เส้นทางบนูเาซึ่งยากลำบากต่อการเดินทาง จึงทำให้รถม้าไม่สามารถขึ้นได้เลย
ในแง่ของความแสแสร้งเห็นได้ชัดว่าฉู่จุนหนิงก็ไม่ได้แพ้ชิงอีเลย เพียงแต่นางเตรียมพร้อมมาอย่างดี เลยสั่งคนให้เตรียมเกี้ยวมา
ชิงอีนอนอยู่บนหลังของเซียวเจวี๋ย เพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายที่ถูกห่อหุ้มด้วยิญญาร้ายบริสุทธิ์
หลังจากออกจากวัดตงหวาได้ไม่นาน ก็มีเสียงะโดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“องค์หญิง”
“องค์หญิง โปรดรอกระหม่อมด้วย”
ทุกคนต่างหยุดฝีเท้าลง เมื่อชิงอีหันกลับมาก็เห็นสามเณรน้อยตัวเล็กวิ่งเข้ามาหาตนเอง
“อ๊ะ” หยวนเป่าที่วิ่งเร็วเกินไปจนเกือบหน้าคะมำ เพราะสะดุดกับก้อนหิน
ในขณะที่ใบหน้าเล็กของเขากำลังจะกระแทกพื้น ก็มีแรงที่มองไม่เห็นมาช่วยรับเขาไว้อย่างอ่อนโยน หยวนเป่าล้มลงพื้นโดยไร้ความเ็ปอย่างที่คิดเอาไว้
เขากะพริบตาปริบๆ และไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติใดๆ จากนั้นก็รีบลุกขึ้นจากพื้น
เซียวเจวี๋ยเหลือบมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนหลัง เห็นว่าใบหน้าสวยของนางเต็มไปด้วยความอดกลั้นตอนที่หยวนเป่าล้มลงไป นางก็ยังไม่ลืมที่จะเยาะเย้ยว่าโง่จริงๆ!
เซียวเจวี๋ยหลุบตาลง และซ่อนรอยยิ้มของเขาเอาไว้
ปากเอาแต่ดุคนอื่นว่าโง่ ทว่า กลับช่วยอย่างลับๆ
“องค์หญิง เณรน้อยตามพวกท่านทันแล้ว” หยวนเป่าพูดอย่างหอบหืด และบนใบหน้าเล็กที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่น
ชิงอีที่ไม่ได้มีความคิดที่จะลงจากหลังของเซียวเจวี๋ย นางก้มลงมองที่เขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญว่า “มีอะไร?”
มีคนไม่กี่คนที่เห็น แล้วเม้มริมฝีปากกลั้นยิ้มไว้อย่างลับๆ
ช่างหยิ่งยโสและยียวนเสียจริง
สามเณรน้อยน่ารักขนาดนี้ น้ำเสียงท่านใจดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไร?
“ขอบพระทัยองค์หญิงที่ช่วยเ้าอาวาสเจี้ยชือกับญาติโยมทีู่เาด้านหลังนะพ่ะย่ะค่ะ นี่คือสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของเณร ทรงโปรดรับไว้ด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ!” มือทั้งสองข้างของหยวนเป่ายื่นลูกประคำให้ พร้อมกับใบหน้าเล็กที่อายเล็กน้อย “เ้าอาวาสเจี้ยชือบอกว่าข้ามีความเชื่อมโยงกับพระพุทธเ้า ตอนนั้นที่เขาพบข้าที่เชิงเขา ลูกประคำนี้ก็สวมอยู่ที่มือของข้าแล้ว หวังว่าองค์หญิงจะทรงไม่รังเกียจนะพ่ะย่ะค่ะ”
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดนี้ของหยวนเป่า ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย
กลางดึกเมื่อวาน จู่ๆ อาการบ้าคลั่งของเจี้ยชือและเหล่าขอทานบนูเาด้านหลังก็หายเป็ปกติ ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่ามันแปลก เณรน้อยผู้นี้กลับบอกว่าเป็องค์หญิงใหญ่ที่ทรงช่วยอย่างนั้นหรือ?
มันจะเป็ไปได้อย่างไรกัน ตอนนั้น นางกำลังฝึกลมปราณที่ทำให้คนใเกือบตายอยู่ไม่ใช่หรือไร จะมีเวลาไปช่วยชีวิตผู้คนได้อย่างไร?
องค์หญิงทรงหลอกเด็กเป็แน่แท้!
เฮอะ แย่จริงๆ
องครักษ์หลายคนต่างมองชิงอีด้วยสายตาดูถูก บางคนถึงกับแอบหัวเราะเยาะเบาๆ
เมื่อชิวอวี่ขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นเช่นนั้น และเผยความโกรธออกมาเล็กน้อย อยากที่จะยืนขึ้นและโต้แย้งเพื่อชิงอี ทว่า ก็ไม่รู้ว่าจะโน้มน้าวผู้คนให้เชื่ออย่างไร
เป็ไปได้ไหมที่จะพูดว่าองค์หญิงออกจากร่างเพื่อช่วยผู้คน?
หรือจะบอกว่านางช่วยเศษิญญาของพวกขอทานจากมือของปีศาจ แล้วยัดกลับเข้าไปในร่างของคนเ่าั้?
หากพูดคำเหล่านี้ออกไป เกรงว่านางจะถูกคนอื่นคิดว่าเป็ปีศาจเสียมากกว่าน่ะสิ!
ชิวอวี่อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทว่า กลับได้ยินนางส่งเสียงฮึออกมาอย่างเย่อหยิ่ง
“ฝันกลางวันอยู่หรือไร? ภิกษุหัวโล้นเจี้ยชือและกลุ่มขอทานในูเาด้านหลังไม่ใช่เื่ของข้าเสียหน่อย” ชิงอีหาววอดออกมา “ลูกประคำที่เ้าเอามาก็คงต้องให้คนอื่นแล้วล่ะ? กลับไปบนเขาท่องพระคัมภีร์เถอะ!”
เหล่าองครักษ์รู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อยเมื่อได้ยิน นิสัยขององค์หญิงผู้นี้ทรงเลวร้ายเหลือคณนา! ดูเณรน้อยสิ เกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว
หยวนเป่ามุ่ยปากและยื่นลูกประคำไปยังมือของชิวอวี่ที่อยู่ข้างๆ เขาด้วยความดื้อรั้น จากนั้นก็คำนับชิงอี “จากนี้ไปเณรน้อยจะสวดมนต์ และขอพรให้องค์หญิงทุกวัน เณรขอลาตัวพ่ะย่ะค่ะ!”
“นี่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ เณรน้อย! มาเอาลูกประคำของเ้ากลับไปเลยนะ” ชิงอีะโ ทว่า หยวนเป่าราวกับโดนไฟรนก้นวิ่งหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทุกคนต่างมองดูนางด้วยความโกรธเคืองและไม่เข้าใจ ใจในก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นไปอีก เณรน้อยให้สิ่งของแก่ท่านอย่างจริงใจ ทว่า กลับถูกท่านปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ไม่เคยเห็นหญิงสาวที่ใจร้ายเช่นนี้มาก่อนเลย!
ชิวอวี่ที่กำลังถือลูกประคำอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำกับมันอย่างไรดี
เขาเองก็ไม่เข้าใจสักนิดเดียว ว่าเหตุใดชิงอีถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ มันก็แค่ลูกประคำเองไม่ใช่หรือ?
เขาไม่ทันสังเกตว่าบนไหล่ของเขามีเ้าแมวมานั่งอยู่ ยามที่ดวงตาทั้งสองของเ้าแมวจ้องไปที่ลูกประคำ แววตาก็เต็มไปด้วยความโลภ
“องค์หญิง ลูกประคำนี้...”
“เป็รางวัลให้เ้าก็แล้วกัน”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็กลอกตาอีกครั้ง ของที่คนอื่นให้ก็ยังเอาไปให้ผู้อื่นอีก เฮอะ ช่างไร้น้ำใจ ไร้คุณธรรมจริงๆ
ชิวอวี่ถอนหายใจและยัดมันใส่ในแขน แต่กลับเห็นชิงอีจ้องมองตัวเองด้วยใบหน้าที่ดูน่ากลัว “ลูกประคำอยู่กับเ้าแล้ว ก็สวมมันให้ดีๆ เถอะ”
ชิวอวี่ถึงกับตัวสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในแขนของตนเองคือภาระอันใหญ่หลวง สุดท้ายเขาก็หันหน้าไปหาเ้าแมวและเห็นถึงความโลภของเ้าแมว ที่มาพร้อมกับดวงตาที่เป็ประกาย หรือว่าลูกประคำเส้นนี้จะเป็สมบัติงั้นหรือ?
“เณรน้อยหัวโล้นนั่นโง่จริงๆ” ชิงอีพึมพำเบาๆ มีใครเอาลูกประคำมาเป็ของขวัญให้คนอื่นกันที่ไหนล่ะ? ช่างไร้เดียงสาและงี่เง่าจริงๆ!
มาพร้อมกับของตกทอด เกรงว่าภูมิหลังคงใหญ่กว่าที่นางคาดไว้ คงไม่ได้เป็เพียงกุมารแล้ว
จริงๆ แล้ว...
นางก็เป็เ้าแห่งปรโลก จะเอาของตกทอดนั่นมาทำไมกัน? ทำแกงหรือไร? แค่พลังิญญาบนร่างของนางก็สามารถทำให้ของตกทอดหลอมละลายได้แล้ว ถึงเวลานั้น เณรน้อยหัวโล้นจะไม่ถูกทำลายไปด้วยหรือไร?
เช่นนั้นมันก็คู่ควรที่จะอยู่กับชิวอวี่แล้ว
ปากของนางบ่นงึมงำไม่หยุด จึงไม่ทันสังเกตความสั่นไหวในดวงตาที่อยู่ด้านล่างนาง
เมื่อถึงไหล่เขา เส้นทางก็เปลี่ยนเป็กว้างขึ้น หลิงเฟิงที่ได้เดินทางล่วงหน้า เพื่อมาดูแลและจัดเตรียมรถม้าที่นี่
เซียวเจวี๋ยกำลังจะบอกให้ชิงอีลง เมื่อหันหันหน้ามาก็ััได้ถึงลมหายใจที่อ่อนโยนของหญิงสาวผ่านแก้ม
คาดไม่ถึงว่านางจะหลับไปจริงๆ ...
“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันจะพาองค์หญิงขึ้นไปเองเพคะ” เถาเซียงและต้านเสวี่ยเดินเข้ามา และพูดเบาๆ
เซียวเจวี๋ยยิ้มจางๆ ดวงตากวาดมองไปเห็นฉู่จุนหนิงที่กำลังลงมาจากเกี้ยว เขาจึงส่ายหน้า “ไม่ต้อง ข้าจะอุ้มนางขึ้นไปเอง”
ฉู่จุนหนิงที่ลงจากเกี้ยวก็เห็นเซียวเจวี๋ยอุ้มชิงอีขึ้นไปบนรถม้าอีกครั้ง ความอิจฉาริษยาเกือบไหลออกมาจากตาของนาง
นางกัดริมฝีปากแน่นและรีบวิ่งเข้าไป พยายามที่จะตามขึ้นไปในรถ ทว่า ก็ถูกขัดขวางไว้อีกครั้ง
“ท่านอ๋องทรง้าพักผ่อน องค์หญิงใหญ่โปรดทรงอย่าเข้าไปรบกวนเลยพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่สือพูดอย่างเ็าและไร้ความปรานี
ฉู่จุนหนิงจ้องมาที่เขาอย่างเหี้ยมโหด “นั่งในเกี้ยวมันอึดอัด ข้าก็อยากจะนั่งรถม้าเหมือนกัน”
“รถม้าขององค์หญิงใหญ่อยู่ทางฝั่งนั้นพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่สือชี้ไปที่รถม้าอีกคัน
ฉู่จุนหนิงพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ะโออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ข้าจะไปอยู่กับพี่เซียว!” ฉู่สือยังคงยืนตรงหน้านางอย่างไม่สะทกสะท้าน
“เ้าสุนัขรับใช้ หลีกทางให้ข้าประเดี๋ยวนี้!”
“อย่าคิดว่าเ้าเป็คนของพี่เซียว แล้วข้าจะไม่กล้าจัดการกับเ้านะ!”
“รอให้ข้ากลับไปเมืองหลวงก่อน ข้าจะขอให้เสด็จแม่ตัดหัวเ้าอย่างแน่นอน”
ฉู่จุนหนิงรู้สึกรำคาญกับคนผู้นี้ที่พูดไม่รู้จบ
“น่ารำคาญ!” ทันใดนั้น เสียงคำรามขึ้นมาด้วยหงุดหงิดก็ดังขึ้นจากรถม้า เมื่อม่านถูกเปิดออกก็มีวัตถุแข็งบางอย่างพุ่งออกมา และตกลงไปในปากของฉู่จุนหนิงอย่างพอดิบพอดี
อึก
นางจำเป็ต้องกลืนลงไปอย่างไร้ทางเลือก นางบีบคอและไอเสียงดัง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน
“ฉู่ชิงอี เ้าโยนอะไรเข้าปากข้า?!!”
ม่านที่ถูกเปิดออก พร้อมกับใบหน้าของชิงอีที่เต็มไปด้วยความโกรธ เนื่องจากถูกรบกวนจากความฝันที่สวยงาม
“ยังจะกล้าส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวอีก ท่านเชื่อไหมล่ะว่าข้าทำให้ท่านตายได้ในทันที!”