จากในตอนแรกที่มีแต่ความเงียบ หลังจากนั้นเสียงหัวเราะก็ะเิออกมา
คาดว่าสิ่งนี้คงได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเทียนหนิงแล้วล่ะ คิดไม่ถึงว่าจะสั่งให้เ้าสาวกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เป็สิ่งที่คนโบราณไม่เคยมีมาก่อนเป็ประวัติการณ์!
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างพากันหัวเราะออกมา แม้แต่หลายคนในขบวนส่งเ้าสาวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา นี่เป็ครั้งแรกที่ทุกคนเจอเื่แบบนี้
ในเกี้ยวเ้าสาว หานอวิ๋นซีที่สงบนิ่ง ในที่สุดก็ค่อยๆ หรี่ตาลง จวนฉินอ๋องรังแกกันเกินไปแล้ว!
หวังซีผอเดินกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าหมองแล้วถอนหายใจ “โอ้ โชคร้ายจริงๆ ข้าเป็ซีผอมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย! กลับกันเถอะ รีบกลับกันเถอะ!”
ทว่า ในตอนที่คนหามยกเกี้ยวขึ้นอีกครั้ง หานอวิ๋นซีก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “ช้าก่อน!”
เอ่อ...
ใครพูด?
ทุกคนหยุดและมองไปรอบๆ ทว่าก็ไม่พบคนพูด
“หวังผอผอ รบกวนเ้าไปถามหน่อยสิว่าพรุ่งนี้จะให้มายามใด?” หานอวิ๋นซีพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสงบ ทว่ากลับแฝงไปด้วยความสง่างาม เสียงของนางไม่ได้ดังมาก แต่ทุกคนรอบตัวกลับได้ยินอย่างชัดเจน
ครู่หนึ่งทุกคนมองไปที่เกี้ยวด้วยความไม่เชื่อ หานอวิ๋นซีเป็คนพูดจริงๆ หรือ? สถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ว่านางควรแอบไปร้องไห้หรือไร? คิดไม่ถึงว่านางจะกล้าพูดออกมา ทั้งยังเสียงดังขนาดนี้อีก?
“หวังผอผอ เ้ายังงุนงงอะไรอยู่? หรือต้องให้ข้าสอบสวนเื่ที่เ้าพามาผิดทาง?” จู่ๆ หานอวิ๋นซีก็ตะคอกเสียงดังออกมา
หวังผอผอที่ยังประหลาดใจอยู่ ก็ใจนสะดุ้งโหยง! เป็ไท่เฟยที่กำชับให้นางพาไปผิดทาง เช่นนั้นจวนฉินอ๋องไม่มีทางสอบสวนนางอย่างแน่นอน แต่ถ้าตระกูลหานสอบสวนนางขึ้นมาจริงๆ นางก็ต้องแบกรับความผิด ถึงเวลานั้นไท่เฟยคงไม่ปกป้องนางเป็แน่
ทำไมจู่ๆ หานอวิ๋นซีถึงดูแข็งแกร่งขึ้นมาได้เช่นนี้?
หวังผอผอไม่มีเวลาให้คิดมากนัก จึงรีบตอบกลับไปว่า “ทราบเ้าค่ะ! คุณหนู โปรดรอสักครู่”
“ตึง ตึง ตึง!” เสียงเคาะประตูนั้นไม่อ่อนโยนเอาเสียเลย
และเป็บ่าวชราที่เปิดประตูด้านข้างเช่นเคย “อะไรอีกล่ะ? ไม่เข้าใจที่บอกว่าให้พวกเ้ากลับมาใหม่วันพรุ่งนี้หรือไร?”
“เ้าสาวถามว่าพรุ่งนี้ให้มายามใด! รบกวนเ้าช่วยไปรายงานไท่เฟยหน่อยสิ” หวังผอผอถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
บ่าวชราที่ประตูประหลาดใจ เ้าสาวคนนี้น่าสนใจไม่น้อย “เช่นนั้นก็รอสักครู่”
ในศาลาสวนด้านหลังของจวนอ๋อง อี้ไท่เฟยกำลังเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าฮูหยินตราตั้ง[1] นางไม่ได้กังวลเื่การอภิเษกแม้แต่น้อย
หลังจากที่ฮ่องเต้ได้ออกว่าราชการด้วยตนเอง ไท่เฟยหลายคนของฮ่องเต้องค์ก่อนที่เหลือก็เสียชีวิต ก็เป็อี้ไท่เฟยคนนี้ที่มีลูกเพื่อสร้างความมั่นคงให้ตัวเอง และไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้องนาง แม้กระทั่งไท่เฮาเองก็ปฏิบัติกับนางอย่างสนิทสนม ทว่าสามปีก่อน การใช้ชีวิตในวังหลวงนั้นน่าเบื่อเกินไป นางจึงย้ายมาอยู่ที่จวนอ๋องกับบุตรชาย
นางกำนัลก้มศีรษะลงกระซิบข้างหูว่า “นายหญิง พรุ่งนี้เ้าสาวต้องมายามใดเพคะ?”
มือของอี้ไท่เฟยที่กำลังเล่นไพ่หยุดชะงักทันที หันศีรษะมามอง “ใครเป็คนให้เ้ามาถาม?”
“เ้า...เ้าสาวเพคะ” นางกำนัลตอบเสียงเบา
“บังอาจนัก!” อี้ไท่เฟยเต็มไปด้วยความสงสัย เพียงแต่กำลังยุ่งอยู่กับการเล่นไพ่ เลยพูดส่งๆ ไปว่า “เวลาเดิมนั่นแหละ”
ถามเวลาไปชัดเจนก็เท่านั้นล่ะ อย่างไรพรุ่งนี้นางก็มาสายอยู่แล้ว
“เวลาเดิม” หวังซีผอนำคำพูดไปที่เกี้ยว
ใครจะไปรู้ว่าหานอวิ๋นซีจะพูดออกมาสามคำอย่างเ็า “รอที่นี่”
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคุณหนูหานคนนี้ แต่หวังซีผอกลับะโออกไปโดยไม่ทันคิด “อะไรนะ?”
“เป็เ้าสาวจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เราจะขวางประตูบ้านคนอื่นแบบนี้ได้เสียที่ไหนกัน? ดีไม่ดี จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอา มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย! ใครจะไปรอหน้าประตูบ้านคนอื่นเพื่อรออภิเษกกัน?”
“เ้าไม่ได้พูดเองหรอกหรือว่าจะไม่หันหลังกลับ ทำไมล่ะ หรือเ้าจะสาปแช่งข้าให้หย่าร้างอย่างนั้นหรือ?” หานอวิ๋นซีถามอย่างเ็า
นี่ไม่ใช่คำที่หวังซีผอเพิ่งพูดออกไปหรือไร? หวังซีผอถึงกับพูดไม่ออก
“ถ้ารอไม่ไหว จะไปก็ได้นะ กลับไปตระกูลหานแล้วก็อย่ามาทวงค่าจ้างก็แล้วกัน” หานอวิ๋นซีพูดเตือนอย่างใจเย็น
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง และรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเ้าสาวคนนี้มีอำนาจ จึงไม่มีใครกล้าออกไป ทำได้แต่นั่งอยู่ที่เดิม รอไปกับเ้าสาว
ซีหวังผอเห็นเช่นนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก และทำได้เพียงนั่งลงข้างๆ เกี้ยวเช่นกัน ทว่านางก็อดไม่ได้ที่จะอยากแง้มม่านออกเพื่อดูรูปลักษณ์ของเ้าสาว ว่าจะน่าเกลียดและขี้ขลาดเหมือนอย่างที่ลือกันหรือไม่? คงไม่ได้เปลี่ยนคนหรอกใช่หรือไม่?
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หวังซีผอก็ยื่นมือออกไปอย่างสั่นเทา...
----------------------------
[1] ฮูหยินตราตั้ง (诰命夫人) คือ เป็ยศที่ฮ่องเต้จะพระราชทานให้กับภรรยาหรือมารดาของเหล่าขุนนาง มีทั้งหมดห้าขั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้