อีกฟากหนึ่งไป๋เหลียนสตรีที่ถูกคนเกือบทั้งหมูบ้านเหม็นเบื่อขี้หน้า นางบังเอิญพบกับติงเฉิงชายคนรักกำลังระเริงรักกับสตรีอื่นกลางลำธาร รู้ว่าเขาหักหลังยังไม่เจ็บเท่าคำพูดดูถูกเหยียดหยาม ราวกับว่าที่ผ่านมามันเป็แค่เื่โกหก
“อืม... อย่าสิเ้าคะ มันจักจี้นะ คิก คิก”
“อันใดเล่า เ้าชอบละสิไม่ว่า”
“พี่ติงเฉิงข้าละไม่ชอบนังไป๋เหลียนเลยเ้าค่ะ เหตุใดท่านไม่บอกปฏิเสธไปตรง ๆ ข้าเห็นท่านดีกับนางทีไรก็ปวดใจเหลือเกิน ข้าหึงนะรู้ไหม” ซูหนี่เบือนหน้าหนีเพื่อหลบการปล้ำจูบของอีกฝ่าย อย่างไรเสียครั้งนี้จะต้องคุยกันให้รู้เื่ ให้เขารีบไปจัดการให้เรียบร้อย มิเช่นนั้นได้เห็นดีกันแน่
“เ้าก็รู้นี่ว่านางดื้อด้านแค่ไหน เห็นข้าดีด้วยเข้าหน่อยก็คิดไปเองจนกู่ไม่กลับ เหตุใดพี่จะไม่เคยบอกเล่าคนไร้ยางอายเช่นนั้นพูดจารู้เื่เสียที่ไหน แต่ไม่เป็ไรพี่คิดแผนจัดการไว้แล้วยอดรักไม่ต้องห่วง” สิ่งที่เขาพูดล้วนเป็เื่โกหกทั้งสิ้น ไป๋เหลียนนั้นรูปร่างหน้าตางดงามกว่าซูหนี่เป็ไหน ๆ แต่ติดที่นอกจากความงดงามแล้วไม่มีอะไรเทียบเท่าซูหนี่ได้เลย เพื่ออนาคตที่ดีตนจึงเลือกบุตรสาวผู้นำหมู่บ้าน แต่ครั้นจะปล่อยไป๋เหลียนไปก็เสียดาย จึงคิดจะเก็บไว้เป็เมียอีกคน
จะดีแค่ไหนกันนะ ทุกค่ำคืนมีสตรีถึงสองคนคอยปรนนิบัติพัดวี แค่คิดก็อยากจะให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ
“อย่างไรหรือเ้าคะ บอกข้าได้หรือไม่” ซูหนี่ถึงกับตาลุกวาว อยากรู้เหลือเกินว่าติงเฉิงจะจัดการกับนังหน้าด้านไป๋เหลียนอย่างไร
“จะไปยากอะไร พี่จะวางยาให้ไป๋เหลียนได้เสียกับบุรุษในหมู่บ้านสักคน เท่านี้นางก็ไม่มีหน้ามาเกาะแกะพี่ได้อีก วันนี้พี่เตรียมยามาพร้อมแล้ว แยกจากเ้าพี่จะไปจัดการให้เรียบร้อย” ความจริงแล้วเขาคิดจะใช้มันกับตนเองต่างหาก จากนั้นป้อนคำหวานให้ไป๋เหลียนยอมสักหน่อย นังนั่นโง่จะตายพูดอะไรก็เชื่อ ให้นางอยู่อย่างเงียบ ๆ รอวันที่ตนเกลี้ยกล่อมซูหนี่ได้เมื่อใด จึงค่อยพาเข้าบ้านเป็เมียอีกคน
“ดีเ้าค่ะ ข้าอดใจรอไม่ไหวแล้ว คิก คิก”
เสียงหัวร่อต่อกระซิกทำเอาไป๋เหลียนที่แอบตามมาได้ยินทุกถ้อยคำ ใจดวงน้อยถึงกับแตกสลาย ครั้นจะร้องก็ไม่สามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่ ได้แต่ปิดปากตนเองไว้ไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมาให้คนชั่วสองคนนั้นรู้ นางมันโง่เอง หลงเชื่อในน้ำคำไอ้คนสารเลวนั่น
หญิงสาวรื้อค้นกองเสื้อผ้าของทั้งสอง ควานหาขวดยาที่ว่านั้นจนพบ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะทำกับนางได้ลง ทว่าก่อนจากไปขอดับความแค้นด้วยการฉีกชุดของพวกเขาให้ขาดเป็ชิ้น ๆ ในเมื่อรักกันดีนัก ก็จงอับอายไปพร้อม ๆ กันเถิด
เมื่อหลบออกมาได้จึงคิดจะหาที่พักใจ นางหลับหูหลับตาวิ่งกระทั่งพบกระท่อมร้างหลังหนึ่ง นั่นจึงเป็เหตุให้พบบุรุษแปลกหน้า
ด้วยเพราะผิดหวังกับความรักที่เฝ้าบ่มเพาะมาอย่างดี หลงเชื่อคำพูดลวงโลกมานานนับปีเกือบยอมพลีกายให้ก็หลายครั้ง เพราะรักมากจึงเชื่อมากถูกเป่าหูให้ทำเื่แย่ ๆ มากมาย คนทั้งหมู่บ้านพานเกลียดชังกันหมด นี่น่ะหรือค่าตอบแทนที่นางได้รับ
ชาวบ้านที่ไม่รู้อะไรก็เอาแต่ต่อว่าตำหนิตนเป็สตรีไร้ยางอาย อยากได้บุรุษจนตัวสั่น ไปที่ใดก็ไม่มีที่ให้ยืน ไหน ๆ ก็เป็สตรีไร้ยางอายแล้ว หากความไร้ยางอายที่ว่าจะทำให้นางหลุดพ้นจากคนเหล่านี้ นางก็ยินดีจะทำ ด้วยความโกรธแค้นแวบหนึ่งความคิดด้านมืดกลับผุดขึ้น
ถึงสภาพจะดูไม่ต่างจากคนใกล้ตาย หากนางช่วยเขาให้พ้นจากความตายเขาจะต้องพานางไปจากที่นี่ได้แน่ แต่ถ้าหากเขาและนางได้เสียเป็ผัวเมียกันด้วยเล่า อย่างไรนางดูไม่ผิดแน่เครื่องแต่งกายของบุรุษผู้นี้จะต้องเป็คนใหญ่คนโตเป็แน่
อย่างไรเสียชายชาติทหารมักหยิ่งในศักดิ์ศรี พวกเขาถือเอาหน้าตาเป็หลักหากมีเื่ทำให้เสื่อมเสีย ไม่ว่าในฐานะอนุหรือบ่าวรับใช้ก็ช่าง ขอแค่ออกไปจากความบัดซบนี้ได้นางก็ยอม คิดแล้วก็แค้นนักหากไม่ถูกติงเฉิงหลอกเงินไปเกือบหมดตัว ตนก็คงไม่อับจนหนทางถึงขั้นทำเื่น่าอับอายเสียศักดิ์ศรี
กระนั้นความเขินอายก็ยังคงมีมากนัก หากจะให้ใจกล้าขืนใจบุรุษทั้งที่สติครบถ้วนก็คงไม่อาจทำได้ หญิงสาวจึงเทยาที่ยึดมาได้กรอกปากบุรุษตรงหน้าในขณะที่เขาไม่ได้สติ ส่วนที่เหลืออีกเกินครึ่งนางจัดการกระดกรวดเดียวหมดขวด หลังจากดื่มเข้าความร้อนรุ่มบังเกิด ใจเต้นแรงกว่าปกติเริ่มหายใจไม่ออก กระทั่งจังหวะการเต้นของหัวใจหยุดลง
ในเวลาเดียวกันผู้หนึ่งจากไปอย่างไม่รู้ตัว ทว่าผู้หนึ่งกลับมาอย่างไม่ตั้งใจ กระนั้นก็ไม่อาจฝืนฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้าได้ ความนึกคิดและสมองขัดแย้งกับร่างกาย สองฝ่ายต่อต้านแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับอาการกำหนัด สุดท้ายแล้วก็ถูกฤทธิ์ยาครอบงำ ทำตามความ้าของร่างกายอย่างช่วยไม่ได้
หญิงสาวชาวบ้านแต่งกายด้วยชุดเก่า ๆ เมื่ออารมณ์ได้ที่อาการกำหนัดแทนที่ความเขินอาย นางจัดการถอดกางเกงชายผู้นั้นออกอย่างร้อนรน ก่อนจะถลกกระโปรงตนเองขึ้น แล้วนั่งทับแก่นกายร้อนฉ่า ตะบี้ตะบันโยกเข้าใส่แก่นกายแข็งขืนเพื่อให้สำเร็จความใคร่
ในกระท่อมหลังผุพังกลางป่า บุรุษร่างสูงใหญ่นอนหายใจเหนื่อยหอบ เขากัดฟันทนความอดสูระคนอับอายอย่างเหลือแสน แม้ร่างกายขยับไม่ได้ทว่าส่วนนั้นกลับตั้งตรง สตรีบ้านั่นเอาอะไรให้เขากินในตอนหมดสติกันแน่ ทั้งบัดนี้เ้าตัวก็กำลังขึ้นขย่มบนตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง ห้ามปรามอย่างไรก็ดูเหมือนจะไม่เข้าหูอีกฝ่ายเอาเสียเลย
คอยดูเถอะ หากครั้งนี้รอดไปได้สาบานเลยว่าจะกลับมาฆ่าสตรีชั่วผู้นี้ให้ตายด้วยมือเขาเอง
หลี่มู่กวากล้ำกลืนฝืนทน ได้แต่อดทนอดกลั้นรอสถานการณ์อันน่าอับอายนี้ผ่านไปเสียที เขาเป็ถึงแม่ทัพแดนใต้ออกรบกรำศึกมานับไม่ถ้วน ทว่าบัดนี้เขากลับถูกสตรีบ้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไม่เหลือชิ้นดี
ความอัปยศครั้งนี้ข้าจะจำให้ขึ้นใจ...
หลังจากนางปฏิบัติจนเสร็จกิจก็ฟุบลงหมดสติไปทันที หลี่มู่กวาไม่สามารถทำอะไรได้เขาจึงกัดฟันปล่อยอีกฝ่ายนอนทับบนตัวเขาอยู่เช่นนั้น คิดอยากจะผลักออกแต่ไร้เรี่ยวแรงช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงบางอย่าง ใบหูเริ่มซับสีเมื่อส่วนนั้นยังคงแข็งค้างอยู่ภายในกายสาว จะเดินหน้าต่อก็ไม่ได้ กระนั้นจะถอยหลังก็ไม่ได้เช่นกัน
ด้วยเพราะท่อนล่างเปลือยเปล่ากันทั้งคู่ ชายหนุ่มจึงฮึดสู้งัดเอาแรงเฮือกสุดท้ายดึงเสื้อคลุมของหญิงสาวที่กระจัดกระจายเต็มพื้นขึ้นมาคลุมตัวพวกเขาไว้ มิใช่เพราะความเห็นใจแต่จะให้เขานอนเปลือยท่อนล่างทั้งอย่างนั้นก็ใช่เื่ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แม่ทัพหนุ่มได้แต่นอนรอ รอว่าเมื่อไรสตรีบ้าจะตื่นขึ้นมาแล้วลุกไปจากตัวเขาเสียที
ด้วยความอ่อนล้าจากพิษาแ รวมไปถึงการถูกวางยาและการกระทำขืนใจของสตรีแปลกหน้า ทำให้หลี่มู่กวาหลับไปทั้งที่อะไร ๆ ในตัวเขาทั้งสองยังคงสอดประสานกันอยู่เช่นนั้น