโง่ๆ อยู่เช่นเดิม ไม่เพียงแค่หมันซานแต่นักรบเผ่าคนเถื่อนคนอื่นๆ สิบกว่าคนที่อยู่ข้างๆ ก็อยู่ในอาการเดียวกัน ใบหน้ายิ้มอยู่ตลอด น้ำลายไหลยืดออกจากปาก เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่ กำลังนอนหลับฝันหวานถึงสิ่งที่ทำให้พวกเขาพึงพอใจ
“ในเมื่อพวกเ้าไม่ยินยอมที่จะยอมแพ้อย่างสมัครใจ ข้านายน้อยคนนี้...จะสังหารจนกว่าพวกเ้าจะยอมแพ้เอง!” เย่ชิงหานยิ้มราบเรียบออกมา จากนั้นหยิบกริชัเขียวออกมาจากรองเท้าบูทแล้วกรีดเฉือนลงไปที่ลำคอของหมันซานทีหนึ่ง ความคมจากอาวุธสังหารที่เป็สมบัติล้ำค่าระดับวิเศษคุณภาพขั้นต่ำ แค่ตวัดกรีดผ่านก็สามารถทำให้ผิวเนื้อบริเวณลำคอของหมันซานถูกเฉือนขาดออกจากกัน ทันใดนั้นเืสีแดงสดพลันพุ่งทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับน้ำพุที่ทะลักขึ้นมาจากใต้ดิน
“อ๊าาา...!”
หมันซานถูกความเ็ปดึงสติให้กลับคืนมา มันร้องขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง มือกุมลำคอของตนเองไว้พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างจ้องมองไปยังเย่ชิงหาน จากนั้นไม่นานร่างกายกระตุกอยู่พักหนึ่งแล้วก็ล้มตึงร่วงลงไปสู่พื้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้