บทที่ 54 มันต้องไม่ใช่แบบนี้
โดนหลอก!
โดนหลอกแน่นอน!
ทีแรกเย่จื่อเฉินก็ยังแปลกใจว่าทำไมอยู่ดีๆ เซี่ยเขอเข่อถึงได้มาเกาะแกะแบบนี้
ต่อให้ด้ายแดงจะมัดเขาสองคนเอาไว้แล้ว แต่ระดับความรู้สึกดีของทั้งสองฝ่ายก็เพิ่งจะถึงแค่ 10 เท่านั้น ไม่มีทางที่จะมาจู่โจมแบบสนิทสนมขนาดนี้แน่นอน
“มิน่าล่ะ”
ในดวงตาของเย่จื่อเฉินเต็มไปด้วยความนึกสนุก
“เธออยากให้ฉันซื้อกระเป๋าให้เธอเหรอ?”
แล้วจิงหว่านกับพนักงานสาวคนเมื่อครู่นี้ก็เดินมาหา เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วแล้วส่งยิ้มให้จิงหว่านก่อนจะพูด
“คุณนักไลฟ์จิงหว่านก็อยู่ด้วย เธอสองคนมาด้วยกันเหรอ?”
“ฉันเป็คนชวนเซี่ยเขอเข่อมาเอง”
จิงหว่านยิ้มละไม ั้แ่เื่ที่ร้านเครื่องดื่มในวันนั้น เย่จื่อเฉินก็ได้ทำลายอุดมคติของเธอจนแตกละเอียด แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้
ซึ่งในทางเดียวกัน เธอก็ไม่ยอมแพ้เื่การชวนเย่จื่อเฉินเข้าร่วมทีมเหมือนกัน
“แบบนั้นก็ดีเลยน่ะสิ คุณนักไลฟ์จิงหว่านมีเงินเยอะขนาดนั้น ให้เขาซื้อให้เธอก็ได้นี่”
เย่จื่อเฉินบุ้ยปากไปทางจิงหว่าน เซี่ยเขอเข่อกัดปากเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วจึงปล่อยแขนเย่จื่อเฉินทันทีก่อนจะกัดฟันพูด
“นายอย่ามาพูดมาก จะให้ไม่ให้”
เซี่ยเขอเข่อกลับมาอยู่ในโหมดเดิมแล้ว จึงออกปากขู่ การกระทำหน้าหลังแตกต่างกันลิบลับ ทำเอาเย่จื่อเฉินอดที่จะขำออกมาไม่ได้
“นี่เธอขอให้ฉันซื้อกระเป๋าให้ หรือว่าขู่ฉันกันแน่?”
อย่างกับมีปุ่มย้อนกลับ เซี่ยเขอเข่อหัวเราะคิกคักแล้วกอดแขนเย่จื่อเฉินเขย่าไปมาอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นพี่จื่อเฉินขา พี่ช่วยซื้อกระเป๋าให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”
“อยากได้กระเป๋าเหรอ”
ดวงตาของเซี่ยเขอเข่อมีแสงสว่างแห่งความดีใจพรั่งพรูออกมา ราวกับลูกไก่จิกเมล็ดข้าว เย่จื่อเฉินค่อยๆ แกะมือเธอออกจากแขน
“แต่ฉันไม่ให้”
เย่จื่อเฉินก็ไม่ได้โง่ เมื่อครู่นี้เขาเหลือบดูราคาของกระเป๋าใบนั้นแล้ว
ตั้งสองหมื่นกว่าหยวน!
ต้องโง่ขนาดไหนถึงได้ใช้เงินสองหมื่นกว่าหยวนไปซื้อกระเป๋าใบเดียว
ต่อให้รวมเงินทั้งตัวของเขาเข้าด้วยกันก็ยังมีไม่ถึงสองพันหยวนด้วยซ้ำ
“เย่จื่อเฉิน!”
เซี่ยเขอเข่อถลึงตาโตด้วยความโมโห เย่จื่อเฉินไหวไหล่พูดเหมือนหมูที่ไม่กลัวน้ำร้อน
“อย่ามาะโ ต่อให้เธอะโดังกว่านี้ ฉันก็ไม่มีทางซื้อให้เธอ”
“ซื้อให้เขา”
จู่ๆ หลิวฉิงที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ออกคำสั่งกับเย่จื่อเฉิน เย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นอย่างหมดคำพูด แต่หลิวฉิงกลับยิ้มเหมือนปีศาจร้ายตัวน้อย
“ถ้าต่อไปนี้นายยังอยากนอนหลับสบายอยู่ก็ต้องฟังที่ฉันพูด ฉันไม่จำเป็ต้องนอนนะจะบอกให้”
กรอด
เย่จื่อเฉินขบกัดฟันเต็มแรง นับวันเขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจขึ้นมาจริงๆ ที่พาหลิวฉิงกลับมาด้วย
แบบนี้มันเหมือนกับเอาบรรพบุรุษกลับมาด้วยเลย
หลิวฉิงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่รอยยิ้มที่ทำให้คนขนหัวลุกนั้นของเธอก็ทำให้เย่จื่อเฉินรู้ว่าบรรพบุรุษของเขาคนนี้ไม่ได้ล้อเขาเล่น
ถ้าไม่ซื้อ เธอจะทำมันจริงๆ
“เธอ เอากระเป๋าใบนั้นมา ฉันซื้อ”
เมื่อขัดผีสาวตนนี้ไม่ได้ก็ต้องยอมรับมัน เย่จื่อเฉินกัดฟันบอกให้พนักงานสาวห่อกระเป๋า เขาคิดดีแล้ว ยังไงมันก็แค่สองหมื่นหยวน
เขาที่มีเนตรอัคคี อยากจะหาเงินก็ยังลำบาก
“เดี๋ยวก่อน!”
และทันใดนั้น เสียงที่ไม่ลงรอยกันก็ดังขึ้นนอกประตูร้านกระเป๋าชาแนล
เย่จื่อเฉินหันไปมอง ดวงตาวูบไหวไร้คำพูด
คนที่ไม่อยากจะเจอก็ดันมาเจอ มาที่ห้างแล้วก็ยังเจอกัวเฉียงกับเหยาเยว่อีก
ตอนที่เย่จื่อเฉินเห็นเหยาเยว่ สายตาของเขาก็ยังคงหยุดนิ่ง ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็ผู้หญิงที่คบกับเขามานาน
แต่ดูท่าทางแล้ว เธอกับกัวเฉียงคบกันมันก็ไม่เลว อย่างน้อยก็ยังได้ใส่เสื้อผ้าดูดีมากกว่าตอนที่คบกับเขา
“เย่จื่อเฉิน?”
ที่เมื่อครู่นี้เหยาเยว่เรียกพนักงานก็เพราะว่าอยากได้กระเป๋าใบนั้น สองชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอมาดูไว้แล้ว แล้วก็ชอบั้แ่ตอนนั้นเลย
แต่แน่นอนว่าเธอยังไม่มีเงิน ก็เลยต้องรอให้กัวเฉียงมาก่อน
แล้วตอนที่อยู่นอกร้าน พอเธอเห็นว่ามีคนจะซื้อกระเป๋าใบนั้นไป เธอถึงได้ทนไม่ได้จนต้องเอ่ยปากขึ้น
คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ซื้อกระเป๋าจะเป็เย่จื่อเฉิน
“นายซื้อกระเป๋าใบนี้ได้ด้วยเหรอ กระเป๋าใบนี้มันตั้งสองหมื่นกว่าหยวนเลยนะ”
เหยาเยว่เดินเกาะไหล่กัวเฉียงเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็เปลี่ยนมาพูดด้วยท่าทางออดอ้อน
“พี่เฉียงขา ฉันอยากได้กระเป๋าใบนั้น”
เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นคลึงขมับ แล้วส่ายหน้าพูด
“เหยาเยว่ ทำไมเธอจะต้องแข่งกับฉันให้ได้เลย?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เซี่ยเขอเข่อกับเหยาเยว่ก็เข้ามามุงดู เย่จื่อเฉินเบ้ปากแล้วพูดเสียงต่ำ
“แฟนเก่าน่ะ พอหาผู้ชายมีเงินได้ก็เลยมีเื่มาแข่งกับฉันได้ทุกวัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร”
เซี่ยเขอเข่อเบ้ปากเล็ก ดวงตาฉายแววดูแคลน
ผู้หญิงแบบนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็ดูถูกอยู่ดี
สีหน้าของจิงหว่านก็เช่นเดียวกัน แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาชัดเจนเท่าไรนัก
“แข่งกับนายงั้นเหรอ นายคู่ควรแล้วเหรอ?” ในดวงตาของเหยาเยว่เต็มไปด้วยความดูแคลน จากนั้นก็ใช้มือเขย่าแขนกัวเฉียงไปมา
“ซื้อๆๆ ก็แค่ชาแนลเอง ถ้าเธออยากได้ ฉันซื้อร้านนี้ให้เธอยังได้เลย”
กัวเฉียงยิ้มหยัน แต่ความจริงแล้วเขาก็สงสัยกับคำพูดเสแสร้งของตัวเอง
เขาก็แค่ไม่พอใจ คนจนๆ อย่างเย่จื่อเฉินมีสิทธิ์อะไรถึงได้มีสาวสวยรายล้อมอยู่เสมอ
ดาวมหาลัยซูเหยียน ตอนนี้ก็มีดาวมหาลัยเซี่ยเขอเข่อโผล่มาอีก ที่สำคัญคือผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ คนนั้น…
ดูเหมือนว่าจะเป็จิงหว่าน ไอดอลคนดังบนโลกโซเชียลทางด้านการไลฟ์สด!
ทำไมไอ้ยาจกนี่ถึงได้โชคดีขนาดนี้!
ความจริงแล้วเขาก็รู้แค่ผิวเผินเท่านั้น ถ้าเขาเข้าไปอ่านในเว็บไซต์มหาลัยเยอะๆ ไม่รู้ว่าเขายังจะคิดแบบนี้อยู่ไหม
“พนักงาน เอากระเป๋าแบบเดียวกันมาให้ฉันใบหนึ่ง”
กัวเฉียงโบกมือบอกให้ไปเอามา พนักงานสาวหัวเราะเบาๆ แล้วพูด
“คุณผู้ชายคะ นี่เป็ใบสุดท้ายของทางร้านเราแล่วค่ะ”
“พี่เฉียง…”
เหยาเยว่เริ่มอ้อนอีกครั้ง กัวเฉียงเลียริมฝีปาก แล้วยิ้มเ็า
“ฉันให้ห้าหมื่น”
เพิ่มราคา!
เย่จื่อเฉินหลุดขำ คิดว่าเขาจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกสินะ ไม่ว่าใครก็โหโหเป็ทั้งนั้น ยิ่งคนตัวเป็ๆ แบบเขาแล้วด้วย
“หนึ่งแสน”
เย่จื่อเฉินไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง ถูฝ่ามือไปมาแล้วก็ตะเบ็งเสียงขึ้น
“แสนห้า”
“สองแสน!”
“สามแสน!”
“ห้าแสน!”
กระเป๋าชาแนลราคาแค่สองหมื่นมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการแข่งกันของเย่จื่อเฉินกับกัวเฉียง
เซี่ยเขอเข่อกับจิงหว่านพากันกระชากแขนเย่จื่อเฉิน เป็เชิงบอกไม่ให้เขาะโต่อไปอีก
แม้แต่หลิวฉิงที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ยังบอกให้เย่จื่อเฉินวางมือ
วางมือ?
ไม่มีทาง
ผู้ชายมีชีวิตอยู่เพราะศักดิ์ศรี จะให้เขาวางมือเหรอ…
“หนึ่งล้าน!”
กัวเฉียงเองก็สู้ขาดใจ เขารู้ดีว่าถ้ามาถึงขั้นนี้มันไม่ใช่เื่ของกระเป๋าอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็เื่ของศักดิ์ศรี
“หนึ่งล้านห้า!”
เย่จื่อเฉินยังคงขานราคาเพิ่มขึ้นไป โดยที่สีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน พนักงานขายที่ยืนอยู่ตรงนั้นช็อกไปแล้ว
เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเื่มันจะบานปลายมาถึงขั้นนี้
ลูกค้าภายในห้างก็ค่อยๆ เข้ามาใกล้ร้านนี้มากขึ้น กระเป๋าใบเดียวมีราคาถึงล้านกว่าหยวน โดยเฉพาะสองคนนี้ที่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร
พวกเขาก็อยากเห็นเหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วกระเป๋าใบนี้จะตกไปอยู่ในมือใคร
“สองล้าน!” กัวเฉียงกัดฟันพูดอีกครั้ง เย่จื่อเฉินแคะหูแล้วหัวเราะ “สามล้าน!”
ความจริงแล้วในบัตรของเย่จื่อเฉินไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ เขาก็แค่อยากแกล้งกัวเฉียงนิดหน่อย
เย่จื่อเฉินมั่นใจว่าต่อให้ต้องตาย กัวเฉียงคนนี้ก็ต้องเพิ่มราคาขึ้นอีกแน่นอน เมื่อถึงเวลาเขาจะถอยออกมาเอง
แน่นอนว่าเื่ศักดิ์ศรีกัวเฉียงได้รับแน่ แต่เงินนั้นไม่มีแล้ว
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า…
“โอเค ฉันยอมนาย”
กัวเฉียงยิ้มสนุกขึ้นมาทันที พร้อมกับถอนตัวออกจากการแข่งขัน
เย่จื่อเฉินตะลึงงันทันที
เกิดอะไรขึ้น มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ!