“ข้ารบกวนผู้กล้าทุกท่านในที่นี้แล้วหรือ?” เ่ิูหัวเราะแล้วว่า “ต้องขออภัยจริงๆ นะ พวกเ้าว่าต่อเถอะ ข้าแค่จะมาหาเ้า...” เขาชี้จ้าวหรูอวิ๋น “ใช่ เ้านั่นแหละ มีเื่นิดหน่อยน่ะ”
“หาข้าทำไม?” จ้าวหรูอวิ๋นย่างสามขุมเข้ามา เขาเหยียดยิ้มะเื “ตัวข้าว่าจะไปหาเ้าพอดี เ้ากลับมาหายันหน้าประตูเสียนี่”
“โอ๊ะ? เ้าก็จะหาข้าเหมือนกันหรือ?” เ่ิูเบิกตาอย่างจริงจัง เขาถามอารามแปลกใจ “หาข้าทำไมเล่า? อ้อ ข้ารู้แล้ว เ้าต้องหาเพราะสำนึกความผิดตัวเอง จึงอยากมาขอโทษข้า อย่างนั้นใช่ไหม?”
“ความผิด? ขอโทษ?”
จ้าวหรูอวิ๋นอึ้ง ฉับพลันะเิหัวเราะลั่นร่า
ไม่หยุดเพียงแค่นั้น แม่ทัพนายกองคนอื่นๆ ทั้งตำหนักพลอยหัวเราะไปด้วยหลังมองตากันอยู่พักหนึ่ง ใบหน้าแต่ละผู้ล้วนมีแววดูถูก
“ไอ้กระจอก เ้าสมองดีหรือเปล่านี่?” จ้าวหรูอวิ๋นไม่คิดปกปิดความดูแคลนของตัวเองเลย “ทำไมข้าต้องไปขอโทษเ้าด้วย? เ้าคิดว่าเ้าใหญ่มาจากไหนหา?”
เ่ิูไม่โต้ตอบอันใด
เขานึกไปถึงเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เมื่อไป๋หย่วนสิงฟื้นตื่นและบอกเล่าเื่ราวที่ถูกจู่โจมวันนั้น
...
...
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้
ในหอคอยอาชาขาว
“อะไรนะ? เป็เพราะเ้าหอบหายใจดังไปงั้นหรือ?”
ภายในหอคอยอาชาขาว เ่ิูผู้ได้ยินคำตอบของทาสกระบี่อาชาขาวถูกเหตุผลพิลึกนี่ทำใเข้าให้แล้ว
ตามที่ไป๋หย่วนสิงเล่ามา วันนั้นเขาตื่นเต้นมาก สับขาวิ่งไปแจ้งเื่ขอเบี้ยหวัดของหอคอยอาชาขาวใหม่ที่ฝ่ายพลาธิการ เพราะร่างกายอ่อนแอ เมื่อวิ่งไวเกินไปถึงได้หอบบ้างตอนถึงฝ่ายพลาธิการ เขารอให้หายใจเป็ปกติอยู่หน้าประตูใหญ่ก่อน ถึงค่อยนำตราประทับผู้แทนของเ่ิูไปแจ้งเื่ นายทัพจัดสรรที่เขาพบเจอคือจ้าวหรูอวิ๋น
จ้าวหรูอวิ๋นเพียงปรายตามองแวบเดียว ก็ลั่นวาจาให้นำทาสกระบี่อาชาขาวคนนี้ไปซ้อมให้หนักอย่างไร้เหตุผล
สาเหตุนั้นง่ายดายมาก
ไป๋หย่วนสิงหายใจดังเกินไป นายทัพจัดสรรผู้อยู่เบื้องสูงหาว่าเป็การไม่เคารพเขาเป็อย่างมาก เหยียดหยามเกียรติภูมิของฝ่ายพลาธิการแห่งอาณาจักร ไม่อาจละเว้นโทษ ไม่เห็นแก่คำแก้ตัวและขอร้องของไป๋หย่วนสิง สั่งคนนำทาสกระบี่น่าสงสารผู้นี้ขึงบนเสาน้ำแข็งลงทัณฑ์ประจานหน้าทวารประตู ให้แข็งตายทั้งเป็ไป
“บางทีอาจเป็แค่ข้ออ้างก็ได้ขอรับ...” ไป๋หย่วนสิงนอนอยู่บนเตียง เอื้อนเอ่ยอย่างอ่อนแอ “เพราะหอคอยอาชาขาวซบเซามานานมาก ผู้น้อยเองก็เคยไปแจ้งเื่ขอเบี้ยหวัดหลายครั้ง ถูกซ้อมสะบักสะบอมทุกครั้งไปขอรับ...คราวนี้ที่เขาจงใจกลั่นแกล้งข้า น่ากลัวว่าจะมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่ด้วย”
เ่ิูพยักหน้า
คิดได้ถึงจุดนี้ยิ่งบ่งชัดว่า แม้นิสัยจะอ่อนแต่ความคิดอ่านกลับงามล้ำนัก
“ข้าเข้าใจแล้ว เ้าพักผ่อนให้สบายเถอะ”
เขาเอ่ยจบก็หันหลังจะเดินออกข้างนอก
“ใต้เท้า...ท่าน...ผู้น้อยไม่เป็ไร ท่านอย่าไปเลยขอรับ...” ไป๋หย่วนสิงร้อนรน เขาเดาออกว่าเ่ิูจะไปทำอะไร รีบตะบี้ตะบันลุกขึ้นมาห้าม เริ่มหายใจหอบถี่อีกครั้ง “ข้าไม่เป็ไรจริงๆ ขอรับ...ข้าเป็แค่ทาสกระบี่ต่ำต้อยคนหนึ่ง ใต้เท่าท่านโปรดอย่า...”
“เงียบซะ”
เ่ิูหันกายกลับมาทันที ั์ตาทั้งสองมีแววเฉียบขาดอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
ไป๋หย่วนสิงอึ้งงัน
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเคยเห็นใต้เท้าทูตถือดาบตรวจการณ์มีแววตาเช่นนี้
“ไป๋หย่วนสิง เ้าจำไว้ เ้าไม่ได้ทำปิดแล้วจะกลัวอะไร? เ้าเป็คนของหอคอยอาชาขาว เ้าเป็คนของเ่ิู หลังจากนี้เชิดหน้ายืดอกเสีย ควรบุกต้องบุก อย่ามาทำพูดใจเสาะเหมือนหนูให้ข้าเห็นอีก ข้าเ่ิูปล่อยเ้าคนนี้ลอยนวลไม่ได้” เ่ิูลั่นวาจาเด็ดขาด “เพราะชอบหนี คนถึงดูแคลนเ้า ทำให้พวกมันอยากกลั่นแกล้งเ้า หากไม่อยากได้รับความอัปยศก็จงโต้ตอบกลับไปแรงๆ เสีย”
ไป๋หย่วนสิงยังอึ้งอยู่
เขาใช้ชีวิตอยู่กับความอับอายมาหลายปี เพื่อรักษาคำสั่งเสียของบรรพบุรุษ รองรับแต่เื่น่าขายหน้าทั้งสิ้น
เขาไม่เคยนึกเลยว่าชีวิตนี้จักต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเป็ต่อสู้ดิ้นรน
เพราะเขาคิดว่าตัวเองต่ำต้อยเกินไป หากต่อต้านโลกอันโหดร้ายนี้แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจไม่ได้รับเพียงแค่การโดนซ้อมอย่างหนัก แต่ลามไปถึงต้องจบชีวิตลงเป็แน่
หากตายแล้ว จะรักษาคำสั่งเสียของบรรพชนได้อย่างไรกัน?
แต่ ณ ตอนนี้ เมื่อได้เห็นแววตาเฉียบขาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจากเ่ิู ไป๋หย่วนสิงกลับตัวสั่นอย่างจัง
ปฏิกิริยาแรกของเขาคือไม่กล้าสบตาเ่ิู จะก้มหน้าลงไป แต่กลับอดใจไม่ไหวราวกับมารดลใจ ในสายตาราวกับไต่สวนคู่นั้นมีอะไรบางอย่างกัดกระดองใจเขาอย่างจัง เกือบจะทำให้เขาหายใจไม่ออก
บางที การพิทักษ์ที่บรรพชนวาดหวัง อาจเป็การพิทักษ์เยี่ยงเชิดหน้าชูตา การพิทักษ์อันสูงส่งและน่าเลื่อมใส
แต่ไม่ใช่การพิทักษ์ที่ต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ก้มหัวใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างนี้?
ไป๋หย่วนสิงรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
และตอนนั้นเองที่เ่ิูลาลับไป
“มีดบินยี่สิบสี่แสงไหลดาวฟ้าก็ถูกยึดไว้ที่ฝ่ายพลาธิการใช่ไหม?”
เสียงของเขาดังมาจากภายนอก
ไป๋หย่วนสิงนิ่ง เขาพลันรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
...
...
ฝ่ายพลาธิการ วังศิลา
เ่ิูหัวเราะพลางเอ่ย “ข้าไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก แค่จะมาหารือนิดหน่อยเท่านั้น...อ้อ ข้ามีสองข้อแม้ หนึ่ง ขอโทษตามมารยาทเสีย สอง ส่งมีดบินแสงไหลดาวฟ้าคืนมา” เขามองหมู่ชนพลางหัวเราะแ่เบา ก่อนว่าต่อ “เป็อย่างไร สมเหตุสมผลดีไหม?”
เหล่านายทัพมองเ่ิู
พวกเขาคิดว่าทูตถือดาบตรวจการณ์หัวเราะผะแ่คนนี้ อาจไม่ค่อยเต็มเท่าไร
หรือจะไม่รู้สถานะตัวเอง?
เขานึกว่าตัวคนเดียวจะกำราบคนทั้งหมดได้หรือ?
กินยาผิดหรือเปล่า?
จ้าวหรูอวิ๋นหัวเราะร่า “ไอ้หนู ข้าเห็นว่าเ้ามีความกล้าบ้าบิ่นดีอยู่หรอก อาจหาญบุกเข้ามาก่อเื่ในถิ่นของข้า เหอะๆ ข้าจะถามเ้าแค่คำเดียว เ้าคิดว่าเ้าเป็ใครถึงจะให้ข้าขอโทษ?”
เ่ิูมองข้ามเขาอย่างสิ้นเชิง “พูดเช่นนี้ แสดงว่าเ้าปฏิเสธจะขอโทษ และปฏิเสธจะคืนมีดบินแสงไหลดาวฟ้าให้หอคอยอาชาขาว?”
เหล่านายทัพหัวเราะกันครึกครื้น
หลินหลางหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง เขากุมท้องอย่างมากเกินจริง ขยี้ตาทีหนึ่งแล้วตบโต๊ะ “ฮ่าๆๆ น่าขำจริงโว้ย ขำจะตายอยู่แล้ว บนโลกนี้ยังมีไอ้โง่ไม่รู้ประสีพรรค์นี้อยู่อีกหรือเนี่ย อะฮะฮะฮ่า...ขอโทษ พวกเราทุกคนรีบขอโทษเถอะ ฮะอะฮ่า เดี๋ยวเขาจะโกรธเอานะโว้ย”
ชายหนุ่มคงแก่เรียนอีซานเช่อส่ายหน้าขำ
“เ้าคิดว่าเ้าเป็ใคร ถึงจะให้ข้าขอโทษ?” จ้าวหรูอวิ๋นตอบชัดถ้อยชัดคำ แล้วว่าต่อ “แล้วมีดบินนั่นด้วยใช่ไหม เอาสิทธิ์อะไรมาบอกปาวๆ ว่าเป็ของของหอคอยอาชาขาว เป็ของที่ข้าซื้อมาราคาแพงทั้งนั้น เ้าทาสกระบี่ชั้นต่ำสกปรกของเ้า ไม่รู้ว่าลักไปตอนไหน ถูกข้าจับได้คาหนังคาเขา ทวงเอามาก่อนที่มันจะขโมยไป ข้าแนะให้เ้ากลับไปพาทาสชั้นต่ำนั่นมารับโทษดีๆ เสียเถอะ...”
พูดไม่ทันขาดคำ
เ่ิูแบมือออก
ดวงตราขนาดสองฉื่อราวกับศรตราปรากฏอยู่กลางมือ
เขาเหวี่ยงออกไปตามใจชอบ
ติ๊ง!
ดวงตราเสียบบนพื้นตำหนักศิลา
บนดวงตรานั้น ภาพกระบี่ยาวไขว้กันส่องแสงประกาย จากนั้นก็มีแสงปะทุออกมาจากบนตราประทับ ความโชติ่เย็นเฉียบปกคลุมทั้งตำหนักศิลา เหล่านายทัพตะลึงงัน มีความหวาดกลัวราวถูกคมกระบี่เสียดแทง แปลกประหลาดเป็ที่สุด
“ตอนนี้ข้ากำลังสงสัยนัก นายทัพจัดสรรจ้าวหรูอวิ๋น อมเบี้ยหวัดเข้ากระเป๋าตัวเองจนล้น บีบบังคับทหาร ขโมยทรัพย์สินคนอื่น...” เ่ิูเหยียดยิ้ม สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็เยือกเย็นขึ้นมา “ตอนนี้ข้าในฐานะทูตถือดาบตรวจการณ์จักจับกุมตัวเ้า มาสอบสวนเดี๋ยวนี้”
เอ่ยพลางเหวี่ยงมือตามใจปรารถนา
ตัวตราประทับร่วงหล่นลงพื้น กลับกลายเป็โซ่ตรวนสีดำ
จ้าวหรูอวิ๋นอึ้ง รอยยิ้มบนใบหน้ามลายหาย
ทูตถือดาบตรวจการณ์เป็ตำแหน่งพิเศษสำคัญยิ่ง มีอำนาจหน้าที่จะเข้าควบคุมเื่ของฝ่ายพลาธิการได้อยู่แล้ว
และสำหรับความผิดที่เพิ่งเกิดขึ้น...
“เ้าใส่ความข้า ข้า...” จ้าวหรูอวิ๋นะโอย่างโกรธจัด
“โอ๊ะ ไม่เชื่อฟังคำสั่งทหารงั้นหรือ?” เ่ิูยิ้ม เขาก้าวออกมา หมู่ชนเหมือนั์ตาพร่า ฉับพลันก็มาถึงหน้าจ้าวหรูอวิ๋น มือเปล่าดูดอากาศ ตราประทับโซ่ตรวนพุ่งเข้ามากลางฝ่ามือเขาในทันที จากนั้นก็ตรงเข้าแขนของจ้าวหรูอวิ๋น
“เ้ากล้าหรือ?”
จ้าวหรูอวิ๋นเดือดดาล เขาตวัดมือหลบการจับกุม มือวางบนกระบี่ในฝัก
“เ้ากล้าต่อต้านคำสั่งทหาร?” เ่ิูจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม แววเนตรเย็นะเื
“ข้า...ฮึๆ เ้าปากกล้าไร้แก่นสาร ใส่ร้ายตัวข้า ข้าต้องต่อต้านแน่อยู่แล้ว เื่พรรค์นี้ต่อให้เื่ถึงสำนักเ้าด่านข้าก็มีเหตุผล” เขากัดฟัน ชักกระบี่ออกมาจากฝักทีละนิ้วๆ ไอเย็นเยียบแผ่กระจาย พลังปราณเพิ่มทวี
ัปราณใหญ่สิบห้าสายเดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวเลือนหาย เข้าลอยล้อมรอบกายจ้าวหรูอวิ๋น
เขายิ้มเยาะเย้ยบนมุมปาก มองตรงมายังเ่ิู
ก่อนหน้านี้จากแหล่งข้อมูลของอีซานเช่อ เขารู้ว่าเ่ิูเป็แค่จอมยุทธ์อาณาน้ำพุิญญาตาที่สามเท่านั้น
ดังนั้นจ้าวหรูอวิ๋นซึ่งสำแดงัปราณใหญ่สิบสามสายนี้ บ่งชี้ชัดเจนว่าเขากำลังบอกเ่ิู ว่าเขาคือจอมยุทธ์น้ำพุิญญาสิบสามตา พลังไม่รู้ว่าเยอะกว่าเ้ากี่เท่า ดังนั้นอย่ามาทำวางมาดนายทัพอะไรต่อหน้าเขา รีบไสหัวไปอย่างเชื่องๆ เสีย ต่อให้จุดประกายตราประทับก็ทำได้แค่เพิ่มความขายขี้หน้าให้ตัวเองเท่านั้น
เ่ิูสีหน้าเรียบเฉย เขาลงมืออีกครั้ง
ตราประทับตรงเข้าจับแขนจ้าวหรูอวิ๋น
“รนหาที่”
เห็นเ่ิูไม่ยอมเลิกราเอาครานี้ จ้าวหรูอวิ๋นก็ใจเย็นต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว มือขวาคว้ากระบี่ยาว สั่นไหวจนส่งเสียงหึ่งๆๆ กลายเป็ไอกระบี่ ปลายกระบี่ราวกับประกายดาวตรงไปยังข้อมือเ่ิู
ตัดมือเ้าทิ้งเสียข้าง ดูซิว่าจะยังเกรี้ยวกราดได้อยู่อีกไหม
แววตาจ้าวหรูอวิ๋นเรืองรองด้วยจิตสังหาร
ชายหนุ่มคงแก่เรียนอีซานเช่อมองภาพตรงหน้า เขาลังเลครู่หนึ่งแต่ก็มิได้ทัดทาน
นายทัพคนอื่นหนักกว่า พวกเขาหัวเราะเย็นเยียบยามมองเ่ิูเหมือนเป็ตัวตลก
ั์ตามองเห็นไอกระบี่นั้นตกลงบนข้อมือของเ่ิู ตอนที่ทุกคนคิดว่าเืกำลังจะพุ่งกระฉูดนั้นเอง ข้อมือของเ่ิูกลับค่อยๆ ยกขึ้น เหยียดนิ้วกลางดีดบนไอกระบี่สายนั้นเพียงเบาๆ
ติ๊ง!
เสียงกู่ก้องแห่งกระบี่ดังมาผะแ่
หมู่ชนยังมองไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จ้าวหรูอวิ๋นร้องอุทานแล้วถอยหนี
ร่างกายแยกออกจากกัน
“เ้า...” จ้าวหรูอวิ๋นตื่นตระหนก
กระบี่ยาวในมือเขากำลังสั่นไหวแทบบ้า ราวกับงูเหลือมดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ตัวดาบไม่เพียงส่งเสียงกึงๆๆ ออกมาเท่านั้น ในอากาศยังมีคลื่นเสียงน่าพิศวงขจรไปทั่ว ไม่ว่าจ้าวหรูอวิ๋นจะปราบกระบี่เยี่ยงไร ตัวกระบี่ก็ยังไม่อาจหยุดนิ่ง
เ่ิูสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม เด็กหนุ่มทอดตามองจ้าวหรูอวิ๋น
จ้าวหรูอวิ๋นกัดฟันจับดาบด้วยมือทั้งสองข้าง ัปราณใหญ่สิบสามสายชัดเจนขึ้นทุกที มันจุอัดอยู่ในแขนทั้งสองข้างของเขา ยับยั้งกระบี่ไม่ให้สั่นด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ทว่า...
“พรวด!”
เขาพ่นโลหิตออกมาเป็สาย เนื้อมือปริออกทั้งสองข้าง เืสดไหลโกรก เขาจับกระบี่ไม่อยู่อีกต่อไป มันหลุดจากมือแล้วกระเด็นไปติดบนขื่อเหล็ก ตัวกระบี่ยังคงสั่นไม่หยุด
“ตอนนี้เ้ารู้แล้วยังว่าข้าเป็โคตรพ่อโคตรแม่ใคร?”
เ่ิูมองจ้าวหรูอวิ๋น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้