ครั้นเห็นว่าจนถึงยามนี้ อวี๋หรูไห่ก็ยังถูกขังไว้ในกลอง คล้ายกับไม่รับรู้ว่าตอนนี้ทางฝั่งจวนสกุลเหอยกย่องชื่นชมอวี๋เจียวถึงเพียงใด ในใจของเจียงชิงเหอคิดว่าเป็เช่นนี้ก็ดี เขาตีสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยอย่างประดิษฐ์คำพูดว่า
“ผู้ที่ละโมบเงินค่ารักษาจนทำร้ายนายท่านผู้เฒ่าเหอก็คือท่านไม่ใช่หรือ? คนซื่อตรงไม่เอ่ยวาจาแฝงความนัย เ้ากับข้าต่างก็รู้ว่าวิชาหมอของแม่นางเมิ่งเยี่ยมยอดอย่างยิ่ง ข้าอยากให้นางไปเป็ท่านหมอในสำนักหุยชุน หากยามนี้เ้ายอมขายใบสัญญาซื้อขายตัวของนางให้ข้า เื่ทางฝั่งนายท่านเหอ ข้ารับรองว่าเ้าจะไม่เป็อันใด”
สตรีแซ่อวี๋โจวที่เดินออกมาจากเรือนทิศตะวันออกพลันใจสั่นอย่างยิ่งหลังได้ฟัง เอ่ยถามว่า "ขอถามท่านหมอเจียง ท่านเตรียมจะซื้อตัวเมิ่งอวี๋เจียวด้วยเงินจำนวนเท่าใดหรือเ้าคะ”
“พวกเ้าลองเสนอราคามาเถิด” เจียงชิงเหอเอ่ย
ในใจของสตรีแซ่อวี๋โจวเด็ดเดี่ยว ทันทีที่ปริปากก็เอ่ยขึ้นว่า “ห้าสิบตำลึงเป็อย่างไร?”
เจียงชิงเหอยังนึกว่าผู้เฒ่าทั้งสองของสกุลอวี๋จะเอ่ยปากเรียกราคาสูง แต่ผู้ใดจะคิดว่าแค่ห้าสิบตำลึง พวกเขาดวงตามืดบอดเสียจริง ช่างไม่รู้สักนิดว่าวิชาอันยอดเยี่ยมของอวี๋เจียวล้ำค่าถึงเพียงใด
เขาไม่แสดงสีหน้าออกมา เอ่ยพลางขมวดคิ้วว่า “ห้าสิบตำลึง? ข้าไปสืบมาว่าพวกเ้าซื้อตัวนางเข้าสกุลอวี๋เพื่อเป็ภรรยาเสริมมงคลด้วยเงินเพียงสี่ตำลึงเท่านั้น ยามนี้ทวีขึ้นสิบเท่า พวกเ้าไม่รู้สึกว่าน่าขันหรือ?”
สตรีแซ่อวี๋โจวรีบเอ่ย “ท่านหมอเจียงเองก็ยังบอกว่าวิชาหมอของอวี๋เจียวล้ำเลิศ หากไม่ใช่เพราะยามนี้หมางใจกับสกุลเหอ สกุลอวี๋ของพวกเราเก็บนางเอาไว้ แค่เงินค่ารักษาของนางก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ถึงห้าสิบตำลึง ในเมื่อท่านอยากซื้อตัวนางไปเป็หมอในสำนักหุยชุน คงไม่รู้สึกเสียดายเงินแค่ห้าสิบตำลึงกระมัง?”
เจียงชิงเหอเงียบไปครู่หนึ่ง ในสายตาของสตรีแซ่อวี๋โจวกับอวี๋หรูไห่แลดูคล้ายเขากำลังลังเลไม่อาจตัดสินใจ
“ช่างเถิด เ้าไปเอาใบสัญญาซื้อขายตัวของแม่นางเมิ่งมาเถิด” เจียงชิงเหอไม่กล้ารั้งรอมากนักเพราะเกรงว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง
อวี๋หรูไห่หยัดกายลุกขึ้น เขายังลังเลอยู่บ้าง สตรีแซ่อวี๋โจวตามเขาเข้ามาในเรือนฝั่งตะวันออก กล่าวโน้มน้าวเสียงเบาว่า “นายท่าน ยามนี้ถือเป็โอกาสอันดียิ่ง พวกเราไม่เพียงตัดสัมพันธ์กับอวี๋เจียวได้โดยสิ้นเชิง ยังจะหาเงินได้จำนวนหนึ่ง นับได้ว่าเื่สกุลเหอในครั้งนี้จบสิ้น ภายหน้าท่านก็วางใจได้แล้วเ้าค่ะ”
อวี๋หรูไห่ก็คิดว่าถูกต้องเช่นกัน นับั้แ่เมิ่งอวี๋เจียวเข้ามาในจวนก็เกิดคลื่นลมไม่น้อยครั้ง ยามนี้ขายใบสัญญาซื้อขายตัวของนางแล้วขับไล่ออกไปก็ถือว่าเหมาะสมเช่นกัน
เขาควานหาซองกระดาษใบเล็กจากกล่องใต้ฟูกนอน หยิบเอาใบสัญญาซื้อขายตัวที่ซ่อนอยู่ข้างในออกมาแล้วเดินไปข้างนอก
“ใบสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียวอยู่ที่นี่แล้ว ท่านหมอเจียงนำเงินติดตัวมาด้วยหรือไม่?” อวี๋หรูไห่ลูบไล้กระดาษตรงหน้าอกด้วยปลายนิ้ว ดวงตาชราฉายแววเป็ประกาย
เจียงชิงเหอกวักมือเรียกเด็กจัดยาที่อยู่ด้านข้าง ตอนออกจากสำนักหุยชุน เขานำเงินมาจากสมุดบัญชีหนึ่งร้อยตำลึง แน่นอนว่าต้องมาโดยมีการเตรียมพร้อม
เด็กจัดยาล้วงเอาตั๋วเงินห้าสิบตำลึงออกมาแล้วยื่นให้เจียงชิงเหอ เจียงชิงเหอวางตั๋วเงินลงบนโต๊ะและดันไปทางอวี๋หรูไห่
อวี๋หรูไห่รีบคว้าตั๋วเงินขึ้นมาดูอย่างรีบร้อน จากนั้นส่งใบสัญญาซื้อขายตัวไปให้เจียงชิงเหอพลางยิ้มกริ่ม
ในขณะนั้นเอง อวี๋จิ่นเหยียนเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยท่าทางรีบร้อน ครั้นเห็นว่าในมือของอวี๋หรูไห่ถือใบสัญญาฉบับหนึ่งเอาไว้จึงรีบขวางเอาไว้อย่างหูตาว่องไว
“ท่านปู่ นี่ท่านกำลังทำอะไรหรือขอรับ?” อวี๋จิ่นเหยียนเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่อเห็นว่าเป็ใบสัญญาซื้อขายตัวของอวี๋เจียว
อวี๋หรูไห่เอ่ยอย่างสง่าผ่าเผย “ท่านหมอเจียงท่านนี้ต้องตาวิชาหมอของอวี๋เจียว คิดอยากจะซื้อใบสัญญาซื้อขายตัวของนาง ให้นางไปเป็หมอในสำนักหุยชุน ข้ากับท่านย่าของเ้าต่างคิดว่าสำนักหุยชุนเป็สถานที่ที่ดี พวกเราไม่ควรขัดขวางจึงขายสัญญาซื้อขายของอวี๋เจียวให้ท่านหมอเจียงแล้ว”
อวี๋จิ่นเหยียนปรายมองไปทางสตรีแซ่อวี๋โจว สตรีแซ่อวี๋โจวมีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างเห็นด้วย
ตามด้วยหันมองไปทางเจียงชิงเหอ พบว่าเขาสีหน้าของเขาสุขุมหนักแน่นจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย กดเสียงต่ำเอ่ยกับอวี๋หรูไห่ “ท่านปู่ ท่านตามข้ามาสักหน่อย”
อวี๋หรูไห่เห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาจึงหันยิ้มให้เจียงชิงเหอ หยิบใบสัญญาซื้อขายตัวพลางหยัดกายลุกขึ้นเดินตามอวี๋จิ่นเหยียนเข้าไปยังห้องด้านใน
“หมอเจียงผู้นั้นจ่ายเงินเท่าใดเพื่อซื้อใบสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียวหรือขอรับ?” เมื่ออวี๋จิ่นเหยียนเข้ามาในห้อง เขาพลันกระซิบถามอวี๋หรูไห่
อวี๋หรูไห่ไม่ปิดบังหลานชายที่ยามนี้เขาคอยถือหางมากที่สุด ตอบเขาว่า “ห้าสิบตำลึง”
อวี๋จิ่นเหยียนเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “ขายไม่ได้ขอรับ ท่านปู่ เมิ่งอวี๋เจียวเป็ภรรยาของพี่ห้า ถ้าท่านขายใบสัญญาซื้อขายตัวของนางไปแล้วจะอธิบายกับพวกท่านลุงรองอย่างไรขอรับ?”
อวี๋หรูไห่แค่นเสียง “ข้ายังต้องอธิบายให้พวกเขาฟังด้วยหรือ? ข้าจ่ายเงินซื้อตัวคนให้ครอบครัวรองของพวกเขา จะจัดการอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาถาม อีกอย่างหมอเจียงผู้นั้นยังบอกอีกว่า ขอเพียงขายใบสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียวให้กับเขา เขาก็จะช่วยจัดการเื่สกุลเหอให้เรียบร้อย ทำให้นายท่านเหอไม่มาหาเื่จวนของเราอีก”
สิ่งที่อวี๋หรูไห่ใส่ใจจริงๆ ยังคงเป็เื่สกุลเหอ
อวี๋จิ่นเหยียนใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งหลังได้ฟัง เมื่อนึกถึงท่าทีของจวนสกุลเหอในก่อนหน้านี้ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลจึงพยายามห้ามปราม
"ท่านปู่ เื่นี้ยังต้องคิดให้ถี่ถ้วน เหตุใดหมอเจียงท่านนั้นถึงมีน้ำใจเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ใช้เงินห้าสิบตำลึงซื้อใบสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียว แต่ยังจะช่วยแก้ปัญหาเื่จวนสกุลเหออีกด้วย เขาเสนอเงื่อนไขที่ดีเช่นนี้ย่อมอธิบายได้เพียงว่าเมิ่งอวี๋เจียวมีค่ามากกว่านั้น หลานสงสัยว่าอาการป่วยของนายท่านผู้เฒ่าเหอถูกเมิ่งอวี๋เจียวรักษาจนหายดีแล้ว มิเช่นนั้นท่านหมอเจียงจะกล้าให้นางไปเป็หมอตรวจโรคที่สำนักหุยชุนได้อย่างไรขอรับ?”
คราแรกอวี๋หรูไห่ไหวหวั่นเพราะเงินห้าสิบตำลึงเป็อย่างมาก ครั้นได้ยินอวี๋จิ่นเหยียนกล่าวเช่นนี้ ภายในหัวพลันกระจ่างแจ้งขึ้นไม่น้อย เพียงแต่ความคิดจิตใจยังคงสั่นไหว “สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็การคาดเดาของเ้า หากเมิ่งอวี๋เจียวรักษาอาการป่วยของนายท่านผู้เฒ่าเหอจนหายแล้วจริงๆ เหตุใดคนสกุลเหอถึงยังอยู่ข้างนอกไม่ยอมจากไป”
อวี๋จิ่นเหยียนก็ไม่รู้เช่นกัน ทันใดนั้นถึงกับตอบไม่ได้
นอกห้อง เจียงชิงเหอนั่งอยู่นานก็ยังไม่เห็นอวี๋หรูไห่ออกมา เขาค่อนข้างร้อนใจอย่างไม่อาจเลี่ยง เขาวางถ้วยชาลงแล้วหันไปทางสตรีแซ่อวี๋โจว “ตระกูลอวี๋ของพวกเ้าต้อนรับแขกอย่างไรกัน ในสำนักหุยชุนยังมีคนป่วยรอตรวจโรค ในเมื่อพวกเ้ารับเงินไปแล้ว ยังต้องรบกวนให้รีบเอาใบสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียวมาให้ข้าด้วย”
สตรีแซ่อวี๋โจวแย้มยิ้ม “หลานชายของข้ายังเล็กไม่รู้ความ อาจมีเื่สำคัญจึงได้มาหานายท่านของข้า ข้าจะไปเร่งให้ประเดี๋ยวนี้เ้าค่ะ”
นางลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องด้านใน ครั้นเห็นอวี๋หรูไห่กับอวี๋จิ่นเหยียนต่างเงียบกริบจึงเข้าใจผิดคิดว่าเกิดเื่ใหญ่อะไรขึ้นอีก รีบเอ่ยถามไปว่า “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดสองปู่หลานถึงทำหน้าเช่นนี้?”
อวี๋จิ่นเหยียนส่ายหน้า “ไม่มีอะไรขอรับ”
สตรีแซ่อวี๋โจวมองอวี๋หรูไห่แล้วเอ่ยว่า “นายท่าน ท่านหมอเจียงที่อยู่ข้างนอกเร่งมาเ้าค่ะ”
“ท่านปู่ มิสู้ให้ข้ากับจิ่นซูสืบข่าวที่จวนสกุลเหออีกครั้ง?” เมื่อได้ยินว่าเจียงชิงเหอเร่งเร้า อวี๋จิ่นเหยียนเอ่ยเตือนอย่างยิ่งนึกสงสัยกว่าเดิม
อวี๋หรูไห่ไม่แน่ใจ ถ้าเมิ่งอวี๋เจียวรักษาอาการป่วยของนายท่านผู้เฒ่าเหอหายแล้วจริงๆ เช่นนั้นก็ยังต้องตัดสินใจใหม่อีกครั้ง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “เ้ากับจิ่นซูไปสืบเื่สกุลเหอให้ดีอีกครั้ง”
สตรีแซ่อวี๋โจวไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนพูดเื่อะไร เอ่ยเร่งเร้าว่า “ไปสืบเื่อะไรที่สกุลเหอหรือ? นายท่านรีบเอาสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียวให้ท่านหมอเจียงเถิด จะได้ไม่ล่าช้าจนเกิดเื่พลิกผัน”
อวี๋หรูไห่ส่ายหน้า “ไม่ต้องรีบร้อนๆ” จากนั้นหันกายเดินออกไปด้านนอก
อวี๋จิ่นเหยียนรีบเดินออกไปจากห้องโถง ร้องเรียกอวี๋จิ่นซูให้ไปสืบข่าวที่จวนสกุลเหอด้วยกัน
เจียงชิงเหอเห็นอวี๋หรูไห่เดินออกมาจึงลุกขึ้นเอ่ยว่า “ในสำนักหุยชุนยังมีคนป่วยรออยู่ ข้าไม่อาจเสียเวลามากนัก ท่านหมออวี๋รีบเอาใบสัญญาซื้อขายตัวของเมิ่งอวี๋เจียวให้ข้าเถิด”
