ที่แท้แล้วข้าวผัดไข่หากทำจนถึงขั้นสูงสุด จะกลายเป็งานศิลปะอย่างหนึ่ง!
ที่แท้แล้วข้าวผัดไข่หากทำจนถึงขั้นสูงสุด สามารถส่งกลิ่นหอมหวนจนถึงขั้นสะกดิญญาได้!
รอบด้านเงียบสงบอย่างที่สุด มีเพียงเสียงผัดข้าวและไข่ของเฟิ่งเฉี่ยน และเสียงฟืนไฟที่กำลังส่งเสียงปะทุ
เซวียนหยวนเช่อมองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยสายตาประหลาดใจ ราวกับเป็ครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกับนาง ท่าทีตั้งอกตั้งใจของนาง ท่าทีเอาจริงเอาจังของนาง ในสายตาของเขาดูแล้วมีเสน่ห์เป็พิเศษไม่อาจบอกเหตุผลได้!
ที่แท้...นางยังมีอีกด้านหนึ่ง...
เขารู้สึกประหลาดใจในตัวนางมากขึ้นเรื่อยๆ ในตัวนางยังมีความลับอีกมากมายแค่ไหนที่เขายังไม่รู้มาก่อนนะ
ทันใดนั้น มีเสียงร้องของนกดังขึ้นบนท้องฟ้า เขาเงยหน้าขึ้นมองไปแล้วได้แต่ตกตะลึง!
เห็นเพียงบนท้องฟ้ามีนกบินมาเป็ฝูงเรียงกันเป็แถว ราวกับถูกกลิ่นของข้าวผัดไข่ดึงดูดเข้ามา พวกมันบินเป็วงกลมกลางอากาศเหนือศีรษะของพวกเขาไม่ยอมไปไหน
รอบด้านพลันมีกลิ่นสาบราวกับมีสัตว์ป่ามากมายกำลังล้อมรอบพวกเขาอยู่...
ดวงตาของเขาเปล่งประกาย เมื่อคิดถึงความเป็ไปได้ชนิดหนึ่ง เขามองไปที่เฟิ่งเฉี่ยน หรือ...หรือเป็เพราะฝีมือการทำอาหารของนางถึงขั้นเรียกสัตว์ต่างๆ ที่อยู่บริเวณโดยรอบมาได้ แต่ต่อมาเขาปัดความคิดนี้ของตนทิ้งไป เท่าที่เขารู้มา เทพอาหารระดับสูงสามารถเรียกอสูรได้ แต่สัตว์ต่างๆ ที่บินอยู่รอบเป็เพียงสัตว์ป่าธรรมดาทั่วไปเท่านั้น มิใช่สัตว์เทพ หรือเป็เพราะกลิ่นของอาหารดึงดูดพวกมันมา
เขาส่ายหน้าด้วยความแปลกใจ คิดว่าเหลือเชื่อ!
ลั่วหยิ่งและองครักษ์อีกหกคนยืนขึ้นเตรียมพร้อมและระแวดระวัง ทุกคนดึงกระบี่ออกมาตั้งค่ายเป็วงกลม ล้อมรอบฮ่องเต้และฮองเฮาเอาไว้
ทำอาหารจานหนึ่งก็ทำเสียจนสะท้านฟ้าะเืดินเช่นนี้ เหนียงเหนียง ท่านช่างเหลือเกินจริงๆ!
ลั่วหยิ่งหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เฟิ่งเฉี่ยนทุ่มเทแรงกายแรงใจตั้งใจผัดข้าว ผัดจานแล้วจานเล่า รอเมื่อนางผัดข้าวเสร็จทั้งสิบจาน เตรียมจะเก็บอุปกรณ์ เมื่อเงยหน้าขึ้นพบว่าบริเวณโดยรอบล้วนถูกสัตว์ป่าต่างๆ รายล้อมเอาไว้ กระต่ายเอย หมูป่าเอย ลิงเอย เหล่านี้ล้วนเป็สัตว์เล็ก ยังมีลูกพี่ใหญ่เช่น ยีราฟ เสือ หมี...ดูเหมือนจะมาด้วยความเงียบสงบ แต่สายตาที่มองมาราวกับพยัคฆ์เตรียมตะครุบเหยื่อนั้นจ้องมายังข้าวผัดไข่ในมือของนาง ฟังจากเสียงฝีเท้าแล้ว ด้านหลังยังมีสัตว์ป่าอื่นๆ กำลังมุ่งหน้าเข้ามาไม่หยุด
ไม่ต้องกล่าวถึงว่าสถานการณ์นั้นหนักหนาสาหัสปานใด!
เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง มือของเฟิ่งเฉี่ยนเริ่มสั่นน้อยๆ ข้าวในจานจึงสั่นไปตามมือของนางด้วย เห็นเพียงนกที่บินอยู่บนท้องฟ้าฝูงหนึ่งราวกับคลื่นสีดำที่บินฉวัดเฉวียนไปมา พร้อมที่จะพุ่งทะยานลงมาจากท้องฟ้าเพื่อแย่งชิงอาหารในมือนางตลอดเวลา!
์! นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงไม่มีใครเตือนนาง
เฟิ่งเฉี่ยนกลั้นลมหายใจ ไม่กล้าขยับตัวส่งเดช สายตาของนางมองไปที่คนอื่นๆ
ลั่วหยิ่งและองครักษ์อีกหกคนตื่นเต้นเสียจนเหงื่อกาฬแตกพลั่ก มือที่กุมกระบี่เริ่มสั่นน้อยๆ พวกเขาเสี่ยงเป็เสี่ยงตายติดตามเซวียนหยวนเช่อ มีเื่อันตรายใดบ้างที่ไม่เคยประสบมาก่อน แต่เหตุการณ์ประหลาดเช่นวันนี้นั้นเพิ่งจะเคยพบเห็นเป็ครั้งแรก!
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับ และยิ่งไม่กล้าส่งเสียงดัง ด้วยเกรงว่าอากัปกิริยาเพียงเล็กๆ น้อยที่เกิดขึ้นเพราะไม่ทันได้ระวังจะไปรบกวนพวกมันเข้า ส่งผลให้สิ่งที่ตามมายากจะจัดการได้!
เวลานี้ศัตรูไม่ขยับ เราไม่ขยับ ได้แต่จับจ้องมองตากันต่อไป
คนที่สุขุมที่สุดในตอนนี้ยังคงเป็ เซวียนหยวนเช่อ!
เขาค่อยๆ เก็บแผนที่แล้วเดินเข้ามาหาเฟิ่งเฉี่ยน “ทำเสร็จแล้วหรือไม่”
เฟิ่งเฉี่ยนยิ้มขื่นและพยักหน้า
เซวียนหยวนเช่อ “เก็บข้าวของให้เรียบร้อย”
เฟิ่งเฉี่ยนเก็บกระทะและจวัก “ข้าวเล่า”
เซวียนหยวนเช่อเลิกคิ้ว “เ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”
เฟิ่งเฉี่ยนยิ้มฝาดเฝื่อน สถานการณ์เช่นตอนนี้หากนางเอาข้าวผัดไข่ไปด้วย ์ก็รู้ว่าตัวเองจะถูกสัตว์ป่าและสัตว์ปีกเหล่านี้เขมือบไปด้วยหรือไม่
“เช่นนั้นตอนนี้ทำอย่างไรดี” นางถาม
เซวียนหยวนเช่อพลันยื่นแขนออกมาโอบรอบเอวนางและพูดเสียงทุ้ม “มีเจิ้นอยู่ ไม่ต้องกลัว!”
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงงัน นางมองเขาอย่างแปลกใจกลับประสานเข้ากับดวงตาแน่วนิ่งและเผด็จการคู่นั้น หัวใจของนางสั่นสะท้าน คล้ายกับว่าก้นบึ้งของหัวจะถูกสะกิดให้คันยุบยิบ แก้มทั้งสองข้างพลันร้อนซู่!
ขณะที่นางตกอยู่ในภวังค์ ร่างกายของนางพลันเบาโหวง นางถูกเซวียนหยวนเช่ออุ้มขึ้นมาเหินกายขึ้นกลางอากาศ
“ไป!”
เขาสั่งคำเดียว ลั่วหยิ่งและองครักษ์ก็ใช้วิชาตัวเบาเหินกายขึ้นมาเช่นกัน
ระหว่างสัตว์ปีกและสัตว์ป่านั้นมี่ห่างเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น คนหลายคนฉวยโอกาสนี้หนีออกจากที่นี่!
คนเพิ่งจะจากไป สถานการณ์ตรงหน้าก็ะเิขึ้นทันที!
ฝูงสัตว์ต่างกรูกันเข้าไป!
เพื่อแย่งชิงข้าวผัดไข่สิบจานนั้น!
รถชนกันเป็อย่างไรก็คงไม่เกินกว่านี้!
แม้เฟิ่งเฉี่ยนและคนอื่นๆ จะหนีออกมาได้ แต่ไม่ได้โชคดีเพียงนั้น ระหว่างทางยังถูกสัตว์ปีกบางชนิดพุ่งชนจนได้รับาเ็ เฟิ่งเฉี่ยนซุกกายหลบอยู่ในอ้อมกอดของเซวียหยวนเช่อจึงนับว่าปลอดภัย ระหว่างทางนางหันกลับไปมอง เห็นสัตว์ป่าและสัตว์ปีกแย่งชิงต่อสู้กัน ได้แต่งงงัน นี่ก็คืออานุภาพของข้าวผัดไข่เวอร์ชั่น 2.0! เกินไปจริงๆ!
ต่อไปนางไม่กล้าผัดข้าวผัดไข่เวอร์ชั่น 2.0 กลางแจ้งอีกแล้ว ผลที่ตามมาช่างน่าสะพรึงกลัว!
“กลัวแล้วหรือ” เสียงของเซวียนหยวนเช่อดังเข้ามาในโสตประสาทของนาง
เฟิ่งเฉี่ยนไอแค่กๆ เพื่อปกปิดอาการของตนเอง “ใครกลัวกัน? สถานการณ์แค่นี้นับเป็อะไรได้ กระทั่งห่าะุและกับะเิข้ายังไม่เคยกลัว!”
เซวียนหยวนเช่อ “ห่าะุกับะเิหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนปาดเหงื่อ แล้วเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ “ความหมายของข้าก็คือ...ูเามีดทะเลเพลิง!”
เซวียนหยวนเช่อแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ในเมื่อไม่กลัว เ้ายังกอดแน่นเช่นนี้หรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนก้มหน้าลงพบว่ามือทั้งคู่ของตนกำลังกอดเขาแแ่ ท่าทางเช่นนี้อบอุ่นเกินไป...แต่เขาเหินกายสูงเช่นนั้น เร็วเช่นนั้น หากนางไม่กอดเขาให้แน่น ตกลงไปจะทำอย่างไรเล่า
หน้านั้นต้องรักษา แต่ชีวิตต้องรักษายิ่งกว่า!
ดังนั้น เพื่อปกป้องชีวิตเล็กๆ ของนาง นางไม่เอาหน้าก็ได้ อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ!
นางไม่เพียงไม่ได้คลายมือให้หลวม ในทางตรงข้ามนางกลับกอดเขาแน่นกว่าเดิมอีก นางเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา ทั้งยังพูดกับเขาด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ “ท่านพูดเองนะ! มีท่านอยู่ ไม่ต้องกลัว!ท่านต้องรับผิดชอบข้าให้ถึงที่สุด!”
เซวียนหยวนเช่อก้มลงมองนาง มุมปากเซ็กซี่ของบุรุษนั้นยกขึ้นเล็กน้อย เขาพลันส่งเสียงหัวเราะออกมา
ทันที่หัวเราะ ราวกับน้ำในน้ำตกที่ละลายในต้นฤดูวสันต์ ส่งผลให้ผืนดินทั้งใต้หล้าได้รับความอบอุ่น!
เฟิ่งเฉี่ยนมองเขาอย่างโง่งม ที่แท้เมื่อเขาหัวเราะถึงกับน่าดูปานนี้!
ราวกับแสงสว่างทั้งหมดของใต้หล้านี้ไปรวมอยู่บนใบหน้าของเขา สีสันสดใสเจิดจ้าดึงดูดสายตา ช่างทำให้คนลุ่มหลงคลั่งไคล้!
ณ วินาทีนี้ ในสายตาของนางมองไม่เห็นอะไรอื่นอีก มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น!
สรรพสิ่งทั้งหลายบนโลกดับแสงไปเพราะเขา!
เหินกายออกมาได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดก็ออกห่างจนพ้นอันตรายแล้ว เซวียนหยวนเช่อค่อยๆ ลงสู่พื้นดินด้วยลมหายใจที่ไม่หอบเหนื่อย แต่พบว่าลั่วหยิ่งและคนอื่นหอบแฮ่กๆ คล้ายว่าเรี่ยวแรงไม่พอ
เฟิ่งเฉี่ยนปล่อยมือทันที นางรักษาระยะห่างกับเซวียนหยวนเช่อ หัวใจยังคงเต้นรัวเร็ว แก้มทั้งสองข้างร้อนจัด!
นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง แต่เมื่อเห็นเขายิ้มหัวเราะให้กับตนเองแล้ว ถึงกับมีปฏิกิริยาตอบสนองมากมายเพียงนี้!
จะต้องเป็เพราะบรรยากาศแปลกประหลาดเมื่อสักครู่แน่นอน ทำให้เกิดความรู้สึกสับสน!
ใช่แล้ว จะต้องเป็เช่นนี้แน่นอน!
เซวียนหยวนเช่อเห็นนางประเดี๋ยวส่ายหน้าประเดี๋ยวพยักหน้าอยู่คนเดียว คิดว่านางใจนเลอะเลือน จึงเดินเข้ามาเคาะหน้าผากนางครั้งหนึ่ง “มิใช่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินหรอกหรือ ไฉนจึงใจนทึ่มทื่อเสียแล้ว”
เฟิ่งเฉี่ยนราวกับถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งร่าง นางยืนตัวแข็งอยู่ที่นั่น!
เขาเพิ่งจะทำอะไรกับนางนะ กิริยาที่สนิทสนมเช่นนี้ ไม่เหมือนการกระทำของเซวียนหยวนเช่อเลย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้