วิธีรักษาตรงๆ และมีประสิทธิภาพที่สุดไม่ใช่การใช้เข็มเงินกระตุ้นให้อาเจียน แต่เป็การที่เมิ่งอู่ล้วงมือเข้าไปในปากของเขา แล้วกดนิ้วที่ลำคอแรงๆ
“เ้าไม่ใช้เข็มเงินกับข้าหรือ…”
“พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย เ้าจะอาเจียนหรือไม่!”
จากนั้นซวี่เฉินฟางก็สำลักสองสามครั้ง ก่อนอาเจียนออกมาแต่โดยดี
อินเหิงไปบดยาอีกหนึ่งถ้วย เมิ่งอู่กำลังจะเอื้อมมือไปรับ แต่เขากลับมองซวี่เฉินฟางแวบหนึ่งก่อนกล่าว “ให้ข้าป้อนดีกว่า อาอู่ ไปดูแลฮูหยินเถิด”
ซวี่เฉินฟางปรือตาขึ้นกึ่งหนึ่ง ะโว่า “อาอู่ อาอู่ ข้าไม่ให้เขาป้อน ข้าอยากให้เ้าป้อน...”
อินเหิงมองอีกฝ่ายก่อนเอ่ย “ข้าป้อนได้ดีกว่า”
ซวี่เฉินฟางมองอินเหิงอย่างอ่อนระโหยโรยแรง “หวังสิง หากเ้ากล้าฉวยโอกาสในยามคับขัน…”
เขาพูดได้ครึ่งเดียว อินเหิงก็ง้างปากเขาไว้ก่อนเทยาเข้าปาก “วางใจเถิด ข้ารับรองว่าจะไม่ให้หกแม้แต่หยดเดียว”
อินเหิงไม่มีความอดทนกับซวี่เฉินฟางเหมือนกับที่เขามีต่อนางเซี่ย เขากรอกยาอย่างกระแทกกระทั้นและตรงไปตรงมา
ซวี่เฉินฟางรู้สึกว่าปากของเขาถูกมือของอินเหิงถ่างจนแทบฉีก อินเหิงรีบยัดถ้วยและยาน้ำเข้ามาจนปากเขาแทบะเิ
อินเหิงจงใจแก้แค้นส่วนตัวเป็แน่! ฉวยโอกาสในยามวิกฤต!
สุดท้ายยาน้ำก็ไม่หกแม้แต่หยดเดียวจริงๆ ซวี่เฉินฟางกลืนลงไปจนหมด
ซวี่เฉินฟางกล่าวแ่เบา “หวังสิง เ้ารอข้าก่อน”
อินเหิงกล่าว “ระหว่างบุรุษสมควรต้องตรงไปตรงมาหน่อยมิใช่หรือ”
ในหมู่บ้านนี้ช่างมีแผนการมากมายมีเล่ห์เพทุบายมากมาย นี่เห็นชัดว่าแทบรอไม่ไหวที่จะวางยาพิษครอบครัวของเมิ่งอู่ให้ตาย
โชคดีที่เมิ่งอู่กับอินเหิงกลับมาทีหลังซวี่เฉินฟาง หากทั้งสามคนกลับมาพร้อมกันและดื่มชาคลายร้อนนั้นพร้อมกัน ก็คงมิอาจช่วยเหลือตนเองได้ทันท่วงทีเช่นนี้
ทว่าแม้กระตุ้นให้อาเจียนและให้ยากินแล้ว นางเซี่ยกับซวี่เฉินฟางก็ยังไม่พ้นขีดอันตรายอย่างสมบูรณ์ ยังต้องขับพิษที่ดูดซึมเข้าไปในร่างกายออกมาให้หมดด้วย
เมิ่งอู่ค้นสมุนไพรทั้งหมดในเรือน ด้วยประสงค์จะหาสมุนไพรที่ช่วยล้างพิษให้ทั้งสองคน แต่ก็ไม่พบ
สมุนไพรที่นาง้ายามนี้แต่ละอย่างไม่ธรรมดาและ้าอย่างเร่งด่วนมาก ได้แต่ต้องขึ้นูเาไปเก็บสมุนไพรด้วยตนเองแล้ว
ขณะเมิ่งอู่กำลังจะไปหยิบตะกร้าและเคียว อินเหิงก็กล่าวกับนางว่า ยามนี้พวกอันธพาลน่าจะยังอยู่ในหมู่บ้าน ลองไปตามพวกเขามาช่วยด้วย
เมิ่งอู่มักเชื่อฟังคำของอินเหิงมาโดยตลอด จึงไปเรียกคนพวกนั้นมา
พวกอันธพาลยังไม่ได้ไปไหนไกลจริงๆ ทั้งหมดจึงตามเมิ่งอู่กลับเรือน
เมื่อเห็นนางเซี่ยกับซวี่เฉินฟางนอนซม ต่างก็แย่งกันถามเสียงดังเซ็งแซ่ “เกิดเื่อันใดขึ้น? ไฉนจู่ๆ ถึงเป็แบบนี้?”
พวกอันธพาลในหมู่บ้านทำตัวราวกับอยู่ในเรือนของตนเองอย่างไม่สะทกสะท้าน เห็นชาคลายร้อนในครัว ก็รีบหยิบถ้วยมา คนหนึ่งตักแล้วส่งต่อไป
อินเหิงมองอย่างเฉยชาแวบหนึ่งก่อนกล่าวช้าๆ “แค่มีคนวางยาพิษลงไปในชาคลายร้อนเท่านั้น”
พวกอันธพาลที่กำลังจะดื่มชาด้วยความกระหาย ได้ยินดังนั้นก็รีบวางถ้วยชาลง
…
เช้าวันนี้หลังเมิ่งซวี่ซวีตักน้ำเสร็จ ก็ถูกเมิ่งเจียนเจียขวางทางไว้
เมิ่งเจียนเจียหลีกเลี่ยงเมิ่งต้ากับภรรยา และนางเหอ ก่อนเอ่ยถามอย่างใจจดใจจ่อว่า “ซวี่ซวี ครั้งล่าสุดข้าวางยาเบื่อหนูไว้ในตู้ ยามนี้มันหายไป เ้าเป็คนเอาไปใช่หรือไม่? เ้าเอาไปไว้ที่ใด?”
เมิ่งซวี่ซวีกล่าวอย่างไม่ยี่หระ “ไม่ได้เอาไป ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่ามันอยู่ที่ใด”
เมิ่งเจียนเจียถาม “เ้าไม่ได้เอาไปจริงหรือ?”
สีหน้าเมิ่งซวี่ซวีหมดความอดทน “เ้าพูดมากจริงๆ บอกว่าไม่ได้เอาไปก็ไม่ได้เอาไปสิ!”
กล่าวอย่างนั้นแล้วก็เตรียมออกจากห้อง เมิ่งเจียนเจียจึงกล่าวเสียงแ่เบา “ซวี่ซวี ยาขนานนั้นมีพิษร้ายแรง สามารถฆ่าคนได้ หากมีคนตายขึ้นมา ตามกฎของหมู่บ้านต้องถูกลงโทษด้วยการจับถ่วงน้ำ”
เมิ่งซวี่ซวีชะงักฝีเท้า ตัวสั่นสะท้านรุนแรง ใบหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
สิ่งที่นางคิดมาโดยตลอดคืออยากให้ครอบครัวของเมิ่งอู่เสียชีวิต ตราบใดที่พวกเขาตายไป นางก็มีความสุขแล้ว แต่กลับไม่เคยคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาของเื่นี้เลย
ยามนี้เมื่อเมิ่งเจียนเจียเอ่ยเตือน เมิ่งซวี่ซวีถึงค่อยรู้สึกครั่นคร้ามโดยไม่รู้ตัว นางหันกลับไปมองเมิ่งเจียนเจียพร้อมกับสีหน้าแปรเปลี่ยนไปมา
เมิ่งเจียนเจียมีสีหน้าอ่อนโยนขณะเอ่ย “ข้าเป็พี่สาวของเ้าย่อมไม่มีทางทำร้ายเ้า หากมีเื่ใด เ้าบอกข้ามาเถิด ข้าจะได้ช่วยเ้า”
ยิ่งคิดเมิ่งซวี่ซวียิ่งหวาดผวา จึงเล่าเื่ราวที่เกิดขึ้นเช้าวันนี้ให้ฟัง
นางฉวยโอกาสยามที่นางเซี่ยไปตักน้ำที่บ่อน้ำ แล้วแอบเทยาเบื่อหนูลงไปในถังน้ำของนางเซี่ย
เมิ่งเจียนเจียกล่าวด้วยความปวดใจ “ซวี่ซวี เ้าช่างโง่เขลานัก! ทำเื่แบบนี้ได้อย่างไร!”
เมิ่งซวี่ซวีทำอะไรไม่ถูก “พี่สาว ยามนี้สมควรทำอย่างไรดี? เ้าทิ้งข้าไม่ได้นะ...”
เมิ่งเจียนเจียล้วนล่วงรู้เื่ที่นางทำ ยามนี้นางทำได้เพียงขอร้องเมิ่งเจียนเจียให้ช่วย เมิ่งเจียนเจียมองเมิ่งซวี่ซวีด้วยสายตาดุจผู้กอบกู้โลก “วางใจเถิด ข้าจะไม่ยอมให้เ้าเป็อันใดเด็ดขาด”
หลังจากนั้นเมิ่งเจียนเจียก็ออกไปสืบข่าว อันธพาลเ่าั้คนปากสว่าง ต้องมีข่าวอันใดหลุดออกมาบ้าง
ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็ว่า เมิ่งอู่ไม่ได้รับพิษ แต่ผู้ที่ได้รับพิษคือนางเซี่ยกับเฉินฟาง
เมื่อเมิ่งซวี่ซวีรู้ว่าเฉินฟางถูกพิษของนาง ก็ร้องไห้โฮออกมาทันควันและยิ่งตื่นตระหนก “พี่สาว ทำอย่างไรดี ยามนี้สมควรทำอย่างไร... ข้าไม่อยากให้เฉินฟางเป็อันใดไป... หากเมิ่งอู่รู้เื่นี้ นางไม่มีทางปล่อยข้าไว้แน่...”
เมิ่งเจียนเจียมีสีหน้าร่าเริงขณะมองเมิ่งซวี่ซวีที่ร้องไห้โฮน้ำตาหลั่งริน
หากนางช่วยเมิ่งซวี่ซวีก็เท่ากับว่านางเห็นแก่ความรักใคร่ผูกพันระหว่างพี่น้อง หากนางไม่ช่วย ไม่ว่าอย่างไรเมิ่งอู่ก็ไม่มีวันหานางพบ
ใกล้เที่ยง เมิ่งอู่แบกตะกร้าเตรียมออกจากเรือน ผู้ที่เดินทางไปกับนางคืออินเหิงและพวกอันธพาลอีกสามถึงห้าคน
อันธพาลที่เหลือยังอยู่ที่เรือนของเมิ่งอู่ คอยดูแลนางเซี่ยกับซวี่เฉินฟาง และป้อนยาให้ทั้งสองคนทุกสองชั่วยามตามคำแนะนำของเมิ่งอู่ แม้สรรพคุณของสมุนไพรในเรือนไม่ดีนัก แต่ก็ยังพอประคองอาการไว้ได้ระยะหนึ่ง
นางเซี่ยกับซวี่เฉินฟางได้รับการรักษาฉุกเฉินเบื้องต้นแล้ว จึงน่าจะประวิงเวลาได้อีกสองสามวันอย่างไม่มีปัญหา ภายในสองสามวันนี้เมิ่งอู่จะต้องหาสมุนไพรล้างพิษบนูเาให้ได้
อินเหิงให้พวกอันธพาลส่วนใหญ่เฝ้าเรือนไว้โดยห้ามผู้ใดเข้ามา หากมีผู้ใดบังอาจบุกรุกก็ให้รังแกได้ตามแต่ใจ
พวกอันธพาลตอบรับเต็มปากเต็มคำ
จากนั้นอินเหิงค่อยคัดเลือกผู้ที่ว่องไวและแข็งแกร่ง ติดตามเขาและเมิ่งอู่ขึ้นเขาไป
คราแรกเมิ่งอู่เบิกตากว้าง “อาเหิง เ้าจะขึ้นเขาไปด้วยหรือ?”
อินเหิงกล่าว “เ้าคิดว่าข้าไปไม่ได้หรือ?” ไม่จำเป็ต้องให้เมิ่งอู่เข็น เขาก็บังคับเก้าอี้เข็นออกจากเรือนด้วยตนเอง “ไปเถิด อย่าเสียเวลาเลย”
ในการแยกแยะและรู้จักสมุนไพร เขามีประโยชน์กว่าพวกอันธพาลเหล่านี้ รอจนขึ้นเขาแล้ว ก็แยกกันค้นหาจะได้ประหยัดเวลาไม่น้อย
เมิ่งอู่ยังไม่ทันห้ามปราม เขาก็ไปไกลแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเกิดเื่ครั้งนี้ขึ้น เมิ่งอู่คงยังไม่รู้ว่าอินเหิงใช้เก้าอี้เข็นได้ชำนาญถึงเพียงนี้ ความเร็วของเขาไม่ต่างจากคนปกติ ทั้งยังมั่นคงด้วย
เมิ่งอู่สะพายตะกร้าเดินตามไป พวกอันธพาลหลายคนตามหลังไปติดๆ
ทันทีที่เมิ่งอู่กับคนอื่นๆ จากไป พวกอันธพาลที่เหลือก็ปิดประตูเรือนอย่างแ่า
ชาวบ้านเห็นเข้า ดูคล้ายเมิ่งอู่จะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร จึงรีบร้อนกลับเรือนไปหยิบเครื่องไม้เครื่องมือ ติดตามเมิ่งอู่ขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรเช่นกัน
ในเมื่อมีคนนำทาง ย่อมต้องเก็บสมุนไพรดีๆ ได้เป็แน่ บางทีอาจนำไปขายแล้วได้เงินด้วย!
เมิ่งเจียนเจียกับเมิ่งซวี่ซวีคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวที่เรือนของเมิ่งอู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นเมิ่งอู่กับอินเหิงออกจากเรือน เมิ่งเจียนเจียก็กล่าว “ซวี่ซวี เ้าอยู่ในเรือนก่อน รอจนกว่าข้าจะกลับมา อย่าออกไปที่ใดเด็ดขาด”
ยามนี้เมิ่งซวี่ซวีไม่มีความคิดเป็ของตนเอง เมิ่งเจียนเจียพูดอันใด นางก็ทำตาม พยักหน้ารับปากทั้งน้ำตา
เมิ่งอู่กับอินเหิงขึ้นเขาไปได้ไม่นาน ชาวบ้านหลายคนก็ตามหลังไป
พอเข้าไปในป่าแล้วก็มองทิศตะวันออกมองทิศตะวันตก ทั้งยังะโเรียกเมิ่งอู่ไม่หยุด ให้มาดูว่าพวกเขาพบสมุนไพรดีๆ หรือไม่
เมิ่งอู่ไม่มีเวลาดูแลพวกเขา เพียงกล่าวว่า “บนเขามีทั้งนกล่าเหยื่อและมีสัตว์พิษพืชพิษ ทุกคนกลับไปเถิด”
ชาวบ้านกล่าว “พวกเราขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร ผู้ใดเก็บได้ก็เป็ของผู้นั้น ส่วนเื่นกล่าเหยื่อและสัตว์พิษพืชพิษที่เ้ากล่าวถึง ทุกคนอยู่ด้วยกันน่าจะไม่มีปัญหาใดกระมัง”
เมิ่งอู่ไม่อยากพูดมากจึงปล่อยพวกเขาไป
ภายในป่าไม่มีเส้นทางเฉพาะ มีเพียงทางลาดชันที่ทอดขึ้นไปบนูเาด้านเดียว บนพื้นถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แห้งชั้นหนึ่ง
เดิมทีไม่ค่อยมีผู้ใดขึ้นเขานี้ แต่หลังจากการเก็บสมุนไพรกลายเป็ที่นิยม ทำให้เหลือร่องรอยการสำรวจของคนอยู่ทั่วบริเวณใกล้เคียงหลายหลี่ พืชป่าสีเขียวที่ขึ้นเองตามธรรมชาติล้วนถูกมองว่าเป็สมุนไพร จากนั้นก็ถูกถอนออกไปจนหมด
ดังนั้นเมิ่งอู่กับคนอื่นๆ จึงต้องเดินลึกเข้าูเาลึก
อินเหิงไม่ต้องให้ผู้ใดช่วยเข็น เขาก็สามารถบังคับเก้าอี้เข็นได้อย่างมั่นคง
ยิ่งเดินไปข้างหน้า ป่ายิ่งรกชัฏ ร่องรอยของมนุษย์ค่อยๆ น้อยลง พวกอันธพาลกระจายตัวออกไปในบริเวณเล็กๆ รอบๆ แล้วเริ่มค้นหาสมุนไพรตามคำอธิบายของเมิ่งอู่
ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานใสดังขึ้นข้างหลัง "คุณชายหวัง ให้ข้าช่วยเข็นท่านเถิด"