“พ่อ เกิดอะไรขึ้น ใครทำพ่ออย่างนี้?” ฮ่าวหนานตกตะลึงขณะที่มองไปรอบๆไม่มีใครในห้องขังนี้กล้าพอที่จะต่อยประมุขตระกูลฮ่าวได้
เขาแม้แต่สงสัยว่าพ่อของเขาสะดุดล้มและเป็อย่างนี้!
“หนานเอ๋อ เร็วเข้า รีบฆ่าไอ้ฉินเฟิง ข้าอยากเห็นมันตาย”เมื่อเห็นว่าคนของตระกูลเขามาถึงแล้ว ประมุขตระกูลฮ่าวก็อารมณ์พุ่งสูงขึ้นเขากดมือของเขากับหน้าอกที่ปวดและหลังจากที่ไอออกมา เือีก 2 คำก็พุ่งออกมา
เมื่อพวกเขาเห็นว่าประมุขของเขาไอเป็เืใบหน้าของคนตระกูลฮ่าวทุกคนก็เริ่มดำคล้ำและอำมหิตยิ่งกว่าปีศาจ
“พ่อ เป็ไปได้ที่ไอ้บ้าฉินเฟิงนั่นเป็คนทำพ่ออย่างนี้เหรอ?” ฮ่าวหนานถามด้วยความประหลาดใจ
“อย่าเสียเวลาและรีบๆ กำจัดไอ้ฉินเฟิงให้ข้าสักที”ผู้เฒ่าตระกูลฮ่าวไม่มีหน้าจะยอมรับต่อหน้าผู้คนมากมายและเรียกร้องให้ฆ่าฉินเฟิง
เมื่อมองรอบๆตระกูลฮ่าวก็เห็นว่านอกจากทุกคนที่นี่แล้วมีแค่ฉินเฟิงที่มีความกล้าต่อยประมุขตระกูลของพวกเขา
ฮ่าวหนานโกรธเกรี้ยวทันทีและไม่พูดอะไรมากขณะเหวี่ยงหมัดไปยังฉินเฟิง
เขาประจำในกองทัพมาก่อนและเพื่อฝึกร่างกาย เขาเรียนศิลปะป้องกันตัวมากมายฮ่าวหนานมั่นใจว่าแค่นี้ก็พอแล้วที่จะจัดการกับนายน้อยเ้าสำราญนี่
หมัดใหญ่โตของเขามาถึงต่อหน้าดวงตาของฉินเฟิงในไม่ช้าและความเหี้ยมโหดบนใบหน้าก็ฉายให้เห็นเขาอาจจะกำลังเล็งที่จะควักลูกตาข้างหนึ่งของฉินเฟิงออกด้วยหมัดนี้
ทันใดนั้นฉินเฟิงก็ตอบสนอง เขาเหวี่ยงหมัดง่ายๆ แต่ไวอย่างน่าเหลือเชื่อ คนส่วนใหญ่ในที่นี้ไม่สามารถเห็นได้ชัดมันดูเหมือนว่ามีเงาเบลออยู่ตรงนั้นตามด้วยร่างกายที่ใหญ่โตของฮ่าวหนานลอยกระเด็นออกไป
เมื่อร่างของฮ่าวหนานกระทบพื้นอย่างหนักหน่วงกับเสียงที่ทำให้ทุกคนกลับสู่ปกติทุกคนจ้องด้วยั์ตาเบิกกว้าง แม้แต่ฉินหวงเอง เหมือนกับว่าเขาไม่รู้จักฉินเฟิงอีกแล้ว
ั์ตาของลุงฝูก็เปล่งประกายขึ้นเขาไม่เห็นฉินเฟิงเพียงสัปดาห์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า
“ฉินเฟิง แกกล้าทำร้ายคนในที่สาธารณะ! อธิบดีจ้าว คุณก็เห็นแล้วผมเชื่อว่าคนแบบนี้เป็อันตรายต่อสังคม ควรจะปะามันสถานเดียว” คนของตระกูลฮ่าวประกาศกร้าวทันที
พวกเขาชี้หน้าด่าฉินเฟิงต่อไปทำให้เขารู้สึกว่าหูจะหนวก เขาคิดว่าเ้าหมูน้อยปล่อยลูกไฟได้แค่เดือนละครั้งถ้าเขาสามารถวิวัฒนาการเ้าหมูน้อยจนมันสามารถปล่อยลูกไฟกี่ครั้งก็ได้
เขาอยากจะให้มันอ้าปากเผาคนพวกนี้ให้เป็ขี้เถ้าไปซะมันจะได้ทำให้เื่ง่ายขึ้นเยอะ
อธิบดีจ้าวมาเพื่อช่วยตระกูลฮ่าวดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่าฉินเฟิงไม่ลังเลที่จะทำร้ายพวกเขาอย่างโจ่งแจ้งเขาก็รู้สึกเหมือนโดนฉินเฟิงตบหน้า
เขามาหาฉินเฟิงและพูดอย่างโกรธเกรี้ยว“ฉินเฟิง หลักฐานที่แกฆ่าคนปฏิเสธไม่ได้ และตอนนี้แกยังทำร้ายคนบริสุทธิ์อีกฉันจะพาตัวแกไปพิพากษาที่เมืองหลวง”
“ไม่ เฟิงเอ๋อไม่ผิด ดังนั้นคุณจะพาเขาไปเมืองหลวงไม่ได้”ใบหน้าของฉินหวงบึ้งลงขณะที่ก้าวออกมาและพยายามจะหยุดเขา
หลังจากที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้ในแวดวงธุรกิจและการเมืองมาอย่างโชกโชนหลายปีฉินหวงจึงรู้สิ่งที่อธิบดีจ้าวคิดเป็ธรรมดา ถ้าฉินเฟิงโดนพาตัวไปเขาอาจจะโดนฆ่าทางเดียว
“ฉินหวงแม้ว่าคุณจะเป็ตัวแทนการค้าในเมืองเว่ยเฉิงและมีส่วนร่วมมากมายในเศรษฐกิจของเมืองแต่มันก็เป็ความจริงที่ว่าฉินเฟิงฆ่าคนผมหวังว่าคุณจะไม่พยายามปกป้องเขาอีกต่อไปนะ ไม่งั้นผมจะจับคุณด้วยเหมือนกัน”อธิบดีจ้าวรู้สึกค่อนข้างโกรธและไม่ไว้หน้าฉินหวงใดๆ ทั้งสิ้นเขาตกลงแล้วว่าจะพาฉินเฟิงไป
ใบหน้าของฉินหวงค่อยๆคล้ำลงและจ้องไปที่ลุงฝู คนที่กำลังถือกองเอกสารและส่งให้เขาทันที
ฉินหวงเปิดเอกสารและแสดงให้อธิบดีจ้าวดู“อธิบดีจ้าว ตามที่ผมตรวจสอบแล้วชายแก่คนที่ฉินเฟิงพลาดพลั้งฆ่าไปไม่ใช่คนอย่างที่ประมุขตระกูลฮ่าวบอกเขาไม่ใช่พ่อบ้านของตระกูลฮ่าว แต่เป็ฆาตกรที่ฆ่าคน 6 คนในแถบตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ 3 ปีก่อนเป็ผู้ร้ายข้ามแดนที่ฆ่ายกครอบครัว จางเฟย”
หลังจากมองเอกสารทั้งหมดที่ฉินหวงส่งให้เขาความแปลกใจก็ประกายในดวงตาของอธิบดีจ้าว แต่สีหน้าของเขาก็เ็าในไม่ช้าอีกครั้ง“ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าเอกสารพวกนี้ไม่ได้ปลอมแปลง? แม้ว่าจะเป็เื่เมื่อ3 ปีก่อนมันก็อาจจะใช้เวลาในการตัดสินว่าชายแก่คนนั้นเป็ฆาตกรจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามแม้แต่คุณก็เห็นว่าฉินเฟิงทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นผมก็ยังจะพามันไปที่เมืองหลวงถ้ามีใครกล้าหยุดผมละก็ อย่าหาว่าผมไม่สุภาพแล้วกัน ผมจะพาพวกมันไปด้วยเลย”
ตระกูลฮ่าวได้บอกอธิบดีจ้าวเกี่ยวกับเื้ัของเฒ่าเฟิงแล้วตอนนี้ฉินหวงก็รู้เื้ัของเฒ่าเฟิงด้วยเช่นกันอธิบดีจ้าวจึงต้องรีบพาฉินเฟิงไปให้เร็วยิ่งกว่าเดิม
คำพูดกดขี่ของเขาทำให้คนที่มาจากตระกูลฉินไม่รู้ว่าจะพูดอะไรพวกเขาทำได้แค่มองดูอธิบดีจ้าวเตรียมพร้อมจะพาฉินเฟิงไปขณะที่พวกเขาพยายามดิ้นรนหาวิธี
“เดี๋ยวก่อน ฉันจะดูว่าใครมันกล้าพาฉินเฟิงไปในวันนี้!”ในเวลาสำคัญมากอย่างนี้ เสียงที่หนักแน่นและมั่นคงก็ดังออกมา
ทุกคนหันไปมองที่ทางเข้าคุกและเห็นชายแข็งแรงตัวสูงถัดจากเขาคือสาวสวยที่ผมดัดเป็ลอน สูงและมีรูปร่างเย้ายวนพวกเขาเดินมาหาคนที่เหลืออย่างไม่เร่งรีบ
เมื่อพวกเขามาใกล้ขึ้นผู้คนก็เห็นว่าสองคนนั้นเป็ใครหนึ่งในผู้ชายที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองจิ้นเฉิง เฒ่าหานและลูกสาวของเขาหานอิ๋งอิ๋ง
ตระกูลหานเป็ตระกูลของข้าราชการระดับสูงปู่ของหานอิ๋งอิ๋งเป็นักการเมืองที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเขาเป็อดีตข้าราชการระดับสูงที่เกษียณแล้วและถือครองอำนาจมากพ่อของเธอก็ค่อนข้างมีอำนาจและอิทธิพล เขามีลูกสาวแค่คนเดียวคือหานอิ๋งอิ๋งอย่างไรก็ตาม หานอิ๋งอิ๋งไม่ได้สนใจเื่การเมืองและรัฐบาลแต่หลงใหลในธุรกิจการตลาด เธอได้รับการยกย่องในฐานะนักธุรกิจสาวสวยอัจฉริยะแห่งเมืองจิ้นเฉิง
ด้วยเหตุนี้อำนาจของตระกูลหานจึงดูแคลนไม่ได้ แต่พวกเขาเป็หน้าใหม่ในโลกธุรกิจนี่จึงเป็เหตุผลที่ทำไมหานอิ๋งอิ๋งถึงมาที่เมืองเว่ยเฉิงเพื่อสร้างพันธมิตรกับตระกูลฉิน
เธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตระกูลหานจะสนับสนุนและปกป้องฉินเฟิง
“ท่านอธิบดีจ้าว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คนไม่ว่างอย่างคุณมาทำอะไรในที่นี่?”เฒ่าหานเดินมาหาอธิบดีจ้าวและยิ้มอย่างเป็มิตร
อย่างไรก็ตามอธิบดีจ้าวไม่สามารถยิ้มกลับได้ ทันทีที่เขาเห็นเฒ่าหานเขาก็รู้ถึงอำนาจที่อีกฝ่ายถือครอง
หัวหน้าหานถือครองอำนาจมากมายและแม้แต่อธิบดีจ้าวก็ต้องพิจารณาว่าคุ้มหรือเปล่าที่จะหาเื่ตระกูลหานเพื่อตระกูลฮ่าว
“ผมไม่ยุ่งเท่าพี่หานหรอกครับ”อธิบดีจ้าวฝืนยิ้มออกมาขณะที่มองเฒ่าหานและถาม “พี่หาน พี่มาที่นี่ทำไมเหรอ?”
อธิบดีจ้าวพยายามเลี่ยงคำแต่ทุกคนบอกได้ว่าเขาพยายามจะพูดอะไร รอยยิ้มของเฒ่าหานก็แจ่มใสขึ้นขณะที่ตอบว่า“ท่านอธิบดีจ้าว คุณอาจจะเข้าใจผิดนะ ผมไม่ได้มาทำอะไรที่นี่หรอกแต่เป็ลูกสาวสุดที่รักของผมที่สนใจในตัวฉินเฟิงและรู้ว่ามีบางคนใส่ร้ายเขาเธอจึงโทรหาตาแก่ของผม ท่านทั้งโกรธและด่าใส่ผม แล้วสั่งให้ผมมาที่นี่”
“ท่านอธิบดีจ้าว คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม?”
ใครจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เฒ่าหานเพิ่งบอก? ไม่มีใครคิดว่าสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองจิ้นเฉิงจะสนใจนายน้อยเ้าสำราญแห่งตระกูลฉิน
และตอนนี้เพื่อคนรักของเธอหานอิ๋งอิ๋งถึงขนาดพาปู่ของเธอมาเกี่ยวข้องด้วย ดูเหมือนว่าอาจจะมีการแต่งงานระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลหานก็เป็ได้
ว่าที่ลูกเขยในอนาคตของตระกูลพวกเขากำลังโดนใส่ร้ายป้ายสีและตัดสินโทษปะาหัวหน้าหานจะนั่งเฉยได้อย่างไร? เขาตัดสินใจว่าจะช่วยในเื่นี้และพาฉินเฟิงออกมา
ทุกคนดูใกันหมดขณะที่ฉินเฟิงมองไปที่หานอิ๋งอิ๋งที่น่าหลงใหลและมีเสน่ห์ด้วยความสนใจเขาไม่เคยคิดว่าหานอิ๋งอิ๋งจะไปขอร้องปู่ของเธอมาปกป้องเขา
ยิ่งกว่านั้นเธอถึงขนาดอ้างว่าเธอชอบเขาเพื่อบังคับให้ปู่ของเธอลงมือ
ฉินเฟิงรู้ว่าเขาอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงกับหานอิ๋งอิ๋งโชคดีที่มีภารกิจให้พิชิตหานอิ๋งอิ๋งอยู่การมีอำนาจและสาวสวยอยู่ข้างกายก็ค่อนข้างเป็เื่ที่ดีจริงๆ
สีหน้าของอธิบดีจ้าวคล้ำลงขณะกัดฟันภายในรู้สึกขัดแย้งอย่างมาก หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ยิ้มขณะที่ตัดสินใจ
“ท่านหาน ผมมีเื่ต้องทำ ดังนั้นผมขอตัวก่อนถ้าพี่ว่างเมื่อไรในเมืองหลวงก็แวะมาหาผมด้วยนะครับ”อธิบดีจ้าวตบบ่าของเฒ่าหานขณะเดินออกมาจากคุก
ภายใต้แรงกดดันจากตระกูลฉินและตระกูลหานเขาตัดสินใจที่จะทิ้งตระกูลฮ่าวไป
หลังจากอธิบดีจ้าวออกไปแล้วคนของตระกูลฮ่าวก็แฟบเหมือนลูกโป่งและไม่ได้พูดอะไรอีก
ฉินหวงบอกหัวหน้าหม่าให้จัดการเอกสารในการปล่อยตัวฉินเฟิงจากคุกแล้วก็ยิ้มขณะเดินไปหาเฒ่าหานและกล่าวว่า “พี่หานครั้งนี้ผมต้องขอบคุณตระกูลหานจริงๆ ถ้าคุณ้าให้เราช่วยอะไรโปรดอย่าเกรงใจเลย”
เฒ่าหานและฉินหวงเป็แค่คนรู้จักและไม่ได้มีความสัมพันธ์มากนักเขาแค่ช่วยฉินเฟิงเพราะว่าลูกสาวของเขาตื๊อขอร้องเขาและปู่ของเธอ ดังนั้นเขาจึงตอบ“น้องฉินหวง คุณควรจะขอบคุณลูกสาวผมนะนี่เป็ครั้งแรกที่ผมเห็นลูกสาวผมเศร้าเพราะผู้ชายจนถึงจุดที่เธอไปร้องไห้กับปู่ของเธอ”
“ฉินเฟิง จำไว้ว่าห้ามทิ้งอิ๋งอิ๋งเด็ดขาดไม่งั้นฉันจะจับแกเข้าคุกตลอดชีวิตด้วยตัวเอง” เฒ่าหานกังวลเื่ลูกสาวของเขามากกว่าและจ้องฉินเฟิงทันทีและให้คำเตือน
ฉินเฟิงรู้สึกช่วยไม่ได้ทันทีที่เขาได้ระบบราชันเ้าสำราญมา เขาก็รู้ว่าเขาอาจจะพัวพันกับผู้หญิงหลายคนถ้าเฒ่าหานรู้ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นอีก เขาคงจะไม่ใช้กองทัพทำลายเขาหรอกนะ?
หานอิ๋งอิ๋งมองฉินเฟิงที่ทำสีหน้าปั้นยากและรู้สึกข้องใจนิดหน่อย เธอรีบมาหาพ่อของเธอและจ้องเขาอย่างโมโหขณะที่พูดว่า “พ่อหนูไม่อนุญาตให้พ่อขู่ฉินเฟิงนะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้