อวิ๋นเจียวใจหายวาบ น่ากลัวเกินไปแล้ว! ทว่าเื่ที่นางกังวลก็ไม่ได้เกิดขึ้น สารถีควบคุมกลไกรถม้าอย่างรวดเร็ว ทำให้รถม้าแยกออกจากตัวม้า หลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมรถคว่ำคนตายได้ทัน
เมื่อเห็นดังนั้น หญิงสาวกับเด็กคนนั้นก็หน้าซีดเผือด ในขณะเดียวกันก็มีชายฉกรรจ์หลายคนพุ่งออกมาจากฝูงชน ชักดาบวิ่งเข้าหาตัวรถม้า ทว่าองครักษ์พวกนั้นก็ไม่ใช่ธรรมดา ภายใต้การต่อสู้ที่ชุลมุนวุ่นวาย คนพวกนั้นยังไม่ทันได้เข้าใกล้รถม้า ก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น
ตอนนี้เหลือเพียงหญิงสาวกับเด็กคนนั้นที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มองครักษ์อย่างดุเดือด ขณะนั้นเสียงที่เ็าและเฉยเมยก็ดังออกมาจากในรถม้า “จับเป็ไว้”
หญิงสาวเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามพาเด็กฝ่าวงล้อมออกไป เนื่องจากนายท่านสั่งให้จับเป็ บรรดาองครักษ์จึงออกแรงได้ไม่เต็มที่ กลับเปิดโอกาสให้หญิงสาวกับเด็กคนนั้นฝ่าวงล้อมออกไปได้
เด็กคนนั้นหยิบกระบี่ยาวเล่มหนึ่งขึ้นมาจากพื้นดิน วิ่งออกจากวงล้อม จากนั้นก็ฟาดฟันผู้คนไปทั่ว ทันใดนั้นฝูงชนก็ยิ่งอลหม่านวุ่นวาย ต่างก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว และวิ่งหนีเอาชีวิตรอดโดยไม่สนอะไร
อวิ๋นฉี่เยว่คอยปกป้องอวิ๋นเจียว ถูกเบียดเสียดจนเซไปมา เขาพยายามสุดความสามารถในการปกป้องอวิ๋นเจียว พานางเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย ข้างๆ มีร้านขายยาอยู่ร้านหนึ่ง พวกนักฆ่า้าหลบหนี คงไม่เข้าไปในร้านขายยาแน่
อวิ๋นฉี่เยว่จึงรีบพาอวิ๋นเจียวไปที่ร้านขายยา ชาวบ้านคิดแต่จะเอาชีวิตรอด ต่างก็อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด ไม่มีใครคิดจะวิ่งเข้าไปในร้านค้าใกล้เคียง
ดังนั้นตอนที่อวิ๋นฉี่เยว่พาอวิ๋นเจียวไปที่ร้านขายยา จึงไม่มีใครไปเบียดเสียดแย่งเข้าร้านขายยากับพวกเขา ทว่าทันทีที่เขากำลังจะพาอวิ๋นเจียวเข้าไปในร้านขายยา กลับถูกลูกจ้างในร้านผลักออกมา จากนั้นก็ปิดประตูร้านขายยาเสียงดังปัง
พวกเขาสองคนถูกผลักออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ถูกชาวบ้านที่กำลังวิ่งหนีชนจนเกือบจะล้มลง แต่ในจังหวะนั้นเอง ก็มีแสงเย็นะเืพุ่งเข้ามาหาอวิ๋นเจียว อวิ๋นฉี่เยว่รีบดึงอวิ๋นเจียวหลบไปอีกด้าน เฉียดกับเด็กสาวที่ถือกระบี่ฟาดฟันไปทั่วอย่างหวุดหวิด
อวิ๋นเจียวล้มลงกับพื้นด้วยความตื่นตระหนก จนมือเล็กๆ ถลอกจนเืซิบ อวิ๋นฉี่เยว่โกรธจัดจนใบหน้ามืดครึ้ม เขายกเท้าเตะก้อนหินที่อยู่บนพื้น ก้อนหินลอยไปกระทบเข้าที่หลังศีรษะของเด็กหญิงตัวน้อย
เด็กหญิงรู้สึกเจ็บที่หลังศีรษะ ร่างกายเซไปมาสองก้าว ก่อนจะล้มแน่นิ่งลงไป องครักษ์หลายคนกรูกันเข้ามาจับตัวเด็กสาวไว้
ด้านนี้จับตัวเด็กสาวได้แล้ว ส่วนด้านหญิงสาวเห็นว่าเด็กน้อยถูกจับ ในชั่วพริบตาก็พลาดท่า ถูกองครักษ์ทำร้ายจนาเ็สาหัสทั้งมือและเท้า ก่อนจะถูกจับตัวไปเช่นกัน
องครักษ์คนหนึ่งเดินไปรายงานที่หน้ารถม้า “ท่านโหว จับตัวคนร้ายได้แล้วขอรับ ส่วนม้าที่คลั่งก็ถูกสังหารแล้ว”
“คนที่ตายไปให้จัดงานศพอย่างดี และมอบเงินปลอบขวัญให้กับครอบครัวของพวกเขา ส่วนท่านเซี่ยโหวช่วยจัดการดูแลรักษาชาวบ้านที่ได้รับาเ็ หลิวจ้าน”
“ขอรับ”
“พาตัวคนร้ายไปที่ศาลาว่าการ ให้พวกเขาทำการสอบสวน เมื่อได้ความจริงแล้ว เ้าค่อยกลับมา!”
“ขอรับ ท่านโหว!”
หลังจากออกคำสั่งทั้งหมดแล้ว ทางด้านสารถีก็จัดการเปลี่ยนม้าสำรองมาลากรถม้า และขับออกไป
ตอนที่รถม้าแล่นผ่านอวิ๋นฉี่เยว่กับอวิ๋นเจียว ม่านรถม้าก็เปิดออกเล็กน้อย สายตาคู่หนึ่งมองอวิ๋นเจียวที่มือมีเืซึมออกมา ทันใดนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็เ็าและดุดัน
“หลิวจ้าน!”
“ขอรับ!”
“ตัดมือของคนแคระนั่นซะ!” หลิวจ้านอึ้งไปชั่วขณะ เหตุใดท่านโหวถึงอยากจะตัดมือนักฆ่าขึ้นมา
เขาไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงตั้งสติแล้วตอบรับ “ขอรับ!”
หลังจากการลอบสังหารที่ล้มเหลว บนท้องถนนก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง แน่นอนว่าต้องเงียบสงบ เพราะชาวบ้านพากันวิ่งหนีไปหมดแล้ว เกิดเื่แบบนี้ขึ้น ใครเล่าจะอยากเดินเที่ยวต่อ?
บนท้องถนนจึงเหลือเพียงชาวบ้านที่ได้รับาเ็เล็กน้อย แต่คนของท่านโหวที่ทิ้งไว้ให้ดูแลจัดการเื่นี้ทำงานอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้ส่งคนไปเคาะประตูร้านยาจี้เหรินถัง จากนั้นก็พาคนเจ็บเข้าไปรักษาที่ร้านยาจี้เหรินถัง และร้านยาหงฝูถังฝั่งตรงข้ามที่ไม่ได้ปิดประตู
“คุณหนูน้อย มือของเ้าได้รับาเ็ รีบไปทำแผลที่ร้านยาจี้เหรินถังเถิด ไม่ต้องห่วงนะ ค่ารักษาทางจวนโหวเป็ผู้ออกให้”
ชายชราท่าทางดูใจดีคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับอวิ๋นเจียว คนผู้นี้ก็คือเซี่ยโหวที่เจิ้นหย่วนโหวสั่งให้อยู่ดูแลสถานการณ์
อวิ๋นเจียวคำนับเซี่ยโหว “ขอบคุณท่านผู้าุโ ข้าไม่ไปร้านยาจี้เหรินถังเ้าค่ะ ข้าจะไปร้านยาหงฝูถัง”
เซี่ยโหวรู้สึกแปลกใจ จึงเอ่ยถาม “คุณหนูน้อย เ้าอยู่หน้าร้านยาจี้เหรินถัง ก็น่าจะเข้าไปรักษาที่ร้านยาจี้เหรินถัง เหตุใดจึงยอมลำบากไปไกลถึงร้านหงฝูถังที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเล่า?”
อวิ๋นเจียวยังไม่ทันได้เอ่ยปาก อวิ๋นฉี่เยว่ก็รีบประสานมือคารวะเซี่ยโหว “ท่านผู้าุโ น้องสาวข้าถูกลูกจ้างในร้านยาจี้เหรินถังผลักออกมา ถึงได้รับาเ็ขอรับ”
อวิ๋นฉี่เยว่ไม่ใช่คนที่จะยอมให้คนในครอบครัวถูกเอาเปรียบ แล้วยังหาข้อแก้ตัวให้ผู้อื่นด้วยความเป็สุภาพบุรุษอันไร้เหตุผล เขาเกลียดคนแคระที่คิดยกกระบี่จะฟันน้องสาวของเขา แต่ที่เกลียดยิ่งกว่านั้น คือร้านยาจี้เหรินถัง!
ตอนนั้นถังสุ่ยเป็หนี้ค่าหยูกยาของร้านยาจี้เหรินถัง หลงจู๊ของร้านยาจี้เหรินถังจึงส่งคนไปที่บ้านของถังสุ่ย เพื่อข่มขู่จะเอาโสมพันปี เห็นได้ชัดว่าเป็พ่อค้าหน้าเืใจดำ
เซี่ยโหวไม่คาดคิดว่าอวิ๋นฉี่เยว่จะพูดเช่นนั้น จึงรู้สึกใเล็กน้อย
บังเอิญว่าลูกจ้างที่ผลักอวิ๋นเจียวเมื่อครู่นี้เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี เขารีบวิ่งออกมาด่าทอ “พวกเ้าสองคนต้องเป็คนของร้านยาหงฝูถังแน่ๆ ตั้งใจมาทำลายชื่อเสียงร้านยาจี้เหรินถังของพวกเรา ท่านผู้าุโอย่าไปฟังพวกเขาพูดเหลวไหล พวกเราเปิดร้านยา จะทำเื่เช่นนั้นได้อย่างไร?”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของลูกจ้าง อวิ๋นเจียวเพียงปรายตามองเขา แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ตอนที่ข้ามาที่นี่ เสื้อผ้าของข้าบังเอิญไปเปื้อนสีจากร้านย้อมผ้าเข้า บนมือของคนที่ผลักข้า ต้องมีรอยเปื้อนสีแน่เ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลูกจ้างของร้านยาก็ยกมือขึ้นมาดูโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีรอยเปื้อนสีอยู่บนมือ จึงพูดด้วยความโล่งอกว่า “เ้าพูดโกหก บนตัวเ้าไม่มีรอยเปื้อนสีสักหน่อย!”
อวิ๋นฉี่เยว่แสยะยิ้มเ็า “น้องสาวข้าจะเปื้อนสีหรือไม่ เ้าจะรู้ได้อย่างไร? เ้าเป็คนผลักน้องสาวข้างั้นหรือ?”
ลูกจ้างร้านขายยาที่ถูกหลอกพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง เขาได้แต่จ้องมองสองพี่น้องแล้วะโว่า “พวกเ้าหลอกลวงยังจะมามีเหตุผลอีกหรือ ข้าไม่ได้ผลักนาง! พวกเ้าต้องเป็หน้าม้าของร้านยาหงฝูถังแน่ๆ ท่านผู้าุโอย่าไปเชื่อพวกเขานะ!”
เซี่ยโหวที่ในตอนแรกยังเคลือบแคลงใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็เข้าใจเื่ราวทั้งหมดแล้ว คานล่างไม่ตรง คานบนย่อมบิดเบี้ยว [1] ลูกจ้างไร้น้ำใจ แล้วจะหวังให้เ้าของร้านกับหลงจู๊ของร้านยาควบโรงหมอแห่งนี้มีใจเมตตาได้อย่างไร?
เขาไม่สนใจลูกจ้างคนนั้น เพียงไปสั่งลูกน้อง “ย้ายคนป่วยทั้งหมดไปที่ร้านยาหงฝูถังฝั่งตรงข้าม หากคนไม่พอ ก็ให้หลงจู๊ของร้านหงฝูถังไปหาหมอที่เก่งๆ มาเพิ่ม ส่วนเื่เงินทองให้คิดบัญชีกับจวนท่านโหว”
“ขอรับ ท่านเซี่ยโหว”
คนของจวนโหวทำงานไม่ใช่รวดเร็วแบบธรรมดา แต่รวดเร็วอย่างยิ่ง ไม่นานคนป่วยทั้งหมดก็ถูกย้ายไปที่ร้านยาหงฝูถังฝั่งตรงข้าม หลงจู๊ของร้านจี้เหรินถังรีบวิ่งออกมา เพื่อจะสอบถามสถานการณ์กับเซี่ยโหว แต่กลับถูกองครักษ์ขวางเอาไว้
เขาเห็นเพียง อวิ๋นเจียวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเซี่ยโหวไปที่ร้านยาหงฝูถังฝั่งตรงข้าม ลูกจ้างคนนั้นรีบเล่าเื่ราวทั้งหมดให้หลงจู๊ฟัง ที่เขาผลักอวิ๋นเจียวออกไปและปิดประตูร้านก็เพราะทำตามคำสั่งของหลงจู๊นั่นเอง
เหตุผลที่หลงจู๊สั่งให้เขาผลักอวิ๋นเจียวออกไป เป็เพราะว่าผู้ดูแลของร้านจำอวิ๋นเจียวได้ เด็กสาวที่ช่วยถังสุ่ยเอาไว้ และใช้เนื้อหมูป่าครึ่งตัวจ่ายค่าหยูกยาเมื่อวันนั้น
หึ ยัยเด็กบ้านนอก กล้ามาขัดขวางการทำมาหากินของนางอีกแล้ว! กล้ามาหาเื่ร้านยาจี้เหรินถังของนาง ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเื้ัของพวกนางคือใคร!”
เชิงอรรถ
[1] คานล่างไม่ตรง คานบนย่อมบิดเบี้ยว (下梁不正上梁歪) เปรียบเปรยถึงการที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเลียนแบบหรือได้รับอิทธิพลจากหัวหน้า หรือผู้นำที่ประพฤติตนไม่ดี