ภายในเมืองหงหยาง ในตอนนี้ยุ่งวุ่นวายมาก ภายใต้การนำของเ้าเมืองจางเจิ้น บรรดาชาวเมืองต่างวุ่นกับการสร้างอนุสาวรีย์ให้เจียงเฉิน
อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ศูนย์กลางเมืองหงหยาง เมื่อเจียงเฉินและอีกสองคนได้มาถึง สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือฉากที่กำลังชาวเมืองกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง
"คุณชายเจียงกลับมาแล้ว!"
มีบางคนเห็นเจียงเฉินจึงะโออกมาทันที ทันใดนั้นชาวเมืองกว่าพันคนต่างโค้งตัวคารวะต่อเจียงเฉินผู้ที่กำลังลอยอยู่บนฟ้า มันเหมือนราวกับว่าพวกเขากำลังบูชาเทพของพวกเขาอยู่
แม้ว่ามันเป็เพียงแค่ครึ่งวันที่เขาได้ออกจากเมืองหงหยางและกลับมา ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเขานั้นได้ฝังลึกลงในใจของชาวเมือง และไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้
"เ้าน้องชาย ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเ้าจะโด่งดังมากในเมืองหงหยาง! กระทั่งท่านผู้นำนิกายมาด้วยตนเองยังไม่ได้รับการต้อนรับเช่นเดียวกับเ้า! นี่คงเป็เื่ปกติล่ะนะ เ้าได้สังหารปีศาจโลหิตทั้งหมด นอกจากนั้นในฐานะผู้มีพระคุณ ผู้คนในเมืองหงหยางไม่อาจที่จะลืมความช่วยเหลือของเ้าไปตลอดกาล"
กั๋วฉานผงกหัวและพูดออกมา เขารู้รายละเอียดที่เจียงเฉินได้สังหารปีศาจโลหิต นี่เป็เื่ปกติ หากไม่ใช่เพราะเจียงเฉิน ชาวเมืองทั้งหมดคงจะตกตายหมดแล้ว ความเมตตาอันยิ่งใหญ่เช่นนี้เกินพอที่จะทำให้ชาวเมืองบูชาเจียงเฉินราวกับเทพ
"ปีศาจโลหิตมีนิสัยโเี้ ทุกคนมีส่วนร่วมในการกำจัดพวกมัน"
เจียงเฉินโบกมือให้ชาวเมืองหงหยางจากนั้นเขาบินตรงไปยังคฤหาสน์ของเขา
หลังจากที่เจียงเฉินออกจากเมืองหงหยาง จางเจิ้นได้ออกคำสั่งมิให้ผู้ใดเข้าใกล้คฤหาสน์ของเจียงเฉิน นี่เป็ครั้งแรกที่กั๋วฉานได้มายังคฤหาสน์ของเจียงเฉิน และเขาไม่ได้ใเกินเหตุแต่อย่างใด ไม่มีสิ่งใดเป็พิเศษสำหรับที่นี่ และมันไม่อาจเทียบกับเรือนที่พักที่นิกายเซวียนอี้ได้
เจียงเฉินได้เปิดประตู และทั้งสามได้พบกับหวงต้าที่กำลังนอนบนเบาะ มีแสงสีทองเปล่งออกมาจางๆจากร่างของมัน เมื่อเห็นเช่นนั้นดวงตาของเจียงเฉินส่องประกาย
"เ้าบ้านี่ผิดปกติชัดๆ"
เจียงเฉินพูดไม่ออก เขาพบว่าระดับพลังงานของหวงต้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้า และทั้งหมดเกิดขณะที่เจียงเฉินได้ออกไปเพียงครึ่งวัน
"ข้าได้ยินมาว่าในภารกิจกำจัดปีศาจโลหิต หวงต้ามีส่วนร่วมมาก ดูเหมือนว่าหวงต้าเองก็ได้รับาเ็หนักใช่เล่น"
เมื่อกั๋วฉานเห็นหวงต้านอนอยู่บนเบาะ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ ในตอนนี้ไม่ว่าผู้ใดก็สามารถััถึงความสามารถอันน่าอัศจรรย์ของเ้าหมาตัวนี้
"ใช่ หวงต้าองอาจอย่างแท้จริง แม้ว่ามันจะถูกพลังตีกลับก็ตาม ราวกับว่ามันได้รับพรในความโชคร้าย เมื่อมันตื่นขึ้นข้าคิดว่ามันอาจทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นปลาย"
เจียงเฉินถอนหายใจออกมา หนทางที่หวงต้าเลื่อนระดับนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้ด้วยสามัญสำนึก สายเืสมบูรณ์ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจนำไปเปรียบกับสัตว์อสูรทั่วไปได้
"น้องชาย ชีพจรพลังงานที่เ้าว่าอยู่ที่ไหนรึ?"
กั๋วฉานถาม ชีพจรพลังงานใต้ดินได้ถูกอาคมของเจียงเฉินปิดผนึกไว้อยู่ และหากไม่มีความช่วยเหลือของเจียงเฉิน ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะััชีพจรพลังงานได้แม้แต่น้อย แม้ว่าคนผู้นั้นจะอยู่้าเบาะก็ตาม
"ชีพจรพลังงานได้เชื่อมต่อโดยตรงกับหวงต้า และตอนนี้มันได้ดูดซับชีพจรพลังงานอยู่ ด้วยสิ่งนี้ หวงต้าก็จะตื่นขึ้นเร็วๆนี้ ข้า้าความช่วยเหลือของมันในการเดินทางไปยังเขาสายหมอก"
เจียงเฉินพูดต่อ
"พี่กั๋ว จื่อฮัน มีอีกสองสามห้องอยู่ที่นี่ พวกท่านสามารถเลือกห้องที่ชอบได้เลย จากนั้นข้าจะช่วยเชื่อมต่อห้องนั้นกับชีพจรพลังงานใต้ดิน ข้าหวังว่าทั้งสองคนจะหวงแหนโอกาสนี้และใช้มันในการทะลวงระดับให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้"
"ดี!"
กั๋วฉานและจื่อฮันมองกันและกัน พวกเขาต่างพบความตื่นเต้นบนดวงตาของอีกฝ่าย ความแตกต่างระหว่างแบ่งดูดซับพลังงานกันสามคนกับการแบ่งดูดซับพลังงานให้แก่หมื่นคนนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ผลประโยชน์ที่กั๋วฉานและอี้จื่อฮันจะได้รับนั้นแน่นอนว่าไม่สามารถจินตนาการได้เช่นกัน
กั๋วฉานและอี้จื่อฮันไม่้าที่จะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ พวกเขาได้เลือกห้องของตน หลังจากนั้นเจียงเฉินใช้ทักษะเคลื่อนย้ายมิติและเดินทางลงไปยังใต้ดินอีกครั้ง จากนั้นเขาใช้อาคมสร้างปมขึ้นมาอีกสองปมที่ชีพจรพลังงาน จากนั้นเขาเชื่อมต่อมันเข้ากับห้องของกั๋วฉานและอี้จื่อฮันที่ได้เลือกมา
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น กั๋วฉานและอี้จื่อฮันได้นั่งบนเบาะของพวกเขา เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์ได้ไหลออกมาจากภายใต้พื้นดินที่พวกเขาอยู่ ท่าทางของพวกเขาได้เปลี่ยนไปในทันที พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
"พลังงานที่มันช่างบริสุทธิ์นัก! ไม่เพียงแค่มีมากมายเท่านั้น คุณภาพของมันไม่ใช่สิ่งที่นิกายเซวียนอี้สามารถเทียบได้เลย!ข้าไม่คิดมาก่อนว่าจะมีชีพจรพลังงานซุกซ่อนอยู่ภายในเมืองหงหยางและไม่ถูกนิกายใหญ่ทั้งสี่ค้นพบ!น้องเจียงเป็คนที่โชคดีมาก มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถที่จะค้นพบขุมทรัพย์มหาศาลเช่นนี้"
กั๋วฉานตกตะลึงอย่างแท้จริง ในความคิดของเขา เจียงเฉินเป็ผู้ที่สามารถทำทุกอย่างได้สำเร็จ แม้ว่าชีพจรพลังงานจะถูกหวงต้าเป็ผู้พบ เมื่อหวงต้าตามเจียงเฉินไปพวกเขานั้นเป็พวกเดียวกัน ดังนั้นหวงต้าเองก็เป็โชคดีของเจียงเฉินเช่นกัน อีกด้านหนึ่งอี้จื่อฮันตาลุกวาว เขาตกตะลึงเช่นกัน
"เมืองหงหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลอี้ แต่พวกเราไม่เคยรู้ว่ามีชีพจรพลังงานซุกซ่อนอยู่ภายใต้ที่นี่ หากตระกูลอี้ได้ชีพจรพลังงาน ความแข็งแกร่งของตระกูลอี้แน่นอนว่าจะทะยานอย่างก้าวะโ แน่นอนว่าด้วยกำลังในตอนนี้ไม่เพียงแค่พวกเราไม่อาจใช้ชีพจรพลังงานได้ พวกเราอาจดึงดูดภัยร้ายแรงตามมาด้วย ข้าจักติดตามเจียงเฉินไปด้วยความบริสุทธิ์ใจในอนาคต และจะเก็บความลับเื่ชีพจรพลังงานไว้ให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!"
อี้จื่อฮันถอนหายใจออกมา
"หลังจากที่พวกท่านทะลวงระดับแล้ว ให้พวกท่านกลับนิกายเซวียนอี้ทันที"
เจียงเฉินได้ทิ้งข้อความให้พวกเขาผ่านััเทวะในมือของกั๋วฉานและมือของอี้จื่อฮัน ในเวลาเดียวกันเขาก็ทิ้งข้อความไว้สำหรับหวงต้า หลังจากนั้นเขาก็บินไปยังนิกายเซวียนอี้
เขาไม่อาจละเลยความปลอดภัยของเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานได้อีก ที่สำคัญกว่านั้นเจียงเฉินจำเป็ต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการปิดด่านฝึกตน
หลังจากได้สังหารเฝินคุน ทักษะร่างแปลงัได้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ทำให้เจียงเฉินได้รับประโยชน์อย่างมาก เขา้าเวลาระยะหนึ่งในการจำแนกความสามารถที่ได้รับมาใหม่ โดยเฉพาะเพลิงัแท้จริงและฝ่ามือัแท้จริง ทั้งคู่เป็ทักษะยุทธดั้งเดิมของัตัวจริง ส่งผลให้เจียงเฉินเป็ดั่งพยัคฆ์ติดปีก
เมื่อเขากลับถึงนิกายเซวียนอี้ เจียงเฉินตรงไปยังูเากั๋วฉาน หลังจากที่เขาตรวจสอบอาการของเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานแล้ว เขาจึงเก็บตัวบ่มเพาะ
เปรี๊ยะ!....
ทั่วร่างของเจียงเฉินเกิดเสียงเปรี๊ยะๆดังขึ้น เปลวเพลิงสีทองได้ออกมาจากร่างกายเขาดั่งอสรพิษ ทำให้อากาศโดยรอบปะทุและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
"เพลิงัแท้จริงยอดเยี่ยมนัก! เป็าาแห่งเพลิงแห่งเพลิงสัตว์อสูร และมันสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่งในโลก! ด้วยเปลวเพลิงนี้ทำให้การปรุงยานั้นได้ง่ายขึ้นสำหรับข้า แต่น่าเสียดาย ด้วยพลังยุทธของข้าในตอนนี้ ข้าไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้ การบ่มเพาะทักษะร่างแปลงัได้มอบเพลิงัแท้จริงและฝ่ามือัแท้จริงแก่ข้า ดังนั้นการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงัจึงมิได้ง่ายดาย หากว่าการคาดเดาของข้าถูกต้อง ทักษะยุทธนี้จักต้องเป็สิ่งสืบทอดที่ทรงพลังจากัที่แท้จริง และหากว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ข้าจักได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้ในอนาคต"
เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจกับมัน เขามีประสบการณ์ของนักบุญ ดังนั้นการตัดสินของเขาย่อมดีกว่าของคนอื่นคนใด
ในตอนแรกเขาคิดว่าทักษะร่างแปลงัเป็ทักษะที่ทรงพลังเรียบง่ายทักษะหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนความคิด มันอาจเป็สิ่งที่สืบทอดมาจากัที่แท้จริง และผู้ที่สามารถทำการบ่มเพาะได้จะต้องได้รับการยอมรับจากมัน นั้นเป็ส่วนที่น่ากลัวที่สุดเมื่อทักษะร่างแปลงัได้เริ่มขึ้น
เจียงเฉินได้ประมาณการว่าหากเขาทำการบ่มเพาะมันแล้ว ทักษะร่างแปลงัจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นและสายเืของเขานั้นได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน
ด้วยการคิดในใจ กรงเล็บัสีแดงเืได้ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า ในเวลาเดียวกัน ฝ่ามือของเขาเองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน มันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดง และมันส่องประกายแสงสีแดง เมื่อเขาทำการปลดปล่อยฝ่ามือัแท้จริง ตราประทับัทั้งสามร้อยดวงในร่างเขาสั่นะเื และทำให้เจียงเฉินได้ปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมา ทำให้เขาดูเหมือนสัตว์ร้ายาที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา
"ฝ่ามือัแท้จริง เป็ทักษะยุทธของัแท้จริง มันเป็สิ่งสืบทอดจากยุคา และทักษะลับที่แท้จริงที่มีเพียงัแท้จริงเท่านั้นที่สามารถเรียนมันได้ ในตอนนี้ข้าได้เรียนรู้ทักษะฝ่ามือัแท้จริงแล้ว ทำให้ข้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากตราประทับัสามร้อยดวง ด้วยการใช้ฝ่ามือัแท้จริง ข้าสามารถที่จะสังหารผู้เชี่ยชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นทั่วไปได้"
เจียงเฉินตาลุกวาว ด้วยตราประทับัสามร้อยดวง หากเพียงกำลังกายอย่างเดียวเขาสามารถปลดปล่อยแรงได้ถึงสามล้านจิน พลังมหาศาลเช่นนั้นสามารถที่จะแยกูเาเป็ได้อย่างง่ายดาย
"ฮึ่ม! ไม่รู้ว่าหนานเป่ยเฉาจะทะลวงเข้าขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์หรือยัง! หากเขายังไม่ทะลวงผ่าน ข้าสามารถที่จะสังหารเขาได้ในตอนนี้"
เจียงเฉินแค่นเสียงเ็า ไม่ต้องสงสัยเลยหนานเป่ยเฉาเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบ แต่เจียงเฉินไม่เชื่อว่าหนานเป่ยเฉาจะทรงพลังกว่าเขาตลอด เขาเป็ยอดนักบุญที่ได้ถือกำเนิดใหม่ และตอนนี้เขาได้ทำการบ่มเพาะทักษะเทวะาอย่าง ทักษะร่างแปลงั หากว่าหนานเป่ยเฉายังอยู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นสูงสุด เจียงเฉินมั่นใจว่าเขาสามารถที่จะสังหารหนานเป่ยเฉาได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเขายังเหลือเวลากว่าปีก่อนที่จะสู้กับหนานเป่ยเฉา ดังนั้นไม่จำเป็ต้องรีบ เจียงเฉินยังอยู่ใน่ที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เขา้าคือเวลา นอกจากนี้ด้วยพร์และศักยภาพของหนานเป่ยเฉา เขาอาจจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์แล้วตอนนี้
นอกจากนี้สิ่งที่เจียงเฉินให้ความสนใจไม่ใช่หนานเป่ยเฉา เป้าหมายของเขาคือูเาสายหมอกภายในแคว้นเฉียน เขา้าที่จะค้นหาหมูป่าหนามอัคคีที่อยู่ระดับแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง และนั่นทำให้เขาต้องปวดหัวตอนนี้ ด้วยระดับขั้นแก่นแท้์ขั้นกลางในตอนนี้ไม่มีทางที่เขาจะเป็คู่ต่อสู้ให้กับหมูป่าหนามเพลิงได้
สามวันให้หลัง คนสองคนได้ปรากฎตัวขึ้นทีู่เากั๋วฉาน พวกเขาคือกั๋วฉานและหวงต้า ในเวลาเดียวกันเจียงเฉินได้ตื่นขึ้นจากการปิดด่าน ในเวลาสามวันเขาได้ประสบความสำเร็จในการควบคุมฝ่ามือัแท้จริงและเพลิงัแท้จริงได้อย่างสมบูรณ์และสร้างเสถียรภาพพลังยุทธของเขา
เมื่อเจียงเฉินได้พบหวงต้าและกั๋วฉาน เขาพบว่ากั๋วฉานได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง สำหรับหวงต้ามันได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นปลาย อยู่เหนือเจียงเฉินหนึ่งขั้น
เจียงเฉินไม่ได้แปลกใจสถานการณ์เช่นนี้ ด้วยการใช้พลังหกสุริยันและชีพจรพลังงาน หากว่ากั๋วฉานไม่อาจทะลวงผ่านได้ ตอนนี้การฆ่าตัวตายคงเป็สิ่งที่ควรทำแล้วล่ะ
สำหรับหวงต้า ไม่ว่ามันจะทะลวงระดับอย่างไรก็ตาม เจียงเฉินไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไป เขามีความสุขมากกว่าผู้ใดที่หวงต้าทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นปลาย ยิ่งหวงต้าแกร่งขึ้นเท่าใด มันก็สามารถช่วยเจียงเฉินได้มากยิ่งขึ้น
"บัดซบ! เ้าหนู ข้าได้ยินมาว่าในตอนที่บิดาหมดสติอยู่ เ้าได้ทำเื่น่าสนุกในนิกายเซวียนอี้งั้นรึ? มันทำให้ข้าหงุดหงิดจริงๆ ข้าไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือในเื่ครั้งนี้!บิดาเสียโอกาสที่จะแสดงถึงความน่าเกรงขาม หากไม่เช่นนั้นข้าก็คงเป็ศูนย์กลางความสนใจอย่างแน่นอน!ลองคิดดูสิ...เฮ้อ...น่าเสียดายนัก ...น่าเสียดายจริงๆ"
หวงต้าบ่นใส่เจียงเฉินทันทีเมื่อพบ
