เมื่ออยู่เบื้องหน้าน้ำตกสูงราวสามสิบจั้ง ร่างมนุษย์เล็กมากราวกับมด
สายน้ำไหลลู่ลงสู่พื้นเสียงดังคำราม ปกปิดเสียงนี้ไปจนสิ้น
เสิ่นเสวียนและเสวียนหลิงเอ่อร์มองน้ำตกเบื้องหน้า เสิ่นเสวียนไม่ได้รู้สึกอะไร แต่แววตาของเสวียนหลิงเอ่อร์กลับเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
“เสี่ยวต้งเทียน ต้นสือฮวา ยุคโบราณ ขวานผานกู่”
เสวียนหลิงเอ่อร์มองน้ำตกพลางกล่าวพึมพำ คล้ายว่าหวนนึกถึงเื่เล่าในตำนาน
“เ้าคือเ้าของผังเมืองซานเหอ เ้ารู้ไหมว่าใครสร้างศาสตราเทพชิ้นนี้”
เสวียนหลิงเอ่อร์หันมองเสิ่นเสวียน
“สร้าง?”
เสิ่นเสวียนไม่รู้เลยจริงๆ
“ผู้สร้างโลก ผานกู่”
เสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวชื่อผานกู่ออกมาด้วยน้ำเสียงเคารพเลื่อมใสอย่างที่สุด
“ผานกู่อย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเสวียนใมาก เขารู้ดีว่าผานกู่คือใคร ผู้สร้างโลกนั่นเอง เขาเคยเห็นภาพผานกู่เปิดโลกขณะที่กำลังมึนงง และสุดท้ายก็กลายเป็ผังเมืองซานเหอ
“เป็อย่างนี้นี่เอง”
ตอนนี้เขายังไม่ค่อยเชื่อว่าศาสตราเทพชิ้นนี้คือสิ่งที่ผานกู่สร้างขึ้น
หากกล่าวถึงระดับาุโ สามบริสุทธิ์จะเรียกผานกู่ว่าผู้าุโ
ผานกู่เปิดโลก ร่างกายคือแผ่นดิน ลมหายใจกลายเป็ ‘สามชิง’ ซึ่งแปลว่าสามบริสุทธิ์ จึงทำให้มีเทียนจวินหยวนสื่อหรืออวี้ชิง เทียนจวินหลิงเป่าหรือซ่างชิง และเทียนจวินเต้าเต๋อหรือไท่ชิงถือกำเนิดขึ้นมา ตอนนี้ผังเมืองซานเหอยอมรับเขาเป็นายแล้ว ไม่ใช่ว่าต้องไล่ลำดับาุโกับสามบริสุทธิ์ด้วยหรอกหรือ
“ข้าเคยได้ยินอาจารย์บอกว่า เสี่ยวต้งเทียนคือโชคชะตาของข้า”
“ข้าจะพาท่านเข้าไป”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า จากนั้นเขาก็คว้าแขนเรียวของเสวียนหลิงเอ่อร์ พร้อมกับกระโจนเข้าไปทางน้ำตก
ที่นี่มีข้อจำกัดเช่นเดียวกัน มันจะโจมตีคนนอกอย่างรุนแรง แต่ไม่ใช่เื่ยากสำหรับเสิ่นเสวียน
แม้ที่นี่ไม่ใช่ที่เก็บซ่อนของล้ำค่าของเขา ค่ายกลก็ยังคงขัดขวางอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อััได้ถึงร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนกลับปล่อยให้เขาผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเข้ามาแล้ว มันเป็ถ้ำที่ไม่ใหญ่มาก รอบๆ ค่อนข้างชื้น ้ามีแสงสว่างเล็กน้อยทำให้ที่นี่ไม่มืดมาก
น้ำตกที่ไหลผ่านลงมาทำให้ร่างของทั้งสองคนเปียกไปหมด ชุดของเสวียนหลิงเอ่อร์โดนน้ำทำให้เรือนร่างงดงามถูกเปิดเผยออกมา เสิ่นเสวียนได้เห็นจึงมิอาจละสายตาไปได้เลย
ภายในโลกของผังเมืองซานเหอ ไม่ว่าจะเป็ร่างจิติญญาหรือร่างจริงจะกลายเป็ร่างมายาเสมือนจริงขึ้นที่นี่ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับร่างจริงเลย
ทั้งสองดูเหมือนเป็ร่างจิติญญา แต่เมื่ออยู่ที่นี่กลับกลายเป็ร่างจริงไปแล้ว
“หลับตา”
เสวียนหลิงเอ่อร์มองร่างตนเองแล้วหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย จึงสั่งเสิ่นเสวียนไปอย่างนั้น
“ขอโทษด้วย ขอโทษด้วย”
เสิ่นเสวียนหลับตาลงทันทีแล้วกล่าวขอโทษไม่หยุด
อย่าเห็นว่าเขาใช้ชีวิตในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมานานนับพันปี ไม่ว่าใครพบเจอเขาก็ต้องหวาดกลัว แต่ความจริงแล้วเขาไม่มีประสบการณ์เื่ความรักเลย ได้พบเจอกับสตรีไม่มากนัก เขายังบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ นี่เป็ครั้งแรกที่เขาได้เห็นเสวียนหลิงเอ่อร์อย่างนี้ จะควบคุมตนเองไม่ได้ก็ไม่แปลก
เสวียนหลิงเอ่อร์คว้าโอกาสที่เสิ่นเสวียนหลับตาพลางกล่าวขอโทษ แสดงพลังทำให้น้ำระเหยออกไป แต่นางก็ยังไม่วางใจ เอาชุดคลุมสีแดงออกมาจากแหวนสวมลงบนร่างอีกชั้นหนึ่ง
ชุดแดงตัดกับผิวขาว ยิ่งทำให้นางมีเสน่ห์มากกว่าเดิม
“เรียบร้อยแล้ว หากยังมองอีก ข้าจะควักลูกตาเ้าออกมา”
เสวียนหลิงเอ่อร์เหลือบตามองเสิ่นเสวียน แล้วเดินเข้าไปในถ้ำ
ความจริงแล้ว ภายนอกที่เสวียนหลิงเอ่อร์โกรธเสิ่นเสวียน ในใจของนางรู้สึกดีใจมาก
เสิ่นเสวียนใช้ชีวิตมากว่าพันปีแล้วยังบริสุทธิ์อยู่ นางเองก็เช่นกัน
การกระทำโดยไม่ตั้งใจก่อนหน้านี้ทำให้เสิ่นเสวียนเชื่อฟังขึ้นกว่าเดิมมาก เขาเดินตามหลังเสวียนหลิงเอ่อร์เข้าไปในเสี่ยวต้งเทียนอย่างช้าๆ
เขาเข้ามาที่นี่เป็ครั้งแรก ชื่อของเสี่ยวต้งเทียนเขาได้รู้มาจากตำแหน่งบนผังเมือง ซึ่งทำให้เขาเข้าใจว่าสถานที่ที่ถูกวางตำแหน่งไว้ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา
ยิ่งเดินเข้าไป ภายในถ้ำก็ยิ่งใหญ่ขึ้น กระทั่งมาถึงตำแหน่งที่มีแสงสว่างที่สุด
ที่นี่ลึกอย่างน้อยหลายร้อยจั้ง และสูงมากจนมองไม่เห็น้า แสงที่ส่องลงมาทำให้ที่นี่สว่างไสว
หากกล่าวถึงสิ่งที่สะดุดตามากที่สุด ก็คงเป็ตำแหน่งที่แสงสาดส่องลงมา
และตำแหน่งที่แสงสาดส่องลงมาคือต้นไม้ต้นหนึ่ง
ต้นไม้ต้นนี้ไม่เหมือนกับต้นอื่นเลย
นี่คือต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งจั้งครึ่ง ที่น่าแปลกก็คือ มันเป็ต้นไม้หิน
กิ่งก้านของต้นไม้แตกแขนงออกไปเหมือนต้นไม้ทั่วๆ ไป มีใบไม้และดอกไม้เหมือนกัน แต่ทั้งหมดเป็หิน
ใบไม้และดอกไม้เหล่านี้โดนแสงจากเบื้องบนสาดส่อง ก่อให้เกิดประกายแสงสีเงิน เรียกได้ว่างดงามยิ่งนัก
“นี่ก็คือต้นสือฮวา!”
เสิ่นเสวียนมองต้นไม้ต้นนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย เสี่ยวต้งเทียน ต้นสือฮวา ทั้งหมดมีตำแหน่งบอกชัดเจนในผังเมือง กระทั่งถึงวันนี้เขาเพิ่งได้เห็นด้วยตาตัวเอง
น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก!
หากไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก ไอพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากต้นสือฮวายิ่งเป็เอกลักษณ์อันโดดเด่น
เสวียนหลิงเอ่อร์หลับตาลงทันที กำลังดูดซับไอพลังจากที่นี่เข้าไปอย่างเพลิดเพลิน
“หลังจากนี้ข้า้าฝึกฝนอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง”
เสวียนหลิงเอ่อร์ลืมตาขึ้นพลางกล่าวกับเสิ่นเสวียน
“ได้ ข้ารับรองได้ว่าจะไม่มีใครเข้ามารบกวนท่าน แต่ถ้าไม่มีอะไรท่านอย่าได้ออกไปเด็ดขาด ท่านเห็นค่ายกลเหล่านี้อยู่ หากเกิดอันตรายขึ้นข้าช่วยท่านไม่ได้แน่”
“รู้แล้ว ขอบใจเ้ามาก ออกไปเถอะ ลำบากเ้าแล้ว”
เสวียนหลิงเอ่อร์ะโขึ้นไปบนต้นสือฮวาแล้วนั่งลงทำสมาธิ
ชุดแดง ต้นไม้ขาว ตัดกับฉากหลังมืดๆ ส่งเสริมให้นางดูสง่างาม
ภาพนี้คงมีเพียงบน์เท่านั้น!
“ได้ หาก้าอะไรให้เรียกข้า”
เสิ่นเสวียนเหลือบตามองเสวียนหลิงเอ่อร์อีกครั้งแล้วถอยกลับออกไป
อีกฝ่ายงดงามมาก หากมองต่อไปเขาคงลุ่มหลงได้ง่ายๆ
ข้อห้ามของการบำเพ็ญเพียร เื่นี้เขารู้ดี
เสิ่นเสวียนออกจากเสี่ยวต้งเทียนอย่างรวดเร็ว แล้วยืนอยู่ด้านนอกน้ำตก
เขายืนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ หันหลังเดินออกไปอย่างเสียไม่ได้
เสิ่นเสวียนไม่รู้ตัวเลยว่าเขาโดนเสวียนหลิงเอ่อร์ดึงดูดเข้าแล้ว
เมื่อจิติญญากลับเข้าร่าง เสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่ก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
“ฝึกฝนไปเถอะ ไม่มีใครรบกวนท่านหรอก”
เสิ่นเสวียนยิ้มมุมปากน้อยๆ ความรู้สึกที่ได้ปกป้องใครสักคนทำให้เขาพอใจมาก
ที่อื่นเขาไม่กล้ากล่าวถึง แต่ในผังเมืองซานเหอ ความปลอดภัยของเสวียนหลิงเอ่อร์จะอยู่ในการควบคุมของเขาทั้งหมด ตราบใดที่ไม่เดินไปไหน อยู่ในเสี่ยวต้งเทียนแห่งเดียว เขาจะปกป้องนางได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ มากล้ำกราย
เสิ่นเสวียนรวบรวมสติแล้วเอาแหวนดวงดาราออกมาอีกครั้ง
นี่คือของล้ำค่าที่แท้จริง ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้คลายผนึกของผังเมืองซานเหอ แหวนดวงดาราคือของล้ำค่าที่เขาบอกได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุดในตอนนี้
ส่วนของเหลวหยวนสื่อ เขาคิดไว้ว่าจะใช้กับหยวนก่อกำเนิดหกธาตุ เมื่อมีของเหลวหยวนสื่อแล้ว การฝึกฝนของหยวนก่อกำเนิดจะรวดเร็วขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่ากลัว
เขานั่งลงทำสมาธิอีกครั้ง ส่วนแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ กวาดตามองไปรอบๆ เพื่อป้องกันอันตรายให้เสิ่นเสวียน
ภายในตันเถียน หยวนก่อกำเนิดยังคงดูดซับพลังหลิงชี่อย่างบ้าคลั่ง การดูดซับพลังของหยวนก่อกำเนิดทำให้ร่างกายของเขาดูดซับพลังฟ้าดินเข้ามาได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่โลกนี้เปี่ยมไปด้วยพลัง ทำให้เขาดูดซับได้โดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะหมดไป
หากเป็โลกแห่งการบำเพ็ญเพียร คิดเลื่อนขั้นให้ได้สักหนึ่งขั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปี
“เ้าหนู มานี่”
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนลอยอยู่ในตันเถียน ส่งเสียงเรียกหยวนก่อกำเนิดตัวน้อยที่กำลังฝึกฝนอยู่