“เ้าหนู! ถ้าแกกล้าควบคุมและสั่งการงูอีก ฉันจะฆ่าเธอซะ—”
ผ่านไปสักพัก อันเต๋อเซิ่งตวาดเสียงดังลั่นด้วยความโมโห เสียงตวาดของเขาดังก้องในยามค่ำคืน ราวกับเป็เสียงภูตผี
ทว่าในสายตาของอันเต๋อเซิ่งกับพวก ฉินหลางกลับน่ากลัวยิ่งกว่าภูตผีปีศาจ
เพราะงูและแมลงพิษที่ยั้วเยี้ยอยู่เต็มไหล่เขาพวกนี้ ฉินหลางเป็คนเรียกพวกมันทั้งหมดมา!
ขอเพียงฉินหลางสั่งการ อันเต๋อเซิ่งกับพวกอาจจะโดนพวกมันกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก
ตอนแรกอันเต๋อเซิ่งคิดว่าเขาชิงหยุ๋นอยู่นอกเมือง และเป็พื้นที่รกร้าง จัดการฉินหลางที่นี่สะดวกที่สุด แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่า หลุมพรางของเขา กลับทำให้ฉินหลางเป็คนได้เปรียบ
ฉินหลางสามารถควบคุมและสั่งการงูได้ ในป่าเขาที่รกร้างแบบนี้เขาต้องได้เปรียบมากกว่าเป็ธรรมดา ตรงกันข้าม ถ้าอยู่ในตัวเมือง สัตว์และแมลงพิษมีน้อย แม้ฉินหลางจะมีความสามารถแบบนี้ ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร
“คนของแกไม่ดูตาม้าตาเรือ อยากจะลอบทำร้ายฉันเอง!”
ฉินหลางสบถเสียงเย็นเยือก “ถึงแม้พวกแกจะลอบทำร้ายฉันได้สำเร็จ หรืออาจฆ่าฉัน แต่ถ้าฉันตายเมื่อไหร่ งูที่ยั้วเยี้ยอยู่เต็มไหล่เขาก็จะกินพวกแกทุกคน! อย่าคิดว่าฉันแค่ขู่นะ ถึงแม้พวกแกจะมีปืนกล ก็อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่ได้!”
ได้ยินคำพูดของฉินหลางแล้ว มือปืนที่เหลือรีบเอานิ้วที่กำลังจะเหนี่ยวไกออกทันที
น่ากลัวมากเกินไปแล้ว!
ถ้าเป็อย่างที่ฉินหลางพูดจริงๆ ทันทีที่งูและแมลงพิษพวกนี้ไม่ถูกควบคุม พวกมันต้องแก้แค้น เข้ามาโจมตีแน่ จะไม่มีใครรอดแน่นอน!
“สวัสดีครับ ผู้อำนวยการหลู!” ฉินหลางทักทายหลูจินที่ยืนอยู่ข้างๆ อันเต๋อเซิ่ง
คนที่อยู่ข้างกายหลูจิน ก็คือเถารั่วเซียง เธอถูกใส่กุญแจมือ แต่กลับดูนิ่งเรียบมาก ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่อยากให้ฉินหลางเป็กังวล
ในใจเถารั่วเซียงตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้นเคือง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเชื่อตำรวจมากเกินไป เชื่อ ‘ศิษย์พี่’ ของตัวเองมากเกินไป เธอก็คงจะไม่โดนจับมาเป็ตัวประกัน เพิ่มภาระให้ฉินหลางมากขึ้น วันนั้นหลังจากกลับไปที่โรงเรียนแล้ว เถารั่วเซียงได้รับโทรศัพท์จากหลูจิน แล้วหลูจินก็บอกกับเธอว่าเขาต้องปล่อยอันเต๋อเซิ่งก่อน เพราะเป็คำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขอแค่เถารั่วเซียงมีหลักฐาน เขายินดีที่จะทำคดีต่อให้ถึงที่สุด แม้กระทั่งส่งหลักฐานไปให้ฝ่ายความมั่นคงสาธารณะเขาก็จะทำ เถารั่วเซียงถึงได้เชื่อใจเขาอีกครั้ง ผลปรากฏว่าออกจากโรงเรียนแล้ว หลูจินก็จับตัวเธอเลย
ฉินหลางดูสถานการณ์ตอนนี้ นอกจากอันเต๋อเซิ่งกับหลูจินแล้ว ฝ่ายตรงข้ามยังมีเฉินกังกับอีก 11 คน
จำนวนคนไม่เยอะมาก แต่ล้วนไม่ใช่คนดี นอกจากนี้ในมือยังมีปืนอีก ดูไปแล้วเหมือนมั่นใจมากว่าตนจะชนะแน่นอน อย่างน้อยก่อนหน้านี้อันเต๋อเซิ่งกับหลูจินก็คิดแบบนั้น โดยเฉพาะหลูจิน เขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าจะมีคนสู้กับปืนสิบกว่ากระบอกด้วยมือเปล่าได้
แต่—
ฉินหลางกลับทำได้!
เพราะด้านหลังของเขา มีกองกำลังงูกับแมลงพิษอีกนับล้าน เขาแค่ขยับปากไม่กี่ครั้ง หรือแค่ดีดนิ้วทีเดียว ก็ทำให้หลูจิน อันเต๋อเซิ่งกับคนของมันตายอย่างอนาถที่นี่ได้แล้ว
หลูจินสบถเย็นเยือก แต่ไม่ได้ตอบอะไร เพราะที่นี่มีเพียงอันเต๋อเซิ่งเท่านั้นที่มีสิทธิ์พูด
“ไอหนู—”
แม้อันเต๋อเซิ่งจะเกลียดฉินหลางเข้ากระดูกดำ ต้องตอนนี้เขาจำต้องยอมรับว่า ฉินหลางมีสิทธิต่อรองกับเขาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงพยายามเก็บไฟโทสะไว้ในใจ เพื่อลองเจรจากับฉินหลางดูก่อน “ฉัน อันเต๋อเซิ่งอยู่ในวงการนี้มาหลายสิบปี ทำธุรกิจมานับไม่ถ้วน ในที่สุดวันนี้ฉันก็รู้แล้วว่าอะไรคือคลื่นลูกใหม่มาแรงกว่า! ช่างเถอะ ในเมื่อแกมีสิทธิต่อรองกับฉันแล้ว ฉันจะพูดตรงๆเลยแล้วกัน ฉันชื่นชมความสามารถและวิธีการทำงานของแกมาก แก้าอะไรกันแน่ ขอแค่ฉัน อันเต๋อเซิ่งสามารถให้แกได้ ฉันจะให้แกแน่นอน!”
“สิ่งที่ฉัน้า แกให้ไม่ได้หรอก!” ฉินหลางสบถเย็นเยือก
“ฉัน อันเต๋อเซิ่งนับว่าเป็คนที่มีหน้ามีตาในเมืองเซี่ยหยาง ลองบอกมาซิ ว่าแก้าอะไรกันแน่!” อันเต๋อเซิ่งถามขึ้น
“ฉัน้าให้แกสูญสิ้นทุกสิ่ง!” ฉินหลางตอบ
“เราสองคน มีความแค้นที่ใหญ่หลวงงั้นเหรอ?”
“ไม่มี” ฉินหลางพูดขึ้น “คนสารเลว เห็นใครก็ฆ่าได้ทั้งนั้น!”
“ดูเหมือนจะหมดสิทธิ์เจรจาแล้ว?” อันเต๋อเซิ่งพูดอย่างเย็นเยือก “ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าแกเตรียมสละครูของแกแล้ว?”
“ไม่เป็ไร ฉินหลาง! ฉันตายไม่เป็ไร แค่คนชั่วพวกนี้ไปทำร้ายใครไม่ได้อีกก็พอ!” เจอกับความตาย เถารั่วเซียงก็ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเองอยู่ ความยึดมั่นของเธอทำให้ฉินหลางชื่นชมมาก
“ฉินหลาง ในเมื่อเจรจากันไม่ได้ แกกล้าพนันกับฉันไหม?” จู่ๆ อันเต๋อเซิ่งก็พูดขึ้น
“ไหนลองว่ามาซิ”
“ดูแล้วแกก็มีกังฟูเหมือนกัน เอาอย่างนี้ดีไหม—พวกเราไม่ใช้ปืน แกก็ห้ามควบคุมและสั่งการงูและแมลงพิษพวกนั้น วัดกันด้วยมือเปล่าไปเลย!” อันเต๋อเซิ่งเสนอขึ้น
“ถ้าฉันชนะ พวกแกปล่อยอาจารย์เถาซะ แล้วยอมถูกจับแต่โดยดี!” ฉินหลางเสนอข้อแม้ของตัวเอง
“ถ้าแกแพ้ เอาหลักฐานทั้งหมดให้ฉัน ผู้หญิงคนนี้แกเอาไปได้ แต่แกต้องสาบานว่าจะไม่ยุ่งกับเื่ของฉันอีกตลอดไป!”
ข้อเสนอของอันเต๋อเซิ่งนั้นไม่เกินไป เพราะเขาไม่กล้าบีบฉินหลางมากกว่านี้ เพียงแต่อันเต๋อเซิ่งมีแผนการอื่นในใจ ขอเพียง ในขณะที่ต่อสู้กันอยู่ล็อคตัวฉินหลางเอาไว้ ไม่แน่อาจจะบังคับให้ฉินหลางพาพวกเขาออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย จากนั้นค่อยกำจัดตัวปัญหานี้ทิ้ง
“ได้” ฉินหลางตอบตกลง
่นี้วรยุทธ์เขาก้าวหน้าไม่น้อย เขาเชื่อว่าตัวเองจะเอาชนะพวกอันเต๋อเซิ่งได้
“ฉันจัดการเอง!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงดังลั่น พร้อมกับพุ่งมาทางฉินหลาง เ้านี่เป็ลูกน้องหลูจิน ฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้อยู่เป็ประจำ เขาคิดว่าตัวเองเป็ยอดฝีมือแล้ว ดังนั้นจึงไม่เห็น ‘เด็กนักเรียน’ อย่างฉินหลางอยู่ในสายตา เขาพุ่งไปข้างกายฉินหลาง พร้อมกับพุ่งกำปั้นไปที่ใบหน้าของฉินหลาง
ฉินหลางไม่ขยับเขยื้อน ผมของเขาพลิ้วไหวไปตามลมในยามค่ำคืน ทว่ากลับทำให้รู้สึกว่าเขามั่นคงดั่งขุนเขา เหมือนกับสนต้นใหญ่บนยอดเขาที่หยั่งรากลึกลงไปในดิน—ราวกับว่าอีกกี่ลมฝน ก็ไม่มีทางไหวเอน!
ขณะที่หมัดของคู่ต่อสู้มาใกล้ถึงใบหน้าฉินหลาง จู่ๆ เขาก็ยกมือขึ้น ใช้ฝ่ามือรับหมัดของคู่ต่อสู้เอาไว้ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
กร๊อบ!
เสียงที่คมชัดน่ากลัว—นี่คือเสียงของกระดูกแตกหัก!
หลูจินสบถเย็นเยือก คิดว่าฉินหลางถูกลูกน้องเขาต่อยกระดูกมือหักไปแล้วซะอีก เขารู้ดีว่าลูกน้องของเขาคนนี้หมัดหนักแค่ไหน คิดว่าหมัดเดียวก็ล้มฉินหลางได้สบายๆ แล้ว ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของหลูจินหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่าคนที่ร้องโอดโอยอย่างเอาเป็เอาตายนั้น คือลูกน้องของเขาเอง เห็นได้ชัดว่าหมัดของเขาถูกฝ่ามือของฉินหลางกระแทกจนกระดูกแตกหัก!
“ตำรวจแกะดำ!”
ฉินหลางสบถเย็นเยือก ก่อนจะสับมือลงไปที่คอของเขา ทำให้เ้าหมอนั่นสลบไปทันที
“ไอ้ตัวดี! ฉันจะมาประลองกับแกเอง!” เฉินกังนิ่งต่อไม่ได้แล้ว พุ่งมาทางฉินหลาง
ครั้งก่อนเฉินกังแพ้ให้ฉินหลางในสถานกักกัน ทำเอาผู้คนรู้กันไปทั่ว นั่นทำให้เฉินกังไม่สบอารมณ์มาก ดังนั้นวันนี้เขาจึงอยากแก้แค้น เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงคืน เพราะฉะนั้นเมื่อกี้นี้เขากินยาม้าไปก่อนแล้ว รวบรวมลมปราณทั้งหมด คำรามเสียงดัง พร้อมกับกระโจนเข้าไปหาฉินหลาง
แต่เดิมเ้าหมอนี่ก็เป็นักชกมวยใต้ดินอยู่แล้ว บวกกับกินยาม้าเข้าไป ทำให้ตอนนี้เขายิ่งแข็งแรง และดุดันมากขึ้นราวกับเป็สัตว์ร้ายที่บ้าเื ทุกหมัดของเขารวดเร็วและรุนแรงไม่ต่างจากเสือโคร่ง เถารั่วเซียงยืนดูด้วยความกังวล เธอกลัวว่าฉินหลางจะได้รับาเ็ แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้นอกจากเป็ห่วงเท่านั้น
“อันเต๋อเซิ่งมีพวกเยอะกว่าเขามาก เขาคนเดียวจะสู้ไหวเหรอ? ฉินหลาง ขอโทษ…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้