หลังออกจากคฤหาสน์ฉินเฟิงและฉินเย่ก็ขึ้น BMW โดยฉินเย่เป็คนขับส่วนฉินเฟิงนั่งข้างคนขับมันใช้เวลาขับรถสิบนาทีจากคฤหาสน์ตำหนักฉินไปที่ประตูทางเข้า
ความเร็วในการขับของฉินเย่ไม่ได้เร็วเขาขับแบบเรื่อยๆ
“ญาติผู้น้อง ตอนแรกพ่อฉันอยู่ในคฤหาสน์ฉันเลยไม่อยากถามแต่เล่นสนุกกับสาวฝรั่งในอเมริกาเป็อย่างไรบ้าง?” ฉินเฟิงอ้าปากเพื่อทำลายความเงียบเขายิ้มให้กับฉินเย่พร้อมกับดูเหมือนนายน้อยเ้าสำราญจอมเสเพล
ฉินเย่หัวเราะและกล่าว“ญาติผู้พี่ ที่ผมหยุดกลางคันและไม่กล้าพูดก็เพราะลุงใหญ่อยู่นั่นแหละผมรู้ว่าญาติผู้พี่มีชื่อเสียงด้านเ้าชู้ ผมไม่โกหกนะ แต่ฝรั่งพวกนั้นเยี่ยมจริงๆทุกคนนี่นมอย่างใหญ่ ใหญ่เบิ้มแบบสาวจีนเทียบไม่ติดเลยพวกเธอใหญ่ธรรมชาติทั้งก้นและนม ไม่เหมือนเราที่ต้องไปทำศัลยกรรมและฉีดพวกซิลิโคน”
“ฮ่าๆ ญาติผู้น้อง นายนี่มันเฮฮาจริง” ฉินเฟิงหัวเราะลั่นด้วยความบันเทิง“นายไปเรียนอะไรที่อเมริกา?”
“บริหารธุรกิจ พ่อผมบังคับให้ผมไปเรียนที่ต่างประเทศเขาบอกว่าผมไม่เด็กอีกต่อไปแล้ว และผมต้องทำงานที่บริษัทหลังเรียนจบ…เฮ้อผมละอิจฉาพี่จริงๆ ที่สามารถเริงร่าไปวันๆ แถมลุงใหญ่ก็ไม่สนอีกด้วยท่านรอไม่ไหวที่จะตามใจพี่ ผมอยากจะเปลี่ยนพ่อกับพี่จัง”
“ฮ่าๆๆ มันไม่ได้ดีอย่างที่นายคิดหรอกตอนนี้พ่อฉันบังคับให้ฉันไปทำงานที่บริษัทแล้ว” ฉินเฟิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
สีหน้าของฉินเย่เปลี่ยนทันทีและมองฉินเฟิงด้วยความใ“ญาติผู้พี่ ญาติผู้พี่ทำงานเหรอ? ที่หวงเจียกรุ๊ปของลุงใหญ่อะนะ?พี่อยู่ที่นั่นนานหรือยัง พี่คงจะไม่ทำบริษัทล้มละลายใช่ไหม?สาวสวยทั้งบริษัทคงมีกฎลับกับพี่แน่เลย”
…
ในระหว่างขับรถฉินเฟิงกับฉินเย่ดูเหมือนเป็เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานพวกเขาพูดเื่สถานการณ์ของตัวเองในปัจจุบัน และเวลาก็ผ่านไปไวมากในไม่ช้าพวกเขาทั้งสองก็มาถึงประตูรั้วของตำหนักฉินแล้ว
“ญาติผู้พี่ มันเยี่ยมไปเลยที่ได้พูดคุยกับพี่ ผมไม่อยากกลับแล้วถ้าญาติผู้พี่มีเวลา ต้องมาหาผมที่เมืองจิ้นเฉิงนะและผมจะพาพี่ไปคลับที่ไฮโซที่สุดเพื่อไปเล่นสนุกกับสาวที่แพงที่สุด ผมเลี้ยงเอง!”
ฉินเฟิงออกจากรถของฉินเย่และโบกมือ“ระวังตัวด้วย!”
“โอเค งั้นผมไปก่อนนะ ญาติผู้พี่ ฝากลาลุงใหญ่ให้ด้วย”ฉินเย่ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว และไม่ช้ามันก็หายไปจากสายตาแล้วฉินเฟิงก็หันหลังเดินกลับตำหนักฉิน ลุงฝูขับรถเบนซ์มาและกำลังรออยู่
“นายน้อยฉินครับ ท่านประธานฉินส่งผมให้มารับ!”ลุงฝูเปิดประตูรถและฉินเฟิงก็เข้าไปข้างใน
“ลุงฝูช่วยผมตรวจสอบฉินเย่หน่อยว่าเขาเพิ่งกลับมาจากอเมริกาจริงหรือเปล่าและตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่”ฉินเฟิงรู้สึกระแวงฉินเย่นิดหน่อย เขาแกล้งทำเป็พูดคุยกับฉินเย่ในตอนแรก แต่ก็ทดสอบดูว่าเขาจะหลุดพูดอะไรมาหรือเปล่า
แต่อย่างไรก็ตามหลังจากพูดคุยกันเสร็จ ฉินเฟิงก็ไม่พบอะไรเลยดูเหมือนว่าชื่อของคุณชายเหวินคนนี้จะไม่ปลอมญาติผู้น้องของเขาทำให้ฉินเฟิงรู้สึกไม่มั่นใจตลอดเวลา
“นายน้อยฉิน ท่าน้าตรวจสอบฉินเย่?” ลุงฝูใส่ใจกับคำสั่งของฉินเฟิงมาโดยตลอดแต่ครั้งนี้เขาแสดงความตะลึง
“อืม รีบจัดการเลย!”
รถได้ทะยานกลับมาสู่ตำหนักฉินและทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉินเย่ก็ถูกเปิดเผย ในระยะเวลานี้เขาอยู่ที่อเมริกาจริงๆจากคืนสู่วัน เขาทำชื่อเสียงของตระกูลเสียหาย อย่างเช่นตกสาว ทำตัวโง่ไปวันๆแล้วก็หาอะไรที่เป็พิรุธไม่เจอ
“เฟิงเอ๋อ มาที่ห้องทำงานพ่อหน่อย”ฉินเฟิงเพิ่งลงจากรถแล้วฉินหวงก็เรียกเขา หลังจากที่มองฉินเฟิงและฉินเย่ออกไปเขายืนอย่างเหม่อลอยที่ประตูคฤหาสน์และกำลังคิดสิ่งที่ไม่มีใครรู้
พ่อและลูกชายมาถึงห้องทำงานขนาดใหญ่บนชั้นสามฉินหวงนั่งหน้าโต๊ะชาและรินชาขณะที่กำลังคิดเื่ของตัวเองฉินเฟิงนั่งตรงข้ามกับฉินหวง เมื่อเขาเห็นว่าพ่อไม่พูดอะไร เขาจึงอยู่เงียบๆ
“เฟิงเอ๋อ ตระกูลอวี่ในเมืองจิ้นเฉิงถูกฆ่าทั้งตระกูลเมื่อสองวันก่อนพ่อมั่นใจว่าลูกคงได้ยินแล้ว” ฉินหวงพูดทันทีแต่เขาถามเื่ตระกูลอวี่
มันก็ผ่านไปหลายวันแล้วเขายุ่งอยู่กับงานและฉินเฟิงก็หายไปที่บ้านพักตากอากาศเขาจึงมีโอกาสถามเื่นี้แค่ในตอนนี้
“ผมได้ยินแล้ว ผมทำเองแหละ” ฉินเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ฉินหวงวางถ้วยที่เพิ่งยกมาที่ริมฝีปากลงและมองฉินเฟิงด้วยความใ“ลูกทำคนเดียวเหรอ?”
ตระกูลโลกใต้ดินอันดับหนึ่งของเมืองจิ้นเฉิงถูกฆ่าล้างบางโดยลูกชายเขาภายในหนึ่งคืน? ฉินหวงไม่กล้าคิดว่าลูกชายของเขาสุดยอดั้แ่เมื่อไร
“มันจะเป็ไปได้อย่างไร? ผมไปกับลุงฝู”ฉินเฟิงพูดพร้อมหัวเราะ “ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมแค่มองลุงฝูทำ”
ฉินหวงที่แอบะเืใจตอนนี้เขาผิดหวังทันทีถ้าลูกชายของเขาฆ่าล้างตระกูลอวี่แห่งเมืองจิ้นเฉิงด้วยตัวคนเดียวจริงงั้นความสามารถของฉินเฟิงในตอนนี้ก็สุดยอดเป็อย่างมาก ถ้าเขามีความสามารถแบบนี้งั้นฉินหวงก็คงไม่ต้องห่วงเื่การแข่งขันวิทยายุทธ์ของตระกูลในอีกสิบเดือน
“งั้นลูกจัดการอวี่เหวินเสียง” ฉินหวงพูดต่อ
“ใช่ ฝีมือผมเอง”ครั้งนี้ฉินเฟิงไม่ซ่อนเพราะพ่อของเขารู้แน่นอนว่าทำไมอวี่เหวินเสียงถึงตายเนื่องจากพ่อของเขาช่วยเก็บกวาดหลังงานดังนั้นจึงไม่จำเป็ที่ฉินเฟิงจะต้องซ่อนอะไร
ฉินเฟิงไม่อยากให้คนรู้เื่การฆ่าล้างตระกูลอวี่เยอะเพราะว่าคนที่รู้คือญาติตระกูลอวี่ที่ยังเหลืออยู่ยิ่งมีคนรู้ความจริงของตระกูลอวี่มากเท่าไรเขาก็จะยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
ฉินเฟิงไม่อยากให้พ่อของเขาตกอยู่ในอันตรายมากกว่านี้
“ฉินเฟิงเอ๋ยฉินเฟิง พ่อไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไรกับลูกดี”
ฉินหวงถอนหายใจเขาช่วยอะไรลูกชายของตัวเองไม่ได้เลย
ในอดีตเขาตกสาวมากมายทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลและไม่ทำงานเป็หลักเป็แหล่ง แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วเขาไม่ได้เหลวไหลและไม่ได้ทำลายชื่อเสียงตระกูล แต่เขาเสพติดการฆ่า ฉินหวงติดอยู่ในความกลัวเมื่อคิดเื่น่าใที่ฉินเฟิงทำในเวลาไม่ถึงเดือน
“พ่อ พ่อคิดอย่างไรกับฉินเย่?” ฉินเฟิงเปลี่ยนหัวข้อไปเป็ฉินเย่ที่เพิ่งมาเยี่ยมทันที
บอกตามตรงฉินเฟิงไม่คุ้นเคยกับญาติของเขา ตอนที่เขายังเล็กทุกคนรวมตัวกันในวันตรุษจีนเพื่อกินมื้อค่ำที่เมืองหลวงหลังจากนั้นทุกคนก็อ้างว่าไม่ว่างและพวกเขาก็ไม่ค่อยติดต่อกันมากนัก
ฉินหวงเงียบไปสักพักก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย“เฟิงเอ๋อ ฉินเย่คือญาติผู้น้องของลูกพ่อของเขาคืออาสามของลูกและเป็น้องชายของพ่อ...บอกสิ เขาจะเป็อย่างไร?”
ฉินเฟิงไม่พูดอะไรอีกและทั้งสองก็อยู่ในความเงียบอันยาวนานฉินเฟิงคิดย้อนกลับไปเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้และเลือกเฉพาะที่สำคัญเขาไม่มีแผนที่จะบอกพ่อเื่จับหัวิได้ที่บ้านพักตากอากาศเพราะเขาไม่มีอะไรจะพิสูจน์ด้วยรูปธรรม เขาจึงพูดมากไม่ได้นัก
ฉินหวงมีความคิดเป็ของตัวเองเขาคิดมากเื่ตระกูลของตัวเอง น้องๆ ของเขา และแม่ของฉินเฟิงที่ไม่เคยบอกฉินเฟิงเขาแม้แต่สงสัยว่าน้องรองและน้องสามของเขาเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ปัจจุบันของตระกูลฉินหรือเปล่าอย่างไรก็ตามฉินหวงก็พิสูจน์ไม่ได้ชัดเจนเหมือนกันและเขาก็ไม่อยากจะหันหอกไปที่ใครก่อน
ยังไงทุกคนก็คือครอบครัวตระกูลฉิน