"ดีมากดี... นายยั่วโมโหฉันสำเร็จจนได้หวังว่านายคงจะอดทนและแข็งแกร่งพอที่จะรองรับความโกรธจากฉันไม่อย่างนั้นแล้วฉันคงจะรู้สึกเบื่อมากเป็แน่"ทองคำราตรีหัวเราะขึ้นด้วยความโกรธ แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีแห่งความอำมหิต
"ได้ตามที่ขอ"ท่าทางของฉินโจ้วดูไม่ได้กระตือรือร้นแต่อย่างใด ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไม่รู้สึกถึงความตึงเครียดแต่อย่างใดในใจรู้สึกสงบนิ่งในขณะที่กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามมีผู้เล่นที่ติดตามทองคำราตรีมาด้วยราว 40 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็ระดับผู้เชี่ยวชาญที่มีเลเวล 40 หรืออาจสูงกว่า เมื่อระดับผู้เชี่ยวชาญมารวมกลุ่มเข้าด้วยกันเป็ความแข็งแกร่งที่ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวถ้าไม่ระวังแม้เพียงเล็กน้อยก็คงจะต้องถูกสังหารอย่างสายฟ้าแลบไม่เหลือแม้กระทั่งศพ
"หัวหน้ากิลด์ให้ผมออกไปจัดการมันเอง จะได้ไม่เป็การเสียเวลา" นักรบคนหนึ่งชื่อว่า ''บุหรี่เดียวดาย'' ของกิลด์ราตรียิ่งใหญ่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันดังมีสีหน้าที่แสดงอาการดูถูกเป็อย่างมาก
"แค่พวกไม่มีใครรู้จักจะใช้ให้รองหัวกิลด์ลงมือได้อย่างไรกัน เดี๋ยวผมจัดการเอง พี่น้องจับเวลาไว้ได้เลย ไม่เกินหนึ่งนาที"
ก่อนจะมีเมจธาตุไฟพุ่งตัวออกมาลักษณะท่าทางดูเหมือนจะเป็คนใจร้อน เขาเริ่มร่ายเวทในระยะประมาณ 20 เมตรดูจากระยะห่างและระยะเวลาร่ายเวทแล้ว คงน่าจะเป็เวทโจมตีจากระยะไกล
"ไม่ต้องปล่อยฉันลงก่อนหรือ หลี่เฟยถามด้วยความกังวล
"กระชากิญญา"
"หนามกระดูก"
ฉินโจ้วส่ายหน้าราวกับว่าไม่จำเป็ก่อนจะโบกมือ เวทสองชนิดก็พุ่งตรงออกไป ไม่แม้กระทั่งจะหยิบไม้เท้าเวทออกมาด้วยซ้ำทองคำราตรีเห็นเพียงว่าเมจธาตุไฟอยู่ๆ ก็หยุดร่ายเวทกะทันหันก่อนจะร่ายเวทเสร็จร่างกายของเขาแข็งทื่อราวกับโดนเวทในขณะที่จ้องมองหนามกระดูกที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหาโดยไม่สามารถหลบเลี่ยงไปได้จากนั้นร่างของเขาก็เต็มไปด้วยหนามไม่ต่างจากเม่น ก่อนจะถูกส่งกลับไปจุดเซฟทำให้ทุกคนต่างพากันงงงันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"มีใครเห็นบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น" สีหน้าของทองคำราตรีเริ่มเปลี่ยนไปจนดูไม่ได้มีคนทำให้เขาต้องพ่ายแพ้เหมือนถูกลากลงมาจากหลังม้า นี่มันเป็ลางไม่ดีแต่ก็ไม่มีใครสักคนตอบได้ เพราะเหตุการณ์มันเกิดเร็วเกินไป
"มันน่าจะเป็ทักษะพิเศษของผู้ใช้เวทแห่งความตายไม่มีใครฝึกฝนทักษะอาชีพนี้เลย จึงไม่มีใครรู้จัก ซึ่งไม่แปลกอะไรเปลี่ยนให้นักธนูออกมา" บุหรี่เดียวดายพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ
คำพูดของรองหัวหน้าได้ผลอย่างชะงัดทันใดนั้นก็มีนักธนูสามคนพุ่งออกมา พวกเขานั้นไม่เหมือนเมจที่จะต้องดึงระยะห่างซึ่งตอนนี้เขาอยู่ห่างราว 50 เมตร เห็นจะได้
ฟิ้วฟิ้วว ฟิ้ววว...
ลูกธนูทั้งสามดอกถูกยิงออกมาในเวลาเดียวกันเป็รูปแบบการปิดล้อมฉินโจ้วเอาไว้มองแค่แว่บแรกก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาต้องฝึกซ้อมกันมาเป็อย่างดีแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการส่งสัญญาณกันอย่างลับๆ
เนื่องจากฉินโจ้วเคยใช้วิธีการแบบนี้โจมตีมาก่อนทันทีที่ศัตรูเริ่มก้าวออกมาพ้นจากระยะ เขาก็อัญเชิญ ''ราชินีผึ้งเพชฌฆาต'' และ ''นักรบโครงกระดูก''ออกมาก่อนสั่งให้โจมตีทันที เมื่อลูกธนูมาถึงเขาก็ฉากหลบไปอยู่หลังทหารโครงกระดูก แค่นี้ก็สามารถหลบลูกธนูทั้งสามได้แล้ว
นักธนูทั้งสามถึงกับใกลัวนี่มันผู้ใช้เวทแห่งความตายแน่จริงหรือ ทำไมความเร็วถึงมากกว่านักฆ่าถึงสามส่วน พวกเขามองเห็นไม่ชัดว่าฉินโจ้วหลบได้ เขารู้สึกว่าเหมือนเคลื่อนที่ไปอีกตำแหน่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
หึ่งหึ่ง หึ่ง...
เสียงของผึ้งจำนวนมากดังสนั่นราวกับฟ้าร้องก็ไม่ปานนักธนูทั้งสามไม่มีเวลาแม้กระทั่งรู้สึกเพราะฝูงผึ้งเพชฌฆาตนับร้อยนั้นมาถึงที่นี่แล้ว มองไปเหมือนกับกลุ่มเมฆขนาดย่อมๆผู้เล่นทั้งสามนั้นนั่งกันเงียบโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะหันหลังกลับและรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว พวกเขาเองก็เป็แค่นักธนู ไม่ใช่เทพธนูเมื่อเผชิญหน้ากับฝูงผึ้งเพชฌฆาตจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาก็ทำได้แค่หลบหนีเท่านั้น
"บ้าเอ๊ย...เมจออกมาโจมตีด้วยเวท" ทองคำราตรีออกคำสั่งอย่างรวดเร็วแต่ทว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ทั้งฉินโจ้วและหลี่เฟยก็อันตรธานหายไปมองเห็นแต่เพียงแค่กลุ่มแสงที่แผ่รังสีของความตายออกมาของทหารโครงกระดูกและทหารม้าโครงกระดูกที่กำลังพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วั้แ่เมื่อไรกันที่ผู้ใช้เวทแห่งความตายสามารถอัญเชิญสิ่งที่ทรงพลังขนาดนี้ได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ไม่ต้องรอคำสั่งจากทองคำราตรีเมจก็เริ่มโจมตีด้วยทักษะ ''บอลไฟ'' , ''เปลวเพลิงปะทุ''''พายุทราย'' และ ''งูน้ำแข็งเริงระบำ''มีเวทมากกว่า 10 ชนิด ที่ใช้ออกมาปกคลุมบริเวณนี้ราวกับเมฆดำทะมึน
''ะเืา''
ทองคำราตรีะโขึ้นด้วยเสียงอันดังก่อนที่เท้าขวาจะกระทืบลงพื้น พื้นดินเริ่มสั่นะเือย่างรุนแรงและเกิดลมที่รุนแรงแผ่รัศมีพุ่งออกไปเกิดกลุ่มก้อนพลังทำลายที่รุนแรงอัดแน่นเข้าไว้ด้วยกันและะเิขึ้นที่บริเวณกองทัพทหารโครงกระดูกได้ยินเพียงเสียงแตกหักของกระดูกเท่านั้น ทหารโครงกระดูกถูกโจมตีด้วยแรงอันมหาศาลที่ไม่อาจต้านทานได้จนปลิวขึ้นไปร่างตกลงมากระแทกพื้นหลุดเป็ชิ้นๆ มี 5 ตัว ที่ถูกจัดการทันที
"ฝนดาวตก"
จังหวะการโจมตีของทองคำราตรีนั้นรวดเร็วยิ่งนักเพียงการโจมตีแรกยังไปไม่ทันถึง การโจมตีต่อมาก็ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องทันทีทุกคนดูราวกับตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
แหวนในมือของเขาส่องแสงที่ร้อนแรงก่อนจะปลดปล่อยคลื่นพลังเวทที่แข็งแกร่งออกมาทันใดนั้นท้องฟ้าก็ปรากฏแสงสว่าง มีจุดดำจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นให้เห็นเป็ฝนดาวตกที่กำลังพุ่งลงมา หินขนาดใหญ่กว่าศีรษะมนุษย์ตกลงมาจากท้องฟ้าแรงกระแทกขนาดใหญ่ก่อให้เกิดการเสียดสีในอากาศ ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นหินเริ่มร้อนและเปลี่ยนเป็สีแดงเมื่อมองออกไปก็จะเห็นเป็เปลวไฟตกลงมาจากบนฟากฟ้าเมื่อฝนดาวตกตกใส่กองทัพทหารโครงกระดูก ทหารโครงกระดูกส่วนใหญ่ไม่สามารถต้านทานได้ก่อนจะแตกหักกระจัดกระจายกลายเป็ชิ้น มีกระดูกเกลื่อนกระจายไปทั่วบริเวณทหารโครงกระดูกส่วนใหญ่ถูกจัดการเกือบทั้งหมดส่วนทหารม้าโครงกระดูกนั้นเสียหายไปไม่ต่ำกว่าครึ่ง
หลังจากฝนดาวตกเหลือทหารโครงกระดูกน้อยกว่ายี่สิบตัว แต่ละตัวก็มีอาการาเ็ด้วยกันทั้งสิ้นซึ่งกระดูกตามร่างกายต่างมีส่วนที่แตก หัก บิ่น ไม่มีตัวไหนอยู่ในสภาพสมบูรณ์เลย
''แยกส่วนสูญสลาย''
ดาบเริ่มส่องประกายก่อนพลังิญญาต่อสู้ที่เฉียบคมจะะเิเข้าสู่กองทัพโครงกระดูกพลังิญญาต่อสู้นั้นไม่ต่างอะไรกับง้าว หลังจากที่พลังิญญาต่อสู้จางหายไปทหารม้าโครงกระดูกสามตัวก็กลายเป็กองกระดูกที่แตกหัก
เนื่องจากทองคำราตรีเป็หัวหน้ากิลด์เขาจึงได้รับทักษะมาเป็จำนวนมาก พลังจิตและพลังภายในค่อนข้างสูงมาก ในเวลาอันสั้นสามารถปลดปล่อยทักษะได้ถึง 7-8 ทักษะโดยไม่ซ้ำเมื่อทหารม้าโครงกระดูกวิ่งตรงไปถึงด้านหน้า ก็ปรากฏว่าเหลืออยู่แค่ 6 ตัวเท่านั้นทั้งหมดต่างอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่แขนก็ขาขาดทำให้พลังในการต่อสู้ลดลงเหลือไม่ถึงครึ่ง
แต่ก็ยังเป็โชคดีที่ทหารม้าโครงกระดูกนั้นมีข้อดีอยู่นั่นก็คือพวกมันไม่มีความเ็ปและมีความสามารถในการต่อสู้สูงด้วยการต่อสู้อย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างกล้าหาญและจัดการเมจได้อีกสองคน
ในเวลานี้เหลือผึ้งเพชฌฆาตอีกราว20 ตัว เพราะพวกมันกระจายตัวกันออกไป เลยมีปัญหาในการจัดการซึ่งพวกมันคอยก่อกวนสร้างปัญหาให้กับกิลด์ราตรียิ่งใหญ่ค่อนข้างมากถึงแม้ว่าพวกมันจะยังไม่ได้ต่อยผู้เล่นเลยสักครั้งแต่ก็ทำให้กิลด์ราตรียิ่งใหญ่ไม่สามารถรวบรวมสมาธิเพื่อรับมือกับทหารม้าโครงกระดูกได้
แต่ทว่าถึงจะเป็แบบนั้นแล้วทหารม้าโครงกระดูกที่เหลือก็ทนอยู่ได้อีกไม่ถึงห้าวินาทีก่อนจะถูกจัดการลงด้วยฝีมือของทองคำราตรีและเหล่านักรบ เหตุผลหลักก็คือทักษะของทองคำราตรีนั้นเฉียบคมมากทำให้ทหารม้าโครงกระดูกถูกทำลายภายในเสี้ยววินาที
ในขณะที่ผู้เล่นกิลด์ราตรียิ่งใหญ่กำลังพูดคุยได้สักสองสามคำก็ต่างพากันตะลึงงัน เมื่อเห็นกองทัพของทหารโครงกระดูกมากกว่า 200ตัวโผล่ขึ้นมาอย่างไม่รู้ที่มา ไร้ซึ่งความกลัวตายมุ่งตรงเข้ามาด้วยความ้าสังหารอันแรงกล้า เมื่อเทียบแล้วจำนวนมากกว่าเดิมถึงสองเท่า
"หลีกไป"
ทองคำราตรีรู้สึกเสียใจที่ใช้เวท''ฝนดาวตก'' เร็วเกินไปซึ่งจะสามารถใช้ได้อีกครั้งหลังสี่ชั่วโมงไปแล้วถ้ามีเวทฝนดาวตกก็ไม่จำเป็ต้องหวาดกลัวการโจมตีกลุ่มยิ่งมีจำนวนมากเท่าไรยิ่งทำให้เวทฝนดาวตกแสดงความสามารถได้มากขึ้นเท่านั้นน่าเสียดายที่ในเวลานี้คงต้องบอกว่ามันสายไปเสียแล้ว
''เวทดาบฝนโปรยปราย''
เขาะโด้วยเสียงอันดังก่อนจะใช้ทักษะออกมาในฐานะที่เป็หัวหน้ากิลด์ ดูเหมือนว่าจะยังมีไพ่ตายซ่อนไว้อยู่เป็จำนวนไม่น้อย
กลุ่มของดาบส่องแสงทอประกายออกมาก่อนจะมีดาบจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา ดูไปแล้วก็คล้ายกับละอองฝนก่อนจะตกลงใส่กองทัพทหารโครงกระดูก เมื่อประกายแสงร่วงหล่นลงมาถึงทหารโครงกระดูกก็พลันหายไปเป็วงกว้างไม่ต่ำกว่า 30 ตัวฉินโจ้วที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในเงามืดถึงกับตกตะลึง นี่เป็ครั้งแรกที่เขาได้เห็นทักษะของดาบประเภทนี้มันดูนุ่มนวลอ่อนโยนราวกับฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องแต่พลังทำลายช่างรุนแรงและเฉียบคมอย่างมาก
"นี่คือศิลปะป้องกันตัวของจีนหรือนี่ มันช่างทรงพลังมากเสียจริง"หลี่เฟยตาเป็ประกายด้วยความประหลาดใจและรู้สึกยกย่องจากใจจริง
ฉินโจ้วหยิบผลึกเวทขึ้นมาให้ราชินีผึ้งเพชฌฆาตสีทองกินสัตว์เลี้ยงโดยปกติก็้าอาหารเพื่อเสริมทักษะของพวกมันแต่อย่างไรก็ตามผู้เล่นทั่วไปคงจะลังเลที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงด้วยผลึกเวทเป็แน่เมื่อราชินีผึ้งเพชฌฆาตสีทองมองเห็นผลึกเวท ก็เริ่มรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก่อนจะถือผลึกเวทไว้แล้วเริ่มแทะอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเด็กที่กำลังแทะผลแอปเปิลและกินจนหมดโดยใช้เวลาไม่กี่วินาที ผลึกเวทนี่ช่างน่าอัศจรรย์มากเลยทีเดียวหลังจากกินผลึกเวทเข้าไป ราชินีผึ้งเพชฌฆาตสีทองก็มีการเปลี่ยนแปลงทันทีสีทองเริ่มเข้มขึ้นและส่องประกายระยิบระยับ หลังจากนั้นก็เริ่มฟักไข่ออกมาหนึ่งตัวสองตัว ... 20 ตัว และสักพักก็มากกว่า 500 ตัวแล้ว ผึ้งเพชฌฆาตมากกว่า 500ตัวนั้นเป็กลุ่มที่ค่อนข้างใหญ่ เพียงแค่ได้ยินเสียงก็ทำให้รู้สึกหวาดกลัวแล้วภายใต้คำสั่งของฉินโจ้ว ผึ้งเพชฌฆาตทั้งฝูงก็พุ่งเข้าใส่ศัตรูราวกับเมฆดำขนาดเล็ก
แม้ว่าทหารโครงกระดูกกว่าร้อยตัวจะตายลงไปแต่ในที่สุดทหารโครงกระดูกที่เหลืออยู่ก็สามารถวิ่งมาถึงฝั่งของพวกศัตรูเมื่อเข้าสู่ระยะประชิด ความสามารถของทหารโครงกระดูกได้แสดงออกมาให้เห็นศัตรูจำนวนมากถูกสังหารภายในอึดใจ หลายอาชีพยังดีหน่อยมีแต่เมจที่กลัวการต่อสู้ระยะใกล้เป็อย่างมากและยิ่งคู่ต่อสู้เป็ทหารโครงกระดูกด้วยแล้วทำให้เมจถูกสังหารไปถึงสามคนภายในครั้งเดียวซึ่งในเวลานี้การโจมตีของผึ้งเพชฌฆาตก็มาถึง แค่เสียงบินหึ่งๆของผึ้งทั้งหลายก็ทำให้ผู้เล่นถึงกับรู้สึกท้อแท้ใจขึ้นมาทันทีทำให้อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองในขณะที่นักรบนั้นเพิ่งจะจัดการทหารโครงกระดูกไปได้ตัวหนึ่งผึ้งเพชฌฆาตสบโอกาสจึงต่อยและปล่อยเหล็กในเข้าที่จมูกความเ็ปทำให้นักธนูถึงกับะโ อาวุธที่อยู่ในมือก็กวัดแกว่งไปอย่างไร้ทิศทางทำให้สังหารนักธนูไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
"ถอยก่อน"ทองคำราตรีตัดสินใจอย่างรวดเร็ว หลังจากใช้ทักษะ ''แยกส่วนสูญสลาย''ผ่าทหารโครงกระดูกออกเป็สองส่วน และรีบถอยหนีก่อนเป็คนแรกในเวลานี้เขาไม่กล้าจะปล่อยให้กลุ่มแยกกันไป เพราะว่าเมื่อไรที่กระจายกันออกไปจะไม่มีใครสามารถหลบหนีจากการถูกฝูงผึ้งเพชฌฆาตจำนวน 500 ตัวไล่ล่าได้แต่การอยู่รวมกลุ่มกันก็ไม่ใช่วิธีที่ดีนักนักธนูในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากเครื่องประดับเนื่องจากเป็ระยะใกล้เกินไปที่จะแสดงความสามารถในการโจมตี
ฝูงผึ้งเพชฌฆาตก็โจมตีไปทั่วทำให้พวกเขารับมือได้ยากลำบาก พวกเขาต่างปวดหัวกับวิธีการของฉินโจ้วเป็อย่างมาก
ในขณะที่กลุ่มกิลด์ราตรียิ่งใหญ่กำลังหันหลังกลับทองคำราตรีก็เริ่มสังเกตว่าท้องฟ้าเริ่มมืดลงและทันใดนั้นก็เปลี่ยนจากกลางวันเป็กลางคืนในทันทีก่อนจะรู้สึกว่าร่างกายนั้นอ่อนแอลง นั่นเป็เพราะฉินโจ้วเริ่มใช้ทักษะ ''ม่านฟ้าิญญา''
"เมจธาตุแสงทำลายม่านฟ้าบ้านี่ซะ" ทองคำราตรีนั้นเกลียดความมืดมิดมันทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
"หัวหน้ากิลด์ผู้เชี่ยวชาญเวทธาตุแสงถูกสังหารไปแล้ว" สมาชิกคนหนึ่งในกิลด์ะโบอก
"มันจะไร้ค่าทันทีถ้าเราวิ่งฝ่าออกไปทางเดียวกัน"ทองคำราตรีกำลังคิดเกี่ยวกับเื่นี้ว่าเขาควรจะเปลี่ยนเอาเมจธาตุแสงมาในคราวหน้าดีหรือไม่ซึ่งในเวลานี้เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องมีสมาชิกกิลด์หลายคนที่ถูกผึ้งเพชฌฆาตต่อย ความมืดทำให้กิลด์ราตรียิ่งใหญ่นั้นทำอะไรได้ไม่คล่องตัวนักซึ่งผิดกับผึ้งเพชฌฆาตที่กลายเป็ทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ฉินโจ้วยังคงร่าย''ม่านฟ้าิญญา'' ออกไปอย่างต่อเนื่องโดยปกคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ให้กลายเป็สีดำเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีผู้เล่นของกิลด์ราตรียิ่งใหญ่สามารถวิ่งหลบหนีออกมาได้ในระยะเวลาอันสั้นหลังจากกลืนยาลงไปเพิ่มอีกหลายขวด เขาก็อัญเชิญทหารม้าโครงกระดูกออกมาเพิ่มอีก 20ตัว และออกคำสั่งให้ไล่สังหารพวกเขาจากด้านหลัง และปิดทางหนีของศัตรูเอาไว้
ในความมืดเสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นเรื่อยๆนั่นทำให้ทองคำราตรีเริ่มรู้สึกวิตกกังวล ทักษะ ''เวทดาบฝนโปรยปราย''ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่เพราะในเวลานี้เขาเองก็ไม่รู้ว่ามีทหารโครงกระดูกและผึ้งเพชฌฆาตเหลืออยู่อีกมากเท่าไรในขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่ตามหลังมาก็ดูเหมือนจะลดน้อยลงในใจเริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง เป็ไปตามที่คาด ทันทีที่เขาออกมาจากเงามืดก็มีเพียงบุหรี่เดียวดายกับนักฆ่าอีกสองคนวิ่งตามออกมาด้วยรวมเขาด้วยในตอนนี้เท่ากับเหลือกันอยู่เพียงสี่คนเท่านั้นม่านฟ้าิญญานี้ไม่ต่างจากปีศาจร้ายที่กลืนกินผู้คนไปหลายสิบชีวิต
ใบหน้าของบุหรี่เดียวดายเริ่มกลายเป็สีเขียวเข้มเป็สัญลักษณ์ของการติดพิษ แต่พิษนั้นไม่รุนแรงนักไม่มีเวลาแม้จะพุ่งฝ่าม่านฟ้าิญญาออกไป ก่อนที่ทั้งร่างจะกลายเป็แสงสีขาวและกลับจุดเซฟไป
ความตายของ''บุหรี่เดียวดาย'' แสดงให้เห็นถึงอะไรบางอย่างในความมืดมิดเสียงกรีดร้องหยุดลงแล้ว ผู้เล่นกว่า 30 คนที่อยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญถูกจัดการจนหมดเกลี้ยง
"เมามายซบตักสาวงามนายเตรียมรอรับการล้างแค้นจากกิลด์ราตรียิ่งใหญ่ได้เลย พวกเราไปกันเถอะ"ทองคำราตรีพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อเตรียมจะหนีออกจากป่าฉินโจ้วเองไม่เคยแจ้งชื่อของเขาไว้ แต่สัตว์เลี้ยงของเขาเมื่อเริ่มโจมตีการโจมตีของผู้เล่นในกลุ่มเดียวกันก็สามารถทำให้ศัตรูมองเห็นชื่อได้ในขณะที่โจมตี
สำหรับคำพูดที่ทิ้งท้ายไว้ฉินโจ้วยิ้มอย่างไม่แยแส ก่อนที่เขาจะเริ่มเก็บกวาดสนามรบเดี๋ยวค่อยใช้ทหารม้าโครงกระดูกไล่ตามทีหลังก็ได้ในขณะที่ผึ้งเพชฌฆาตก็กำลังจ้องมองอยู่ เขาไม่ได้กังวลเื่ที่ทองคำราตรีจะหนีไปเขาเองก็ไม่ใช่คนที่อาฆาตแค้น แต่เขานั้นเกลียดการที่ถูกคนอื่นคุกคามเดิมทีเขาตั้งใจจะปล่อยให้ทองคำราตรีหนีไป การต้องมาลบล้างชื่อสีแดงเป็เื่ที่ค่อนข้างเสียเวลาเป็อย่างมากอีกอย่างทองคำราตรีก็ไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลวนั่นเป็จุดสำคัญในใจที่ทำให้เขาต้องถูกสังหาร
ความเร็วของทั้งสามคนนั้นสูงมากแต่ฉินโจ้วก็ไม่ได้รีบร้อน เพียงไม่นานเขาก็ไล่ตามได้ทันต่อจากนั้นก็เป็จุดเริ่มต้นที่น่าเศร้าของทองคำราตรี
ทหารม้าโครงกระดูกโจมตีด้านหน้าผึ้งเพชฌฆาตคอยตามรังควาน ไม่ถึงสามนาทีนักฆ่าทั้งสองก็ถูกจัดการ ส่วนทองคำราตรีนั้นไม่เหมือนกับคนอื่นสมแล้วกับที่เป็หัวหน้ากิลด์ เขาเก็บรวบรวมสิ่งของมีค่าไว้มากมายเลยทีเดียวไม่เพียงแต่มีทักษะมากมาย ยังมีอุปกรณ์ที่ทำให้ฉินโจ้วถึงกับตาโตอีกด้วยเพียงแค่โยนม้วนคัมภีร์เวทนับสิบเล่มออกมา ก็สามารถจัดการทหารม้าโครงกระดูกได้เป็จำนวนมากยังมียาเม็ดราคาแพงและมีค่าอีกหลายเม็ดที่มีประสิทธิภาพและสามารถช่วยปกป้องชีวิตไว้ได้ในยามคับขัน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ฉินโจ้วรู้สึกประหลาดใจก็คือทำไมทองคำราตรีจึงไม่ใช้ม้วนคัมภีร์กลับเมืองตามความเป็จริงแล้วเขาไม่ควรจะขาดสิ่งของอำนวยความสะดวกเช่นนี้เขาเองก็ไม่ได้เป็คนที่ขาดแคลนเงินทอง แค่สามสิบหรือห้าสิบเหรียญทองสำหรับเขาแล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ในเมื่อถ้ารู้ว่าสู้ไม่ได้ทำไมถึงไม่ใช้ม้วนคัมภีร์กลับเมือง มันค่อนข้างน่าประหลาดหรือว่าเขารู้สึกหรือััได้ถึงอะไรบางสิ่งที่สำคัญอย่างฉับพลัน
"คุณอยากจะกลับไปก่อนไหม" ฉินโจ้วถามหลี่เฟย "หลังจากนี้ไปไม่รู้จะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า"
"นายหมายความว่าฉันจะเป็ตัวถ่วงนายใช่ไหม" สีหน้าของหลี่เฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"ก็ใช่แต่ว่าอันนี้ผมไม่ได้เป็คนพูดนะ"
"แต่ฉันชอบที่จะอยู่ด้วยกันกับนาย"หลี่เฟยรวบรวมความกล้าก่อนจะพูดออกไป
"เอิ่ม...ผมก็ชอบอยู่กับผู้หญิงสวยอยู่แล้ว" ฉินโจ้วถึงกับนิ่งงันไปชั่วครู่มีร่องรอยความไม่เป็ธรรมชาติแฝงอยู่บนใบหน้า
"ฉันบอกแล้วว่าฉันชอบแบบนั้น"หลี่เฟยใช้เวลาไม่นานในการรวบรวมความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง
"ชอบก็ชอบ..."ฉินโจ้วแสร้งทำเป็โง่
"นาย...หรือนายไม่ชอบเหรอ" หลี่เฟยถามกลับผู้หญิงเดี๋ยวนี้กล้าสารภาพความรู้สึกในใจออกมา ซึ่งทำให้ฉินโจ้วประหลาดใจจนต้องหันกลับมาพูด
"ว่าแต่...นั่นมันอะไรน่ะ?" ฉินโจ้วพลันเปลี่ยนเื่ไปที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน
"อ่า...ดูเหมือนว่ามันจะเป็ต้นไม้ที่ใหญ่มากเลย" หลี่เฟยถึงกับอ้าปากค้างใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้