เขาคิดว่าความเอาใจใส่ของชิวฮว๋ายจุนนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่ อาจจะเป็ความทะเยอทะยานทางการเมืองเล็กๆ น้อยๆ ไม่อย่างนั้นจะมาคอยปรนนิบัติเขาทุกฝีก้าวเช่นนี้ไปเพื่ออะไร? การพึ่งพาอาศัยกันและกันคือสัจธรรมของสังคม เขาจึงไม่ลังเลที่จะสนับสนุนรุ่นน้องที่เก่งกาจ หากชิวฮว๋ายจุนประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น หรือแม้แต่ก้าวขึ้นมาอยู่เหนือเขา ก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร
ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ชิวฮว๋ายจุนตอบคำถามของนักข่าว หวังจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ชิวฮว๋ายจุนได้แสดงตัว แต่ชิวฮว๋ายจุนกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้นเท่าที่ควร แถมยังจงใจทำหน้าบึ้งตึง ไม่ได้แสดงความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก
"ผมไม่ถนัดพูดต่อหน้าสื่อครับ ขอบคุณท่าน สส. ที่กรุณา" ในการแถลงข่าวครั้งหนึ่ง เขาเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งชิวฮว๋ายจุนตอบกลับเช่นนั้น ดวงตาสีดำขลับเป็ประกายระยิบระยับ พลางยิ้มอย่างขวยเขิน
แต่เมื่อได้เห็นการดูแลเอาใจใส่ที่แทบจะไม่มีที่ติของชายหนุ่ม เซี่ยชิงหลิวก็ยิ่งสับสน
'ถ้าจะบอกว่าไม่คาดหวังอะไรเลยสิ ถึงเป็เื่แปลก' นี่คือประสบการณ์ที่เซี่ยชิงหลิวคลุกคลีอยู่ในวงการการเมืองมานาน ดังนั้นเขาจึงเริ่มจับตาดูชิวฮว๋ายจุน
ชายหนุ่มมาทำงานและเลิกงานตรงเวลาทุกวัน ไม่เคยลาหยุด ใส่แต่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำตลอดเวลา หมกตัวอยู่ในห้องทำงานของเขาตลอดทั้งวัน บางครั้งงานเลี้ยงเลิกดึกเกินไป เขาก็ทำหน้าที่เป็คนขับรถโดยไม่มีข้ออ้าง ราวกับไม่มีชีวิตส่วนตัว ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา
"ฮว๋ายจุน นายตามฉันไปทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์ แฟนสาวของนายไม่บ่นบ้างเหรอ?"
ในเช้ามืดวันหนึ่ง พวกเขากำลังเดินทางอยู่บนทางหลวงที่ไร้ผู้คน เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิง ถามคำถามที่ละลาบละล้วงความเป็ส่วนตัว เหมือนเป็การคุกคามทางอำนาจเสียอย่างนั้น
"ผมไม่มีแฟนหรอกครับ" ชิวฮว๋ายจุนหัวเราะเบาๆ
'ฮึ แบบนี้ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่'
เซี่ยชิงหลิวจ้องมองท้ายทอยที่สวยงามของชายหนุ่ม พึมพำในใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับคำตอบที่วกวนของชิวฮว๋ายจุนในตอนนั้น
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน เขาได้เข้าใจแล้วว่าทำไมชิวฮว๋ายจุนถึงตอบว่า "ไม่มีแฟน" แทนที่จะเป็ "ไม่มีแฟนสาว" ...เพราะเขาได้นอนกับชิวฮว๋ายจุน
วันนั้นพวกเขาไปร่วมงานแต่งงานของอดีตหัวหน้าพรรคที่โรงแรมน้ำพุร้อนซึ่งอยู่ห่างจากเมืองทีด้วยการเดินทางถึงสองชั่วโมง ในงานมีแต่ผู้บริหารระดับสูงของพรรค สิ่งที่พูดคุยกันก็หนีไม่พ้นเื่เงินและอำนาจ
เ้าภาพเอาใจใส่เป็อย่างดี จัดห้องสวีทวีไอพีสุดหรูให้แขกที่มาร่วมงานทุกคน ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มแล้วดื่มอีก จนสุดท้ายเขาต้องแกล้งทำเหล้าหกใส่ตัวเอง ถึงจะหนีรอดจากพวกคนแก่คอแข็งราวกับโจรป่าพวกนั้นมาได้
เขาคล้องแขนชิวฮว๋ายจุนกลับห้องพัก ซบศีรษะกับไหล่ของชายหนุ่ม เขาได้กลิ่นหอมเย็นเยียบนั้น สติที่พร่าเลือนก็กลับคืนมาในทันที
ชายหนุ่มจัดการเปลี่ยนเสื้อสูทที่เปียกชุ่มให้เขาอย่างคล่องแคล่ว พูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนว่า "ท่านสส.ครับ ผมจะให้ทางโรงแรมทำความสะอาดเสื้อของท่านให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้เสื้อคืน ท่านไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ"
ประสิทธิภาพในการทำงานของชิวฮว๋ายจุนนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เขากำลังจะเปิดฝักบัว ก็ฉุกคิดขึ้นมาว่าเขาลืมเอาโฟมโกนหนวดมาด้วย ยี่ห้อที่โรงแรมเตรียมไว้ก็ไม่ถูกใจเขา คิดว่าเื่เล็กน้อยแค่นี้ไม่ควรเรียกชิวฮว๋ายจุน ฝักบัวจึงถูกเปิดทิ้งไว้ เขาสวมผ้าเช็ดตัวพัน่ล่างไว้หลวมๆ แล้วเดินออกจากห้องน้ำ
เขายังไม่ทันเดินไปถึงห้องนอน สายตาก็เหลือบไปเห็นชิวฮว๋ายจุนยืนหันหลังให้เขาอยู่ที่เตียง กอดเสื้อสูทที่เขาเพิ่งเปลี่ยนออกมาไว้แน่น แถมยังซุกใบหน้าลงไปในนั้น
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง นึกว่าเป็ภาพลวงตา จนกระทั่งเห็นภาพสะท้อนจากกระจก ชิวฮว๋ายจุนยืนขาแข็งทื่อ กางเกงสูทคับติ้วจนน่าอาย ปลายหูแดงก่ำราวกับจะมีเืหยด แม้แต่ปลายผมก็ยังสั่นระริก
ไม่ว่าเขาจะสับสนขนาดไหน เขาก็เข้าใจแล้วว่าชิวฮว๋ายจุนคิดอย่างไรกับเขา
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจ กลับรู้สึกสงบนิ่ง และเพราะแบบนี้ เื่ราวทุกอย่างก็กระจ่าง ่นี้สิ่งของของเขาหายบ่อย ตอนแรกเป็ปากกาและไฟแช็ก ต่อมาเป็ที่หนีบเนกไทและกระดุมข้อมือ แม้จะเป็ของเล็กๆ น้อยๆ แต่ความถี่ในการหายก็สูงจนแม้แต่คนที่ไม่ใส่ใจเื่เล็กน้อยอย่างเขายังสังเกตได้
เขารู้สึกแปลกใจ แต่คิดว่า่นี้ตัวเองยุ่งจริง อาจจะขี้ลืมก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใดที่ของหาย ชิวฮว๋ายจุนจะหามาทดแทนให้ทันที เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
'ที่แท้ก็เป็หนูขโมยของนี่เอง เขามองเด็กที่ดมเสื้อสูทอย่างลืมตัว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา'
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ชิวฮว๋ายจุนก็หันขวับมาทันที เห็นเขายืนพิงกรอบประตูห้องนอน กอดอกยิ้มบางๆ ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มก็ซีดเผือด ดวงตาแข็งค้าง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ใบหน้าที่อยากจะแทรกแผ่นดินหนีนั้นช่างน่าขัน กระตุ้นให้เซี่ยชิงหลิวอยากจะแกล้งเขาขึ้นมา
ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ เดินเข้าไป หยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่ใจนเสียสติ แล้วค่อยๆ หยิบเสื้อสูทออกจากอ้อมแขนของเขา
"นายมันเด็กไม่ดี" เขายักคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงติดหัวเราะ
เมื่อถูกเย้าเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ทรุดตัวลงนั่งริมเตียงทันที ทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้ออกมา กางเกงสูทก็ยังคงคับติ้ว ริมฝีปากขยับเบาๆ สุดท้ายก็ก้มหน้ามองพรม ปล่อยให้เขาจัดการแต่โดยดี
เขามองปลายขนตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาของชิวฮว๋ายจุน ความรู้สึกร้อนรุ่มก็พุ่งลงไปยังท้องน้อยของเขาอย่างรุนแรง ความปรารถนามาถึงอย่างรวดเร็วและรุนแรง เขาก้าวเข้าไปหาชิวฮว๋ายจุนที่หมดอาลัยตายอยาก ยกเท้าขึ้นเหยียบต้นขาของอีกฝ่าย แถมยังจงใจใช้นิ้วเท้าเขี่ยบริเวณที่โป่งพองจนคับแน่นกางเกงอีกด้วย
"ท่านสส. อื้อ...!" ชิวฮว๋ายจุนครางออกมา กลั้นเสียงไว้ด้วยมือ สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
เด็กคนนี้มันหื่นกระหาย หรือแค่ทนการยั่วเย้าไม่ได้กันแน่นะ... เซี่ยชิงหลิวรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ปลายเท้า เขาหัวเราะเบาๆ ภายในใจเบิกบานอย่างหาที่สุดไม่ได้ จึงเชยคางของชายหนุ่มขึ้น พบว่าชิวฮว๋ายจุนกำลังร้องไห้อยู่ ทั้งตื่นเต้นและอับอาย แม้จะเงยหน้าขึ้น ก็ยังไม่กล้าสบตาเขา
"ว่ามาสิ นายอยากให้ฉันทำอะไร?" เซี่ยชิงหลิวหัวเราะเบาๆ
ดวงตาของชิวฮว๋ายจุนเบิกกว้างทันที สีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อถูกจ้องมองด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา เซี่ยชิงหลิวก็รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะลุกเป็ไฟ
ราวกับรู้สึกอดรนทนไม่ไหว เขาจึงเพิ่มแรงบีบที่คางของชายหนุ่ม "เด็กดี พูดออกมาสิ"
เมื่อได้ยินคำสั่งที่คุ้นเคย ชายหนุ่มที่ว่านอนสอนง่ายก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย สุดท้ายก็เลือกที่จะทำตามคำสั่ง
เห็นเพียงชิวฮว๋ายจุนกัดริมฝีปาก ยื่นนิ้วมือสั่นเทิ้มออกมาปลดผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวของเขาออกอย่างเชื่องช้า "...ผม"
แม้จะเป็เสียงกระซิบ แต่ก็มากพอที่จะเติมเชื้อไฟให้ลุกลาม
เซี่ยชิงหลิวไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน แต่เมื่อัักับส่วนนั้นของชิวฮว๋ายจุนที่กำลังจะต้อนรับเขา เขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือผิดแปลก กลับรู้สึกว่าดอกไม้งามสีแดงสดนั้นมีความเซ็กซี่อย่างประหลาด ความปรารถนาที่ฝังลึกลงไปทำให้เคลิบเคลิ้ม ร้อนระอุและลื่นไหล ราวกับสมองของเขากำลังจะถูกหลอมละลาย
ไม่รู้ว่าเป็เพราะมีอะไรกับผู้ชายจึงไม่ต้องกังวลเื่การถนอมน้ำใจ หรือดื่มสุราจนมึนเมาเสียสติ เซี่ยชิงหลิวไม่เคยกระทำรุนแรงขนาดนี้มาก่อน ชิวฮว๋ายจุนถูกเขากระทำในท่วงท่าแปลกๆ โดยไม่ร้องปริปากเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่กัดเขาเบาๆ เมื่อเ็ป แต่ก็แค่เบาๆ เหมือนลูกแมวกัดของเล่นเวลามันเขี้ยว
เมื่อถูกเขาบังคับให้เปิดปาก ชายหนุ่มก็ครางออกมาเบาๆ แถมยังแลบลิ้นเลียตามซอกนิ้วของเขา ดวงตาหยาดเยิ้มดั่งแพรไหม ทำให้เซี่ยชิงหลิวขนลุกซู่ อดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วบีบลิ้นของเขาอย่างแรง ด่าทอเบาๆ ว่า "...ไอ้เด็กสำส่อน!"
เขาด่าก็จริง แต่ก็ยังตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ ยกเรียวขาของชิวฮว๋ายจุนขึ้นพาดบ่า กระหน่ำแทงเข้าไปในส่วนที่เปียกชื้นอย่างบ้าคลั่ง และสุดแรงทุกครั้งที่กระแทก
"อื้อ อื้อ... ท่านสส. ตรงนั้นอย่า... อ๊า อ๊า..." ชายหนุ่มพร่ำเพ้อทั้งน้ำตา แต่ก็กลับบีบรัดแน่นกว่าเดิมอย่างปากไม่ตรงกับใจ
เซี่ยชิงหลิวไม่ได้ข้องแวะทางโลกีย์มานาน เมื่อถูกบีบรัดเช่นนั้น เขาก็ยอมแพ้อย่างรวดเร็ว จับเอวของชิวฮว๋ายจุนไว้แน่น กระแทกอย่างรุนแรงหลายสิบครั้ง กระทั่งปลดปล่อยออกมาพร้อมเสียงครวญครางที่ดังสนั่นของชิวฮว๋ายจุน
หลังจากได้พักหายใจ เขาค่อยๆ ถอนตัวออกจากร่างของชิวฮว๋ายจุน เมื่อเขาถอนแก่นกายออกไป ของเหลวมากมายก็ไหลหลั่งออกมา ทั้งสีแดงและสีขาวเลอะเทอะไปหมด ทำให้ส่วนที่ถูกเขาขยี้อย่างหนักนั้นดูน่าสงสารและน่าอับอาย
เมื่อเห็นของเหลวที่ขาหนีบของอีกฝ่าย เซี่ยชิงหลิวก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย
ห้าปีก่อนเขาหย่ากับอดีตภรรยา เขามีแฟนแค่คนเดียว เป็ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเก่า แฟนของเขาไม่ได้อยากสร้างครอบครัว ดังนั้นตอนมีอะไรกันจึงใส่ถุงยางอนามัยสองชั้นมาตลอด
แฟนสาวไม่มีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับการมีเซ็กซ์แบบรักษาความสะอาดของเขา ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ี้เีเอาใจอีกฝ่าย จะยกปืนขึ้นยิงเลยก็ยังได้ แต่วันนี้การแนบเนื้อแนบตัวที่ร้อนระอุและลื่นไหลกับชิวฮว๋ายจุนกลับน่าจดจำอย่างไม่คาดคิด บริเวณที่บวมแดงชุ่มชื้นนั้นหดตัวลง ราวกับกำลังยั่วยวนเขา เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปัับริเวณที่ยังเปียกแฉะไปด้วยน้ำ
"อืม..." ชิวฮว๋ายจุนครางยาวออกมาจากจมูก สั่นเทิ้มไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ยอมผ่อนคลายร่างกาย ปล่อยให้นิ้วมือของเขาแทรกเข้าไปลึกขึ้น