เสียงต่องสัญญาณของการเลิกเรียน ทำให้มาเฟียหนุ่มอย่างเฮียกิ้น ลูกเ้าพ่อดังแห่งปากน้ำถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง เพราะนี่ก็ร่วมชั่วโมงที่เขานั่งรอน้องนักเรียนอย่างใจเย็น เขาไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย
ให้ตายเหอะ!!!
ลูกน้องที่ยืนกุมไข่อยู่ข้างๆ แอบกระซิบกระซาบด้วยความพอใจ นานๆ ทีจะเห็นลูกพี่เสียทรงเสียอาการก็คราวนี้ แถมยังมีความใจเย็นที่จะนั่งรออะไรที่มันนานๆ ได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไปสักที ใครๆ ก็รู้ว่าเฮียกิ้น วัยยี่สิบแปดปี เป็หนุ่มที่กำลังอยู่ในขั้นเืร้อน อารมณ์มุทะลุดุดัน รออะไรที่มันเกินสิบนาทีว่ายากแล้ว นี่ตั้งเป็ชั่วโมง
"ต่องเลิกเรียนนานแล้วนะ ไม่ออกมาสักทีน้องมิน"
นั่นไง!!!
ลูกน้องหันมามองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เพราะตอบไปก็ไม่ถูกใจอยู่ดี และก่อนที่พ่อจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ เ้าตัวการที่ทำให้เขาต้องรอนานเป็ชั่วโมงก็ออกมา และทันทีที่ได้เห็นใบหน้าเด็กหนุ่มที่ตัวเองลงทุนมานั่งรอ หัวใจดวงน้อยก็เต้นรัวจนเขาต้องรีบหันหน้าออกเอามือกุมหน้าอกที่มันสั่นะเืเกินหน้าเกินตาไปแล้ว
แต่แล้วไอ้อาการหึงหวงก็เข้ามาแทนที่เมื่อเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่เตรียมจะขึ้นปีหนึ่งเดินมากับเพื่อน ท่าทางที่ดูสนิทสนมกันมากเป็พิเศษ โอบกอดคอกันเดินมาแต่ไกลแล้วใครบ้างจะไม่หวงวะ ก็เด็กมันน่ารักออกขนาดนั้น น้องมิน เดือนของโรงเรียน และเขาก็มั่นใจว่าถ้าหากว่าน้องมันเข้ามหาลัยยังไงก็ต้องได้เป็เดือนมหาลัยอีกแน่ๆ
เด็กหนุ่มวัยสิบแปดย่างสิบเก้า รู้ถึงไหนอายถึงนั่นหากมีใครรู้ว่าเขาแอบจีบเด็กวัยนี้ จะว่าไปหากไม่ได้ใส่เสื้อผ้านักเรียน ให้ตายแม่งก็เดาอายุของน้องมินผิดกันแน่ๆ เด็กหนุ่มที่สูงถึงร้อยแปดสิบ กล้ามเนื้อที่แน่นใหญ่เกินอายุ เพราะการชอบเข้าฟิตเนส นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขารู้จักกับเ้าเด็กน่ารักอย่างน้องมิน
เ้าลูกหมา แต่มันไม่ได้ลูกหมาอย่างที่แสดงออกเลยสักนิดหุ้มหนังแกะด้วยซ้ำ ในความเป็เด็กที่แสนน่ารัก น้องมินกลับมีลูกอ้อนที่แสนร้ายกาจไว้ใส่กับดักให้เขานั้นตกลงไปในหลุมนั้นตั้งวันแรกที่เริ่มรู้จัก และได้รู้ว่าน้องมินนั้นที่แท้ก็เป็น้องชายต่างมารดาของเพื่อนสนิทอย่างเฟย หนึ่งปีกับการตามจีบเด็กต้อยๆ เป็ผีบ้า ดูไม่ใช่มาเฟียเอาซะเลย
ยัง!!! ยังอีกยังโบกมือร่ำลากันอยู่นั่นละ
มิน เด็กหนุ่มวัยสิบแปดรีบสะพายกระเป๋าวิ่งเข้ามาหาเขา และการวิ่งมาหากระโจนเข้ากอดแบบไม่ให้อีกคนตั้งตัว ทำเอาเฮียกิ้นแทบล้มเพราะร่างสูงนั้นเล็กที่ไหนล่ะ
"โอ๊ะๆ ล้มแล้วโอ๊ย มินระวัง"
และที่หนักเข้าไปอีกเมื่อไอ้เ้าน้องมินหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง นั่นทำให้เขาหน้าแดงลูบแก้มตัวเองใหญ่เลย ลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงนั้นรีบหันหน้าออก แถมยังกันผู้คนแถวนั้นที่พยายามมุงดูให้ออกไป
"มิน อย่าทำแบบนี้"
เขาดุเด็กหนุ่มไม่จริงจังมากนัก แน่ละสิเขานี่นะจะกล้าดุเ้าเด็กหน้าตาน่ารักนี่ ไม่เคยเลยสักครั้ง ขนาดเมื่อกี้นี้กะว่าถ้ามาถึงนะจะดุสักหน่อยที่ทำสนิทกับเพื่อนขนาดนั้น แต่พอมาถึงจริงๆ ก็เงียบกริบ
แพ้ทางเด็ก!!!
จะดุก็กลัวน้องมันจะร้องไห้เหมือนครั้งแรกที่เริ่มเปิดใจคบกัน แล้วเขาก็เผลอหลุดปล่อยอารมณ์ดุดันที่เคยดุลูกน้อง เขาเผลอใช้น้ำเสียงนั้นกับมิน และวันนั้นคนที่หงอยทั้งวัน ซึมเป็ส้วมก็เป็เขาเอง มันทรมานมากบอกเลยเหอะเขาสาบานเลยว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก นอนไม่หลับกินไม่ได้กับการที่เด็กมันไม่ยอมรับโทรศัพท์ ไม่มาหาเหมือนเดิม ไม่ยอมให้เจอหน้า
ยอมรับว่าเขาเกือบตายได้เลยนะ พ่อมาเฟียใหญ่ที่ไม่เคยอ่อนแอ หรือลงให้กับใคร แต่กับน้องมินเขาไม่สู้จริงๆ บอกเลยว่าเขาแพ้มากๆ
"เดี๋ยวฝ่ายปกครองก็เรียกเอาหรอก"
มืออีกข้างก็ส่งกระเป๋าเรียนให้กับลูกน้องเอาไปเก็บ เขามองชายเสื้อนักเรียนที่หลุดลุ่ยออกมาอย่างตำหนิ ถึงแม้ว่าใกล้จะจบในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่อยากให้เ้าเด็กดื้อมันทำแบบนี้
"มองอะไรครับ"
มือที่เกาะแข้งเกาะขายังกะหนวดปลาหมึก วอแวคนพี่ไม่เลิก
"เอาชายเสื้อออกจากกางเกงทำไม เพิ่งจะพ้นหน้าโรงเรียนเอง"
"แหม ไม่เป็ไรหรอกครับ โอ๊ยพี่กิ้น มินหิวอะ หิวไส้จะขาดแล้วเนี่ย"
เ้าลูกหมายังออดอ้อนต่อเนื่อง รีบวิ่งขึ้นรถไปนั่งตัวลีบตัวน้อยอยู่ข้างในรถ เขาได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อตาใสของเด็กหนุ่มวัยสิบแปด แล้วเขาก็ต้องแพ้ให้กับความน่ารักของน้องมินอีกตามเคย ไม่ว่าจะบอกกี่ครั้งว่าให้เรียกเฮีย แต่ดูเหมือนว่ามินไม่ยอมทำตามที่บอก ด้วยเพราะทางแม่ของน้องเป็คนไทย มินมักจะบอกเสมอว่าอยากเรียกพี่มากกว่าเพราะมันดูไม่แก่ ก็แล้วแต่เด็กมันอะนะ ยังไงก็ได้
ลูกน้องที่ทำหน้าที่ขับรถยังแอบยิ้มอยู่ในใจเมื่อเด็กที่นั่งมาด้วยมันไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ มือไม้กอดพี่กิ้นหน้าสวยตลอดเวลา ยื่นจมูกที่สันคมดั้งโด่งนั้นหอมแก้มคนพี่อยู่หลายรอบ ขาก็ยกมาพาดลงกับหน้าขาของมาเฟียหนุ่ม ทุกอย่างตอนนี้มันดูรุ่มร่ามไปหมด
"อย่า!!! มิน ยังเด็กอยู่เลยนะเราทำแบบนี้ได้ไง"
กิ้นพยายามดึงขาลงแกะมือที่กอดไม่ยอมปล่อยนั้นออก แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล แถมเด็กมันยังรัดเขาแน่นกว่าเดิม
"บนรถก็มีแค่พี่กับผมป้ะ"
"ก็รู้ แต่เรายัง"
มือน้อยๆ ก็ปิดปากเขาไว้
"ยังเด็ก โอ๊ยไม่เด็กแล้ว"
มินเริ่มงอแงขยับไปนั่งชิดที่นั่งอีกฝั่ง ทำหน้าบูดหน้าบึ้งใส่ เขามองดูใบหน้าอันอ่อนเยาว์นั้นด้วยความเอ็นดู แขนขาที่ยาวเป็พิเศษ ซึ่งถ้าจะยืนยันตามคำพูดของมินก็ได้ที่ว่าไม่เด็กแล้ว เพราะเด็กมันก็ตัวใหญ่ตัวสูงจริง ไหนจะท่าเสยผมที่แสนกร้าวใจนั่นอีก โครงหน้าที่ชัดเจน มินไม่ใช่เด็กแล้วจริงๆ ด้วย
"โตแต่ตัวนะสิไม่ว่า"
"อย่างอื่นก็โตเหอะ พี่ก็รู้อยู่แก่ใจอย่ามาพูดเลย"
ใบหน้าก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ทำไมจะไม่รู้ ครั้งหนึ่งที่เคยเกือบได้ััมาแล้ว เขาเกือบได้เสียตัวให้เ้าเด็กร่างั์ แต่จะว่าไปพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว น้องมินต่างหากที่ต้องเกือบเสียตัวให้เขา ตอนนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็ตอนที่น้องมินอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดด้วยซ้ำเขาเกือบได้ติดคุกเพราะพรากผู้เยาว์ซะแล้ว อาการเสียวท้องน้อย ร้อนรุ่มไปทั้งตัวก็เกิดขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงเื่ในวันนั้น
เมื่อปีที่แล้ว...
"น้องมินเข้ามาทำไม พี่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปก่อน"
ในซอกล็อกเกอร์แคบๆ หลังจากที่เล่นฟิตเนสจนได้เหงื่อมากแล้ว แล้วก็เตรียมตัวจะกลับ เขาที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวสีฟ้าผืนเล็กห่อหุ้มอยู่ มินเด็กหนุ่มที่ตอนนั้นชอบมาออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อมองเขาด้วยใบหน้าที่ดูกลัดมันเหลือเกิน รอยยิ้มอันแสนเซ็กซี่ และสายตาแพรวพราวนั้น ที่ไม่คิดว่าเด็กมัธยมปลายจะสามารถทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น และมีอาการได้ขนาดนี้
"กลับแล้วเหรอครับพี่กิ้น ยังอยากเล่นต่ออยู่เลย"
รอยยิ้มของเฮียกิ้นหัวหน้าแก๊งัไฟแห่งปากน้ำ เขายกมุมปากขึ้นอย่างชอบใจ เพราะถึงแม้เด็กมันจะดูแก่แดดสักหน่อย แต่ความแก่แดดของมันก็ยังคงมองว่ามันดูเด็กอยู่ดี แขนสองข้างที่กางออกเหมือนกับว่าพยายามปิดกั้นทางออก บางทีเขาก็อดคิดไม่ได้ไอ้เด็กนี่ก็คงอยากลองดีอยู่ไม่น้อยเลย
ไม่โดนสักทีไม่ดีขึ้นเลย!!!
ความจริงนี่แค่วันที่สามเท่านั้นที่ทั้งสองได้เจอกันที่นี่ แล้วเด็กมันวอแวไม่เลิก เขาเล่นอยู่ตรงไหนมันก็มาตรงนั้น ไปๆ มาๆ รอยยิ้มที่สดใส แต่แอบโปรยเสน่ห์เหมือนเด็กมันอยากเล่นของ
ของมีอายุ!!!
ทำไมเขาจะดูไม่ออก หน้าอกที่มีกล้ามเนื้อแน่นๆ แต่ก็ไม่ใหญ่มากนักสำหรับเด็กในวัยนี้ก็ถือว่าใหญ่พอตัวถ้าเทียบในเด็กรุ่นเดียวกัน
"น้องมินมีอะไรเหรอครับ"
ก็ได้นะถ้าเด็กมันอยากลองดี คนอย่างเฮียกิ้นก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ที่เขาพยายามหลบหลีกก็เพราะเด็กมันยังไม่สิบแปดก็เท่านั้นเอง ทันทีที่เอาใบหน้าเข้าไปใกล้ มินไม่มีทีท่าว่าจะหลบ หรือเอียงอายแต่อย่างใด กลับทำหน้าตาท้าทายใส่ซะด้วยเหมือนในใจที่กำลังพูดว่า
ก็เอาดิ!!!
ลมหายใจที่เริ่มรดต้นคอ ริมฝีปากอันอวบอิ่มสวยของเขาแตะเบาๆ ที่ปากบางเฉียบของเด็กหนุ่ม นั่นแหละเด็กมันถึงได้เริ่มรู้ตัวว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร จากที่เด็กมันทำเก่งใส่ มือไม้ก็เริ่มสั่นขาเริ่มขยับออกทีละก้าวสั้นๆ ใบหน้าที่แพรวพราวยิ้มเ้าเล่ห์เพียงเพราะเห็นว่ามาเฟียคนสวยเอาแต่หลบก็คิดว่าเขากลัว แต่ดูตอนนี้สิ
รอยยิ้มที่หายไป!!!
มินเริ่มมีอาการประหม่าหน้าแดงไม่มั่นใจเหมือนตอนแรกๆ เมื่อปากสวยนั้นยื่นเข้ามาใกล้พวงแก้มของตัวเองแล้วสูดดมเข้าเต็มปอด ว่าจะขยับหนีแต่ก็ไม่ทันแล้วละ มือแข็งแรงรีบคว้าข้อมือน้อยๆ นั้นไว้แล้วกระชากเข้าหาตัวกอดร่างสูงไว้แน่น
"อะ!!! พี่ ปล่อยครับ ผมล้อเล่นเองน่า"
เสียงเริ่มสั่นเพราะกลัว แต่อีกคนกลับเริ่มสนุก ยิ้มออกมาอย่างสะใจ
"ได้เหรอ ล้อเล่นได้หรือครับน้องมิน ใจกล้ามาท้าทายกันขนาดนี้ก็ต้องเจอของจริงเข้าซะหน่อย"
เสียงคนที่อยู่ข้างในที่เหมือนว่าจะเดินเข้ามาใกล้ นั่นทำให้คนอย่างเฮียกิ้นถึงกับต้องจับขวดน้ำที่วางอยู่ข้างบนนั้นเขวี้ยงออกไปสุดแรง
ปัง!!!
เสียงที่ดังมากทำเอาคนที่กำลังเดินมาถึงกับมองกันตาเหลือก ในใจคิดว่าเอาอีกแล้ว เฮียกิ้นกำลังเทสระบบอยู่แน่ๆ นี่คือสัญญาณที่เขามักจะใช้บอกคนที่นี่ มาเฟียใหญ่ใครเลยจะกล้ายุ่งก็รีบเผ่นนะสิ แถมเหมือนกับว่าคนพวกนั้นก็รู้งานรีบวิ่งออกไปรีบปิดประตูติดป้าย
ห้ามเข้า!!!
"พี่จะทำอะไร ปล่อยเลย"
จากเด็กที่ปากกล้าทำเป็หมาป่าทำท่าโอบล้อมป่าเอาไว้เมื่อกี้นี้ เหลือเพียงเ้าลูกหมาตัวเล็กที่ร้องงิ๋งๆ เพราะกลัวถูกจับขึ้นรถตู้ สภาพของมินกำลังเป็แบบนั้น เขาจับมือเด็กหนุ่มไขว้หลัง ดึงร่างสูงลงมาด้วยกลายเป็ว่าตอนนี้เด็กมันเลยได้นั่งบนตักนุ่มๆ ของเขาเต็มๆ
"ชอบพี่เหรอครับ"
"ผมแค่ล้อเล่นนะครับ ไม่ได้จะทำอะไรจริงจังสักหน่อย"
มินเริ่มหน้าตาตื่นเมื่อเขาไม่ได้จับมานั่งตักเฉยๆ แต่กลับเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นสีกรมนั้นแล้วบีบเต็มไม้เต็มมือ คนที่โดนจับก็ตาโตเกร็งไปหมด ขนลุกเสียวซ่าน ส่วนคนที่จับบีบตอนแรกว่าจะแกล้ง แต่พอได้ััไอ้เ้ามินน้อยก็ถึงกับร้องว้าวเลยทีเดียว
มันใหญ่มาก!!!
"โห นี่เด็กจริงป้ะ ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้"