เซี่ยโม่เดาว่า เมื่อสักครู่นี้น่าจะเป็งู ในป่าคือที่ที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น ย่อมเป็สถานที่อยู่อาศัยของพวกงู
งูจะไวต่อหรดาลและสิ่งที่มีกลิ่นรุนแรง ครั้งก่อนตอนเก็บดอกสายน้ำผึ้ง เธอเจองูเข้า เลยใช้ยาไล่แมลงฉีดใส่พวกมัน ซึ่งก็ได้ผลดี
เซี่ยโม่ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นอีกครั้ง เดาว่าน่าจะเป็พวกงู เธอเลยฉีดยาไล่แมลงไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแค่นั้นยังพ่นรองเท้าและกางเกงที่ตัวเองสวมอยู่อีกด้วย เมื่อทั้งตัวมีกลิ่นฉุนกึกถึงค่อยเดินไปข้างหน้าต่อ
ยิ่งเดินเข้าไปในป่าลึก อากาศก็ยิ่งร้อนชื้น เธอยกมือขึ้นปาดเหงื่อตามใบหน้า หยิบนมจากในโกดังสินค้าออกมาดื่ม
ไม่รู้ว่าเป็เพราะนานแล้วที่ไม่ได้ดื่มนม หรือเป็เพราะร่างกายขาดนมมานาน เธอเลยรู้สึกว่านมก็รสชาติไม่เลว
ในชาติที่แล้วเซี่ยโม่ไม่ค่อยชอบดื่มนม หลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่เลยลืมที่จะดื่มมัน และลืมให้คนในบ้านดื่มด้วยเช่นกัน
เธอมองนมมากมายหลายยี่ห้อที่วางอยู่บนชั้น ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า หลังจากนี้เธอจะให้คนในบ้านดื่มนมทุกวัน
โดยเฉพาะคุณตาคุณยายที่อายุมากแล้ว จำเป็ต้องกินแคลเซียมเข้าไปเสริม
ถ้าให้พวกท่านดื่มโดยตรง ต้องมีคำถามอย่างแน่นอน เธอเลยคิดว่าจะผสมลงในอาหารแทน เวลาทำอาหารจำพวกแป้งก็ผสมนมผงหรือไม่ก็นมสดลงไปด้วย หากคุณตา คุณยาย และอาจารย์กินก็จะได้เพิ่มแคลเซียมและวิตามินแร่ธาตุในร่างกาย
คุณลุงกลับมาเมื่อไร เห็นคุณตาคุณยายสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะต้องดีใจอย่างแน่นอน
เธอนึกถึงชาติที่แล้ว พอรู้ว่าคุณตาคุณยายเสียชีวิตไปแล้ว คุณลุงมีสีหน้าเศร้าเสียใจอย่างมาก ชาตินี้เธออยากเห็นสีหน้าดีอกดีใจของคุณลุง อยากเห็นคุณลุงเป็เศรษฐีที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม
และไม่แน่ว่าต่อไปญาติของอาจารย์ก็จะกลับมาตามหาอาจารย์เช่นกัน หากเห็นอาจารย์ร่างกายแข็งแรงจะต้องดีใจแน่นอน
เธอดึงความคิดกลับ หยิบซาลาเปากับไส้กรอกออกมากิน หลังจากกินอิ่มก็ออกเดินต่อ
เวลาผ่านไปได้ราวชั่วโมงเศษ เธอหยุดยืนอยู่กับที่ มองไปเบื้องหน้าไกลๆ
นั่นอะไรน่ะ?
ข้างหน้ามีต้นไม้ล้มสองสามต้น อาจเป็เพราะล้มมานานแล้วจึงถูกใบไม้เน่าแห้งปกคลุมจนเกือบมิด ท่ามกลางใบไม้แห้งพวกนั้น เธอเห็นอะไรบางอย่างสีดำอยู่บนลำต้นของต้นไม้ที่ล้ม
เมื่อเดินเข้าไปใกล้จนพอมองเห็นได้อย่างชัดเจน พบว่ามันคือเห็ดหูหนูดำนั่นเอง
เห็ดหูหนูดำเป็ของดี เธอเก็บมันใส่ตะกร้าด้วยความตื่นเต้นยินดี
เซี่ยโม่คิดในใจ เธอขึ้นเขามาทุกวันไม่เห็นเคยเจอมันสักครั้ง มันคงจะขึ้นอยู่แต่ในป่าที่ไม่ค่อยมีคนเดินเข้ามากระมัง
หากไม่ใช่เห็ดหูหนูดำสดๆ ต้องนำไปตากแดดก่อนถึงจะกินได้ เธออยากชิมใจจะขาดแล้ว
ตรงนี้มีเห็ดหูหนูดำขึ้นเต็มไปหมด ไม่นานก็เก็บได้ถึงครึ่งตะกร้า เธอปาดเหงื่อที่หน้าผาก ก่อนจะก้มเก็บต่อ
เอ๋ นี่คือ?
เซี่ยโม่ตาโต บนพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง มีบางสิ่งบางอย่างโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ไม่ใช่เห็ดธรรมดา แต่คือเห็ดหลินจือ
เธอจำได้ว่า เห็ดหลินจือแบ่งออกเป็หกชนิด คือ สีแดง สีดำ สีเขียว สีขาว สีเหลือง และสีม่วง ตรงหน้าเธอคือที่พบเจอได้บ่อยที่สุด เห็ดหลินจือสีแดง
ในหนังสืออธิบายถึงสถานที่ที่จะพบเห็ดหลินจือไว้ว่า พวกมันชอบขึ้นในสภาพอากาศร้อนชื้น มักพบบนขอนไม้เก่าหรือเศษซากพืช
ซึ่งก็ตรงกับแถวนี้ทุกอย่าง
เซี่ยโม่ก้มเก็บด้วยความดีใจ มีเห็ดหลินจือทั้งหมดหกต้น ที่ใหญ่ที่สุดน้ำหนักน่าจะประมาณครึ่งกิโลกว่า ส่วนต้นที่เล็กที่สุดน้ำหนักเกือบครึ่งกิโล ไม่รู้ว่าพวกมันขึ้นอยู่ตรงนี้มานานกี่ปีแล้ว แต่ละต้นมีทั้งหมดหกแฉกด้วยกัน
เธอเด็ดพวกมันแล้วใส่ไว้ในโกดังสินค้า ไม่รู้ว่าถ้านำไปขาย จะขายได้เงินเท่าไร จะพอสำหรับซื้อจักรยานหรือไม่
เผื่อไม่พอซื้อ เธอก็เลยเดินดูรอบๆ เพื่อมองหาสมุนไพรหายากเพิ่มอีก พอตะกร้าเต็มก็ใส่เอาไว้ในโกดังสินค้า
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่ ก่อนจะตัดสินใจเอากิ่งไม้แห้ง รวมถึงดินแถวๆ นี้ใส่ในโกดังสินค้ากลับไปด้วย ตั้งใจว่าจะหาที่เหมาะๆ เอากิ่งไม้กับดินพวกนี้ไปวาง ไม่แน่อาจจะมีเห็ดหูหนูดำกับเห็ดหลินจือขึ้นมาอีกก็ได้
เสร็จเรียบร้อยก็หยิบมีดถางหญ้าขึ้นมาแล้วเดินต่อไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เซี่ยโม่เห็นอะไรบางอย่างสีดำ ขนาดเท่ากำปั้นอยู่ในพงหญ้าข้างหน้าใกล้ๆ
นั่นคือตัวอะไร เม่นหรือกระต่ายสีดำ?
กระต่ายที่เธอเคยเจอในป่าส่วนใหญ่จะตัวสีเทา น้อยมากที่จะเจอสีดำสนิท
หากเป็กระต่ายสีดำจริง เธอก็จะนำมันไปเลี้ยง มันน่ารักออกจะตาย
ตัวที่อยู่ข้างหน้าเธอมีสีดำสนิทดุจผ้าแพรคุณภาพดี ครั้นเดินเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นคาวเืฉุนจมูก
กลิ่นมาจากเ้าตัวน้อยสีดำสนิทที่อยู่ข้างหน้าเธอนั่นเอง
กระต่ายน้อยที่น่ารักขนาดนี้ ใครกันนะทำร้ายมันได้ลงคอ
เซี่ยโม่อยากสำรวจดูว่ามันมีแผลตรงไหนหรือไม่ จะได้เอายาอวิ๋นหนานไป๋ซึ่งมีสรรพคุณช่วยห้ามเืและสมานแผลมาพ่นให้
เห็นคนเข้ามาใกล้ เ้าตัวน้อยเงยหน้ามองเธอด้วยแววตาหวาดกลัว
เธอถึงได้รู้ว่า ที่แท้เ้าตัวน้อยตรงหน้าไม่ใช่กระต่าย แต่คือลูกสุนัข
ลูกสุนัขตัวนี้น่ารักเหลือเกิน ใบหูแหลม ตาสีน้ำตาลคลอไปด้วยหยาดน้ำตาดูน่าสงสาร ตรงขาหน้ามีแผลเืไหลซึม ไม่รู้ว่าถูกกัดหรือเป็เพราะหกล้ม
ที่น่าประหลาดคือ ตรง่ปลายเท้าทั้งสี่ของมันเป็สีขาวบริสุทธิ์ ในขณะที่่ตัวมีสีดำสนิท สีขาวดำตัดกันอย่างชัดเจน น่ารักน่าชังเป็ที่สุด
ตัวของมันเล็กมาก ทั้งยังเปียกชื้น คาดว่าน่าจะเพิ่งคลอดออกมาได้ไม่นาน
ไม่รู้ว่าแม่ของมันไปไหน ทำไมถึงเอามันมาทิ้งในป่า น่าสงสารเหลือเกิน
เธอเอายาอวิ๋นหนานไป๋มาพ่นที่ขาของมัน ไม่รู้ว่าเป็เพราะพ่นยาแล้วมันรู้สึกสบายตัวขึ้นหรืออย่างไร เ้าลูกหมาเลยมีท่าทีที่เป็มิตรต่อเธอมากขึ้น
แววตาเริ่มอ่อนลง เริ่มมองเธออย่างประจบเอาใจ
เซี่ยโม่หยิบผ้าพันแผลออกมาจากในโกดังสินค้าแล้วค่อยๆ พันที่ของขามันอย่างระมัดระวัง
มันคงจะเจ็บ ตัวถึงได้สั่นเทาอย่างพยายามสะกดกลั้นความเจ็บ
“เด็กดี พอพันเสร็จ อีกไม่นานเดี๋ยวแผลก็หาย” เธอพูดปลอบ
มันเอาหัวดุนมือเธอ ท่าทางน่ารักของมันทำเอาใจเซี่ยโม่อ่อนยวบ
หลังจากพันแผลเสร็จ เธอหยิบนมและถ้วยใบเล็กออกมาจากโกดังสินค้า เทนมใส่ในถ้วยแล้ววางไว้ตรงหน้ามัน
เ้าสุนัขตัวน้อยทำจมูกฟุดฟิด เงยหน้ามองเธออย่างซาบซึ้ง ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินนมในถ้วย
เธอนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนตอนน้องชายอยู่บ้านลำพัง หากตอนนั้นมีสุนัขอยู่ด้วยก็คงไม่เกิดเื่แบบนั้นขึ้น
ลูกสุนัขตรงหน้าดูท่าทางแล้วฉลาดเฉลียว เอากลับบ้านไปเลี้ยงจะต้องช่วยดูแลปกป้องน้องชายเธอได้แน่
คิดได้ดังนั้นเธอเลยถามความคิดเห็นมัน “เ้าตัวน้อย อยากจะไปกับฉันไหม เดี๋ยวฉันเลี้ยงแกเอง”
มันราวกับฟังรู้เื่ พยักหน้าตอบกลับมา
เธอยิ้มดีใจ “งั้นเดี๋ยวฉันตั้งชื่อให้ ชื่อว่าเสี่ยวเฮยดีไหม”
เสี่ยวเฮยเอาหัวถูไถที่มือเธอ
หมายความว่ายินยอม?
เธอดีใจ รอจนมันกินนมเสร็จ จึงหยิบของทั้งหมดขึ้นมาถือไว้ จะให้อุ้มเสี่ยวเฮยอีกก็ไม่สะดวก เซี่ยโม่เลยเอามันไปไว้บนเตียงในห้องคนดูแลโกดังสินค้าก่อน
เสี่ยวเฮยมองซ้ายมองขวาอย่างสำรวจ คงสงสัยว่าเธอหายไปไหน
มองหาได้สักพัก อาจเป็เพราะเริ่มง่วง มันถึงขดตัวนอนบนเตียงแล้วหลับไป
ชาติที่แล้วเธอไม่เคยเลี้ยงสัตว์ แต่เธอเคยได้ยินว่า สัตว์ที่เพิ่งเกิดหรือยังเล็กมักจะชอบนอนหลับ
เซี่ยโม่ยิ้มก่อนจะเดินต่อไปข้างหน้า ไก่ป่าสามสี่ตัวที่อยู่ในพุ่มไม้เห็นเธอก็ใ บินหนีหายไปคนละทิศคนละทาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้