ผู้รับผิดชอบคดีนี้ ไม่เพียงแต่ออกคำสั่ง ขณะเดียวกันก็ต้องอดทนต่อความกดดันอย่างมาก
เจี่ยงจาวตี้ออกคำสั่งจบ สายตาก็ประกายความเหน็ดเหนื่อย ถอนใจยาวอย่างช่วยไม่ได้ “อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเอง หากจะหาโอกาสดีขนาดนี้อีก ฉันเกรงว่าจะหาได้ไม่ง่ายแล้ว เพราะได้แหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว”
ในใจของเธอค่อนข้างเสียดาย เซี่ยตันอธิบายไม่ได้ สองคนปิดล้อม บวกกับเซี่ยตันเป็มือดีในการใช้ปืน ไม่แน่อาจสามารถจับตัวเขาได้ในครั้งเดียว แม้ว่าจะจับไม่ได้ และถูกยิงตาย ผลลัพธ์นี้ก็ไม่ใช่จะรับไมไ่ด้
น่าเสียดาย เธอหนีไปแล้ว
อีกทั้งนี่ก็ไม่สามารถโทษเฉินตงได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าเฉินตงพยายามอย่างมาก ทางเลือกของเขาก็ไม่ผิด เซี่ยตันแม้จะยืนยังยืนไม่มั่นคง ไม่มีสติ จึงเป็ธรรมดาที่เฉินตงจะปล่อยไว้ไม่ได้
จ้าวอี้เห็นผู้คนวุ่นวาย พูดเสียงเบากับเจี่ยงจาวตี้ “ที่จริงเธอไม่ควรรับคดีนี้ ถ้าไม่สามารถไขคดีได้ มันอาจกลายเป็ความด่างพร้อยของเธอ”
คำพูดนี้ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ในใจจ้าวอี้ชัดเจนดี เขาไม่ใช่นักปราชญ์ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ยังไงก็ตาม จ้าวอี้คิดว่าส่งคดีสำคัญเช่นนี้ให้มือใหม่ ดูเหมือนไม่เหมาะสมเท่าไหร่
“ฉันรู้ ฉันก็ไม่มีทางเลือก เดิมทีฉันถูกจัดสรรให้มาอยู่ที่นี่ รับผิดชอบการสืบสวนคดีอาชญากรรม ทำให้ผู้ช่วยผบ. ไม่พอใจอย่างมาก แล้วเกิดคดีเช่นนี้ขึ้นพอดี ดังนั้นฉันจึงได้ตั้งปฏิญาณทางทหาร ว่าถ้าฉันไขคดีนี้ไม่ได้ ฉันจะลาออก คนพวกนั้นพูดอย่างโกรธเกรี้ยว ตอนแรกที่ฉันยังค่อนข้างรู้สึกผิด แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าต้องไขคดีนี้ให้ได้”
บนหน้าของเจี่ยงจาวตี้แฝงรอยยิ้มขื่น
“เธอวู่วามเกินไป นี่ไม่ดีต่อการเลื่อนตำแหน่งงานของเธอเลย”
ที่จ้าวอี้พูดกับเจี่ยงจาวตี้ ไม่ใช่เพราะกลัวขัดใจคนอื่น แต่เพราะกังวลว่าอีกฝ่ายเย่อหยิ่งและก้าวร้าวเช่นนี้อาจทำให้เกิดอุปสรรค แม้ความเป็ไปได้จะน้อย แต่ก็ไม่ดีเช่นกัน
“ไม่เป็ไร ผบ. เป็ผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของพ่อฉัน ไม่ต้องห่วงว่ารองผบ. คนนั้นจะลงมือ เพียงแค่ฉันสามารถจัดการคดีนี้ได้อย่างสวยงาม ฉันก็จะสามารถยืนได้อย่างมั่นคงในที่ทำการนี้”
เจี่ยงจาวตี้กลับไม่สนใจในจุดนี้ ราชสำนักมีข้าราชการประจำ1 อย่างที่คิดไว้
จ้าวอี้ไม่ได้พูดอะไรอีก สองคนนั่งรถ ออกไปที่สถานีตำรวจ
“คืนนี้ยังทำต่อไหม?”
“ดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน วันนี้เช้าภารกิจสำคัญ ก็คือแจ้งโรงพยาบาลและคลินิคทุกที่ ให้พวกเขาระวังคนที่ได้รับาเ็ที่ไหล่ าแเช่นนี้ โดยปกติแล้วยากที่จะจัดการเอง นายว่า ถ้าฝีมือของเขาดีขนาดนี้ อาชีพของเขาน่าจะเป็อะไร?”
“เป็ไปได้หลายอย่าง นักเพาะกาย ฟรีรันนิ่ง นักกีฬา? เป็ไปได้หลายแบบมาก ตอนแรกฆาตกรคนนี้ก่อคดีใหญ่ขนาดนี้ทางตอนใต้ จุดนี้ไม่มีเบาะแสที่มีประโยชน์?”
ที่จริงจ้าวอี้ค่อนข้างสงสัย ตอนนั้นกำลังคนและกำลังวัตถุที่ใช้ทางตอนใต้เรียกได้ว่าจำนวนมหาศาล จ้าวอี้จึงไม่เชื่อว่าจะไม่มีเบาะแส
“สมาชิกสืบสวนคดีพิเศษของเมืองทางตอนใต้จะมาถึงเช้านี้ พวกเขาน่าจะนำข้อมูลบางส่วนมา พวกเขาสืบสวนคนคนนี้มาเป็เวลานานมาก อาจมีข้อมูลที่เราไม่รู้” เจี่ยงจาวตี้มั่นใจขึ้นเล็กน้อย
รถตำรวจจอดอย่างมั่นคงในลาน คนยังไม่ลงจากรถ โทรศัพท์ของเจี่ยงจาวตี้ก็ดังขึ้น
“เป็สายจากผบ. แปลกจริง ทำไมถึงต้องโทรหาฉันตอนนี้?”
ตอนนี้เป็เวลาตี่สี่ตีห้า เจี่ยงจาวตี้บ่น แล้วรีบรับสาย
พูดเสียงเบาไม่กี่ประโยค เจี่ยงจาวตี้จึงวางสาย สีหน้าของเธอดูแย่มาก “จ้าวอี้ เกิดเื่แล้ว ตำรวจลาดตระเวนพบศพของคนทำความสะอาด วิธีการเดียวกัน เพียงแต่ชิ้นส่วนร่างกายที่ควรหายไปกลับกระจายอยู่ด้านข้างศพ นี่เป็การสาธิตให้พวกเราเห็น! รีบไปที่เกิดเหตุ!”
สองตาของเจี่ยงจาวตี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิง เธอโกรธมากจริงๆ!
สถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมคราวนี้ เกิดขึ้นไม่ไกลจากที่ที่จ้าวอี้สองคนทำการแสดงในตอนแรก
เห็นได้ชัดว่าสถานที่ที่ฆาตกรเคลื่อนย้ายเป็วงกว้าง จากนั้นจึงก่อคดีอย่างง่ายๆ เป็การสาธิตการตอบโต้
ใบหน้าของผู้ตายไม่มีความรู้สึกเ็ป เพียงแต่ดูแล้วเต็มไปด้วยคาวเื เสื้อผ้าเสียหายไปมากกว่าครึ่ง บนอกนั้นคลุมเครือ เต็มไปด้วยเื เนื้อสองก้อนถูกทิ้งไว้อยู่ไม่ไกล กางเกงถูกฉีกออก ส่วนเป้าเหมือนกับถูกมีดตัดขาด ดูไม่ออกถึงสภาพเดิม และาแสาหัสของเธอ ยังคงเป็เส้นเืใหญ่ของคอถูกตัดขาด เห็นได้ชัดว่าสภาพการาเ็นี้ทำให้อกสั่นขวัญหนีจริงๆ
สีหน้าทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างหม่นหมอง จากนั้นจึงจัดระเบียบอย่างรวดเร็ว
“เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุต้องละเอียดที่สุด การชันสูตรก็ต้องละเอียดมาก เนื่องจากไหล่ของฆาตกรคนนี้น่าจะมีแผละุปืน ถ้าไม่ระวังทำหยดเืตกเป็รอยเืหรือหลักฐานอื่น นี่จะมีประโยชน์ต่อการไขคดีของเรามาก” จ้าวอี้เตือนคนอื่นๆสองสามประโยค ประโยคเหล่านี้มีความจำเป็อย่างมาก
“เธอพักสักครู่ก่อนเถอะ รอจนหน่วยสืบคดีพิเศษจากตอนใต้มาถึง ค่อยดูว่ามีข่าวสารอะไรที่มีประโยชน์” จ้าวอี้มองเจี่ยงจาวตี้ด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อยอย่างปิดไม่อยู่ ความเหน็ดเหนื่อยนี้ คือเหนื่อยใจซะมากกว่า
“นายไปพักผ่อนเถอะ ฉันจะอยู่ต่อสักพัก”
อารมณ์ของเจี่ยงจาวตี้ไม่ดีมาก จ้าวอี้ไม่ชักชวนต่อ ต่างเป็ผู้ใหญ่กันแล้ว ควรทำอะไรในใจรู้ดี
จ้าวอี้นอนหลับตื่นหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็ใกล้เที่ยงแล้ว ทานอาหารง่ายๆมื้อหนึ่งที่บอกไม่ได้ว่าเป็มื้อเช้าหรือมื้อเที่ยง จากนั้นกลับไปสำนักงาน
“หวงอิง เป็ยังไง? สองคนนั้นปรากฏตัวอีกไหม?”
ในใจเขายังจำเื่นี้ได้
“ไม่ จนถึงตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัว”
คำตอบของหวงอิงทำให้จ้าวอี้มีการคาดเดาบางอย่าง การคาดเดานี้ไม่รีบจนต้องพูดถึงนอกเวลา
เตือนให้พวกเธอระวังความปลอดภัยเล็กน้อย แล้วจ้าวอี้จึงไปสถานีตำรวจด้านหน้า
ที่ทำการวุ่นวายมาก ในห้องประชุมกำลังมีการประชุม เวลานี้ห้องประชุมที่สามารถบรรจุคนได้กว่าห้าหกสิบคนมีควันม้วนขึ้น เกือบมองไม่เห็นเงาคนที่ไกลกว่าสองสามเมตร จ้าวอี้เข้าไปหาที่นั่งหนึ่งที่มุมห้องแล้วนั่งลง
โดยพื้นฐานแล้วที่นี่เป็ของเหล่าแก่นแท้ในคดีฆ่าปาดคอ ยังไม่รวมถึงตำรวจลาดตระเวนที่อยู่ภายนอกเ่าั้ ต่างอยู่ที่นี่หมด
“เหล่าเพื่อนพ้องจากตอนใต้นำข้อมูลมาให้พวกเราทำให้พวกเราล็อคผู้ต้องสงสัยบางส่วนได้ แต่รายชื่อนี้รวมไปถึงผู้ต้องสงสัยหรือไม่ พวกเขาก็ไม่กล้ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็น ท้ายที่สุดพวกเราก็ทำได้เพียงใช้ในการอ้างอิง นอกจากนั้นพวกนายมีเบาะแสใหม่อะไร ต้องเสนอออกมา ทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน ถึงสามารถนำอาชญากรที่โหดร้ายเช่นนี้มาลงโทษด้วยกฎหมายได้เร็วที่สุด” เสียงของเจี่ยงจาวตี้ค่อนข้างแห้งผาก ดูเหมือนไม่ได้พักผ่อน
“ผบ. เจี่ยง มีสถานการณ์หนึ่ง เป็เช่นนี้ ไม่กี่วันก่อนพวกเราจับโจรขโมยสุสานได้คนหนึ่ง สมาชิกองค์กรของพวกเขาเข้มงวดมาก ระหว่างจับตาดูใกล้ๆเขา พบร่องรอยของสมาชิกคนอื่น และวันนั้นก็ได้เกิดโศกนาฏกรรมฆ่าปาดคอ พวกเราสงสัยว่าองค์กรของพวกเขามีข้อสงสัยอย่างยิ่ง...” เซี่ยตันนำเื่ของน้องชายเหยียนรายงานเล็กน้อย เดิมทีจ้าวอี้ก็มีความสงสัยเช่นนี้ เซี่ยตันพูดแบบนี้ จึงพยักหน้าซ้ำๆ
เพื่อนร่วมงานสองสามคนที่มาจากตอนใต้ได้ปรึกษากันเล็กน้อย จากนั้นจึงพูด “ความเป็ไปได้นี้ไม่ใช่ไม่มี พวกเราคาดเดามาโดยตลอดถึงอาชีพของฆาตกรนี้ ไม่ต้องสงสัย ว่าโจรขโมยสุสานจำนวนมากมีใจดำอำมหิตเช่นนี้ จำเป็ต้องมีการใช้กำลังปกป้องตนเองเช่นกัน ที่อยู่ก็ค่อนข้างเป็ความลับ นี่ก็เป็ความเป็ไปได้อย่างหนึ่ง”
นี่เชื่อมโยงกัน ก็จะสามารถลงรายชื่อผู้ต้องสงสัยได้
“นอกจากนั้น นักจิตวิทยาก็ได้วิเคราะห์แล้ว ว่าฆาตกรนี้ป่าเถื่อนอย่างมาก ขณะเดียวกันก็อวดดี้มาก! ได้ฆ่าคนเพื่อแก้แค้นั้แ่เช้าตรู่วันนี้หลังเกือบถูกพวกเราจับตัวได้ ดังนั้น นักจิตวิทยาจึงได้วิเคราะห์ ว่า่สองวันนี้เขาจะยังคงก่อเหตุ ถ้าดูจากสไตล์การก่อเหตุที่เขาเคยทำ เขาอาจจะยังคงก่อคดีอีกสามวัน ถ้าภายในสามวันจับตัวเขาไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อไหร่ จากประสบการณ์ในคดีก่อนหน้า เวลาที่ว่าอาจเป็ครึ่งปี หรืออาจเป็หนึ่งปี...ดังนั้น เหล่าเพื่อนพ้องเพื่อลดจำนวนผู้เคราะห์ร้าย พวกเราต้องพยายามไขคดีอย่างสุดความสามารถ!”
เหล่าตำรวจด้านหลังปรึกษากัน ผ่านไปไม่กี่นาที เมื่อพวกเขาได้ปรึกษากันพอสมควรแล้ว เจี่ยงจาวตี้จึงเริ่มแบ่งงาน “หน่วย A รับผิดชอบบริเวณด้านตะวันออก สถานีตำรวจท้องที่ได้อธิบายแล้ว ว่าต้องลาดตระเวนอย่างเข้มงวด...สรุปก็คือ ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดของพวกเรา ก็คือภายในสามวันนี้ไม่สามารถพบผู้ตายอีก ฉันไม่เชื่อ ว่าเขาจะบินได้จริงๆ สามารถก่อคดีอย่างเงียบเชียบในวงล้อมของเรา แม้ว่าจะไม่ได้นอน ก็ต้องทำให้ฉันได้ในจุดนี้”
เจี่ยงจาวตี้มอบความรับผิดชอบ อธิบายสองจุดสำคัญ อย่างแรก เมื่อปรากฏเหยื่อรายใหม่ ต้องจับฆาตกรให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็คือฆาตกรได้รับความกดดันอย่างหนัก ไม่กล้าจะก่อเหตุในสามวันนี้ ก็ถือว่าเป็ชัยชนะเล็กๆอย่างหนึ่ง นี่เป็ความเห็นของนักจิตวิทยา ต่อจิตใจของฆาตกร
คนอื่นค่อยๆจากห้องประชุมไป ทำให้กลิ่นอายของบรรยากาศห้องประชุมดีขึ้นเล็กน้อย
ในดวงตาของเจี่ยงจาวตี้เต็มไปด้วยเส้นเื เพียงวันเดียว ก็ทำให้เธอซีดเซี่ยวไปมาก เห็นได้ว่าเธอได้รับความกดดันมากแค่ไหน
“เธอต้องระวังการพักผ่อน อย่าเป็เพราะคดียังไขไม่ได้ ร่างกายของตนเองจะพัง”
จ้าวอี้ขมวดคิ้วมองเธอ ความกดดันยิ่งมาก ก็ไม่อาจจะไม่พักผ่อน ไม่พักผ่อนไม่ได้แสดงว่าจะหาวิธีได้ ในทางกลับกันประสิทธิภาพอาจลดลง
“เหตุฆาตกรรมเมื่อคืนไม่รู้ว่าถูกใครประกาศลงบนอินเทอร์เน็ต ข่าวสารได้ถูกปิดกั้นไว้ชั่วคราวแล้ว สื่อทางการไม่อาจเผยแพร่แล้ว แต่กลับปิดกั้นข่าวลือพวกนั้นไม่ได้”
เจี่ยงจาวตี้พูดอย่างเหม่อลอย จ้าวอี้กลับเข้าใจ
เช้าตรู่วันนี้เกิดโศกนาฏกรรม ตอนนี้เมือง J ได้มีข่าวเล่าลือออกไป คนที่เผยแพร่ข่าวคือใคร ไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัด เพราะคนที่รู้ข้อมูลนี้ต่างเป็คนใน ไม่อาจะเป็ราษฎรที่พบโดยบังเอิญ รู้นั้นรู้ แต่กลับไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าคนทำคือใคร
แท้จริงแล้วมีคางคกทิ้งรอยเท้า ไม่กัดคน แต่เกลียดคน
ไม่พูดไม่ได้ สิทธิเป็สิ่งที่ดีจริงๆ มันสามารถทำให้คนสูญเสียเหตุผลที่ควรมี รู้ดีว่าสู้ไม่ได้ ก็ยังคงคิดหาวิธีสู้ ทำอะไรอย่างลับๆ คิดว่าไม่มีหลักฐานก็พอแล้ว ยากที่จะรู้ว่าเื่บางเื่แม้ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ แต่ก็ได้ทิ้งความประทับใจที่เลวร้ายไว้ให้กับเบื้องบน ไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งชีวิตคงต้องชดใช้ด้วยความพยายามอย่างหนักในการเลื่อนขั้นแม้จะไม่มีหวังก็ตาม
เจี่ยงจาวตี้จัดการคดีนี้ได้อย่างสวยงาม ย่อมได้รับโบนัส ถ้าทำพัง ก็คงรู้สึกค่ำคืนยาวนานนับปี
เพียงแต่เธอเป็คนพยายามมาก ที่จริงแรงกดดันยิ่งมากก็มาจากตัวเธอเอง
“นอนสักหน่อยเถอะ ฉันจะช่วยดูให้ วางใจ”
จ้าวอี้มองอย่างค่อนข้างปวดใจ สาวแก่นไม่ได้แสดงว่าไม่ต้องใส่ใจ
เจี่ยงจาวตี้อ้าปากจะปฏิเสธ ท้ายที่สุดจึงพยักหน้า “งั้นฉันพักสักครู่ นายช่วยดูให้ฉัน”
ที่จริงงานของหัวหน้ามีการประสานงานมากมาย จ้าวอี้ย่อมเชี่ยวชาญดี กระบวนการไขคดีโดยเฉพาะเขาอาจรู้ไม่มาก แต่ถ้าให้พูดถึงทักษะประสานงานและทักษะการออกคำสั่ง จ้าวอี้กลับไม่เกี่ยงในเื่ที่ควรทำ
[1] หมายถึง ผู้มีอิทธิพลจึงจะสามารถมีกำลังสนับสนุนได้