เฟิ่งเฉี่ยนยกยิ้มมุมปาก “หานไท่ฟู่ ท่านอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนัก! ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ สุดท้ายผู้ใดจะได้หัวเราะดังที่สุด!”
หานไท่ฟู่ไม่แยแส “เชิญเ้าต่อสู้ต่อไปเถิด! ตาแก่เช่นข้าไม่ออมมือให้เ้าแน่!”
หมากดำยิ่งโหมบุกและกดดัน หมากขาวพยายามเสริมทัพ ทว่าให้ความรู้สึกป้องกันด้านหนึ่งได้อีกด้านหนึ่งต้านไม่ไหว...
รอยยิ้มบนใบหน้าของหานไท่ฟู่ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย มีแต่ยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง
คนทั้งหมดได้แต่ทอดถอนใจอย่างผิดหวัง
“หมากขาวแพ้แน่แล้ว หมดทางกู้สถานการณ์”
“น่าเสียดายนะ พลาดเพียงก้าวเดียวแพ้ทั้งกระดาน”
“พูดถึงที่สุดแล้ว ยังคงเป็เพราะฝีมือการเดินหมากอ่อนด้อย!”
“ผู้าุโหานชนะแน่แล้ว!”
มู่ชิงเซียวลอบส่ายหน้าด้วยนึกเสียดายแทนเฟิ่งเฉี่ยน ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้เปรียบสักเื่เดียว สามารถยืนหยัดสู้มาถึงตอนนี้ได้นับว่ามิง่ายดายแล้ว อีกทั้งตัวนางเองเป็เพียงนักเดินหมากมือสมัครเล่นและเป็คนรุ่นหลัง หากต้องพ่ายแพ้ให้กับผู้าุโหานก็มิใช่เื่อับอายขายหน้าอันใด เพียงแต่เกรงว่าจะเป็เื่ยากยิ่งกว่ายากที่จะหาแมวเทพได้
หานหลินเยว่หัวเราะเบาๆ ส่ายหน้า แม้จะกล่าวว่าท่านปู่อายุมากแล้ว เมื่อประลองเดินหมากกับคนหนุ่มสาวกำลังวังชาและความคิดลดถอยลงมาก ทว่ายอดฝีมือขั้นเจ็ดก็ยังคงเป็ยอดฝีมือขั้นเจ็ดอยู่ดี ย่อมไม่อาจเป็เช่นเรือที่อับปางลงเมื่อปะทะกับหินโสโครกอย่างง่ายดาย ความกังวลใจของนางเป็เื่ไม่จำเป็โดยแท้!
ขณะที่นางกำลังจะหมุนตัวกลับไปทำเื่ของตนเองต่อ สายตาของนางพลันกวาดไปบนกระดานหมาก นางถึงกับสูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง สีหน้าแข็งค้างทันใด—
นางเห็นอะไร
เมื่อสักครู่ความสนใจของนางพุ่งไปที่พื้นที่หมากดำและหมากขาวต่อสู้กัน สายตาจึงไม่ได้ละเลื่อนไปจากพื้นที่มุมล่างขวาของกระดานหมากแม้แต่น้อย ตอนนี้เมื่อกวาดตามองหมากทั้งกระดานนางถึงกับใจนหลั่งเหงื่อเย็น!
เพราะเมื่อนางมองหมากทั้งกระดาน ไม่รู้ว่าบนกระดานหมากปรากฏเจดีย์สามเหลี่ยมขึ้นั้แ่เมื่อใด ตอนนี้มันกำลังโอบล้อมเป็สามเหลี่ยม ทันทีที่เจดีย์นี้ก่อตัวสำเร็จ เช่นนั้นหมากดำจำนวนมากที่อยู่ตรงกลางย่อมต้องถูกกินเรียบ!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ทุกคนเห็นเพียงหมากขาวต้องสละเกราะป้องกันในพื้นที่นั้น ทว่ากลับไม่รู้เลยว่าเจดีย์สามเหลี่ยมได้กดดันหมากดำเข้ามาแล้ว และพร้อมที่จะกวาดหมากดำเรียบในคราเดียว!
นางเงยหน้าขึ้นพรึ่บ มองไปยังผู้เดินหมากขาว ไม่ว่าจะเป็การตกหลุมพรางหรือการต้องสละหมากบางส่วน นางล้วนแต่มีสีหน้าท่าทางสงบนิ่งั้แ่ต้นจนจบ มุมปากยังคงมีรอยยิ้มจางๆ คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มตลอดเวลา เดิมทีนางเข้าใจว่าฝ่ายตรงข้ามเพียงแต่เสแสร้งแกล้งทำว่าควบคุมสถานการณ์ได้ ฝืนทำเป็สงบนิ่ง แต่ตอนนี้ดูแล้วไม่ใช่เช่นนั้น อีกฝ่ายกำชัยชนะเอาไว้ในมือจริงๆ ดังนั้นจึงได้สุขุมและมั่นใจเช่นนี้
ดังนั้น นับั้แ่เริ่มต้น ก้าวที่นางเดินส่งเดชนั้นมิใช่ความผิดพลาด แต่เป็กับดักที่นางวางเอาไว้แต่แรก เริ่มั้แ่ตอนนั้นนางได้วางหลุมพรางเอาไว้แล้ว รอเพียงท่านปู่เดินเข้าไปติดกับทีละก้าวๆ ภายนอกดูแล้วเหมือนท่านปู่เป็ฝ่ายได้เปรียบ ทว่าแท้ที่จริงแล้วกำลังถูกจูงจมูกให้เดิน
ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
ความสามารถในการวางแผนของคนผู้นี้น่ากลัวเกินไป!
หากว่ากันตามสถานการณ์หมากบนกระดานในตอนนี้ หากเดินต่อไป ท่านปู่จะต้องพ่ายแพ้อย่างมิต้องสงสัย!
หันกลับไปดูท่านปู่ ยามนี้รอยยิ้มแห่งชัยชนะระบายทั่วใบหน้า เขาถูกชัยชนะปิดบังดวงตา ไม่มีกะจิตกะใจจะดูหมากทั้งหมดบนกระดาน แต่หากเขาเห็นกับดักในตอนนี้ เกรงว่าจะสายเกินไป ด้วยเจดีย์สามเหลี่ยมก่อตัวสำเร็จ หมากดำจึงเรียกได้ว่าหมดทางเยียวยา!
เจดีย์สามเหลี่ยมที่มิอาจโจมตีได้!
นางอดถอนใจไม่ได้ ช่างน่ากลัว!!!
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายกล่าวยิ้มๆ “ศิษย์พี่หญิงหาน ดูท่าแล้วข้าจะกระต่ายตื่นตูมไปเอง ด้วยความสามารถในการเดินหมากของผู้าุโหาน เหตุใดจะแพ้ให้กับมือสมัครเล่นคนหนึ่งได้เล่า หากท่านมีเื่ต้องไปทำก็เชิญตามสบายเถิด ที่นี่ปล่อยให้ข้าดูแลก็พอ”
หานหลินเยว่ส่ายหน้ายิ้มฝาดเฝื่อน ทว่ากลับจนปัญญาที่มิอาจพูดตามความจริง
หลังจากการเดินหมากอีกหลายก้าว เห็นมือที่ถือหมากของหานไท่ฟู่ชะงักกึก สีหน้าพลันเปลี่ยนไป ในที่สุดเขาก็เห็นแล้ว!
“อะไรกัน ค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมหรือ ค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมอีกแล้ว” องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้ายู่ยี่ขึ้นมาทันที หานไท่ฟู่ไม่อยากเชื่อ
คนอื่นๆ จึงค่อยๆ ได้สติขึ้นมาในตอนนี้ แต่ละคนได้แต่อ้าปากค้าง
“ให้ตายเถอะ ไม้นี้อีกแล้ว”
“เป็ค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมจริงๆ ด้วย! เป็ค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมอีกแล้ว!”
“มันโผล่ออกมาั้แ่เมื่อใดกัน ไฉนข้าจึงไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย”
“ข้าเองก็ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน เหลือเชื่อ!”
“มหัศจรรย์โดยแท้! ทั้งๆ ที่หมากขาวต้องสละเกราะป้องกันตัวตลอดเวลา ถูกบีบจนถึงทางตัน เหตุใดจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้”
“หรือนางวางกับดักั้แ่เดินหมากก้าวแรก”
“ใครพูดว่าหมากก้าวนั้นเดินส่งเดชกัน ทั้งๆ ที่มันเป็กับดัก! วางกับดักั้แ่ก้าวแรก พวกเราทุกคนถูกนางพาลงคูหมดแล้ว!”
“สุดยอดจริงๆ! หมากกระดานนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ! ข้าจะต้องจดบันทึกหมากกระดานนี้เอาไว้ เก็บบันทึกเข้าไปในตำราเดินหมากของข้า หมากกระดานนี้จะต้องกลายเป็กระดานที่มีชื่อเสียงเล่าขานกันต่อไปในใต้หล้า!”
“ความคิดแยบยล คำนวณแม่นยำ ถูกขนานนามว่าเป็การเดินหมากที่มีชื่อเสียงกระดานหนึ่ง!”
“ยอดเยี่ยมเหลือเกิน! วันนี้มาถูกที่แล้ว!”
ดวงตาของมู่ชิงเซียวเปล่งประกายด้วยความยินดีเจียนคลั่ง
เกมเปลี่ยนแล้ว หมากขาวฟื้นคืนชีพ! ช่างเหลือเชื่อ!
เขาหันไปมองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยความตื่นเต้น นางยังคงนั่งใช้ความคิดอยู่ที่นั่น เดินหมากก้าวถัดไปอย่างสงบนิ่ง ดวงตาแน่วแน่ ทว่ากลับเต็มไปด้วยสีสันดึงดูดสายตา!
มือที่ถือหมากของหานไท่ฟู่สั่นเทิ้ม ก่นด่าออกมาด้วยน้ำเสียงระคายหู “ต่ำช้า! ต่ำช้าเกินไปแล้วนะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนฉีกยิ้มมุมปาก “ขอถามไท่ฟู่ ข้าต่ำช้าตรงไหน”
หานไท่ฟู่โมโหหน้าแดงก่ำจนคล้ายผลมะเขือเทศที่สุกเต็มที่ เนิ่นนานกว่าเขาจะคำรามเสียงต่ำออกมาว่า “เ้าเล่นเป็แต่ค่ายกลนี้หรือไร”
เฟิ่งเฉี่ยนแบมือด้วยท่าทีไม่รู้อิโหน่อิเหน่ “แต่การรับมือกับท่าน ใช้เพียงค่ายกลนี้ก็เพียงพอแล้วนี่นา!”
คำพูดประโยคเดียว แต่มีผลทำให้ชนะน็อคหานไท่ฟู่
หานไท่ฟู่ขาดสติทันที
ที่นางพูดล้วนคือความจริง นางใช้เพียงค่ายกลนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ!
เพราะเขาไม่อาจทำลายค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมได้จริงๆ!
ผลแพ้ชนะปรากฏออกมาแล้ว ไม่มีความหมายที่จะเล่นต่อไป!
หานไท่ฟู่พ่ายแพ้อีกครั้ง!
ทุกคนในที่นั้นเงียบกริบ คนทั้งหมดล้วนย้อนคิดไปถึงหมากกระดานนี้ั้แ่ต้นจนจบ
หมากขาวถูกหมากดำโจมตีและกดดันั้แ่แรก จำต้องทิ้งปราการป้องกันตัวมาโดยตลอด ถอยร่นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายแล้วกลับพลิกเกมจากแพ้มาเป็ชนะ ยึดพื้นที่คืนมาได้ สังหารหมากดำราบคาบไม่มีเหลือ วิธีการโจมตีเช่นนี้ทำให้คนยากจะเชื่อจริงๆ!
หากมิใช่เป็ยอดฝีมืออย่างแท้จริง หากมิใช่เป็ผู้ที่มีความกล้าหาญพอ หากมิใช่ผู้ที่มีความสามารถในการวางแผนและกลยุทธ์ คนธรรมดาสามัญไม่อาจทำได้ ทันทีที่ไม่ระวังเพียงเล็กน้อยย่อมมีความเป็ไปได้ที่จะแพ้ทั้งกระดาน!
ที่ทำให้คนรู้สึกมหัศจรรย์ไปยิ่งกว่านั้นคือ หมากขาวอ่อนข้อให้หมากดำสองก้าว แต่กลับพลิกจากแพ้มาเป็ชนะ และคู่ต่อสู้ยังเป็ยอดฝีมือระดับขั้นเจ็ดคนหนึ่ง ท่ามกลางสถานการณ์เยี่ยงนี้ยังสามารถเอาชนะได้ เห็นได้ว่าเป็ผู้เดินหมากที่เปี่ยมไปด้วยฝีมือ!
สายตาทุกคู่ที่มองเฟิ่งเฉี่ยนเปลี่ยนไป มิใช่สายตาที่มองนักเดินหมากมือสมัครเล่นคนหนึ่ง แต่เป็ยอดฝีมือที่คมในฝักคนหนึ่ง!
หานไท่ฟู่อับอายอย่างที่สุด ภายใต้เงื่อนไขที่ฝ่ายตรงข้ามอ่อนข้อให้สองก้าว ตนเองถึงกับยังคงพ่ายแพ้ นี่เป็การดูิ่ดูแคลนกันอย่างร้ายแรง!
ไม่ได้ โทสะนี้ข้าจะต้องทวงคืนชัยชนะมาให้ได้!
เขาพูดขึ้นอย่างหน้าหนาอีกครั้งว่า “กระดานนี้ไม่นับ เล่นอีกกระดานหนึ่ง! เมื่อสักครู่ตาแก่เช่นข้ามองข้ามไป ติดกับเ้าอีกครั้ง หากเดินหมากอีกกระดานหนึ่ง ตาแก่เช่นข้าย่อมไม่ให้โอกาสเ้าใช้ค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมแน่นอน!”
เขาม้วนแขนเสื้อขึ้น “มาๆๆ มาเดินอีกกระดานหนึ่ง!”
คนทั้งหมดแทบสิ้นสติ!
ผู้าุโเช่นท่านจะหน้าหนาเกินไปแล้วกระมัง
พ่ายแพ้ติดๆ กันสองกระดาน ท่านยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อีกหรือ