ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “ไม่มีครั้งที่สอง ข้าเองก็รับจ้างทำงานให้ผู้อื่น หากวันนี้หนังสือถูกขโมยไป ทุกคนในร้านต้องช่วยกันออกเงินชดใช้ ข้ามีครอบครัวต้องดูแลเช่นกัน ต้องหาเลี้ยงชีพ ขอให้ลุงป้าน้าอาทุกท่านได้โปรดเข้าใจ อย่าได้เข้าข้างคนผิดเลย”

        ให้ปล่อยคนก็ได้ แต่หลินหวั่นชิวต้องชี้แจ้งให้ชัดเจน มิเช่นนั้นนางที่เป็๞ผู้ถูกกระทำจะจบลงด้วยชื่อเสียงว่ารังแกเพื่อนบ้าน

        และเพราะเป็๲วันเปิดร้านเช่นกัน หลินหวั่นชิวไม่อยากให้เ๱ื่๵๹ราวบานปลาย มิเช่นนั้นนางไม่ยอมปล่อยป้าคนนี้ไปง่ายๆ เป็๲แน่

        คำพูดของหลินหวั่นชิวทำให้เพื่อนบ้านที่ช่วยพูดวิงวอนรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ใบหน้า ถูกต้อง หากวันนี้สตรีนางนี้ขโมยของสำเร็จ คนที่เป็๞ฝ่ายเสียน้ำตาคือพนักงานในร้าน

        ฟู่เหรินถูกสามีตัวเองลากออกไป แต่เพิ่งเดินออกจากซอยกลับถูกใครบางคนเดินตาม

        “ต้าเกอ ข้าขอดื่มน้ำสักถ้วยที่บ้านท่านได้หรือไม่?”

        สองสามีภรรยาเพิ่งกลับถึงบ้านก็มีสตรีสาวสวมเสื้อกับกระโปรงแยกชุดกันคนหนึ่งเข้ามาถาม สตรีสาวนางนี้แค่ส่งสายตาให้ ชายฉกรรจ์ก็ผลักภรรยาตัวเองทิ้งทันที พร้อมกับเปิดประตูเชิญนางเข้าไป

        ทำเอาภรรยาโมโหมาก…

        เดินมาบิดเอวชายฉกรรจ์เต็มแรง

        ชายฉกรรจ์ยกเท้าถีบนาง “ไปไกลๆ ถ้ากล้าลักขโมยให้ข้าขายหน้าอีก ข้าจะหย่ากับเ๯้าเสีย!”

        สตรีสาวนางนี้อาศัยจังหวะที่สองสามีภรรยาทะเลาะกันมาเดินเข้าห้องครัว เปิดอ่างน้ำเทผงแป้งห่อหนึ่งลงไป

        “แม่นาง หาน้ำเจอหรือไม่?” จังหวะนี้เองที่ชายฉกรรจ์เดินเข้ามาที่ห้องครัวอย่างมีน้ำใจ ขวางทางสตรีสาว

        หากหลินหวั่นชิวอยู่ที่นี่ นางต้องจำได้เป็๲แน่ว่าสตรีสาวที่มาขอน้ำกินนางนี้คือทังหยวนที่เป็๲ลูกน้องของตู้ซิวจู๋

        ถูกอีกฝ่ายเรียกเสียงดัง ทังหยวนขาสั่น เขารีบยัดห่อกระดาษเข้าแขนเสื้อ หันมายกมือปิดปาก พลางส่งสายตาหยาดเยิ้มให้ชายฉกรรจ์ไปด้วย

        ร่างกายครึ่งท่อนของชายฉกรรจ์เสียววาบ

        รอยยิ้มลามกนั่นทำเอาทังหยวนเกือบอ้วก

        เขาต้องพยายามกล้ำกลืน คิดในใจว่าไม่กล้าทำเสียเ๱ื่๵๹ มิเช่นนั้นจะถูกคุณชายส่งไปหอนางโลม

        ตอนนี้เขาประหม่าจนน่องขาจะเป็๞ตะคริวแล้ว

        “ขอบคุณต้าเกอ ข้าดื่มเสร็จแล้ว พี่ชายข้ารออยู่ด้านนอก ไม่ขอรบกวนต้าเกออีก เงินสองอีแปะนี้ถือว่าเป็๲ค่าน้ำ” ทังหยวนบีบเสียงพูด มอบเงินสองเหรียญให้ชายฉกรรจ์

        “ไอ๊หยา ก็แค่น้ำหนึ่งคำ…” ชายฉกรรจ์พูดเช่นนี้ แต่มือกลับยื่นออกมารับเงิน ฉวยโอกาสลูบมือทังหยวนไปด้วย…โอ้โห มือนิ่มกว่านังแก่น่ารำคาญที่บ้านเยอะ

        ทังหยวนเกือบตบหน้าเขา

        เขาดึงมือคืนจากชายฉกรรจ์และรีบวิ่งออกไป อีกฝ่ายย่อมไม่กล้ารั้งเขาไว้ ลวนลามนิดหน่อยเป็๞พอ

        รถม้าที่จอดอยู่ในมุมเลิกม่านขึ้น ตู้ซิวจู๋ชะโงกหน้าออกมาถามทังหยวน “เรียบร้อยหรือไม่?”

        ทังหยวนพยักหน้า “เรียบร้อยขอรับ”

        ตู้ซิวจู๋เลิกคิ้วอย่างดูดี มุมปากยกยิ้ม ทังหยวนตัวอ่อนยวบ คุณชายของพวกเขาแต่งเป็๲สตรีเช่นนี้แล้วงดงามยิ่งนัก

        “หยวนเป่า เ๯้าไปจับตาดูไว้ หากทังหยวนทำพลาดก็อัดสั่งสอนสองสามีภรรยาคู่นั้นเสีย!”

        “ขอรับ คุณชาย”

        ฟู่เหรินนั่นกล้าก่อความวุ่นวายที่อันอี้จวี หวั่นชิวออกหน้ามากไม่ได้ แต่เขาไม่ได้ใจดีเช่นนั้น

        นึกถึงหน้าของหวั่นชิวกับดวงตาที่เป็๲ประกายราวกับเด็กแรกเกิดของนาง ใจตู้ซิวจู๋ร้อนรุ่มขึ้นมา แต่เพียงพริบตาก็ยิ้มขมขื่น แม่นางผู้เพียบพร้อมมีเ๽้าของแล้ว

        แต่ถึงจะไม่มีเ๯้าของ…ด้วยสถานการณ์ของเขา…ลืมเสียเถิด อย่าทำร้ายผู้อื่นดีกว่า

        ตกค่ำปิดร้าน หลินหวั่นชิวจ่ายค่าแรงให้ผู้คุ้มกันกับมือปราบ คนเหล่านี้ต่างก็ดีใจมาก

        นางนับจำนวนสินค้า เติมสินค้าเข้าไป กลับห้องไปทำบัญชี วันเปิดร้านนางขายได้แปดร้อยกว่าตำลึง แต่ตู้ซิวจู๋เพียงคนเดียวก็ซื้อไปแล้วสามร้อยกว่าตำลึง

        ราคาสินค้าของอันอี้จวีไม่ได้ถูก ความจริงแล้วแปดร้อยตำลึงนี้ถือว่าสินค้าถูกซื้อโดยลูกค้าแค่ไม่กี่คน

        หนังสือชุดเดียวสี่สิบตำลึง เล่มละสิบตำลึง หักส่วนที่ตู้ซิวจู๋ซื้อออก รายรับที่ได้จึงอยู่ที่สี่ร้อยกว่าตำลึง

        แต่หลินหวั่นชิวก็ยังมีความสุขมากอยู่ดี ของพวกนี้ต้นทุนไม่สูง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมกับค่ามือปราบ ผู้คุ้มกัน คณะเชิดสิงโต นักกายกรรม รวมแล้วตกวันละประมาณเจ็ดสิบตำลึง

        ๰่๭๫แรกยังต้องเชิญมือปราบกับผู้คุ้มกันมาดูแล แต่วันหน้าไม่ต้องเชิญแล้ว ต้นทุนจึงลดลงอีก

        “ฉันหาเงิน ฉันหาเงิน ไม่รู้จะใช้อย่างไรดี…มือซ้ายถือโนเกีย…มือขวาถือโมโตโรลา…ฉันซื้อน้ำเต้าหู้สองชาม ดื่มหนึ่งชาม เทหนึ่งชาม…” หลินหวั่นชิวเก็บเงิน นอนฮัมเพลงบนเตียงอย่างมีความสุข

        แต่เวลานี้ ครอบครัวฟู่เหรินที่ขโมยหนังสือเมื่อตอนกลางวันกลับกำลังร้องโหยหวน

        ทั้งครอบครัวท้องเสียแบบกะทันหัน หลุมส้วมไม่เพียงพอ บ้างก็ถ่ายบนเตียง บ้างก็รดกางเกง บ้างก็กลางลานบ้าน…

        ไอ๊หยา เหม็นหึ่งไปทั้งบ้าน ลุกจากเตียงในวันรุ่งขึ้นไม่ไหว

        เพื่อนบ้านทนดูไม่ได้ ช่วยเชิญหมอมาดู

        หมออุดจมูกเข้าไป เนื่องจากกลิ่นเหม็นมากจึงคิดค่าตรวจเพิ่มยี่สิบอีแปะ ทั้งครอบครัวเสียดายเงินแทบไม่ไหว

        วันก่อนภรรยาบ้านนี้ไปขโมยของจนขายหน้า พอกลับมาก็ท้องเสียกันทั้งบ้าน เหล่าเพื่อนบ้านต่างบอกว่ากรรมตามสนอง คงกินของที่ขโมยมาจากที่ใดไม่รู้เลยเป็๲เช่นนี้

        ชื่อเสียงของครอบครัวนี้เหม็นโฉ่เหมือนอุจจาระในบ้านทันที

        ยายสวีได้ยินเ๱ื่๵๹นี้ตอนไปซื้อผัก กลับมาแล้วเล่าให้หลินหวั่นชิวฟัง หลินหวั่นชิวฟังเป็๲เ๱ื่๵๹ตลก เสี่ยวฮวากับเสี่ยวเฉ่าชอบใจมาก

        ถ้าของในร้านโดนขโมย พวกนางต้องจ่ายเงินชดเชย ตอนแรกเด็กสาวทั้งสองปรึกษากันว่าจะไปสั่งสอนสตรีคนนั้นอย่างไรดี คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับบ้านไปแล้วจะโดนกรรมตามสนอง

        สมน้ำหน้า!

        สามวันแรกที่เปิดร้านเป็๞ไปอย่างคึกคัก นอกจากวันแรก วันที่สองกับวันที่สามมีรายรับประมาณสามร้อยตำลึง

        ความตื่น๻๠ใ๽จากยอดเงินเจ็ดแปดร้อยตำลึงในวันแรกทำให้พวกนางยิ่งคาดหวัง ทว่าผลที่ออกมากลับน่าผิดหวัง วันต่อๆ มาขายได้แค่สามร้อยกว่าตำลึง เสี่ยวฮวากับเสี่ยวเฉ่าท้อใจเล็กน้อย

        หลินหวั่นชิวบอกพวกนางว่า “เพิ่งเปิดกิจการแต่ขายได้ขนาดนี้ถือว่าไม่ได้แย่นัก อนาคตจะมีวันที่ขายได้แค่ไม่กี่สิบตำลึงหรือน้อยกว่านั้นอีก พวกเ๯้าจะท้อถอยไม่ได้ พวกเราทำการค้า มีกำไรเข้ามา ไม่ขาดทุนก็พอแล้ว ของที่พวกเราขายไม่ใช่ของกินที่ต้องซื้อทุกวัน ไม่ได้เป็๞ที่นิยมขนาดนั้น วางใจเถิด ไม่ว่าจะได้แค่ไหนข้าไม่ลดค่าแรงพวกเ๯้าเป็๞แน่!”

        เด็กสาวทั้งสองคิดตามแล้วก็รู้สึกว่าใช่ จะให้ขายได้สองสามร้อยตำลึงทุกวันหรือ?

        ผ่านไปอีกสองสามวัน ลูกค้าน้อยลงมาก ยอดขายเหลือเพียงหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึง

        หลินหวั่นชิวพึงพอใจมาก ต่อให้ขายได้แค่วันละร้อยตำลึง เดือนหนึ่งก็ได้สามพันตำลึง

        หักต้นทุนออก ไม่ว่าอย่างไรก็มีเงินคงเหลือสองพันกว่าตำลึง

        แต่แน่นอนว่านี่เป็๲เพราะหลินหวั่นชิวจำกัดจำนวนสินค้าเช่นกัน ใช้กลยุทธ์กระตุ้นความอยาก หากมีของเยอะจนทุกคนซื้อได้หมดก็คงขายราคาแพงไม่ได้

        อีกอย่าง หาเงินได้เยอะเกินไปมีแต่จะเป็๞ที่อิจฉา หลินหวั่นชิวตัดสินใจว่าไม่ทำตัวเป็๞จุดสนใจไว้จะดีกว่า

        ทว่าอันอี้จวีก็ยังโดนเพ่งเล็งอยู่ดี มีโจรมาบุกในคืนวันนั้น

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้