พระอาทิตย์ตกดินทางเขาตะวันตก ภายในป่าเขาเริ่มมีความหนาวเย็น
ทันทีที่ออกมาจากทุ่งดอกโหยวไช่ กูเฟยเยี่ยนก็สังเกตเห็นว่าไม่มีนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่ภายในสวนแห่งนี้แล้ว มีเพียงทหารองครักษ์และเหล่าทหารยามที่กำลังออกค้นหา
จวินฮั่นหยิ่นตามมาพบอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนไม่เป็อะไรเขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย “แพทย์หญิงกู ไม่เป็ไรใช่หรือไม่? จับนักฆ่าคนนั้นได้หรือยัง? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ตอบแต่มองไปที่ใบหน้าของเขา มองไปมองมาภายในใจก็ปรากฏความยินดีอย่างไม่รู้ตัว ทว่าไม่ช้านางก็คิดว่าตนเองยินดีอะไรกัน! ?
จวินฮั่นหยิ่นคิดว่ากูเฟยเยี่ยนใจนขวัญหายแล้ว จึงหันไปถามเฉิงอี้เฟยแทน “เกิดอะไรขึ้น? คนล่ะ? ”
“โดนยาพิษไปแล้ว หนีไปได้ไม่ไกลหรอก ค่ำคืนนี้เฝ้าทางออกแต่ละที่ไว้ให้ดี เมื่อวันพรุ่งนี้ที่ทหารกองหนุนมาถึงก็สามารถจับได้แน่! ”
เฉิงอี้เฟยมั่นใจมากๆ ทว่าเื่ของการโดนยาพิษนั้นแน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนโกหก เพราะไม่อย่างนั้นแล้วนางจะอธิบายว่าตนเองหลบหนีออกมาจากนักฆ่าอย่างปลอดภัยได้อย่างไร?
หากนางบอกไปตามความจริง ใครจะเชื่อกันว่านักฆ่าจะชอบนาง เขาลักพาตัวนางไปรังแกแล้วปล่อยนาง? ตัวนางเองยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย!
“แพทย์หญิงกู นี่เ้ามีความสามารถถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ”
แน่นอนว่าจวินฮั่นหยิ่นเคยสืบประวัติของกูเฟยเยี่ยน เขาทราบว่านางมีทักษะทางด้านพิษ เพียงแต่ไม่คิดว่าทักษะพิษของนางจะดีถึงขนาดที่ว่าสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจนนักฆ่าคนนั้นยอมถอยไปได้ ภายในใจของเขามีความระแวดระวังขึ้นมา พลางลอบดีใจที่ในคืนวันนั้นตนเองไม่ได้บีบบังคับนาง
กูเฟยเยี่ยนส่งยิ้มไปให้จวินฮั่นหยิ่น ก่อนจะตอบกลับไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว “ความสามารถอันน้อยนิดมีไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้นเพคะ”
แต่อย่างไรก็ตามจวินฮั่นหยิ่นกลับซักถามต่อ “เ้าวางยาพิษอะไรไป? วางได้อย่างไร? เ้า…”
“กลับไปกันก่อนเถอะ กลับไปค่อยคุยกัน”
เฉิงอี้เฟยทนไม่ไหวจึงต้องแทรกขัดจังหวะพลางดึงแขนกูเฟยเยี่ยนเพื่อพานางไปอยู่อีกด้านหนึ่ง กูเฟยเยี่ยนจ้องเขาทันที เขาจึงรีบปล่อยมือลง
ทว่าจวินฮั่นหยิ่นกลับอ้อมไปอยู่ข้างกูเฟยเยี่ยนพลางเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วงมากทีเดียว “เ้าไม่เป็อะไรจริงๆ ใช่ไหม เ้าพกยาพิษติดตัวหรือ? ”
นี่คือความเป็ห่วงเสียที่ไหนกัน นี่คือการสงสัยนางและกำลังสอบสวนนาง
กูเฟยเยี่ยนกระชับเสื้อโดยที่แสร้งทำเป็หนาวและอ่อนเพลีย นางทำการขายผ้าเอาหน้ารอด
เฉิงอี้เฟยที่มีความโมโหจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก “องค์ชายแปด ท่านไม่เห็นว่านางหนาวหรือ? กลับไปค่อยถามได้หรือไม่? ท่านให้นางสงบสติอารมณ์หน่อยสิ! ”
จวินฮั่นหยิ่นเป็ถึงองค์ชาย แต่กลับถูกเฉิงอี้เฟยดุใส่เป็ครั้งที่สองแล้ว เขากำหมัดแน่นโดยแทบจะคลุ้มคลั่งออกมา ทว่าก็ยังคงอดทนไว้อยู่
เฉิงอี้เฟยถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้กับกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนถอดออกแล้วโยนคืนไปให้เขาทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้จวินฮั่นหยิ่นจึงถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้กูเฟยเยี่ยนโดยไม่ถามความสมัครใจนางด้วยเช่นกัน
วินาทีนั้นกูเฟยเยี่ยนขนลุกซู่ไปทั้งตัวด้วยความสะอิดสะเอียน
เดิมทีที่นางจงเกลียดจงชังเขา เป็เพราะเข้าใจผิดคิดว่าจวินฮั่นหยิ่นคือนายก้อนน้ำแข็งเหม็น ทว่าบัดนี้รับรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่นายก้อนน้ำแข็งเหม็น ความจงเกลียดจงชังของนางกลับไม่ลดน้อยลงเลย ตรงกันข้ามกลับมีความสะอิดสะเอียนเพิ่มเข้ามา
สำหรับนายก้อนน้ำแข็งเหม็นนั้น นางทั้งกลัดกลุ้ม ทั้งสับสน คาดเดาไม่ถูกว่าเขาปราศจากเจตนาร้ายจริงๆ หรือว่ามีเจตนาร้ายแต่ซ่อนเอาไว้ลึกมาก ก่อนจะเล่นละครหลอกนาง แต่สำหรับจวินฮั่นหยิ่นนั้น นางมั่นใจว่าหมอนี่ไม่เพียงแค่หลอกลวงมิตรภาพสหายรักกับเฉิงอี้เฟย แต่เขายังมีคุณธรรมจอมปลอมอีกด้วย
กูเฟยเยี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจไม่คืนเสื้อคลุมให้กับจวินฮั่นหยิ่น แต่จำใจเล่นละครต่อไป
หลุมที่ขุดด้วยตนเองก็ต้องรับผิดชอบเอง ผลลัพธ์ยอดแย่จากการเสเเสร้งของตนเองก็ต้องจัดการด้วยตนเอง
นางเหยียดหยามการเสเเสร้งของตนเองที่มีต่อจวินฮั่นหยิ่นด้วยเช่นกัน ทว่าการรับมือกับจวินฮั่นหยิ่นนั้นไม่เสเเสร้งไม่ได้นี่นา!
ละครเื่นี้นางลำบากเล่นมาครึ่งหนึ่งแล้วจึงจำเป็ต้องเล่นต่อไป
จวินฮั่นหยิ่น้าให้นางหลบไม่พ้นเงื้อมมือของเขา นางก็จะทำให้เขาหนีไม่พ้นหุบเขาห้านิ้ว [1] ของนาง!
เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนไม่เอาออก จวินฮั่นหยิ่นที่มีความมั่นใจเต็มร้อยก็มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นอีก ทางด้านของเฉิงอี้เฟยนั้นโกรธจัดแต่ก็ไม่ได้ลดความเร็วลง เขารีบพาพวกเขาไปทางด้านของห้องพัก
เมื่อกลับมาถึงห้อง เ้าของหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ก็รีบร้อนมาต้อนรับ
เ้าของหมู่บ้านบุปผาเป็สตรีที่มาอายุประมาณสามสิบกว่าปี ส่วนสูงปานกลาง ร่างกายสะอาดสะอ้าน เป็สง่าและสูงส่ง หน้าตาของนางมีความงดงามมากทีเดียว นางมีใบหน้าเด็กน้อยที่อิ่มเอิบและมีความประณีต แม้ว่าจะมีอายุมากแล้ว แต่ผิวพรรณยังคงขาวเนียนละเอียด รอยยิ้มของนางไม่ได้ดูมีเลศนัยอย่างกับนักธุรกิจ ตรงกันข้ามกลับให้ความรู้สึกสนิทสนมและอบอุ่น
นางพิจารณากูเฟยเยี่ยนแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบนำผ้าห่มที่จัดเตรียมไว้มาคลุมให้กับกูเฟยเยี่ยนแทนเสื้อคลุมของจวินฮั่นหยิ่น “มามามา ใใช่หรือไม่? รีบนั่งลงดื่มชาร้อนสักแก้ว ฤดูกาลอบอุ่นแล้วก็จริง แต่ภายในทุ่งบุปผายังคงมีอากาศเย็นมาก”
วินาทีนี้กูเฟยเยี่ยนรู้สึกผ่อนคลายมาก
บางทีั้แ่เล็กจนโตกูเฟยเยี่ยนก็อาจจะไม่เคยได้พานพบกับผู้าุโสาวที่มีความอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน หรือบางทีอาจเป็เพราะถูกชะตา กูเฟยเยี่ยนมองไปที่เ้าของหมู่บ้านบุปผาด้วยความอุ่นใจ
นางส่งยิ้มให้เ้าของหมู่บ้านบุปผาแล้วนั่งลงดื่มน้ำชา
หลังจากที่ส่งกูเฟยเยี่ยนกลับมาโดยสวัสดิภาพแล้ว เฉิงอี้เฟยก็ย้อนกลับไปทันที จวินฮั่นหยิ่นก็อยู่ไม่นานเช่นกัน ทั้งสองคนยืมคนบางส่วนมาจากเ้าของหมู่บ้านบุปผาแล้วแยกย้ายกันออกค้นหา
ทันทีที่พวกเขาจากไปเ้าของหมู่บ้านบุปผาก็ไปปิดประตู
เ้าของหมู่บ้านบุปผาเป็คนของจวินจิ่วเฉิน นางมองไปที่ใบหน้างดงามและร่างกายเล็กกระจิริดของกูเฟยเยี่ยน ยิ่งมองก็ยิ่งชื่นชอบ ก่อนหน้านี้หมางจ้งบอกกับนางว่าเตี้ยนเซี่ยสนใจแพทย์หญิงน้อยคนหนึ่ง นางยังคงไม่เห็นด้วย แต่หลังจากที่รับรู้ความสามารถและอุปนิสัยใจคอของกูเฟยเยี่ยน นางก็อยากจะพบด้วยตนเองมาโดยตลอด
เมื่อเทียบกับคุณหนูสามตระกูลหานที่งดงามดั่งบุปผา ร่างกายอรชรอ้อนแอ้น และเป็คนชอบเข้าสังคม นางกลับชอบสาวน้อยผอมแห้งตรงหน้ามากกว่า กูเฟยเยี่ยนดูเหมือนผอมแห้งแต่ไม่อ่อนแอ ดูเหมือนเด็กน้อยแต่ที่จริงแล้วเป็คนที่เฉียบแหลมมาก
สิ่งเดียวที่นางกังวลคือการที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเข้าใกล้นังหนูคนนี้มากเกินไป มันจะทำให้นำเอาภัยพิบัติแห่งการสังหารมาสู่กูเฟยเยี่ยนได้! ต้องทราบไว้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้มีการจัดเตรียมงานอภิเษกสมรสให้กับจิ้งหวางแล้ว อีกทั้งบัดนี้นังหนูก็ทราบเื่ราวเกี่ยวกับอาการประชวรของเทียนอู่ฮ่องเต้แล้ว สภาวะของนางเรียกได้ว่าค่อนข้างอันตราย
เ้าของหมู่บ้านบุปผานั่งลงพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “แพทย์หญิงกู ได้ยินมาว่าเ้าเป็ผู้รับใช้ในจิ้งหวางฝู่? ”
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีความประทับใจแรกพบที่ดีต่อเ้าของหมู่บ้านบุปผา แต่นางก็ยังคงระมัดระวัง เพราะไม่ทราบแก่นแท้ของกันและกัน นางพยักหน้าแล้วไม่ได้สนทนาต่อ วันแรกที่นางเข้าไปในจิ้งหวางฝู่ เซี่ยเสี่ยวหม่านก็บอกนางเอาไว้แล้วว่าพูดเื่ของจิ้งหวางฝู่กับคนนอกให้มันน้อยๆ หน่อย
เ้าของหมู่บ้านบุปผาฉลาดมาก เขามองออกได้อย่างรวดเร็ว นางลอบยิ้มในใจและไม่ได้พูดคุยต่อ “แพทย์หญิงกู หิวใช่หรือไม่ ข้าให้คนรับใช้ไปทำบะหมี่ให้ เ้าพักผ่อนก่อน”
หลังจากที่เ้าของหมู่บ้านบุปผาจากไป ภายในห้องก็เหลือกูเฟยเยี่ยนเพียงคนเดียว
ทันใดนั้นหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากที่ดื่มน้ำเข้าไปอีกแก้วก็รู้สึกว่าตนเองผ่อนคลายลงเล็กน้อย ั้แ่ที่ถูกนายก้อนน้ำแข็งเหม็นรังแกจนถึงตอนนี้ นางยังไม่ได้พักหายใจหายคอและสงบสติอารมณ์เลย! ทุกอย่างเมื่อสักครู่นี้ราวกับเป็ความฝัน ทั้งกะทันหันและไม่เป็ความจริง นางนั่งลงกัดริมฝีปาก ผ่านไปไม่นานฝ่ามือก็เขยิบขึ้นไปััโดยไม่รู้ตัว เดิมที้าสงบสติอารมณ์ แต่ก็ใจลอยโดยไม่รู้ตัวแล้ว
กูเฟยเยี่ยนไม่ทราบว่า่เวลานี้จวินจิ่วเฉินมาถึงบ้านใกล้เรือนเคียงแล้ว เขากำลังจะเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้องลับใต้ดินพร้อมกับหมางจ้ง
หมางจ้งกระซิบแ่เบา “เตี้ยนเซี่ย นางถึงห้องข้างๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ มีเ้าของหมู่บ้านบุปผาคอยรับใช้ ท่านวางใจได้”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้พูดอะไรมากแต่ถามถึงเื่ของสายลับ “ประวัติของสองคนนี้ล้วนตรวจสอบชัดเจนแล้วหรือยัง? ”
เขากำลังจะไปพบกับสองสายลับในห้องลับ หลายปีมานี้ฟู่หวงให้เขาสืบความลับของปิงไห่มาโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่ผ่านไปสามปีแล้วก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ สายลับสองคนนี้ไม่ใช่คนของเขาแต่...
———————
เชิงอรรถ
[1] หุบเขาห้านิ้ว หมายถึง หุบเขาที่กักขังซุนหงอคงไว้ห้าร้อยปี