“หม่อมฉันขอตัว ไปเอายาให้กับหลิวเหมยก่อนนะเพคะ” นางเบี่ยงตัวเดินจากไป ท่ามกลางสายตาสงสัยขององค์ชายสามจับจ้องมองนางไม่ละสายตา
‘จางเหม่ย เ้ากำลังจะทำอะไรกันแน่...’ เขาพึมพำออกมาเบา ๆ
หลังจากซูเยว่เดินมาส่งหลิวเหมยยังห้องท้ายตำหนัก สีหน้าของหญิงสาวก็แปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นางหันกลับมายังนางกำนัลแล้วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“นี่คือห้องที่ข้าต้องอยู่งั้นเหรอ”
“เ้าค่ะ พระชายาให้คุณหนูหลิวเหมยอยู่ที่นี่เ้าค่ะ” หลิวเหมยเลื่อนสายตาไปยังห้องดังกล่าว ที่ดูทรุดโทรมราวกับไม่ได้ถูกใช้มานานนับปี ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปแล้วพบว่าข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มีสภาพไม่ต่างจากห้องเก็บของ
‘พระชายาให้ข้าอยู่แบบนี้จริง ๆ เหรอ หรือว่านางโกรธที่ข้าพยายามป้ายสีนางเื่น้องสาม จึงคิดกลั่นแกล้งข้า!’ หลิวเหมยพยายามหาเหตุผล แต่สายตาเหลือบไปเห็นเตียงนอนที่ทำจากไม้เก่า ๆ แล้วหันมายังซูเยว่ในทันที
“นี่อะไรกัน ให้ข้านอนเตียงแบบนี้น่ะเหรอ”
“เื่นี้คุณหนูหลิวเหมย ต้องถามกับพระชายาเ้าค่ะ ข้าไม่สามารถตอบได้ ข้าขอตัวไปเอายาให้นะเ้าคะ” ซูเยว่พูดจบก็เบี่ยงตัวเดินจากไป ปล่อยให้หลิวเหมยยืนมองห้องของตัวเองด้วยความไม่พอใจ
‘สภาพห้องเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรจากห้องของหยางเซียวสักนิด! ข้าไม่ใช่นาง! ที่ยอมทนให้โขกสับ เมื่อใดที่ข้าได้ขึ้นเป็ชายารอง เมื่อนั้น ข้าจะเขี่ยท่านออกจากตำแหน่ง!’ หลิวเหมยไม่ใช่คนโง่เขลา นางดูการกระทำเพียงผิวเผินจากพระชายาก็เดาได้ไม่ยาก ว่ากำลังถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้ง
“เอายานี้ไปให้นางทา” พระชายายื่นยาขวดนั้นให้กับซูเยว่ ก่อนนางกำนัลจะน้อมตัวลงแล้วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“พระชายาเพคะ ห้องรับรองที่ตำหนักเฉินกงมีมากมายหลายห้อง เหตุใดจึงให้คุณหนูหลิวเหมย ไปอยู่ที่ห้องครัวเก่าด้วยเพคะ หม่อมฉันเห็นกิริยาของนางแล้ว นางดูไม่พอใจเป็อย่างมาก” จางเหม่ยได้ยินดังนั้นจึงยิ้มบางเบาออกมา
“นางจะได้รับรู้รสชาติ ของการถูกเหยียดหยาม! ทุกอย่างที่นางทำกับข้าไว้ ข้าจะเอาคืนเป็สิบเท่า” ซูเยว่ไม่เข้าใจสิ่งที่จางเหม่ยพูดเท่าใดนัก ก่อนเสียงของพระชายาจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เื่ที่ข้าให้หลิวเหมยไปอยู่ที่ห้องครัวเก่า เ้าจงเก็บไว้เป็ความลับ อย่าให้ผู้ใดล่วงรู้เด็ดขาด” คำสั่งของพระชายาทำให้ซูเยว่น้อมกายลง
“เข้าใจแล้วเพคะ” พูดจบ ซูเยว่ก็เบี่ยงตัวเดินกลับไปยังห้องของหลิวเหมยเพื่อนำยาไปให้นางรักษาตัว
องค์ชายสาม ตัดสินใจเดินทางออกจากวังหลวง มุ่งตรงไปยังเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก ยอดูเานั้นถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งตลอดทั้งปี เขามุ่งตรงไปเพียงลำพังในชุดชาวบ้านธรรมดาสามัญ ไม่มีผู้ติดตาม ในมือถือดอกไม้สีขาวที่หยางเซียวเคยชอบ พร้อมสายลมอ่อนพัดมาปะทะกายเป็ระยะ ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเดินมาถึงจุดหมาย หน้าถ้ำขนาดใหญ่ชายชุดขาวสองคน รีบเข้ามาน้อมกายเคารพองค์ชายสามด้วยกิริยาอ่อนน้อม
“ไม่มีผู้ใดเข้ามาวุ่นวายใช่หรือไม่” องค์ชายสามเอ่ยถามด้วยสุรเสียงราบเรียบ ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนทั้งสองจะน้อมกายลงแล้วรายงานในทันที
“ข้าน้อยคิดว่า ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าร่างของคุณหนูหยางเซียวถูกเก็บไว้ที่นี่ ั้แ่วันที่พวกเราเฝ้าถ้ำแห่งนี้ ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติผ่านเข้ามา” องค์ชายสามพยักหน้า แล้วเบี่ยงตัวเดินเข้าถ้ำอันเย็นเยือกไป สองเท้าเดินตรงมายังโลงศพที่บรรจุร่างของหยางเซียวไว้ เขาค่อย ๆ ใช้มือเลื่อนฝาโลงออกช้า ๆ เผยให้เห็นร่างอันไร้ิญญาของหยางเซียวที่นอนแน่นิ่งอยู่
‘ข้าจะต้องรู้ให้ได้ ว่าใครอยู่เื้ัเื่นี้’ เขาพูดพร้อมหยดน้ำตาร่วงหล่น ค่อย ๆ เอื้อมไปลูบใบหน้าของหญิงสาวด้วยความรัก ก่อนคนของเขาเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
“คุณชายต้าเหริน พวกข้าพยายามตามสืบแล้ว คนพวกนี้ใช้วิธีการปลอมตัว เป็คนของกลุ่มัขาว เห็นได้ชัดว่าตั้งใจป้ายสีกลุ่มของเรา” องค์ชายสามเบี่ยงตัวมายังโลงศพอีกโลง ที่ใส่ศพนักฆ่าพวกนั้นไว้ พลันทอดสายตามองแน่นิ่ง
“พวกมันยอมฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้เราล้วงความลับ นั่นก็ยิ่งทำให้ข้าสงสัย ว่าตกลงแล้ว นักฆ่าพวกนี้เป็คนของใครกันแน่”
“เป็ไปได้หรือไม่ว่าจะเป็คนของแม่ทัพเยว่” อีกฝ่ายน้อมกายลงแล้วเอ่ยถาม ก่อนองค์ชายสามจะส่ายศีรษะ
“แม่ทัพเยว่ ถึงแม้ไม่ใช่คนดี แต่อย่างน้อยหยางเซียวก็คือบุตรสาวของเขา คงไม่กล้าใช้หยางเซียวเป็เครื่องมือในการใส่ความข้า”
“หมายความว่ามีกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ใต้เท้าเยว่อีกงั้นเหรอ” องค์ชายสามแน่นิ่งไม่ตอบคำถาม ก่อนจะหันไปหาศพของหยางเซียว แล้วค่อย ๆ วางดอกไม้สีขาวลงช้า ๆ พร้อมสายตาสั่นไหว
“ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องแก้แค้นให้เ้า หยางเซียว!” เขาใช้เวลาทั้งหมดนั่งวาดภาพของหยางเซียวอย่างไม่รีบร้อน ภายในถ้ำอันหนาวเหน็บ ชายหนุ่มระบายความคิดถึงผ่านปลายพู่กันที่ตวัดไปมา ท่ามกลางสายตาคนของเขา ที่แอบมองอยู่ห่าง ๆ ด้วยความเป็ห่วง
“องค์ชายสามเสียใจอย่างมาก ที่แม่นางหยางเซียวจากไป วันนั้นหากพวกเราช่วยนางไว้ได้ทัน ก็คงไม่เป็เช่นนี้” คำตัดพ้อของชายหนุ่มทำให้อีกฝ่ายยกมือขึ้นตบบ่า
“พวกเราทำดีที่สุดแล้วล่ะ เ้าอย่าโทษตัวเอง แม่นางหยางเซียวถูกแทงที่หัวใจ แสดงให้เห็นชัดว่านักฆ่า้าเอาชีวิตนาง มิได้เพียงแค่้าใส่ร้ายกลุ่มัขาว”
อิ