สำหรับแพทย์ที่ยอมแพ้ละทิ้งชีวิตคนป่วยอย่างง่ายดาย กูเฟยเยี่ยนย่อมไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน
นางจำเป็ต้องตรวจสอบส่วนประกอบและปริมาณสมุนไพรบนใบสั่งยาว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ มิฉะนั้นแล้วต่อให้มีหมาหวางไปก็ไร้ประโยชน์!
เคราะห์ดีที่ใบสั่งยาแผ่นนี้ยังนับว่ามีค่าอยู่
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนแน่ใจแล้วว่าใบสั่งยาไม่มีปัญหา แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่ใบสั่งยาไม่คลายลง นางดูเหมือนว่ากำลังตรวจสอบใบสั่งยาแต่ในความจริงแล้วกำลังรวบรวมความสนใจทดลองใช้ความคิดเพื่อออกคำสั่งต่อหวางเป่าติง หมาหวางของสิ่งนี้ไม่ว่าจะเป็คุณภาพระดับไหนหวางเป่าติงล้วนมีอยู่มากมายก่ายกอง หากว่าหวางเป่าติงช่วยเหลือเพียงนิด เื่ราวก็จะดำเนินได้ง่ายขึ้น หากว่าทำไม่ได้ นางก็ทำได้เพียงเข้าไปตามหาหมาหวางในป่าเขา
เมื่อแพทย์ทหารได้เห็นจึงรีบเอ่ยถามรองแม่ทัพโจวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่าเกิดเหตุใดขึ้น เมื่อรองแม่ทัพโจวพูดว่ากูเฟยเยี่ยนมีหมาหวางแพทย์ทหารก็ปลื้มปีติดีใจเป็อย่างยิ่ง “ใบสั่งยาของข้าไม่ผิดแน่นอน แพทย์หญิงกู ไม่นึกเลยว่าท่านจะมียาสมุนไพร ท่านรีบนำออกมาเร็วเข้า ในตอนนี้ขาดก็แต่เพียงหมาหวางแล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนเพิกเฉยต่อแพทย์ทหาร
นางพยายามรวบรวมสมาธิใช้ความคิด หวังว่าหวางเป่าติงน้อยจะรับรู้ได้ถึงความคิดของตนเอง ทว่าน่าเสียดายหวางเป่าติงยังคงหยุดงานประท้วง ไม่ตอบสนองเลยสักนิด
กูเฟยเยี่ยนไม่เสียเวลาต่อ นางรีบเอ่ยกับเฉิงอี้เฟยด้วยความจริงจังว่า “ข้าไม่มีหมาหวางแต่ข้าสามารถไปหาในป่าได้! ”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ผู้คนล้วนตกตะลึง
ใบหน้าของเฉิงอี้เฟยแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างรวดเร็ว “ดียิ่ง แม่นางน้อย เ้าโกหกเปิ่นเจียงจวิน! เ้าออกไปแล้วยังกลับมาอีกหรือ? ”
“เมื่อครู่หากข้าไม่โกหกท่าน ท่านจะปล่อยข้าออกมา แล้วพาข้ามาที่นี่หรือ? ชีวิตเกี่ยวข้องกับความเป็ความตาย ข้าไม่มีเวลามาล้อเล่นกับท่าน การตามหายานั้นจำเป็ แต่ว่าในตอนนี้ข้าต้อง…”
กูเฟยเยี่ยนยังไม่ทันที่จะเอ่ยจบแพทย์ทหารกัวก็ได้เอ่ยแทรกพร้อมวางมาดเอาจริงเอาจัง “แพทย์หญิงกู เ้ากำลังโกหกท่านแม่ทัพอยู่ชัดๆ! ในป่าเขาแม้ว่าจะมีสมุนไพรมากมาย แต่ทว่าหมาหวางคือสิ่งที่มีราคาแพงลิบลิ่ว ใน่ฤดูใบไม้ร่วงที่พืชเจริญงอกงามได้ดีล้วนถูกเก็บไปค้าขายจนหมดั้แ่แรกแล้ว ในตอนนี้ฤดูหนาวจัดกลางค่ำกลางคืน เ้าจะไปหาได้อย่างไร? หากว่ามีหมาหวางจริงๆ หมอเช่นข้ายังจะมองดูทหารผู้นี้ตายไปอยู่ตรงหน้าหรือ ”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนไม่้าที่จะพูดจาไร้สาระกับแพทย์ที่ไม่มีฝีมือในการรักษาผู้นี้ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดที่ดูสูงส่งเช่นนี้ นางโมโหมากจริงๆ
นางเอ่ยถามอย่างจริงจัง “แพทย์ทหารกัว ท่านหาแล้วหรือยัง? ”
แพทย์ทหารกัวพูดด้วยเหตุผลอย่างเต็มปากเต็มคำ “หากเป็เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ท่านหมอเช่นข้าย่อมเข้าป่าขึ้นเขาไปตามหาอย่างแน่นอน ทว่าหาในตอนนี้ย่อมไม่เจออย่างแน่นอน ขึ้นเขาก็เสียแรงเปล่า”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มเยาะขึ้นมา “แพทย์ทหารกัว ถ้าอย่างนั้นท่านกล้าที่จะนำชีวิตของท่านมารับประกัน ว่าในป่าใหญ่แห่งนี้ร้อยทั้งร้อยจะหาหมาหวางไม่เจอหรือไม่? ”
แพทย์ทหารกัวอธิบายอย่างตั้งใจ “แพทย์หญิงกู ด้านหลังูเานั้นมีสมุนไพรมากมายก็จริงแต่ว่าหมาหวงสมุนไพรตัวนี้ไม่มีทางเหลือจนถึงตอนนี้อย่างแน่นอน ในป่าเขานี้เมื่อเดือนที่แล้วหมอเช่นข้าได้ขึ้นไปแล้วหามาั้แ่แรกแล้ว…”
กูเฟยเยี่ยนขัดจังหวะด้วยความแข็งกร้าว “ไม่จำเป็ต้องพูดจาไร้สาระอันใดให้มากความ ข้าถาม ท่านกล้าที่จะเดิมพันกับข้าสักรอบหรือไม่ หากข้าตามหาหมาหวางมาได้ ท่านกล้าที่จะเชือดคอตัวเองฆ่าตัวตายต่อหน้าผู้คนหรือไม่? ”
แพทย์ทหารกัวพลันตื่นตระหนกใ “แม่นางผู้นี้ เ้า! เ้าพูดออกมาได้อย่างไร? เ้า้าตามหาหมาหวงย่อมไม่ผิด แต่ว่าเ้าก็ไม่สามารถพูดจาเช่นนี้ได้ เ้ากำลังเถียงข้างๆ คูๆ เ้า…”
กูเฟยเยี่ยนขัดจังหวะด้วยความแข็งกร้าวขึ้นมาอีกครั้ง “ชีวิตคนสำคัญดุจฟ้า ข้าไม่มีอารมณ์มาพูดจาดีๆ กับท่าน! ข้าสนใจเพียงว่าท่านจะหายาสมุนไพรหรือไม่หายาสมุนไพร! ”
แพทย์ทหารกัวโกรธเป็อย่างยิ่ง “เ้า แม่นางผู้นี้้าที่จะเปลี่ยนเื่อย่างชัดเจน หลอกลวงทุกคน! เ้าเลิกนำ…”
กูเฟยเยี่ยนขัดจังหวะขึ้นมาเป็ครั้งที่สาม “แพทย์ทหารกัว ข้าถามเช่นนี้แล้วกัน ท่านกล้าหรือไม่ที่จะนำชีวิตของทหารผู้นี้มารับประกันว่าในป่าแห่งนี้ไม่มีหมาหวาง? ”
แพทย์ทหารกัวไร้ซึ่งการตอบสนองไปชั่วขณะ “ข้า ข้า…”
กูเฟยเยี่ยนขัดจังหวะอย่างแข็งกร้าวต่อไป “ท่านกล้า! อากัปกิริยาของท่านในตอนนี้ไม่ใช่ว่ายอมเอาชีวิตของผู้อื่นมาเดิมพันอยู่หรอกหรือ? แม้ว่าสถานการณ์ของทหารผู้นี้จะฉุกเฉินยิ่ง แต่ว่าด้วยทักษะการฝังเข็มของท่านอย่างน้อยก็ยังอยู่ได้ถึงเวลากลางวันของวันพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือ? นับั้แ่ตอนนี้ไปจนถึงกลางวันของวันพรุ่งนี้ยังเหลืออีกตั้งหลายชั่วยาม ท่านมีสิทธิ์อันใด ใช้ประสบการณ์มาละทิ้งการตามหาสมุนไพร? เป็เพราะว่านั่นคือชีวิตของผู้อื่นไม่ใช่ชีวิตของตนเอง ท่านจึงกล้าที่จะเดิมพันเช่นนี้ใช่หรือไม่เล่า?”
“ข้า ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น! ” แพทย์ทหารกัวโมโหจนหายใจแทบไม่ทัน เขาอยากจะอธิบายแต่ก็อธิบายไม่ออก “ข้า ข้า…”
กูเฟยเยี่ยนโกรธมากกว่าเขาเสียอีก “แพทย์ทหารกัว ผู้ป่วยเดิมพันความเป็ความตายต่อยมทูต พวกเราที่เป็แพทย์ก็มีส่วนที่ต้องเดิมพันเช่นกัน พวกเราไม่สามารถเดิมพันข้างที่ตายได้ และจะต้องเดิมพันให้เขามีชีวิตรอด พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเดิมพันให้รอด! ยังมีระยะเวลาอีกมาก ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายท่านจะมาคิดยอมแพ้ละทิ้งได้อย่างไร? เพียงเพราะว่าเขาเป็เพียงแค่ทหารหุงหาอาหารผู้หนึ่งอย่างนั้นหรือ? ”
แพทย์ทหารกัวโต้เถียงกูเฟยเยี่ยนไม่ได้ ในที่สุดก็เอ่ยถามด้วยความโกรธเพราะความละอายและความขุ่นเคือง “แพทย์หญิงกู เ้าที่เป็แพทย์หญิงน่าจะรู้อยู่ชัดเจนว่าไม่ใช่สมุนไพรทุกชนิดล้วนสามารถเก็บมาแล้วใช้ได้ทันที หมาหวางใช้ลำต้นมาทำเป็ยา ใบสั่งยาอย่างเร่งด่วนของหมอเช่นข้าแตกต่างจากหมอทั่วไป จำเป็ต้องใช้หมาหวางอบน้ำผึ้ง ต่อให้เ้าขุดหาหมาหวางมาได้ เ้ารู้วิธีอบน้ำผึ้งหรือ แล้วเ้าอบน้ำผึ้งได้ทันเวลาหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่อยากเอ่ยพูด แต่เมื่อเอ่ยพูดแล้วก็จะเอาชนะ จนผู้คนยอมเลื่อมใสอย่างสุดหัวใจแน่
นางถามย้อนกลับ “หมาหวางมีสรรพคุณในการรักษาหอบหืดที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะไม่อบน้ำผึ้งก็ยังมีสรรพคุณในการรักษาอาการหอบหืดได้อย่างดี อย่างน้อยก็สามารถยืดเยื้อเวลาออกไปได้ จนกระทั่งยาถูกส่งกลับมาจากในเมือง ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ผลแต่อย่างน้อยท่านก็ยังพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ไม่ใช่หรือ? ”
เดิมทีแพทย์ทหารกัวยังมีความมั่นใจ แต่เมื่อถูกกูเฟยเยี่ยนเอ่ยถามเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ไม่มีใจสู้ต่อ เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากจะยอมรับ หากเขายอมรับว่าตนเองผิดแล้ว ท่านแม่ทัพเฉิงจะมองเขาเช่นไร เหล่าทหารจะมองเขาเช่นไร? ในวันข้างหน้าเขาจะอยู่ต่อได้อย่างไร?
แพทย์ทหารกัวเกิดความลังเลจึงรีบร้อนเอ่ยกับเฉิงอี้เฟย “ท่านแม่ทัพเฉิง หากไม่ใช่หมาหวางอบน้ำผึ้งแล้วจะดึงประสิทธิภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ ล้วนเสียแรงเปล่า ภายในค่ายทหารมีเงื่อนไขจำกัด สมุนไพรอบน้ำผึ้งจะทำได้ง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ? แม่นางผู้นี้ฝีปากคมคายกล่าวหาข้าอย่างชัดเจนขอรับ นางแค่้าที่จะหลบหนีไปเท่านั้น”
เฉิงอี้เฟยคือผู้ที่ไม่ชำนาญในเื่นี้ ไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง เขามองไปยังแพทย์ทหารกัวแล้วหันไปมองยังกูเฟยเยี่ยนราวกับว่ากำลังครุ่นคิดตัดสินใจเลือกอยู่
แพทย์ทหารกัวเกิดความลังเลเพียงชั่วครู่ ก่อนจะพูดออกมา “ท่านแม่ทัพเฉิง ข้ากล้านำชีวิตมารับประกัน ในป่าเขาแห่งนี้ย่อมหาหมาหวางไม่เจอแน่ขอรับ! ”
เฉิงอี้เฟยลูบไล้ปลายคางคมมนเบาๆ มองแพทย์ทหารกัวอย่างตั้งใจและยังคงพิจารณาอยู่
กูเฟยเยี่ยนคิดไม่ถึงจึงกล่าวด้วยความโกรธ “เฉิงอี้เฟย สิ่งที่ไม่ได้ลองพยายามทำ ต่อให้เอาชีวิตมารับประกันก็ไร้ประโยชน์! หากเ้ากลัวว่าข้าจะหลบหนีเ้าก็ขึ้นไปบนเขากับข้าสิ! ข้าเชื่อว่าเ้าที่เป็ถึงแม่ทัพนั้นจะอนุญาตให้ทหารของเ้าตายในสนามรบ ไม่ใช่มาตายอย่างง่ายดายในกระโจมค่าย! แม้ว่าเขาจะเป็เพียงทหารงานหุงหาอาหารเท่านั้น! ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนล้วนตกตะลึง ค่ายขนาดใหญ่ จู่ๆ ก็เกิดความเงียบขึ้นมา
ั้แ่ไหนแต่ไรไม่เคยมีผู้ใดกล้าที่จะพูดเสียงดังกับเฉิงอี้เฟยในค่ายทหารมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่มีผู้ใดกล้าเรียกเขาด้วยชื่อและแซ่ตรงๆ เช่นนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนหวั่นไหวหาใช่คำว่า “เฉิงอี้เฟย” สามคำนี้ไม่ แต่เป็ประโยคด้านหลัง!
เป็ทหารสามารถตายในสนามรบได้เท่านั้น ไม่สามารถมาตายอย่างง่ายดายในกระโจมค่าย!
ภายในใจของเฉิงอี้เฟยใเป็อย่างยิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าแม่นางผู้อ่อนแอคนนี้กลับสามารถพูดออกมาได้เสียงดังกังวานทรงพลังและมีความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นถึงเพียงนี้
และเพราะคำของนางคำนี้ เขาถึงเชื่อในตัวนาง!
เขารีบออกคำสั่งโดยทันที “รองแม่ทัพโจวเตรียมคบเพลิงให้พร้อม หากองกำลังทหารฝึกสองสามคนมาเปิดทางเพื่อขึ้นเขาไปตามหาสมุนไพร! ”
ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเอ่ยออกมาอย่างร้อนอกร้อนใจ “เดี๋ยวก่อน นำกระดาษกับพู่กันให้ข้าก่อน”
เดิมทีแพทย์ทหารกัวเกิดความแค้นใจ แต่เมื่อได้ยินคำนี้จึงหันมองกลับมา
กระดาษกับพู่กัน?
แม่นางผู้นี้คิดจะทำอันใดกันแน่?